พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ"
ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2557 ว่า
เรื่องการขอความร่วมมือ / เรื่องอื่น ๆ เช่น การปฏิบัติตนเอง สื่อ ขององค์กรต่าง ๆ ทุกภาคส่วน
ขอร้องช่วยกันปลูกฝังค่านิยม 12 ประการ บางคนบอกว่า ปลูกฝังแล้วจะเกิดอะไร จะเกิดขึ้นได้ไหม
ประเทศชาติสงบไหม ท่านถามอย่างนี้ผมไม่รู้จะตอบอย่างไร ถ้าพูดอย่างนี้ แล้วทำอย่างนี้ และท่องไว้
เตือนใจตัวเองไว้ มันก็น่าจะได้ประโยชน์กว่าไม่มีอะไรอยู่ในหัวสมองเลย ผมไม่เข้าใจคิดอะไรกัน
บางคนขอให้ได้ต่อต้านทุกอย่าง ผมไม่เข้าใจ ก็ไม่เป็นไร คนดี ๆ ก็มี คนที่เขาต้องการจะทำก็มีมากมาย
ทำอย่างไรจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน สามัคคีกัน ให้มีความรู้ความสามารถ แข่งขันการประกอบอาชีพ
มีความทัดเทียมอารยประเทศ ไม่ละเมิดสถาบัน -จะสอนเรื่องการเมืองอะไรต่าง ๆ ก็ตาม ก็อย่าให้เกิด
ความวุ่นวาย คัดค้าน เลือกข้าง โต้แย้งกับรัฐบาลในทำนองนี้ เรากำลังปฏิรูปประเทศอยู่- เพื่อไม่ให้มี
การทุจริตคอร์รัปชั่น โกงกิน เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ทั่วถึง และเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่
เลือกตั้งอย่างเดียว แล้วได้นักการเมืองที่ไม่มีคุณภาพเข้ามาบริหารประเทศ อย่างนี้ไม่ใช่ เราถึงต้อง
ทำวันนี้
สำหรับท่านอาจารย์ กี่ท่านไม่ทราบ หลายสิบท่าน ผมคิดว่าท่านน่าจะเข้าใจที่ผมพูด ถ้าท่านไม่มี
อคติเป็นอย่างอื่น ท่านก็จะอ้างเรื่องความเป็นประชาธิปไตยบ้าง ท่านต้องการสอนการเมืองบ้าง ท่าน
บอกว่าไม่สอนบ้านเมืองแล้วคนจะเรียนการเมืองอย่างไร ก็มีวิธีการสอนตั้งหลายหมื่น หลายแสนวิธี ที่
จะเข้าใจเรื่องการเมืองที่ถูกต้องเป็นอย่างไร -ทำไมท่านไม่สอนว่า การเมือง นักการเมือง ต้องทำตัว
อย่างไร ผู้เลือก ประชาชนต้องเลือกอย่างไร- การเป็นประชานิยมที่สร้างปัญหาเป็นอย่างไร ท่านสอน
อย่างนั้นกันบ้างหรือเปล่า
ผมถามหน่อย ผมไม่เคยเห็นท่านพูดเรื่องเหล่านี้ ท่านพูดแต่เพียงว่า นี้จะต้องเลือกตั้ง จะต้องเป็น
ประชาธิปไตย แล้วที่ขัดแย้งที่ผ่านมา ท่านก็ไม่ได้แก้ปัญหาให้เราเลย ไม่ได้แก้ปัญหาให้คนทั้งประเทศ
เลย เพราะฉะนั้นท่านหยุดสักที ไปหาวิธีการสอนอย่างอื่น ไปสอนลูกศิษย์มาอีกวิธีหนึ่ง ไม่ใช่ว่าสถาบันนี้
ต้องสอนเรื่องการเมือง ก็ต้องเด่นดังการเมืองอย่างเดียว ไม่ใช่ ผมว่าสอนอย่างไรให้คนประกอบอาชีพได้
สอนอย่างไรให้เป็นคนดี สอนอย่างไรให้มีงานทำ ไปหาวิธีการอย่างโน้น ถ้าสอนให้เป็นการเมืองอย่างเดียว
แล้วตีกัน ผมว่าเหนื่อยเปล่า ไม่รู้จะสอนไปทำไม
สื่อก็ต้องระมัดระวังการขยายความขัดแย้งขยายคำพูดที่ผมไม่ได้เจตนาร้ายไปสู่เจตนาร้าย และบางครั้ง
ท่านไม่เข้าใจ บางทีท่านก็ลืมไป สื่อต่างประเทศเขาก็นำคำพูดของท่านไปเขียนว่าพวกเรากันเอง คนไทย
เขียนว่าคนไทย คนต่างชาติก็นำสิ่งที่คนไทยว่าคนไทย ไปว่าต่อ ก็เท่ากับเหมือนกับเราไปชี้โพรงให้กระรอก
อะไรสักอย่างทำนองนั้น ถ้าผิดจริง ถ้าไม่ดีจริง ผมไม่ได้ปิดกั้นท่านเลย แต่ถ้าไม่ใช่แล้วท่านพูด มันเสียหาย
เสียหายกับองค์กร เสียหายกับประเทศชาติ ความเชื่อมั่นเขาก็ลดลง ทั้ง ๆ ที่ท่านก็ไม่ได้เจตนา ผมรู้ว่าท่าน
เป็นห่วงประเทศชาติเหมือนกัน
ท่านเตือนผม ผมก็รับฟัง แต่ผมเตือนท่าน ท่านไม่ฟังผม อย่างนี้ไม่ใช่ ต้องช่วยกัน ผมโกรธท่านไม่ได้
ท่านก็โกรธผมไม่ได้เหมือนกัน วันนี้เราเข้ามาด้วยวิถีทางของเราแบบนี้ ท่านก็จะจี้เราตรงนี้ ตรงโน้นอยู่
ตลอดเวลา แล้วมันได้อะไรขึ้นมา มีอะไรดีขึ้นมาไหม ถ้าเป็นอย่างที่ท่านต้องการ จะเป็นไปได้ไหม คน
ส่วนใหญ่เขาก็เข้าใจ เพราะฉะนั้นผมว่าต้องขอร้องอีกครั้ง
ฉะนั้นให้เสนอข่าวให้ตรงตามข้อเท็จจริง
อะไรที่เสียหายกับประเทศก็เพลา ๆ บ้าง หยุด พอเสนอเสร็จ
แล้วก็จบ เรื่องอื่น ๆ ก็เป็นเรื่องของการสอบสวนสืบสวน พอสืบสวนสอบสวน ท่านก็ไปว่าเจ้าหน้าที่ไม่ดี
ทุจริต ทำไม่เรียบร้อย ไม่มีฝีมือ พูดอย่างนี้ มันขยายความขัดแย้งนะผมว่า ต่างชาติเขาบอกในประเทศยัง
ไม่รับกันเลย แล้วต่างประเทศจะรับทำไม เพราะฉะนั้นต่างประเทศอย่ามาเลย อย่ามาเที่ยวประเทศไทย
แล้วท่านก็มาโทษผมว่า รัฐบาลทำให้การท่องเที่ยวลดลง ต้องร่วมมือกันทั้งสองส่วน ที่ผมพยายามทำ
สร้างความเข้าใจกับเขา ส่งคนไปประชุมกับเขา ส่งรองนายกรัฐมนตรี ส่งรัฐมนตรี ส่งใครไปประชุม เขา
ก็ให้เกียรติอยู่ทุกประเทศตอนนี้ ก็กลายเป็นเราไม่ให้เกียรติกันเอง ผมว่าไม่ใช่
เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่ดี
อยู่แล้ว ผมชมเชย มีส่วนน้อยบางสื่อ บางสำนัก เรารู้อยู่ว่าท่านเป็นอย่างไรมาโดยตลอด ท่านสนับสนุน
ฝ่ายใดอยู่ ผมว่าวันนี้เราอย่ามีฝ่ายเลยได้ไหมวันนี้เอาประเทศไทย เอาคนไทย เอาประชาชนคนไทยที่
ยากจน ที่มีรายได้น้อยไม่ดีกว่าหรือ เราจะได้แก้ปัญหาให้ได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1411726380
บิ๊กตู่ ตอกนักวิชาการ ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่เลือกตั้ง ทำไมท่านไม่สอนว่านักการเมือง ต้องทำตัวอย่างไร! มติชนออนไลน์
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ"
ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2557 ว่า
เรื่องการขอความร่วมมือ / เรื่องอื่น ๆ เช่น การปฏิบัติตนเอง สื่อ ขององค์กรต่าง ๆ ทุกภาคส่วน
ขอร้องช่วยกันปลูกฝังค่านิยม 12 ประการ บางคนบอกว่า ปลูกฝังแล้วจะเกิดอะไร จะเกิดขึ้นได้ไหม
ประเทศชาติสงบไหม ท่านถามอย่างนี้ผมไม่รู้จะตอบอย่างไร ถ้าพูดอย่างนี้ แล้วทำอย่างนี้ และท่องไว้
เตือนใจตัวเองไว้ มันก็น่าจะได้ประโยชน์กว่าไม่มีอะไรอยู่ในหัวสมองเลย ผมไม่เข้าใจคิดอะไรกัน
บางคนขอให้ได้ต่อต้านทุกอย่าง ผมไม่เข้าใจ ก็ไม่เป็นไร คนดี ๆ ก็มี คนที่เขาต้องการจะทำก็มีมากมาย
ทำอย่างไรจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน สามัคคีกัน ให้มีความรู้ความสามารถ แข่งขันการประกอบอาชีพ
มีความทัดเทียมอารยประเทศ ไม่ละเมิดสถาบัน -จะสอนเรื่องการเมืองอะไรต่าง ๆ ก็ตาม ก็อย่าให้เกิด
ความวุ่นวาย คัดค้าน เลือกข้าง โต้แย้งกับรัฐบาลในทำนองนี้ เรากำลังปฏิรูปประเทศอยู่- เพื่อไม่ให้มี
การทุจริตคอร์รัปชั่น โกงกิน เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ทั่วถึง และเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่
เลือกตั้งอย่างเดียว แล้วได้นักการเมืองที่ไม่มีคุณภาพเข้ามาบริหารประเทศ อย่างนี้ไม่ใช่ เราถึงต้อง
ทำวันนี้
สำหรับท่านอาจารย์ กี่ท่านไม่ทราบ หลายสิบท่าน ผมคิดว่าท่านน่าจะเข้าใจที่ผมพูด ถ้าท่านไม่มี
อคติเป็นอย่างอื่น ท่านก็จะอ้างเรื่องความเป็นประชาธิปไตยบ้าง ท่านต้องการสอนการเมืองบ้าง ท่าน
บอกว่าไม่สอนบ้านเมืองแล้วคนจะเรียนการเมืองอย่างไร ก็มีวิธีการสอนตั้งหลายหมื่น หลายแสนวิธี ที่
จะเข้าใจเรื่องการเมืองที่ถูกต้องเป็นอย่างไร -ทำไมท่านไม่สอนว่า การเมือง นักการเมือง ต้องทำตัว
อย่างไร ผู้เลือก ประชาชนต้องเลือกอย่างไร- การเป็นประชานิยมที่สร้างปัญหาเป็นอย่างไร ท่านสอน
อย่างนั้นกันบ้างหรือเปล่า
ผมถามหน่อย ผมไม่เคยเห็นท่านพูดเรื่องเหล่านี้ ท่านพูดแต่เพียงว่า นี้จะต้องเลือกตั้ง จะต้องเป็น
ประชาธิปไตย แล้วที่ขัดแย้งที่ผ่านมา ท่านก็ไม่ได้แก้ปัญหาให้เราเลย ไม่ได้แก้ปัญหาให้คนทั้งประเทศ
เลย เพราะฉะนั้นท่านหยุดสักที ไปหาวิธีการสอนอย่างอื่น ไปสอนลูกศิษย์มาอีกวิธีหนึ่ง ไม่ใช่ว่าสถาบันนี้
ต้องสอนเรื่องการเมือง ก็ต้องเด่นดังการเมืองอย่างเดียว ไม่ใช่ ผมว่าสอนอย่างไรให้คนประกอบอาชีพได้
สอนอย่างไรให้เป็นคนดี สอนอย่างไรให้มีงานทำ ไปหาวิธีการอย่างโน้น ถ้าสอนให้เป็นการเมืองอย่างเดียว
แล้วตีกัน ผมว่าเหนื่อยเปล่า ไม่รู้จะสอนไปทำไม
สื่อก็ต้องระมัดระวังการขยายความขัดแย้งขยายคำพูดที่ผมไม่ได้เจตนาร้ายไปสู่เจตนาร้าย และบางครั้ง
ท่านไม่เข้าใจ บางทีท่านก็ลืมไป สื่อต่างประเทศเขาก็นำคำพูดของท่านไปเขียนว่าพวกเรากันเอง คนไทย
เขียนว่าคนไทย คนต่างชาติก็นำสิ่งที่คนไทยว่าคนไทย ไปว่าต่อ ก็เท่ากับเหมือนกับเราไปชี้โพรงให้กระรอก
อะไรสักอย่างทำนองนั้น ถ้าผิดจริง ถ้าไม่ดีจริง ผมไม่ได้ปิดกั้นท่านเลย แต่ถ้าไม่ใช่แล้วท่านพูด มันเสียหาย
เสียหายกับองค์กร เสียหายกับประเทศชาติ ความเชื่อมั่นเขาก็ลดลง ทั้ง ๆ ที่ท่านก็ไม่ได้เจตนา ผมรู้ว่าท่าน
เป็นห่วงประเทศชาติเหมือนกัน
ท่านเตือนผม ผมก็รับฟัง แต่ผมเตือนท่าน ท่านไม่ฟังผม อย่างนี้ไม่ใช่ ต้องช่วยกัน ผมโกรธท่านไม่ได้
ท่านก็โกรธผมไม่ได้เหมือนกัน วันนี้เราเข้ามาด้วยวิถีทางของเราแบบนี้ ท่านก็จะจี้เราตรงนี้ ตรงโน้นอยู่
ตลอดเวลา แล้วมันได้อะไรขึ้นมา มีอะไรดีขึ้นมาไหม ถ้าเป็นอย่างที่ท่านต้องการ จะเป็นไปได้ไหม คน
ส่วนใหญ่เขาก็เข้าใจ เพราะฉะนั้นผมว่าต้องขอร้องอีกครั้ง
ฉะนั้นให้เสนอข่าวให้ตรงตามข้อเท็จจริง อะไรที่เสียหายกับประเทศก็เพลา ๆ บ้าง หยุด พอเสนอเสร็จ
แล้วก็จบ เรื่องอื่น ๆ ก็เป็นเรื่องของการสอบสวนสืบสวน พอสืบสวนสอบสวน ท่านก็ไปว่าเจ้าหน้าที่ไม่ดี
ทุจริต ทำไม่เรียบร้อย ไม่มีฝีมือ พูดอย่างนี้ มันขยายความขัดแย้งนะผมว่า ต่างชาติเขาบอกในประเทศยัง
ไม่รับกันเลย แล้วต่างประเทศจะรับทำไม เพราะฉะนั้นต่างประเทศอย่ามาเลย อย่ามาเที่ยวประเทศไทย
แล้วท่านก็มาโทษผมว่า รัฐบาลทำให้การท่องเที่ยวลดลง ต้องร่วมมือกันทั้งสองส่วน ที่ผมพยายามทำ
สร้างความเข้าใจกับเขา ส่งคนไปประชุมกับเขา ส่งรองนายกรัฐมนตรี ส่งรัฐมนตรี ส่งใครไปประชุม เขา
ก็ให้เกียรติอยู่ทุกประเทศตอนนี้ ก็กลายเป็นเราไม่ให้เกียรติกันเอง ผมว่าไม่ใช่ เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่ดี
อยู่แล้ว ผมชมเชย มีส่วนน้อยบางสื่อ บางสำนัก เรารู้อยู่ว่าท่านเป็นอย่างไรมาโดยตลอด ท่านสนับสนุน
ฝ่ายใดอยู่ ผมว่าวันนี้เราอย่ามีฝ่ายเลยได้ไหมวันนี้เอาประเทศไทย เอาคนไทย เอาประชาชนคนไทยที่
ยากจน ที่มีรายได้น้อยไม่ดีกว่าหรือ เราจะได้แก้ปัญหาให้ได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1411726380