หลายคนเห็นหน้าตาของ Rafi Eitan แล้วก็คงพิศวงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ว่าหน้าตาบื้อๆ ท่าทางคงแก่เรียนอย่างนี้ มาเป็นผู้เชี่ยวชาญหน่วยจารกรรมได้อย่างไรกัน?
แต่ถ้าได้อ่านประวัติของเขาแล้ว...ก็คงจะเข้าใจ...ว่าเพราะเหตุใด คนหน้าตาแบบนี้...ถึงได้รับสมญานามจากแวดวงหน่วยใต้ดินว่า "ราฟีจอมโหด"
หรือ Rafi the Stinker!
เขาเกิดในปี 1926 ตอนสมัยเป็นเด็กๆเขาได้ดุภาพยนตร์เรื่อง Mata Hari สายลับหญิงชาวดัทช์ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่เขาเกิดความประทับใจมาก
ถึงขนาดลั่นวาจากับมารดาไว้ว่า...โตขึ้น...หนูจะเป็นสายลับ...
เมื่ออายุได้สิบสองปี...เขาได้เริ่มทำงานให้กับหน่วยฮากาน่าห์ โดยอาศัยความเป็นผู้เยาว์เข้าหาข่าวในกองทัพอังกฤษ
พออายุได้สิบแปด...เขาเข้าร่วมในกองทัพอย่างเต็มตัว...และทำงานในหน่วยจู่โจมทุกรูปแบบ...
เมื่ออายุยี่สิบเอ็ด..เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยจารกรรมและแทรกแซงข้าศึก...
ในวันที่อิสราเอลได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐอิสราเอล เมื่อปี 1948 นั้น...เกิดการปะทะกับกลุ่มอาหรับห้าชาติ (The Arab-Israeli War)
ราฟีบาดเจ็บที่ขา...เขาคลานกลับมาจนถึงมือแพทย์ พอจัดการใส่เฝือกเสร็จ เขากลับไปที่แนวรบ...และสู้ต่อไปอย่างทรหด...
เขาได้เป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยที่ทุกคนยอมรับว่า...อึด..มีไหวพริบเป็นยอด...และเป็นนักฆ่าที่เลือดเย็นอย่างที่สุด...
วันที่เขาถูกเรียกให้เข้าพบกับฮาเรล...ชายสองคนได้นั่งลงคุยกัน คนหนึ่งมีอายุเพียงสามสิบสี่ปี อกผาย ไหล่ผึ่งก็จริง...แต่ใส่แว่นหนาเตอะ เวลาฟังต้องเอียงหัวเพื่อตะแคงหูซ้าย
ฟัง...เพราะหูขวาดับจากการสู้รบที่ผ่านมาอย่างโชกโชน...นั่นแหละ เขาละ ราฟีจอมโหด....
บทสนทนาเริ่มดังนี้....ฮาเรลส่งคำถามไปว่า..
"ถ้าเจอตัวไอชมันน์แล้ว...หมายความว่าเราจะต้องไปทำงานบนผืนแผ่นเดินอาร์เจนตินา....นายว่าไง?"
"ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทางเรายังไม่มีประสบการณ์งานเสี่ยงข้ามชาติอย่างนี้เลย..."
"ก็งั้นน่ะซิ...เราถึงจะให้นายมาเป็นผู้ดูแลและบัญชาการในนโยบายนี้...ก่อนอื่นนะ นานไปหาคนช่วยงานตามที่คิดว่าเหมาะ จะกี่คนก็แล้วแต่...
แต่ขอให้เป็นความสมัครใจของเขาเอง...เพราะ...งานนี้ ถ้าพลาดหมายถึงติดคุกกันหัวโต..."
"เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอก...กระผมจะจัดการทุกอย่างเอง...ขอให้วางใจ"
ชีวิตของนักล่านาซี...ไซมอน วีเซนธัล บทที่ 3
แต่ถ้าได้อ่านประวัติของเขาแล้ว...ก็คงจะเข้าใจ...ว่าเพราะเหตุใด คนหน้าตาแบบนี้...ถึงได้รับสมญานามจากแวดวงหน่วยใต้ดินว่า "ราฟีจอมโหด"
หรือ Rafi the Stinker!
เขาเกิดในปี 1926 ตอนสมัยเป็นเด็กๆเขาได้ดุภาพยนตร์เรื่อง Mata Hari สายลับหญิงชาวดัทช์ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่เขาเกิดความประทับใจมาก
ถึงขนาดลั่นวาจากับมารดาไว้ว่า...โตขึ้น...หนูจะเป็นสายลับ...
เมื่ออายุได้สิบสองปี...เขาได้เริ่มทำงานให้กับหน่วยฮากาน่าห์ โดยอาศัยความเป็นผู้เยาว์เข้าหาข่าวในกองทัพอังกฤษ
พออายุได้สิบแปด...เขาเข้าร่วมในกองทัพอย่างเต็มตัว...และทำงานในหน่วยจู่โจมทุกรูปแบบ...
เมื่ออายุยี่สิบเอ็ด..เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยจารกรรมและแทรกแซงข้าศึก...
ในวันที่อิสราเอลได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐอิสราเอล เมื่อปี 1948 นั้น...เกิดการปะทะกับกลุ่มอาหรับห้าชาติ (The Arab-Israeli War)
ราฟีบาดเจ็บที่ขา...เขาคลานกลับมาจนถึงมือแพทย์ พอจัดการใส่เฝือกเสร็จ เขากลับไปที่แนวรบ...และสู้ต่อไปอย่างทรหด...
เขาได้เป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยที่ทุกคนยอมรับว่า...อึด..มีไหวพริบเป็นยอด...และเป็นนักฆ่าที่เลือดเย็นอย่างที่สุด...
วันที่เขาถูกเรียกให้เข้าพบกับฮาเรล...ชายสองคนได้นั่งลงคุยกัน คนหนึ่งมีอายุเพียงสามสิบสี่ปี อกผาย ไหล่ผึ่งก็จริง...แต่ใส่แว่นหนาเตอะ เวลาฟังต้องเอียงหัวเพื่อตะแคงหูซ้าย
ฟัง...เพราะหูขวาดับจากการสู้รบที่ผ่านมาอย่างโชกโชน...นั่นแหละ เขาละ ราฟีจอมโหด....
บทสนทนาเริ่มดังนี้....ฮาเรลส่งคำถามไปว่า..
"ถ้าเจอตัวไอชมันน์แล้ว...หมายความว่าเราจะต้องไปทำงานบนผืนแผ่นเดินอาร์เจนตินา....นายว่าไง?"
"ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทางเรายังไม่มีประสบการณ์งานเสี่ยงข้ามชาติอย่างนี้เลย..."
"ก็งั้นน่ะซิ...เราถึงจะให้นายมาเป็นผู้ดูแลและบัญชาการในนโยบายนี้...ก่อนอื่นนะ นานไปหาคนช่วยงานตามที่คิดว่าเหมาะ จะกี่คนก็แล้วแต่...
แต่ขอให้เป็นความสมัครใจของเขาเอง...เพราะ...งานนี้ ถ้าพลาดหมายถึงติดคุกกันหัวโต..."
"เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอก...กระผมจะจัดการทุกอย่างเอง...ขอให้วางใจ"