มวยไทย กับ กังฟูใครเก่งกว่ากันคับ

กระทู้คำถาม
อย่างที่เหนละคับกังฟูไม่เคยมาชกซักครั้งเลยถ้ามาชกก็มีเเต่กังฟูอ่อน ถ้ากังฟูจริงๆ มาเจอกับมวยไทยใครเก่งกว่ากันคับ
ลอกเขามา มวยไทย

        มวยไทยเรา เป็นมวยปะทะ แน้นความแข็งแรงของร่างกาย และการฝึกฝนร่วมด้วย สามารถฝึกฝนและเรียนรู้พื้นฐานการใช้ ท่า แตะ ถีบ ชก ศอก แทงเข่า ได้อย่างรวดเร็ว มีการใช้เทคนิคของส่วนต่าง ๆ ที่แข็งแรงของร่างกาย(เช่น ศอก และ เข่า)มาประยุกใช้ได้อย่างชาญฉลาด

        แต่เนื่องจากเป็นมวยปะทะ เน้นความแข็งแรงของร่างกายเข้าปะทะ และ รับ หากขึ้นชกมากครั้ง สมองมีสิทธ์ได้รับการกระทบกระเทือนค่อนข้างมาก ร่างกายที่ฝึกฝนจะขาดความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อในหลายส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน  ในการต่อสู้หากเจอคู่ต่อสู้ที่เป็นมวยไทยเหมือนกัน หรือมีรูปร่างใหญ่หรือแข็งแรงกว่า เป็นไปได้ยากที่จะปะทะแล้วชนะได้

กังฟู เส้าหลิน

         มวยเส้าหลิน เป็นมวย ปะทะและรับ(ใช้แรงคู่ต่อสู้) มีการใช้ มือ เท้า ชก แตะ ดัด หัก ทุ่ม รวมถึง การ ฝึกฝน ท่ารำ อาวุธ และพลังลมปราน(ท่ารำที่มีการกำหนดลมหายใจ) ใช้เวลาการฝึกฝนยาวนานกว่ามาก กว่าจะมีความเชี่ยวชาญครบด้าน หรือแม้นแต่ด้านใดด้านหนึ่ง ร่างกายจะมีความยืดหยุ่น และแข็งแรงไปพร้อม ๆ กัน เหมือนคำพูดที่ว่า "ท่ารำกังฟูที่งดงาม ต้องมีทั้งความ แข็งแรง คล่องแคล่ว ว่องไว และ อ่อนช้อย" ผู้ที่ฝึกฝนจนชำนาญมีความเป็นได้ที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ตัวใหญ่ และแข็งแรงกว่า

         อาจารย์บอกว่า เพื่อน ๆ อาจารย์ ที่ฝึกฝน กังฟูเส้าหลิน นั้นก็จบไปเป็น บอร์ดี้การ์ด ทหาร ตำรวจ และ นักแสดง (ดั่งเช่น หลี่เหลียงเจี่ยหรือที่เรารู้จักกันในนามว่าเจ็ทลี นั่นเอง)  เมืองที่เส้าหลิน ตำรวจส่วนใหญ่ จะเกรงกลัวผู้ฝึกฝนกังฟู มากกว่า ผู้ฝึกฝนกังฟูเกรงกลัวตำรวจ เพราะผู้ฝึกฝนกังฟู มีการฝึกฝนร่างกายอยู่ทุกวัน รู้จักการใช้อาวุธหลายชนิดอย่างคล่องแคล่ว รวมถึงมีการฝึกลมปรานจนเกิดเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งที่นานาประเทศเรียกและรู้จักกันว่า Iron Body หรือ ร่างกายที่เป็นเสมือนเหล็ก ทำให้เกิดความสามารถหรือเทคนิคพิเศษต่างที่เรียกว่า สุดยอดวิชา(Unique Skills) เช่น การใช้ทวนแทงคอหอยหรือหน้าท้อง การปาเข็มทะลุกระจก การหักเหล็กด้วยหัว หักไม้ด้วยส่วนต่างๆของร่างกาย และอื่นๆ อีกมากมาย

สรุป

มวยไทย มีข้อดี คือ เป็นของไทยเรา เรียนรู้ได้ง่าย และเร็ว

ข้อเสีย คือ ร่างกายไม่เกิดความยืดหยุ่นในหลายส่วน

กังฟูเส้าหลิน มีข้อดี คือ ร่างกาย เกิดความยืดหยุ่น(ดีมาก) ไปพร้อมกับความแข็งแรง มีการเรียนรู้วิธีใช้อาวุธ ต่างๆ

ข้อเสีย คือ ใช้เวลาในการฝึกฝนนาน กว่าจะใช้ได้จริง

      อย่างไรก็ตามศิลปะป้องกันตัวทั้งสองก็คือ การเรียนรู้วิชาป้องกันตัว และการออกกำลังกายเป็นหลัก ไม่มีอะไรเก่งกว่าอะไร มีข้อดีและข้อเสียเช่นกัน อันนี้น่าจะขึ้นอยู๋กับความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคลมากกว่า ส่วนตัวกระผม ชอบท่ารำและกระบี่หมัดเมาครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ผมเคยดูกังฟูปะทะมวยไทยหลายครั้งครับตั้งแต่อดีต เท่าที่ดูคือเราต้องลดกติกาของเราไปสู้กับเขาครับ บางนัดห้ามเราใช้ศอก บางนัดใช้ศอกได้แต่ต้องหุ้มนวม บางทีเข้ากอดกันมวยไทยกำลังจะจับตีเข่ากรรมการชาวจีนจะเข้ามาแยกก่อนทันทีเพื่อไม่ให้เราตีเข่า สมัยก่อนเท่าที่ดูคือกังฟูจะยอมเจ็บตัวรับแข้งของเราคือให้เราเตะไปก่อนแล้วมันจะคอยจับขาเรา แล้วเดินถอยหลังเพื่อดึงให้เราล้ม กติกาเมื่อก่อนประมาณว่า เตะได้1แต้ม ดึงคู่ต่อสู้ล้มได้2แต้ม ส่วนใหญ่กังฟูจะชนะครับ มีหลายๆคู่กังฟูโดนมวยไทยเตะมันแทบเดี้ยง มันยังกลับชนะเพราะมันดึงขาเราล้มได้ ถ้าเป็นการตัดสินแบบมวยไทยคะแนนขาดหลุดลุ่ยไปละครับ

คหสต... ผมคิดว่าคนจีนรู้นะครับ อาวุธมวยไทยร้ายกาจกว่า แต่ด้วยความเป็นชาตินิยมเขาก็ต้องบอกว่ากังฟูดีกว่า เพื่อนผมคนจีนยังบอกเลยครับ เดี๋ยวนี้คนจีนหันมาเล่นมวยไทยเยอะมาก อีกหน่อยคงเยอะกว่ากังฟู เดี๋ยวนี้หลายๆแห่งที่จีนยังมีการจัดแข่งมวยไทยเลย  (ไม่รู้ว่ามันพูดจริงหรือพูดเอาใจผมนะ)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมทันดู ยุคสมัยที่ ศิลปะการต่อสู้แต่ละอย่างแยกจากกัน  แล้วก็มีการเปรียบเทียบกันว่า อันไหนดีกว่า

อันไหนสุดยอด  จนกระทั่งศิลปะการต่อสู้แต่ละอย่าง จัดปะทะกัน เพื่อพิสูจน์ว่า ใครเจ๋งสุด
จนกระทั่ง ศิลปะการต่อสู้บนเวที หลายอย่าง มารวมกัน เลือกเอาสิ่งที่ดีที่สุด มาใช้จริง ในการต่อสู้ บนเวที



ผมจะบอกให้ว่า  " มวยไทย "   เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่เรียกว่า  มีกระบอกเสียงน้อยที่สุด
เกิดขึ้นบนแผ่นดิน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ซึ่งสมัยนั้น ถือเป็นประเทศไม่พัฒนา ของทวีปที่พัฒนาไม่มากอย่าง เอเชีย
คือประมาณว่า ประเทศไทย อยู่ตรงไหนของแผนที่โลก   ขี้ช้าง ขึ่เกวียนไปเรียนกันรึเปล่า นั่นแหละครับ

สมัยก่อน สื่อหลัก มีแต่ หนังสือพิมพ์  ภาพยนต์+โทรทัศน์  เท่านั้น  อินเตอร์เน็ต ไม่มี  พิสูจน์ความจริงไม่ได้
ข่าวสาร แล้วแต่เขาจะเลือกมาลงให้ คุณจะแสวงหาเอง ไม่มี

ศิลปะการต่อสู้ ที่ได้รับการเชิดชู ยกย่อง อวย แต่งเติมเสริมแต่ง ในสมัยนั้น  คือ กังฟู และ คาราเต้   เทควนโด้  ตามมาห่างๆ
กังฟู  มีการแสดงในหนังต่างๆ  ว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ ชั้น เทพ  ใช้ฝ่ามือ ทลายไม้ ทลายหิน  รวดเร็วว่องไว มีกระบวนท่าไม้ตาย
ตีลังกาเตะ สกัดจุดได้   แสดงออกผ่านภาพยนต์กังฟูมากมาย  บรูซลี เฉินหลง  เป็นต้น

ถามว่า คนดูสมัยนั้น เชื่อ มั้ยครับ ว่า กังฟู  เก่งจริง   ตอบว่า เชื่อ ครับ  เพราะเราเห็นกันอยู่ทุกวัน  เราคิดว่ามันทำได้จริง
เราไม่สามารถพิสูจน์ได้    อย่าเอาบริบทคนสมัยนี้ไปเทียบนะครับ  ตอนนั้นเห็นในหนังทุกวัน ก็เชื่อกันหมดนะครับ เป็นเรื่องจริง

เช่นเดียวกับ คาราเต้  การแสดงโชว์ ใช้ไม้ฟาดหิน แท่งปูน อิฐแตกเป็น 10 แผ่น  เราคิดว่า  โอ้โห วิชานี้  ถ้าเอาฝ่ามือฟาด
คนนะ  ต้องตายแน่ กระดูกหัก   เช่นเดียวกับ เทควนโด้  กระโดดเตะแผ่นไม้

คือ ศิลปะการต่อสู้อื่น  เขามีการประชาสัมพันธ์ที่ดีมาก มีการไปใส่ไว้ในภาพยนต์  ทำให้คนเชื่อถือ ศรัทธา  กันมายาวนาน
ตอนนั้น มวยไทย อยู่ไหนครับ  

ตอบว่า มวยไทย ก็ชกกันอยู่ในเมืองไทย ลุมพินี ราชดำเนิน  โดยคนไทยเองถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา  โดยเราคิดว่า ถ้าไปเจอกังฟู
คาราเต้  นะ นักมวยไทย ต้องตายแน่เลย โดนฝ่ามือกระดูกหัก
การประชาสัมพันธ์ ออกสื่อในต่างประเทศมีรึเปล่า  ไม่มีเลยครับ ถึงมีก็คือเขาติดต่อไปชกบ้าง อะไรบ้าง

ต่อมายุคหลังจากนั้น เป็นการปะทะกัน ระหว่าง ศิลปะการต่อสู้ เหมือนทุกคนอยากรู้ว่า  อะไร เจ๋งกว่า
ปรากฎว่า แค่ครั้งแรกๆ มวยไทย เข่าได้ ศอกได้  เกิดเรื่องเลย เพราะชาติอื่นในโลก ตอนนั้น เข่าไม่เป็น ศอกไม่เป็น  เตะแบบมวย
ไทย ก็ไม่มีปรากฎในโลกครับ  ปรากฎว่า สู้มวยไทยไม่ได้ แตก เจ็บกันเป็นแถวๆ

คราวนี้ หลังจากนั้น มวยไทยเริ่มเป็นที่จับตามอง  ว่า  ต้องชนะเพื่อเพิ่มเครดิตให้ ศิลปะการต่อสู้ของตัวเอง  แต่ต้องตัดอาวุธมัน ไม่งั้น
เราสู้ไม่ได้  เลยมีการยกทีมชกกัน แต่ห้ามศอก ห้ามเข่า บ้าง ห้ามเตะต่ำบ้าง  แต่ส่วนใหญ่ก็แพ้มวยไทยอยู่ดี

แต่ตอนนั้นฝรั่งก็ไม่ได้เรียกว่า มวยไทย นะครับ  เรียกไทยบ็อกซิ่งบ้าง ไทยคิ๊กบ็อกซิ่ง หรือคิ๊กบ็อกซิ่งไปเลยก็มี  เพราะตอนนั้น
เริ่มมีการลอกเลียนเอามวยไทยไปใช้กันแล้ว โดยฝรั่ง ญี่ปุ่น  เช่น คิ๊กบ็อกซิ่ง คาราเต้เคียวคุชิน(เอาการเตะของมวยไทย เข่า ศอก)    
คาราเต้ฟูลฯ   นักมวยไทยหลายคนไปชก และไปอยู่ต่างประเทศ  เช่น เนตร ณรงค์น้อย ฯลฯ  เป็นต้น

หลังจากนั้นก็เป็นยุค ช้างเผือก พวกนี้  ตอนนั้น ฝรั่ง ก็ยังไม่ยอมรับมวยไทย มองว่าเป็นเป้าหมายที่ต้องชนะให้ได้
เวลาหลายปี  ทำให้ได้เรียนรู้ว่า  ศิลปะการต่อสู้ท่ายืนอื่นๆ  จริงๆ แล้วมันก็สู้มวยไทยไม่ได้ กังฟู  คาราเต้  ทำไมชกกับมวยไทย
สายดำ  ทำไมอ่อนแอแบบนี้ ทำไมแพ้ง่ายขนาดนี้  เราจึงได้รู้ว่า ที่แท้มวยไทยนี่แหละสุดยอด

สุดท้าย มวยไทย ได้พิสูจน์แล้ว ว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ในท่ายืน(บนเวที)  ที่ดีที่สุดในโลก  ปัจจุบัน ไม่ว่าจะใช้ชื่ออะไร  ก็เอามวยไทย
ไปใช้ในการชกทั้งสิ้น  


มวยไทย เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ชกยังไงก็ชกอยู่อย่างงั้น  ไม่มีเปลี่ยนแปลง
มีแต่ การต่อสู้ อื่น  ที่เอามวยไทยไปใช้ ปรับเปลี่ยนจนเหมือนเราหมดทั้งสิ้น  ไม่ว่าจะมาฝึกมวยไทยเสริม เอาครูมวยไทยไปสอน
ก็ตาม
กังฟู ในหนังนั้น  ในเวทีการต่อสู้ระหว่างศิลปะ เคยใช้ท่าทางในกังฟูตัวเอง มาแค่ระยะเวลาสั้นๆ  ปรากฎว่า ไม่ได้ผล แพ้มวยไทย
แพ้การต่อสู้อื่นๆ ไปอย่างสิ้นเชิง

สุดท้าย กังฟู ต้องปรับเปลี่ยน มาเป็น สานต้า  ใช้การชก ถีบ และทุ่ม ทำให้ล้ม  โดยหลอกตัวเอง
เอากติกามาชนะคะแนนมวยไทย  ซึ่งท่าทางของกังฟู ในหนัง ในการสาธิตศิลปะ ต่างๆ ของ จีน ไม่เคยเห็นเอามาสู้บนเวทีอีก



จนกระทั่ง 10 ปีหลังนี้  กังฟูจีน= มวยไทย  100%    เพียงแต่มวยจีนปัจจุบัน ยังไม่ถนัดชกกติกามวยไทยเต็มรูปแบบ แต่ก็มีชกได้
หลายคน  กังฟูจีนปัจจุบันนี้ เตะแบบมวยไทยทั้งสิ้น เข่าเป็น   ถ้าไปดูเอาจริงๆ  ในเมืองจีน มีค่ายมวยไทย เป็น 100 แห่ง  มีมวยไทย
เก่าไปสอนมวย หรือบางคนขึ้นชกด้วย มากมาย
  
นักมวยจีนที่มีชื่อเสียง บางคนแต่งตัว สวมมงคล ผ้าประเจียด  ชกด้วยซ้ำ  หรือบางคนปักกางเกงมวยไทย ชื่อไทย ไปชก  พวกนี้ลูก
ศิษย์ค่ายมวยไทยทั้งนั้น
แม้แต่ เส้าหลิน เมื่อขึ้นเวทีชก ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ชื่อเสียงในหนังเกินฝีมือ สุดท้ายหลวงจีน เส้าหลิน ก็ต้องมาเรียนมวยไทยเพื่อ
ขึ้นชกอยู่ดี
เพราะงั้น แม้ว่า ใครเก่งกว่า  อยู่ที่ตัวคน  แต่ในเรื่องศิลปะการต่อสู้บนเวที  มวยไทยปัจจุบัน ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุด ในท่ายืน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่