Rescute Club ชมรมคนธรรมดี ร่วมแบ่งปันสิ่งดีๆสู่สังคม "ครั้งที่๑"

กระทู้สนทนา
10 กรกฎาคม 2556 ข้าพเจ้ามีโอกาสได้เข้าร่วมงานแชร์ประสบการณ์ที่ทางบริษัทจัดขึ้นเกี่ยวกับมูลนิธิพุทธฉือจี้ในไต้หวัน นั้นเป็นวันแรกที่ทำให้เราได้รู้จักท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน (อ่านประวัติของท่านได้ ค้นหาจากกูเกิลได้เลยค่ะ) ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราระดมเพื่อนๆมาตั้งชมรมเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม
เรามีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ตั้งแต่สมัยมหาลัยที่ชอบไปค่ายอาสาเพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส แต่พอเรียนจบ อุดมการณ์นั้นก็ค่อยๆเจือจางลง จนวันที่ชื่อของ "ธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน" แล่นเข้ามาในหู อุดมการณ์ที่ค่อยๆจางหายกลับโดดเด่นขึ้นมาอีกครั้ง เราบอกตัวเองในตอนนั้นว่า "ถ้ามัวแต่จะรอโอกาสในการทำสิ่งดีๆ เราก็จะไม่ได้ทำมันเสียที" ดังนั้น อย่ารอรี รีบทำทันทีเลยดีกว่า
คิดได้ก็รีบชักชวนเพื่อนๆที่สนิทในกลุ่ม 10 กว่าคน ตั้งชมรมขึ้นมา ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 โดยใช้ชื่อว่า Rescute Club ชมรมคนธรรมดี

เริ่มแรกเรามองหาสถานที่เป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือจากบรรดาจิตอาสาที่เรารับสมัครเข้ามา ก็เห็นจะมีแต่คนที่เรารู้จักคุ้นเคยกันดี ทั้งเพื่อนเรียน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน ก็ช่วยกันระดมทุนใน"โครงการแบ่งปันหัวใจดีฉันน้องพี่ครั้งที่๑" ที่เราจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าบ้านพระสิริ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเราได้ค้นหาและเจอในหน้าเพจบนเฟสบุคของบ้านเด็กกำพร้า ว่า "กำลังต้องการนมกล่องจำนวนมาก ตอนนี้เด็กไม่มีนมกินเลย"
เมื่อเราทราบข่าวก็ตรวจเช็คข้อมูลของบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้อย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าขาดแคลนและต้องการความช่วยเหลือจริง
หลังจากนั้น เราจึงเริ่มดำเนินการเปิดเพจในเฟสบุค อย่างเป็นทางการเพื่อใช้เป็นช่องทางในการระดมทุนจากเพื่อนๆที่รู้จักคุ้นเคยกันชักชวนกันเข้ามา

ไม่น่าเชื่อว่าในครั้งแรกนี้ เราสามารถระดมทุนได้ถึงๅ 18,510 บาท
เราจึงได้นำเงินดังกล่าวไปซื้อนมกล่องแลตตาซอย 50 ลัง เป็นเงิน 12,350 บาท
ส่วนที่เหลือ 6,160 บาท ให้เป็นค่าอาหารการกินของเด็กๆกว่า 40 ชีวิต
โดยนำไปมอบให้ด้วยตนเองในวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 ท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำยำ่โคลน เป็นโครงการแรกที่ประทับใจและจำไม่ลืม

เพราะช่วงกรกฎาคมปีที่แล้วฝนตกหนัก อีกทั้งบ้านเด็กกำพร้ายังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ทำให้เป็นดินแดงบริเวณทางเข้า พอฝนตก ดินเปียก ก็แฉะและในที่สุด กระบะที่บรรทุกนมมา 50 ลังของเราก็ติดหล่ม ยังแซวกับเพื่อนๆเลยว่า มาหล่มสัก รถเลยติดหล่มเบยยิ้มอมยิ้ม17
แม้จะต้องตากฝน ขนนมกล่องเข้าบ้านกำพร้า แต่เราก็สนุกกันมาก เพราะน้องๆที่บ้านออกมายืนเรียงแถวช่วยกันขนอย่างสนุกสนาน
อาจารย์ทวีศักดิ์ผู้ดูแลบ้านบอกกับเราว่า "เราต้องสอนเด็กๆเหล่านี้ให้รู้จักทำงาน เพื่อจะได้รู้ว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ สอนให้เด็กๆรู้คุณค่าของสิ่งของ" นี่เป็นสิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างนึงที่เราเก็บมาคอยเตือนใจเสมอ ไม่ให้ย่อท้อต่อความยากลำบากใดๆในชีวิต เพราะแน่นอนว่ามีคนอีกมากที่ลำบากกว่าเรา

ขนนมกล่องเรียบร้อยเราก็มอบเงินให้น้องๆเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน
ก่อนกลับเราได้รับบทเพลงอวยพรที่น้องๆร้องให้ฟังอย่างไพเราะ ทำเอาน้ำตาคลอเบ้ากันเป็นแถว

สิ่งที่ได้ในครั้งนี้ มันเกินคำว่าคุ้ม เพราะค่าตอบแทนในครั้งนี้หาซื้อไม่ได้จากที่ไหนๆ นั่นคือรอยยิ้มของน้องๆบ้านเด็กกำพร้าพระสิริทุกๆคนที่แสดงออกถึงความรู้สึกดีต่อสิ่งที่เราหยิบยื่นให้ เราพูดอยู่ในใจเสมอ ว่า "แม้มันจะเป็นสิ่งเล็กๆสำหรับใครหลายๆคน แต่มันก็เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับใครบางคนที่ต้องการของสิ่งนั้น" เท่านี้เราก็มีความสุขแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่