เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ร.ต.ท.วีระชน มั่นต่าย ร้อยเวร สภ.หนองปลิง ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 3/116 หมู่ 2 ต.หนองปลิง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นมีรั้วล้อมรอบ พบบริเวณหน้าบ้านมีปลอกกระสุนขนาด 7 ม.ม.ตกอยู่ทั้งนอกรั้วและในเขตบ้าน 8 ปอก ส่วนภายในบ้าน บนชั้น 2 หน้าห้องนอนพบศพสองสามีภรรยา คือ นายเฉลิมพล บุตรดี อายุ 42 ปี เป็นผู้พิพากษาศาลแขวง จ.พิษณุโลก และนางสุวรรณา บุตรดี อายุ 40 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ข้างกันในสภาพมีรอยบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนทั้งคู่ โดยมีอาวุธปืนขนาด 7 ม.ม. ตกอยู่ระหว่างกลางร่างของผู้ตายทั้ง 2 จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี บุตรชายของนายเฉลิมพล และนางสุวรรณา ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนเองอยู่ภายในห้องนอนได้ยินเสียงพ่อตะโกนโวยวายหน้าบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่อทะเลาะกับแม่อย่างรุนแรงที่หน้าประตูห้องนอน กระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 2 นัด จึงได้รีบเปิดห้องออกมาดูก็พบพ่อกับแม่นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่หน้าห้องนอนแล้ว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นายเฉลิมพลได้ออกจากบ้านไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง จนกระทั่งกลับมามีปากเสียงทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรงจนถึงขั้นใช้อาวุธปืนเพื่อจบปัญหาชีวิต คาดว่านายเฉลิมพลและนางสุวรรณา น่าจะมีปัญหาครอบครัวในเรื่องอะไรบางอย่างแต่คุยกันไม่รู้เรื่อง จึงทำให้นายเฉลิมพลเกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงภรรยาเสียชีวิต ก่อนยิงตัวเองตายตาม ซึ่งจะมีการสอบสวนหาชนวนเหตุที่แท้จริงมาประกอบสำนวนคดีต่อไป.
เดลินิวส์
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวท่านด้วยครับ
แต่เเปลกใจว่าไม่น่าเกิดเหตุแบบนี้กับผู้พิพากษาครับ
ผู้พิพากษายิงตัวเองและเมียดับ
จากการสอบสวนนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี บุตรชายของนายเฉลิมพล และนางสุวรรณา ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนเองอยู่ภายในห้องนอนได้ยินเสียงพ่อตะโกนโวยวายหน้าบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่อทะเลาะกับแม่อย่างรุนแรงที่หน้าประตูห้องนอน กระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 2 นัด จึงได้รีบเปิดห้องออกมาดูก็พบพ่อกับแม่นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่หน้าห้องนอนแล้ว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นายเฉลิมพลได้ออกจากบ้านไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง จนกระทั่งกลับมามีปากเสียงทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรงจนถึงขั้นใช้อาวุธปืนเพื่อจบปัญหาชีวิต คาดว่านายเฉลิมพลและนางสุวรรณา น่าจะมีปัญหาครอบครัวในเรื่องอะไรบางอย่างแต่คุยกันไม่รู้เรื่อง จึงทำให้นายเฉลิมพลเกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงภรรยาเสียชีวิต ก่อนยิงตัวเองตายตาม ซึ่งจะมีการสอบสวนหาชนวนเหตุที่แท้จริงมาประกอบสำนวนคดีต่อไป.
เดลินิวส์
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวท่านด้วยครับ
แต่เเปลกใจว่าไม่น่าเกิดเหตุแบบนี้กับผู้พิพากษาครับ