เราอายุเกือบ 35 ปีเป็นเกย์ ที่ไม่เปิดเผย มากแต่ก่อนเราก็รักสนุกใช้ตูดพิสูจน์รักแท้ไปเรื่อย (แต่เราใส่ถุงทุกครั้ง) แต่เราตรวจเลือดตลอดทุก 3 เดือน เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีตรวจวิเคราะห์ HIV ดีมากถ้าสงสัยรับเชื้อภายใน 7 วันก็ตรวจพบและรักษาได้ไว ... เรื่องมีอยู่ว่าเราพบว่าติดเชื้อเมื่อปลายปีที่แล้วโดยบัญเอิญเพราะก่อนหน้าเราติดเชื้อเราไปตรวจแล้วไม่พบแต่มีเหตุ ต้องพาน้องเกย์ยุวชนที่โดนกรรมกรข่มขื่นไปรักษาโรคหนองใน ที่คลินิกฟรีแห่งหนึ่ง ใน กทม เราก็คิดว่าไหนๆก็มาแล้วตรวจอีกรอบ ห่างกันแค่1เดือนจากรอบที่แล้วซึ่งไม่พบเพราะเราสงสัยว่าทำไมปกติเราไม่เคยเปนไข้นานขนาดนี้ พอหายก็พอดีมาคลินิก ผลปรากฏน้องเขารอดแต่เราติด HIV ในระยะเฉียบพลัน (โชคดีในควาโชคร้าย) จึงรับยาต้านไว (ต้องกินตลอดชีพเพื่อไม่ให้เป็น เอดส์ระยะสมบูรณ์) .. เรางงมากติดเพราะอะไรทั้งๆที่ใส่ถุงตลอด สงสัย 2 ข้อคือ เราเก็บถุงยางมียี่ห้อได้ข้างถนนแล้วลืมทิ้งไปใส่ในถุงเดียวกับ ห่อถุงยางที่รับแจกมาแล้วบังเอิญ คู่ขาแปลกหน้าเราดันไปหยิบมาใส่ (ไอ้ของแจกฟรีก็ไม่ใช้ดันเอาที่มียี่ห้อที่กุเก็บได้)มารู้ตอนหลังคือเปิดไฟหลังเสร็จกิจ อีกข้อคือ เหมือนเราเจ็บคอด้วยช่วงนั้น และเราชอบอมและรูดน้ำเชื้อผู้ชายเวลาใกล้เสร็จ
... พอเราติดเราก็งงไปพักเสียใจลึกๆแต่ไม่มาก พยาบาลให้กำลังใจและดูแลดีมาก ตั้งแต่นั้นมาเราจิตเสียมาก ตอนนั้นเราก็คบกับน้องสายสุขภาพคนหนึ่งมีอะไรกันครั้งเดียวแต่ใส่ถุงตลอดเราไม่มีความสุขเลยจิตเป็นกังวลกลัวน้องมาติดแบบเรา (กลัวถุงเสื่อม)และกลัวน้องเสียอนาคต จากนั้นเราเริ่มตีตัวออกห่างและขยะแขยงตัวเองไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเกย์อีกเลย ช่วยตัวเองเราก็ไม่ทำปล่อยให้มันฝันเปียกไปเอง พยาบาลบอกว่ามีได้ไม่ติดกันง่ายๆ ใส่ถุงและระวังแผลในปากตอนนี้ยาฆ่าเอดส์อีกไม่ถึงสิบปีก็น่าจะพัฒนาได้ คนติดเชื้อ hiv ถ้ารับยาต้านไวและดูแลร่างกายดีอยู่ได้เป็นสิบปี พวกมะเร็งกับเบาหวานยังน่ากลัวกว่าอีก (คำว่า เอดส์ จะเรียกพวกที่ไม่รับยาต้าน และโดนทำลาย CD4 หมดจนโรคอื่นแทรกซ้อน แต่เราแค่ติดเชื้อ) แต่เราก็จิตตกและเราก็เริ่มรู้คุณค่าของชีวิตแล้ว(ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา) ไหว้พระทำบุญ เลิกเถียงพ่อแม่ นั่งสมาธิทุกวัน ตั้งใจประพฤติพรมจรรย์ ศีล 5 รับมาปฏิบัติแบบเคร่งมาก เพื่อนฝูงที่รู้ก็มีเพื่อนใน ไลท์ที่เป็นและไม่เป็นน้อยคนทั้งหญิงและชาย เที่ยวและกินนอนด้วยกันแบบไม่รังเกลียด(เพราะพวกนี้ไม่รู้จักญาติพ่อแม่ ที่ทำงานและเพื่อนสมัยเรียน กลัวทะเลาะกันมันเอามาแฉ เพราะญาติ สนิทเราไม่มีคนรู้) เราเคยนั่งสมาธิ แล้วเห็นภาพในสมองแว็บๆ (อาจมโนภาพไปเอง) เขาบอกเพราะชาติที่แล้ว เราทำบาปกับผู้หญิงทอดทิ้งลูกเมียไปอยู่กับหญิงอื่นๆ ทั้งๆที่เขาท้องเข้าแช่งให้ตายเพราะโรคติดต่อเพศสัมพันธ์ทุกภพไป เรารู้สึกผิดมากในสมาธิเขาก็จะอโหสิให้หมดกรรมกันให้เรารักษาพรมจรรย์แล้วตรวจน้ำให้เขาด้วย
และมันก็มาถึงเรื่องที่เหมือนมารมาผจญ พรมจรรย์เรา ผู้ชายแท้ๆมีลูกเมียแล้ว(เลิกแล้วเพราะเมีย เอาแต่ใจ)แต่เปนไบ เพราะโดนเพื่อนสนิทที่เป็นเกย์ลักหลับแล้วติดใจมาขอคบ เราก็บอกความจริงไปว่าเราป่วยเปนอะไร เขาก็สงสารเราไม่รังเกลียดเราก็ไม่เอาขอเปนพี่น้องกันดีกว่า พอคนนี้จบไป เราก็รู้จักน้อง ต. อายุ 23 เราเหงาเราก็ชวนเขาเที่ยว กินข้าวดูหนังไป เขาก็มาขอคบเราซึ่งเขาบอกเคยผิดหวังกับผู้หญิงและไม่มีใครดีกับเขาแบบนี้แนะนำและค่อยสอนให้เขาให้ถูกทางซึ้งพ่อแม่ไม่เคยสอนเขาเลยตามใจเขาตลอด(เราไม่อยากให้เขาเปน เกย์ เพราะว่าเขาไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน เส้นทางนี้ยังไม่เปิดกว้างมากสำหรับเขา ซึ่งเราผ่านมาแล้ว ถ้าไม่เก่ง ไม่มีเงิน ไม่ฉลาด มีแต่คนเขาจะข่มเหงเอา เราบอกว่าให้เขาตั้งใจเรียนให้จบและหาผู้หญิงดีๆแต่งงานไป ) เขาไม่รังเกลียดเราที่ป่วยเป็นอะไรเขามองที่จิตใจ จะพร้อมอยู่ดูแลเสมอ เราก็ยกเหตุผลต่างๆนาๆ มากลัวเขาติดเชื้อถ้ามีอะไรกับเรา(แฟนกันต้องมีสักวันที่มีอะไรกัน) เขาก็บอกว่าป้องกันใส่ถุง หรือมีแค่ภายนอกก็ได้ เราก็บอกไปว่าไม่ได้ถือพรมจรรย์แล้ว ไอ้นี้ก็ส่งรูป จู๋ รูป หุ่นมายั่ว ตลอดแต่เราก็ลบทิ้ง มองว่ามันลามก จนเราอึดอัดไม่อยากไปไหนมาไหนด้วยละกลัวโดนปล้ำ ต. ก็พูดให้เราใจอ่อนอีกว่าไม่สงสารเขาแล้วหรือเขาไม่ดีตรงไหน เรื่องยังไม่จบ
กิ๊กเก่าชื่อ ป. อันนี้ ผู้ชายแท้ๆ อายุ 22 ก็มาขอคืนดี(คนนี้ไม่มีอะไรกันภายใน เราแค่ใช้ปากและช่วยเขา) เราก็บอกว่ามีแฟนแล้ว(ดูใจกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ต. ซึ่งเราก็บอกเพื่อให้ ป. ตัดใจ) เราก็บอก ป. ว่าเราไม่ชอบกินเหล้า สูบบุหรี่ และใจร้อน และด่าว่าแรงๆ เขาบอกว่าเขากลับตัวแล้ว คิดถึงแต่เราตลอดไม่มีใครดีกับเขาแบบนี้เลย เราตัดสินใจบอกว่าเราป่วยเปน อะไรแทนที่จะรังเกลียด น้อง ป. กลับเห็นใจเราเหมือน ต. มาอีกคนอยากอยู่ดูแลเรา จะมาจากภาคเหนือ มาหาเรา ที่ กทม. ให้ได้ เพราะเขาบอกเหมือนกับว่าเขาเปนตัวต้นเหตุให้เราไปมั่วถ้าเขาไม่ทิ้งเราๆ คงไม่เปนแบบนี้ ขอไถ่บาป ให้เขาได้กลับมาดูแลเราเถอะ เราบอกว่าไปไม่ได้ มีพ่อมีแม่ และมีงาน มีเพื่อนร่วมงานที่ดีอยู่แล้ว และกำลังเก็บเงิน ใช้หนี้บัตรเครดิต และ เงินกู้เรียน กับเก็บเงินให้พ่อแม่ สักพัก ค่อยตัดสินใจบวช (เณร เพราะไม่อยากบวชพระให้เปนปัญหาสังคม เห็นมีแต่ไม่อยากให้เกย์บวช) เขาบอกมา อยู่กับ เขาที่ ตจว ก็ได้ จะฝากทำงานที่เดียวกับเขาให้ เราก็เริ่มหงุดหงิดเริ่ม ประชด บอกไปว่า รักจริงหรือ กล้าหรือปล่าวเสียบสดเลยตายด้วยกัน ที่นี้จะได้ติดทั้งคู่ พากันไปหาหมอเลยดีหรือปล่าว นึกว่า ป.จะกลัวแต่ว่า ป. บอกกล้า มาเลยแต่ขอซื้อยาปลุก sex กินก่อนนะเพราะเขาไม่มีอารมณ์กับผู้ชาย ... นั้นละที่ทำให้เราเริ่มสับสนเริ่มลังเล หรือเราเจอรักแท้แล้ว ถ้าพลาดไปคงไม่เจอแบบนี้อีกแล้ว เราสับสนมากเรื่อง ป. กับ ต. เลือกคนหนึ่งอีกคนต้องเสียใจ
เรื่องสองคนนี้ยังไม่ทันจะจบ น้อง น. มาอีกแล้วอยากเจอเรามากเจอกันสักที เราก็อยากไปหาแต่กลัวโดนใจไม่เปนสุขอีก(คนนี้คุยแต่ไลท์กับ sex phone แต่ดูจากกล้อง แล้ว หล่อ) เขาบอกชอบผู้ใหญ่เบื่อเด็กๆ เราก็บอกแล้วหายไปทำไม เขาบอกว่า ตอนนั้นเรียน ปี5 เครียดมากงานก็ยุ่งต้องฝึกงานออกชุมชน ตอนนี้เริ่ม ปี6 แล้วจะจบแล้ว เลยเริ่มว่างมีเวลาคุยกันละ แต่ใจไม่เคยลืมเราแค่ได้ยินเสียงทุกอย่างก็ตื่นตัว เราก็เริ่มลังเล ละเพราะ น. คนนี้เราคุยก่อน ป. กับ ต. แต่เราคิดว่า น. อาจจะแค่ เ..ี่ยน ในช่วงฤดูฝน ป. กับ ต. กับ น. ไม่ทันหายไป
อยู่ ร. คนที่เราเคยเจอตัวครั้งหนึ่ง (แต่สเปกมาก อายุเท่ากันกับเรา แต่หน้าอ่อนมาก นึกว่าไม่ถึง 25 ยังแอบแซวกรรมพันธุ์ดีเนาะผิวสวยจัง แถมรวยอีก พ่อแม่ ก็รับได้เพราะทางบ้านรู้ว่าเปนเกย์ ) ก็ทักมาในไลท์ ทั้งที่เป็นปีเลยที่เราทักไปแล้ว เขาไม่ทัก ร. อยากเจอเราอีก แต่เราไม่กล้าละ เพราะตอนนี้ ปล่อยตัวมาก ปลงสังขาร อ้วน และ ดำ หุ่นไม่ดีเหมือนแต่ก่อน ผมก็เริ่มขาว แล้ว แต่ ร. ก็ทักเรามาเป็นระยะใน ไลท์ เราเริ่มหวั่นไหว ล่ะ
จากที่เล่ามาเราควรทำอย่างไรดี
1. คบ ป. แมนๆเพิ่งเรียนจบ หรือ ต. เด็กจนๆแมนๆ ที่พ่อแม่เอาแต่ใจ หรือ น. แมนๆดูมีอนาคต หรือ ร. เกย์สาวนิดๆ(ถ้าไม่บอกใคร) รุ่นเดียวกัน แต่รวย หน้าอ่อนและน่ารัก
2. ไม่คบใครเลย เป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวร ต้องการทดสอบจิตใจ ควรรักษาพรมจรรย์ต่อไป
3. หรือ คุยกับ ทุกคน รอ ฤดูหน้าผสมพันธุ์ ผ่านไป ใคร ไม่หาย เ..ี่ยน ก็คบคนนั้น
เรื่องจริง ผมสับสนว่ะ ปล. ผมแมนๆ ไม่แสดงออก หนุ่ม ออฟฟิต ดำๆ บ้านๆ ฐานะปานกลาง พอมีหนี้สินติดตัวแต่ไม่มาก ไม่น่าจูงใจพวกนี้มาชอบได้
ผู้ชายมาขอครบทั้งๆที่รู้ว่าเราเป็นเกย์และติด HIV ควรทำอย่างไร
... พอเราติดเราก็งงไปพักเสียใจลึกๆแต่ไม่มาก พยาบาลให้กำลังใจและดูแลดีมาก ตั้งแต่นั้นมาเราจิตเสียมาก ตอนนั้นเราก็คบกับน้องสายสุขภาพคนหนึ่งมีอะไรกันครั้งเดียวแต่ใส่ถุงตลอดเราไม่มีความสุขเลยจิตเป็นกังวลกลัวน้องมาติดแบบเรา (กลัวถุงเสื่อม)และกลัวน้องเสียอนาคต จากนั้นเราเริ่มตีตัวออกห่างและขยะแขยงตัวเองไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเกย์อีกเลย ช่วยตัวเองเราก็ไม่ทำปล่อยให้มันฝันเปียกไปเอง พยาบาลบอกว่ามีได้ไม่ติดกันง่ายๆ ใส่ถุงและระวังแผลในปากตอนนี้ยาฆ่าเอดส์อีกไม่ถึงสิบปีก็น่าจะพัฒนาได้ คนติดเชื้อ hiv ถ้ารับยาต้านไวและดูแลร่างกายดีอยู่ได้เป็นสิบปี พวกมะเร็งกับเบาหวานยังน่ากลัวกว่าอีก (คำว่า เอดส์ จะเรียกพวกที่ไม่รับยาต้าน และโดนทำลาย CD4 หมดจนโรคอื่นแทรกซ้อน แต่เราแค่ติดเชื้อ) แต่เราก็จิตตกและเราก็เริ่มรู้คุณค่าของชีวิตแล้ว(ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา) ไหว้พระทำบุญ เลิกเถียงพ่อแม่ นั่งสมาธิทุกวัน ตั้งใจประพฤติพรมจรรย์ ศีล 5 รับมาปฏิบัติแบบเคร่งมาก เพื่อนฝูงที่รู้ก็มีเพื่อนใน ไลท์ที่เป็นและไม่เป็นน้อยคนทั้งหญิงและชาย เที่ยวและกินนอนด้วยกันแบบไม่รังเกลียด(เพราะพวกนี้ไม่รู้จักญาติพ่อแม่ ที่ทำงานและเพื่อนสมัยเรียน กลัวทะเลาะกันมันเอามาแฉ เพราะญาติ สนิทเราไม่มีคนรู้) เราเคยนั่งสมาธิ แล้วเห็นภาพในสมองแว็บๆ (อาจมโนภาพไปเอง) เขาบอกเพราะชาติที่แล้ว เราทำบาปกับผู้หญิงทอดทิ้งลูกเมียไปอยู่กับหญิงอื่นๆ ทั้งๆที่เขาท้องเข้าแช่งให้ตายเพราะโรคติดต่อเพศสัมพันธ์ทุกภพไป เรารู้สึกผิดมากในสมาธิเขาก็จะอโหสิให้หมดกรรมกันให้เรารักษาพรมจรรย์แล้วตรวจน้ำให้เขาด้วย
และมันก็มาถึงเรื่องที่เหมือนมารมาผจญ พรมจรรย์เรา ผู้ชายแท้ๆมีลูกเมียแล้ว(เลิกแล้วเพราะเมีย เอาแต่ใจ)แต่เปนไบ เพราะโดนเพื่อนสนิทที่เป็นเกย์ลักหลับแล้วติดใจมาขอคบ เราก็บอกความจริงไปว่าเราป่วยเปนอะไร เขาก็สงสารเราไม่รังเกลียดเราก็ไม่เอาขอเปนพี่น้องกันดีกว่า พอคนนี้จบไป เราก็รู้จักน้อง ต. อายุ 23 เราเหงาเราก็ชวนเขาเที่ยว กินข้าวดูหนังไป เขาก็มาขอคบเราซึ่งเขาบอกเคยผิดหวังกับผู้หญิงและไม่มีใครดีกับเขาแบบนี้แนะนำและค่อยสอนให้เขาให้ถูกทางซึ้งพ่อแม่ไม่เคยสอนเขาเลยตามใจเขาตลอด(เราไม่อยากให้เขาเปน เกย์ เพราะว่าเขาไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน เส้นทางนี้ยังไม่เปิดกว้างมากสำหรับเขา ซึ่งเราผ่านมาแล้ว ถ้าไม่เก่ง ไม่มีเงิน ไม่ฉลาด มีแต่คนเขาจะข่มเหงเอา เราบอกว่าให้เขาตั้งใจเรียนให้จบและหาผู้หญิงดีๆแต่งงานไป ) เขาไม่รังเกลียดเราที่ป่วยเป็นอะไรเขามองที่จิตใจ จะพร้อมอยู่ดูแลเสมอ เราก็ยกเหตุผลต่างๆนาๆ มากลัวเขาติดเชื้อถ้ามีอะไรกับเรา(แฟนกันต้องมีสักวันที่มีอะไรกัน) เขาก็บอกว่าป้องกันใส่ถุง หรือมีแค่ภายนอกก็ได้ เราก็บอกไปว่าไม่ได้ถือพรมจรรย์แล้ว ไอ้นี้ก็ส่งรูป จู๋ รูป หุ่นมายั่ว ตลอดแต่เราก็ลบทิ้ง มองว่ามันลามก จนเราอึดอัดไม่อยากไปไหนมาไหนด้วยละกลัวโดนปล้ำ ต. ก็พูดให้เราใจอ่อนอีกว่าไม่สงสารเขาแล้วหรือเขาไม่ดีตรงไหน เรื่องยังไม่จบ
กิ๊กเก่าชื่อ ป. อันนี้ ผู้ชายแท้ๆ อายุ 22 ก็มาขอคืนดี(คนนี้ไม่มีอะไรกันภายใน เราแค่ใช้ปากและช่วยเขา) เราก็บอกว่ามีแฟนแล้ว(ดูใจกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ต. ซึ่งเราก็บอกเพื่อให้ ป. ตัดใจ) เราก็บอก ป. ว่าเราไม่ชอบกินเหล้า สูบบุหรี่ และใจร้อน และด่าว่าแรงๆ เขาบอกว่าเขากลับตัวแล้ว คิดถึงแต่เราตลอดไม่มีใครดีกับเขาแบบนี้เลย เราตัดสินใจบอกว่าเราป่วยเปน อะไรแทนที่จะรังเกลียด น้อง ป. กลับเห็นใจเราเหมือน ต. มาอีกคนอยากอยู่ดูแลเรา จะมาจากภาคเหนือ มาหาเรา ที่ กทม. ให้ได้ เพราะเขาบอกเหมือนกับว่าเขาเปนตัวต้นเหตุให้เราไปมั่วถ้าเขาไม่ทิ้งเราๆ คงไม่เปนแบบนี้ ขอไถ่บาป ให้เขาได้กลับมาดูแลเราเถอะ เราบอกว่าไปไม่ได้ มีพ่อมีแม่ และมีงาน มีเพื่อนร่วมงานที่ดีอยู่แล้ว และกำลังเก็บเงิน ใช้หนี้บัตรเครดิต และ เงินกู้เรียน กับเก็บเงินให้พ่อแม่ สักพัก ค่อยตัดสินใจบวช (เณร เพราะไม่อยากบวชพระให้เปนปัญหาสังคม เห็นมีแต่ไม่อยากให้เกย์บวช) เขาบอกมา อยู่กับ เขาที่ ตจว ก็ได้ จะฝากทำงานที่เดียวกับเขาให้ เราก็เริ่มหงุดหงิดเริ่ม ประชด บอกไปว่า รักจริงหรือ กล้าหรือปล่าวเสียบสดเลยตายด้วยกัน ที่นี้จะได้ติดทั้งคู่ พากันไปหาหมอเลยดีหรือปล่าว นึกว่า ป.จะกลัวแต่ว่า ป. บอกกล้า มาเลยแต่ขอซื้อยาปลุก sex กินก่อนนะเพราะเขาไม่มีอารมณ์กับผู้ชาย ... นั้นละที่ทำให้เราเริ่มสับสนเริ่มลังเล หรือเราเจอรักแท้แล้ว ถ้าพลาดไปคงไม่เจอแบบนี้อีกแล้ว เราสับสนมากเรื่อง ป. กับ ต. เลือกคนหนึ่งอีกคนต้องเสียใจ
เรื่องสองคนนี้ยังไม่ทันจะจบ น้อง น. มาอีกแล้วอยากเจอเรามากเจอกันสักที เราก็อยากไปหาแต่กลัวโดนใจไม่เปนสุขอีก(คนนี้คุยแต่ไลท์กับ sex phone แต่ดูจากกล้อง แล้ว หล่อ) เขาบอกชอบผู้ใหญ่เบื่อเด็กๆ เราก็บอกแล้วหายไปทำไม เขาบอกว่า ตอนนั้นเรียน ปี5 เครียดมากงานก็ยุ่งต้องฝึกงานออกชุมชน ตอนนี้เริ่ม ปี6 แล้วจะจบแล้ว เลยเริ่มว่างมีเวลาคุยกันละ แต่ใจไม่เคยลืมเราแค่ได้ยินเสียงทุกอย่างก็ตื่นตัว เราก็เริ่มลังเล ละเพราะ น. คนนี้เราคุยก่อน ป. กับ ต. แต่เราคิดว่า น. อาจจะแค่ เ..ี่ยน ในช่วงฤดูฝน ป. กับ ต. กับ น. ไม่ทันหายไป
อยู่ ร. คนที่เราเคยเจอตัวครั้งหนึ่ง (แต่สเปกมาก อายุเท่ากันกับเรา แต่หน้าอ่อนมาก นึกว่าไม่ถึง 25 ยังแอบแซวกรรมพันธุ์ดีเนาะผิวสวยจัง แถมรวยอีก พ่อแม่ ก็รับได้เพราะทางบ้านรู้ว่าเปนเกย์ ) ก็ทักมาในไลท์ ทั้งที่เป็นปีเลยที่เราทักไปแล้ว เขาไม่ทัก ร. อยากเจอเราอีก แต่เราไม่กล้าละ เพราะตอนนี้ ปล่อยตัวมาก ปลงสังขาร อ้วน และ ดำ หุ่นไม่ดีเหมือนแต่ก่อน ผมก็เริ่มขาว แล้ว แต่ ร. ก็ทักเรามาเป็นระยะใน ไลท์ เราเริ่มหวั่นไหว ล่ะ
จากที่เล่ามาเราควรทำอย่างไรดี
1. คบ ป. แมนๆเพิ่งเรียนจบ หรือ ต. เด็กจนๆแมนๆ ที่พ่อแม่เอาแต่ใจ หรือ น. แมนๆดูมีอนาคต หรือ ร. เกย์สาวนิดๆ(ถ้าไม่บอกใคร) รุ่นเดียวกัน แต่รวย หน้าอ่อนและน่ารัก
2. ไม่คบใครเลย เป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวร ต้องการทดสอบจิตใจ ควรรักษาพรมจรรย์ต่อไป
3. หรือ คุยกับ ทุกคน รอ ฤดูหน้าผสมพันธุ์ ผ่านไป ใคร ไม่หาย เ..ี่ยน ก็คบคนนั้น
เรื่องจริง ผมสับสนว่ะ ปล. ผมแมนๆ ไม่แสดงออก หนุ่ม ออฟฟิต ดำๆ บ้านๆ ฐานะปานกลาง พอมีหนี้สินติดตัวแต่ไม่มาก ไม่น่าจูงใจพวกนี้มาชอบได้