บอกก่อนว่าเราไม่ชอบทำธุรกิจเครือข่ายมาก่อน ที่ตัดสินใจมาทำเพราะเพื่อนสนิทตั้งแต่ประถมมาชวน
ด้วยความที่เป็นเพื่อนที่สามารถไว้ใจได้ เลยเชื่อค่ะ ตอนแรกเพื่อนจะสปอนเซอร์เรา โน่น นี่ นั่น เราก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อย
จนเพื่อนบอกว่า...... เพื่อน : เนี่ยตูก็ไม่ชอบงานนี้เหมือนกัน ไม่ใช่สไตล์ตูเลย มุงก็รู้ว่ตูเป็นไง บลาๆๆๆๆๆๆ
1.จะบอกเลยว่า คำพูดข้างบนคือเทคนิคการชวนคนที่เขาสอนกันมาแล้ว ทุกคนจะพูดประโยคแบบนี้เมื่อคนที่ถูกชวนเริ่มปฏิเสธ
หลังจากนั้นเราเริ่มคล้อยตาม เริ่มสนใจขึ้นมา แล้วเพื่อนเราก็เริ่มนัดหมายให้เราไปฟังสปอนจากมัน
แต่ไม่ใช่การเขาร่วมประชุมแบบเสียเงินอะไรนั่นนะ นั่งคุยกันธรรมดาเหมือนเพื่อนคุยกัน มันก็พูดโน่น นี่ นั่นเกี่ยวกับธุรกิจ
2.ด้วยความที่เราต้องการใช้เงิน และเป็นบุคคลในรูปแบบที่ต้องการ มาชวนแล้วจะคล้อยตามง่าย คือต้องการหาเงินจำนวนมาก กตัญญู แล้วขยันทำงาน นั่นคือสิ่งที่เขาสอนมาแล้วค่ะ ว่าคนประเภทเราๆแบบข้างบนนี้จะชวนง่าย ว่ากันตรงๆก็ขายฝันนั่นแหละ
3.ฟังจากที่เพื่อนสปอนแล้ว เราก็เริ่มสมัครสมาชิกเลยค่ะ 350 บ. อยู่ในขั้นไม่มากไม่น้อยสำหรับคนทำงานแล้ว ยังค่ะ ยังไม่จบเรานึกว่าสมัครเสร็จจะได้เป็นนักธุรกิจเลยอย่างที่เพื่อนมันว่า ขั้นต่อไป ปิดยอดให้สามารถรับเงินโบนัสได้ เราก็ทำค่ะ 5000 บ. เลย จัดไป!! ตอนนั้นคิดอยู่แค่ว่างานนี้เป็นอาชีพเสริมนะ อย่าจริงจังมาก พยายามมีสติอยู่เสมอจะไม่เคลิ้มลงทุนมากเกินไป เราก็ทำได้นะ ไม่เคลิ้มเลย...หมดไปแต่ 5000 นั่นแหละ ได้สเปรย์ที่ว่าดังๆอยู่ตอนนี้มาใช้เองบ้าง ขายบ้างซัก 4 ขวด
4.ตามขั้นตอนของการสร้างเครือข่ายแล้ว ถ้าอยากรวยต้องไปชวนเพื่อนค่ะ ฟังสื่อการสอนวิธีการพูดต่างๆนานๆให้คนสนใจแล้วคล้อยยยยยยย ตาม
นั่นละฮะท่านผู้ชม!! ถึงกับตาสว่างเลย ทำไมเราถึงคล้อยตามง่ายจัง มันมีวิธีอย่างงี้นี่เอง ทุกคนพูดเหมือนกันหมดแน่ๆ เรานี่อึ้งไปเลย
5.ชวนเพื่อนค่ะ แน่นอนว่าปฏิเสธหมด ลึกๆคือดีใจค่ะ เพราะจะได้ไม่ต้องมาเป็นเหมือนเราให้ลำบากใจ ถ้าคนไหนมีแนวโน้มสนใจแต่เรายังพูดไม่เก่งใช่มั้ยละคะท่านผู้ชม แน่นอนค่ะว่าไม่ต้องพูดเอง โยนนนนนน ไปให้อัพไลน์ รับรองผลลัพธ์ออกมาไม่ต่างกัน
แค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะพูดถึงสิ่งที่ทำให้โมโหในวันนี้ให้ฟัง
ปล.ขอแท็กเครื่องแป้ง เพราะเป็นธุรกิจความงาม
[ระบาย] อยากจะปลีกตัวออกจากธุรกิจเครือข่ายที่กำลังบูมอยู่ตอนนี้จังเลย
ด้วยความที่เป็นเพื่อนที่สามารถไว้ใจได้ เลยเชื่อค่ะ ตอนแรกเพื่อนจะสปอนเซอร์เรา โน่น นี่ นั่น เราก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อย
จนเพื่อนบอกว่า...... เพื่อน : เนี่ยตูก็ไม่ชอบงานนี้เหมือนกัน ไม่ใช่สไตล์ตูเลย มุงก็รู้ว่ตูเป็นไง บลาๆๆๆๆๆๆ
1.จะบอกเลยว่า คำพูดข้างบนคือเทคนิคการชวนคนที่เขาสอนกันมาแล้ว ทุกคนจะพูดประโยคแบบนี้เมื่อคนที่ถูกชวนเริ่มปฏิเสธ
หลังจากนั้นเราเริ่มคล้อยตาม เริ่มสนใจขึ้นมา แล้วเพื่อนเราก็เริ่มนัดหมายให้เราไปฟังสปอนจากมัน
แต่ไม่ใช่การเขาร่วมประชุมแบบเสียเงินอะไรนั่นนะ นั่งคุยกันธรรมดาเหมือนเพื่อนคุยกัน มันก็พูดโน่น นี่ นั่นเกี่ยวกับธุรกิจ
2.ด้วยความที่เราต้องการใช้เงิน และเป็นบุคคลในรูปแบบที่ต้องการ มาชวนแล้วจะคล้อยตามง่าย คือต้องการหาเงินจำนวนมาก กตัญญู แล้วขยันทำงาน นั่นคือสิ่งที่เขาสอนมาแล้วค่ะ ว่าคนประเภทเราๆแบบข้างบนนี้จะชวนง่าย ว่ากันตรงๆก็ขายฝันนั่นแหละ
3.ฟังจากที่เพื่อนสปอนแล้ว เราก็เริ่มสมัครสมาชิกเลยค่ะ 350 บ. อยู่ในขั้นไม่มากไม่น้อยสำหรับคนทำงานแล้ว ยังค่ะ ยังไม่จบเรานึกว่าสมัครเสร็จจะได้เป็นนักธุรกิจเลยอย่างที่เพื่อนมันว่า ขั้นต่อไป ปิดยอดให้สามารถรับเงินโบนัสได้ เราก็ทำค่ะ 5000 บ. เลย จัดไป!! ตอนนั้นคิดอยู่แค่ว่างานนี้เป็นอาชีพเสริมนะ อย่าจริงจังมาก พยายามมีสติอยู่เสมอจะไม่เคลิ้มลงทุนมากเกินไป เราก็ทำได้นะ ไม่เคลิ้มเลย...หมดไปแต่ 5000 นั่นแหละ ได้สเปรย์ที่ว่าดังๆอยู่ตอนนี้มาใช้เองบ้าง ขายบ้างซัก 4 ขวด
4.ตามขั้นตอนของการสร้างเครือข่ายแล้ว ถ้าอยากรวยต้องไปชวนเพื่อนค่ะ ฟังสื่อการสอนวิธีการพูดต่างๆนานๆให้คนสนใจแล้วคล้อยยยยยยย ตาม
นั่นละฮะท่านผู้ชม!! ถึงกับตาสว่างเลย ทำไมเราถึงคล้อยตามง่ายจัง มันมีวิธีอย่างงี้นี่เอง ทุกคนพูดเหมือนกันหมดแน่ๆ เรานี่อึ้งไปเลย
5.ชวนเพื่อนค่ะ แน่นอนว่าปฏิเสธหมด ลึกๆคือดีใจค่ะ เพราะจะได้ไม่ต้องมาเป็นเหมือนเราให้ลำบากใจ ถ้าคนไหนมีแนวโน้มสนใจแต่เรายังพูดไม่เก่งใช่มั้ยละคะท่านผู้ชม แน่นอนค่ะว่าไม่ต้องพูดเอง โยนนนนนน ไปให้อัพไลน์ รับรองผลลัพธ์ออกมาไม่ต่างกัน
แค่นี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะพูดถึงสิ่งที่ทำให้โมโหในวันนี้ให้ฟัง
ปล.ขอแท็กเครื่องแป้ง เพราะเป็นธุรกิจความงาม