คิดว่ารายละเอียดขั้นตอนการทำต่างๆมีคนมาลงไว้เยอะแล้ว หาอ่านได้ทั่วไป อันนี้เลยขอข้ามขั้นไปเลย จะขอเน้นเป็นการเล่าจากความรู้สึกและประสบการณ์จริงของคนที่ไปทำมาแล้ว
น่ากลัวมั้ย.......จริงๆแล้วไม่น่ากลัวอย่างที่คิดแต่มันจะตื่นเต้น วิธีที่ดีที่สุดคือ อย่าไปคิดมาก เค้าให้ทำอะไรก็ทำตามขั้นตอนเค้าไป จะผ่านไปได้ง่ายสุด และอย่าไปดูคลิปการทำเลสิค เพราะยิ่งดูยิ่งกังวล ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะวันทำจริงเค้ามีคนแนะนำหมด แค่ทำตามเค้าบอกก็พอแล้ว ของผมช่วงที่นอนหยอดยาชารอทำ ก็อาศัยชวนคุยกับคนข้างๆไปด้วยกัน ก็ไม่เกร็งมาก
เจ็บมั้ย.......ไม่เจ็บ โดยส่วนตัวจะมีช่วงเดียวที่อาจจะรู้สึกลำบากที่สุด คือช่วงที่เค้าเอาเครื่องมากดครอบตาไว้ให้นิ่ง แต่ก็ไม่เจ็บอยู่ดี มันอึดอัดมากกว่าเพราะเหมือนมีอะไรมากดเบ้าตาไว้ ส่วนช่วงยิงเลเซอร์ ไม่รู้สึกอะไรเลย ส่วนตัวผมใช้วิธีนับเลขไปเรื่อยๆ เพื่อให้มีสมาธิอยู่นิ่งๆตอนที่หมอยิงเลเซอร์
------หลังทำรู้สึกยังไง-------
วันแรก......แต่ละคนจะแตกต่างกัน คนก่อนหน้าผม ออกมาแสบตาน้ำตาไหล แต่ของผมออกมาไม่แสบเลย จะมองเห็นมัวๆเหมือนเวลาเราน้ำตาคลอ เลยนึกว่าไม่เป็นไร เลยแวะกินข้าว ประมาณ1-2 ชมแต่ช่วงนี้แหละที่เริ่มแสบมากขึ้นเรื่อยๆจนลืมตาไม่ขึ้น ใครอยากรู้ความรู้สึก มันจะเหมือนตอนเราหั่นหัวหอมแสบแบบนั้นเลย แล้วซักพักพอน้ำตาไหลออกมาก็จะเบาลงหน่อย ช่วงนี้กลับบ้านหลับไปเลย ผ่านไป 3-4 ชม ตื่นมา แทบไม่รู้สึกอะไรแล้ว
อาทิตย์แรก......ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ก็ทำตามคำแนะนำของหมอหมดทุกอย่าง มีที่ต้องระวังมากหน่อยคือ เรื่องน้ำเข้าตา ป้องกันการติดเชื้อ ไปลองหาแว่นธรรมดาอันใหญ่ๆมาใส่ครอบตาไว้ตอนทำอะไรที่ใกล้ๆน้ำก็ดี ของผมเองวันที่ 5 หลังทำ ยืนล้างเครื่องทำกาแฟ น้ำดันกระเด็นเข้าตา แต่ก็โชคดีไม่เป็นอะไร
ผลค่าสายตาที่วัดมาล่าสุด (วันที่ 10 หลังจากทำเลสิคมา)
จากเดิมที่สองข้างสั้น ประมาณ700 เอียง ประมาณ 100 แก้แล้วเหลือ ซ้าย 25 ขวา 0
ชนิดที่เลือกทำ..... เลือก Femtolasik เหตุผลที่เลือกคือ มีความแม่นยำสูง ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวกำหนด และเป็นวิธีที่ใช้กันมานาน มีคนไข้ทำมาเยอะ แก้ไขรุ่นต่างๆมาจน stable มาก และ หมอกับพยาบาลก็มี ปสก ใช้เครื่องพวกนี้นานพอจนชำนาญพอแล้ว
เลสิคมีความเสี่ยงมั้ย??...... มีความเสี่ยงเหมือนกับทุกๆอย่างทางการแพทย์ที่ไม่มีอะไร 100% เท่าที่ศึกษามาทั้งจาก Pantip และจากของ ตปท Key สำคัญ 3 ข้อที่จะทำให้เราลดดวามเสี่ยงลงได้คือ
1. เครื่องมือดี
2. แพทย์มีความชำนาญดี
3. คนไข้เป็น Good candidate คือ สภาพตาคนไข้มีความพร้อมดี จะรู้ได้ตอนที่ไปให้หมอตรวจก่อนทำเลสิค เค้าจะมีการวัดค่าสายตา กระจกตา รูม่านตา และอื่นๆ เพื่อ ประเมินว่า เราสามารถทำเลสิคได้มั้ย ซึ่งการที่เราจะเป็น Good candidate มั้ย แพทย์จะประเมินให้เอง
หลังทำ.... คิดว่าแต่ละคนก็แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ที่เหมือนกันคือ
1. ช่วงแรกๆต้องหยอดน้ำตาเทียมเยอะ ส่วนตัวไม่เคยตาแห้ง เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง ทำให้ช่วงแรกหยอดน้อยไป ตอนไปหาหมอ หมอบอกแห้งมากทำให้การมองเห็นยังมัวๆ เดี้ยวชัดเดี้ยวไม่ชัดอยู่ ตอนนี้เลยจำเป็นต้องเปลี่ยนยี่ห้อ น้ำตาเทียม มาใช้ของแพงขึ้น คือ Vislube 20 หลอด365 บาท เพราะอีกยี่ห้อ Natural free ถูกกว่า 32 หลอด 250บาท แต่หยอดไปแล้วรู้สึกเหนียวๆตา แล้วก็น้ำตาจะไหลออกมาทื้งไปตอนหยอด
2. แว่นกันแดด ต้องมีพร้อมไว้เลย เพราะหมอบอกถึงสายตาปกติ ก็ควรมีไว้เพื่อปกป้องดวงตา ส่วนตัวไม่เคยใส่เพราะใส่แต่แว่นสายตามาตลอด เลยซึ้อใหม่แล้วให้ร้านแว่นช่วยวัด ว่ามีค่าความสามารถต้าน UV 400 ให้ด้วย และก็เลือกแบบที่เป็น Polarized ไว้อันนึง
3. การมองเห็น.....ใครเคยเปลี่ยนแว่นมาหลายๆทีจะเข้าใจ เพราะมันจะรู้สึกคล้ายๆกับ เวลาที่เราเปลี่ยนแว่นใหม่ มันก็มองเห็นแต่จะยังไม่ค่อยชิน ใครทำงานที่ต้องใช้คอมเยอะ จะปวดๆตาได้ถ้าหลังทำสายตายังไม่นิ่ง หรือถ้าต้องขับรถตอนกลางคืนเยอะ จะมองเห็นแสงเป็นฟุ้งๆ อยู่ซึ่งหมอบอกมันจะค่อยๆดีขึ้น อาจจะต้องเตรียมตัวเผื่อไว้ด้วย เพราะอย่างที่บอกแต่ละคนก็ทำออกมาก็ไม่ได้เหมือนกัน บางคนเป็นแป็บเดียวหายบางคนต้องใช้เวลา
สรุป..... ทำแล้วคุ้มมั้ย ..... ส่วนตัวคิดว่าคุ้ม เพราะไม่ต้องใส่แว่นตาอีกต่อไป ส่วนความชัดอยากแนะนำว่าอย่าไปตั้งความหวังว่ามันจะต้องชัดใสเท่านั้นเท่านี้เพราะไม่งั้นก็จะกังวลอีกและจะคอยมานั่งเปรียบเทียบ ถ้าใครเคยเปลี่ยนแว่นไปมาสองอันจะเข้าใจ เพราะมันจะเหมือนแว่นอันนี้ก็ชัดแต่ชัดอีกแบบ ความรู้สึกประมาณนั้น เอาเป็นว่าทำแล้วให้รู้สึกว่าสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติได้ก็พอ สำหรับผมเอง สิ่งเดียวที่แปลกไปกว่าคนอื่น แล้วไม่เห็นคนอื่นพูดถึงคือ รู้สึกว่าเห็นสิ่งของใหญ่ขึ้นนิดหน่อย เช่น ขวดน้ำ เหรียญ จาน จะอันใหญ่ขึ้น แต่ถ้าเป็นของชิ้นใหญ่ๆอย่างรถยนต์จะเห็นความต่างไม่มาก ตอนที่ใส่คอนแทค ก็เคยเป็นแบบนี้ หมอบอกว่าอาจเป็นเพราะเราใส่แว่นมาตั้งแต่เด็ก( ป 2) เลนส์มันเป็นเลนส์เว้าเลยทำให้เราเห็นภาพที่เล็กกว่าของจริงนิดหน่อยมาตลอด
[CR] ประสบการณ์จริงหลังทำเลสิค (กันยายน 2557) เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ
น่ากลัวมั้ย.......จริงๆแล้วไม่น่ากลัวอย่างที่คิดแต่มันจะตื่นเต้น วิธีที่ดีที่สุดคือ อย่าไปคิดมาก เค้าให้ทำอะไรก็ทำตามขั้นตอนเค้าไป จะผ่านไปได้ง่ายสุด และอย่าไปดูคลิปการทำเลสิค เพราะยิ่งดูยิ่งกังวล ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะวันทำจริงเค้ามีคนแนะนำหมด แค่ทำตามเค้าบอกก็พอแล้ว ของผมช่วงที่นอนหยอดยาชารอทำ ก็อาศัยชวนคุยกับคนข้างๆไปด้วยกัน ก็ไม่เกร็งมาก
เจ็บมั้ย.......ไม่เจ็บ โดยส่วนตัวจะมีช่วงเดียวที่อาจจะรู้สึกลำบากที่สุด คือช่วงที่เค้าเอาเครื่องมากดครอบตาไว้ให้นิ่ง แต่ก็ไม่เจ็บอยู่ดี มันอึดอัดมากกว่าเพราะเหมือนมีอะไรมากดเบ้าตาไว้ ส่วนช่วงยิงเลเซอร์ ไม่รู้สึกอะไรเลย ส่วนตัวผมใช้วิธีนับเลขไปเรื่อยๆ เพื่อให้มีสมาธิอยู่นิ่งๆตอนที่หมอยิงเลเซอร์
วันแรก......แต่ละคนจะแตกต่างกัน คนก่อนหน้าผม ออกมาแสบตาน้ำตาไหล แต่ของผมออกมาไม่แสบเลย จะมองเห็นมัวๆเหมือนเวลาเราน้ำตาคลอ เลยนึกว่าไม่เป็นไร เลยแวะกินข้าว ประมาณ1-2 ชมแต่ช่วงนี้แหละที่เริ่มแสบมากขึ้นเรื่อยๆจนลืมตาไม่ขึ้น ใครอยากรู้ความรู้สึก มันจะเหมือนตอนเราหั่นหัวหอมแสบแบบนั้นเลย แล้วซักพักพอน้ำตาไหลออกมาก็จะเบาลงหน่อย ช่วงนี้กลับบ้านหลับไปเลย ผ่านไป 3-4 ชม ตื่นมา แทบไม่รู้สึกอะไรแล้ว
อาทิตย์แรก......ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ก็ทำตามคำแนะนำของหมอหมดทุกอย่าง มีที่ต้องระวังมากหน่อยคือ เรื่องน้ำเข้าตา ป้องกันการติดเชื้อ ไปลองหาแว่นธรรมดาอันใหญ่ๆมาใส่ครอบตาไว้ตอนทำอะไรที่ใกล้ๆน้ำก็ดี ของผมเองวันที่ 5 หลังทำ ยืนล้างเครื่องทำกาแฟ น้ำดันกระเด็นเข้าตา แต่ก็โชคดีไม่เป็นอะไร
ผลค่าสายตาที่วัดมาล่าสุด (วันที่ 10 หลังจากทำเลสิคมา)
จากเดิมที่สองข้างสั้น ประมาณ700 เอียง ประมาณ 100 แก้แล้วเหลือ ซ้าย 25 ขวา 0
ชนิดที่เลือกทำ..... เลือก Femtolasik เหตุผลที่เลือกคือ มีความแม่นยำสูง ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวกำหนด และเป็นวิธีที่ใช้กันมานาน มีคนไข้ทำมาเยอะ แก้ไขรุ่นต่างๆมาจน stable มาก และ หมอกับพยาบาลก็มี ปสก ใช้เครื่องพวกนี้นานพอจนชำนาญพอแล้ว
เลสิคมีความเสี่ยงมั้ย??...... มีความเสี่ยงเหมือนกับทุกๆอย่างทางการแพทย์ที่ไม่มีอะไร 100% เท่าที่ศึกษามาทั้งจาก Pantip และจากของ ตปท Key สำคัญ 3 ข้อที่จะทำให้เราลดดวามเสี่ยงลงได้คือ
1. เครื่องมือดี
2. แพทย์มีความชำนาญดี
3. คนไข้เป็น Good candidate คือ สภาพตาคนไข้มีความพร้อมดี จะรู้ได้ตอนที่ไปให้หมอตรวจก่อนทำเลสิค เค้าจะมีการวัดค่าสายตา กระจกตา รูม่านตา และอื่นๆ เพื่อ ประเมินว่า เราสามารถทำเลสิคได้มั้ย ซึ่งการที่เราจะเป็น Good candidate มั้ย แพทย์จะประเมินให้เอง
หลังทำ.... คิดว่าแต่ละคนก็แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ที่เหมือนกันคือ
1. ช่วงแรกๆต้องหยอดน้ำตาเทียมเยอะ ส่วนตัวไม่เคยตาแห้ง เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง ทำให้ช่วงแรกหยอดน้อยไป ตอนไปหาหมอ หมอบอกแห้งมากทำให้การมองเห็นยังมัวๆ เดี้ยวชัดเดี้ยวไม่ชัดอยู่ ตอนนี้เลยจำเป็นต้องเปลี่ยนยี่ห้อ น้ำตาเทียม มาใช้ของแพงขึ้น คือ Vislube 20 หลอด365 บาท เพราะอีกยี่ห้อ Natural free ถูกกว่า 32 หลอด 250บาท แต่หยอดไปแล้วรู้สึกเหนียวๆตา แล้วก็น้ำตาจะไหลออกมาทื้งไปตอนหยอด
2. แว่นกันแดด ต้องมีพร้อมไว้เลย เพราะหมอบอกถึงสายตาปกติ ก็ควรมีไว้เพื่อปกป้องดวงตา ส่วนตัวไม่เคยใส่เพราะใส่แต่แว่นสายตามาตลอด เลยซึ้อใหม่แล้วให้ร้านแว่นช่วยวัด ว่ามีค่าความสามารถต้าน UV 400 ให้ด้วย และก็เลือกแบบที่เป็น Polarized ไว้อันนึง
3. การมองเห็น.....ใครเคยเปลี่ยนแว่นมาหลายๆทีจะเข้าใจ เพราะมันจะรู้สึกคล้ายๆกับ เวลาที่เราเปลี่ยนแว่นใหม่ มันก็มองเห็นแต่จะยังไม่ค่อยชิน ใครทำงานที่ต้องใช้คอมเยอะ จะปวดๆตาได้ถ้าหลังทำสายตายังไม่นิ่ง หรือถ้าต้องขับรถตอนกลางคืนเยอะ จะมองเห็นแสงเป็นฟุ้งๆ อยู่ซึ่งหมอบอกมันจะค่อยๆดีขึ้น อาจจะต้องเตรียมตัวเผื่อไว้ด้วย เพราะอย่างที่บอกแต่ละคนก็ทำออกมาก็ไม่ได้เหมือนกัน บางคนเป็นแป็บเดียวหายบางคนต้องใช้เวลา
สรุป..... ทำแล้วคุ้มมั้ย ..... ส่วนตัวคิดว่าคุ้ม เพราะไม่ต้องใส่แว่นตาอีกต่อไป ส่วนความชัดอยากแนะนำว่าอย่าไปตั้งความหวังว่ามันจะต้องชัดใสเท่านั้นเท่านี้เพราะไม่งั้นก็จะกังวลอีกและจะคอยมานั่งเปรียบเทียบ ถ้าใครเคยเปลี่ยนแว่นไปมาสองอันจะเข้าใจ เพราะมันจะเหมือนแว่นอันนี้ก็ชัดแต่ชัดอีกแบบ ความรู้สึกประมาณนั้น เอาเป็นว่าทำแล้วให้รู้สึกว่าสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติได้ก็พอ สำหรับผมเอง สิ่งเดียวที่แปลกไปกว่าคนอื่น แล้วไม่เห็นคนอื่นพูดถึงคือ รู้สึกว่าเห็นสิ่งของใหญ่ขึ้นนิดหน่อย เช่น ขวดน้ำ เหรียญ จาน จะอันใหญ่ขึ้น แต่ถ้าเป็นของชิ้นใหญ่ๆอย่างรถยนต์จะเห็นความต่างไม่มาก ตอนที่ใส่คอนแทค ก็เคยเป็นแบบนี้ หมอบอกว่าอาจเป็นเพราะเราใส่แว่นมาตั้งแต่เด็ก( ป 2) เลนส์มันเป็นเลนส์เว้าเลยทำให้เราเห็นภาพที่เล็กกว่าของจริงนิดหน่อยมาตลอด