เคยเห็นหรือเคยรู้จัก คนที่เรียกว่า มาจาก 0 หรือติดลบ จนร่ำรวย ไหมครับ

กระทู้สนทนา
แบบว่ามองเขามานาน ตั้งแต่ ติดลบ หรือ 0 จนมาร่ำรวย มากๆ เคยไหมครับ

ของผม มีสองคน อยากจะเล่าให้ฟัง เพื่อจะเป็นกำลังใจ ให้คนอื่นๆเหมือนกัน

คนแรก เป็น ช เป็นเพื่อนผม สมัยปริญญาตรี

คนนี้ โดยนิสัย เป็นคนดี กวน อวัยวะเบื่อล่างมาก การเรียก จัดว่าไม่ฉลาด แต่เอาตัวรอดเก่ง พื้นฐาน ทางบ้าน คอนข้าง ขัดสน แต่ไม่ถึงกับอด เพียงแต่ว่า ตึ่งๆ

จบมาด้วยเกรด 2.00 งานแรกที่ทำ คือ พนง ในไลน์ผลิต เงินเดือน 5000 บ.โอที ต่างหาก มีข้าวฟรี มีนมให้กินฟรี 1 ถุง

ทุกครั้งที่โทรคุยกัน มันไม่เคยบ่น หรือปรับทุกให้ฟังเลย กลับคุยเล่นให้เป็นเรื่องสนุก ไปได้

เช่นผมถามว่า ทำงานเป็นไงบ้าง มันบอก สบาย มีรถประจำตำแหน่งคัน (คือรถเข็น เอาไว้ใส่สินค้า เอาไปเก็บ) มันบอกวันๆก็เข็น คันนี้แหละ เข็นไปเข็นมา บ่ายๆ มีนมฟรีให้กิน มีข้าวให้กิน เย็นมากลับบ้าน ช่วยแม่ขายของ

ที่บ้าน แม่ มันขายอาหารตามสั่ง ร้านเล็กๆ กับขายของชำ

ผ่านไปไม่นาน ได้ข่าวว่า มันลาออก มาช่วยแม่อยู่บ้าน เลยคุยกัน มันว่าไม่ทำแล้ว ดูแล้วไม่มีอนาคต เลยถามว่าถ้างัน ตอนแรกทำไม ถึงทำ มันว่า มันรู้จักคนใน เขาว่าเข้าไปก่อน เดียวจะดันให้ได้ทำตำแหน่งดีๆ สรุปราคาคุย

แต่นั้นไม่ได้เสียเปล่า มันคุยกับแม่ ขอเงินเก็บก้อนสุดท้ายของแม่ 1 แสนบาท (เงินท้ังบ้าน) เอาไปซื้อทองแท่ง ตอนนั้นราคา 8200 บ. ต่อบาท

ตอนนี้กำไรเท่าตัว + ตอนที่ทำงาน ในโรงงาน ได้รู้จักคน คนเขาก็เลยมากู้เงินมัน มันก็ปล่อยไม่เยอะ 1000 บ้าง 2000 บ้าง

กินดอกร้อยละ 10 ไปเรื่อย + กับรับเก็บค่าเช่าให้คนอื่น ที่เขาอยู่ไกล เก็บค่าเช่ามา แล้วก็โอนไปให้เขา แต่ขอเปอร์เซ็น เขาก็ให้ 10 % เพื่อที่จะได้ไม่มาเก็บเอง

ห้องไหนจ่ายช้า มันก็เก็บค่าปรับ ห้องไหนไม่จ่าย มันล๊อคห้องเลย

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ผ่านมาน่าจะประมาณ 10 ปี (ตอนปี 47) มันมีเงินปล่อยกู้อยู่ประมาณ 2 ล้าน ดอกร้อยละ 15 บวกกับห้องแถว ราคา 10 ล้าน อีก 1 ห้อง ปล่อยเช่าอยู่ได้เดือนละ 5 หมื่น แต่ทุกวันนี้มันยังทำร้านขายของชำอยู่ + ยังเก็บค่าเช่าอยู่ ที่ทำเพิ่ม คือเขียนหวย มันว่าไม่ได้ๆ งวดหนึ่ง ได้เปอร์เซ็นอย่างน้อยๆ 6 พัน เป็นอย่างน้อย

แถมตอนนี้มีบ้านชั้นเดียวปล่อยเช่าอีก 3 หลัง ได้อีกเดือนละ 7500 เรียกว่า สบายเป็นเสี่ยไปแล้ว

แต่จะพูดไปเพื่อนคนนี้มันมา แนวๆสีเทา หน่อยๆ เพราะมันบอกว่า ตอนนั้นไม่ทำก็อด ด้วยสถานการณ์บังคับ

หน้าตาไม่ดี เกรดห่วย ที่บ้านจน จะหวังงานดีๆ ยาก

มันเคยพูดว่า ตอน ปี 4 คิดว่าจะไม่จบแล้ว เพราะตอนนั้นที่บ้าน พ่อปวย แม่หยุดร้านบ่อย ดูพ่ออยู่ รพ เงินไม่คอยมี ขณะที่แฟนมัน บอกมันว่า อยากกิน ชาเชียว โออิชิ ใน 7 จัง มันบอกแฟนมันว่า 20 บ. แหนะ เก็บเงินไว้ซื้อข้าวดีกว่า

ผมได้ฟังยังสะอึก มันเป็นคนที่เก็บอารมณ์ได้เก่งมาก เพื่อนๆไม่เคยรู้ เคยไปบ้านมันที แม่มันก็ทำกับข้าวเลี้ยงอย่างดี

มันมาเล่าให้ฟัง ทีหลัง ตอนมันสบายแล้ว มันว่า มันลำบากมาเยอะ สู้มาเยอะ ทุกข์มาเยอะ แต่ มันเลือกที่จะไม่พูดเท่านั้นเอง ใครถาม ก็พูดให้เป็นเรืองตลกไป

วันนี้ ถือได้ว่า มันมาไกล สุดของรุ่นเลย จากคนไม่มีอะไร มาได้ไกลขนาดนี้ สุดยอดมาก

ทุกวันนี้ มีกิ๊ก มันก็ไม่เคยให้เงินกิ๊กเลย แต่เช่าหอให้อยู่ มีของให้กิน ถ้าอยากได้เงิน ต้องหาเอง จะลงทุนให้ อยากทำอะไรบอกมัน

มันว่า เด็กมันเคยมาขอเงิน อยากซื้อกระเป๋า มันว่าต้องหาเอง ไปขายของตลาดนัดไป เด็กบอกไม่เคยขาย มันว่าเดียวพาไปขาย มันนั่งแท๊กซี่ ไปสำเพ็ง ซื้อต่างหู มาขาย มันว่า ขนาดไม่ได้ล๊อคประจำนะ ได้ขายบ้างไม่ได้ขายบ้าง ยังได้กำไรเดือนละ 1 หมื่นเลย

มันบอกต้องสอนเขาอ้อมๆ

......................................

คนที่สอง ก็เป็นเพื่อนอีกเหมือนกัน เป็น ญ

คนนี้เกรดกลางๆ ไม่เก่ง ไม่โง่ แต่ว่าเป็นคนหน้าตาดี สวย จี๊จ๊า เก่ง อ้อนเก่ง

คนนี้จบ มาทำมาหมด ตั้งแต่

พนง ไอติมสเวนเซ็น เงินเดือน 9000 ทำงาน 9 โมง เลิก 5 ทุ่ม

แม่ค้าตลาดนัด จากคนสวยๆ เป็นแม่ค้าหน้าดำ นั่งขายเสื้อผ้า ตื่นตี2 ไป jj เอาเสือผ้ามาขาย

เป็นเลขา เงินเดือน 6000 งานสบาย กินดีอยู่ดี ตามผู้บริหาร แต่เงินไม่พอใช้ออก

เป็นเซลล์  เงินเดือน 2 หมื่น

ออกมาตั้ง บริษัทเอง ด้วยทุน 2 แสน ที่ได้จากการที่พ่อเอา บ้านไปจำนอง มาให้

เคยถามมันว่าไม่กลัวเจ๊งเหรอ มันว่าไม่กลัว เพราะทำมาหมดแล้ว ลูกค้ามี ซัพพลายเออร์ มี ไม่กลัว มันว่าถ้าไม่รอด ก็คิดว่าจะกลับบ้านไปอยู่กับพ่อ ที่ ตจว

ผ่านมาไม่ถึง 10 ปี คนนี้ มีเงิน มีคอนโด มีบ้าน รวมๆกันไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน

ด้วยที่มันคุยเก่ง คอนเน็กชั่นดี ตั้งแต่ตอนเป็นเซลล์ เลยได้งานใหญ่ๆตลอด ได้ที ไม่ต่ำกว่า 5 แสน (กำไรนะครับ) ทั้งที่ตอนเรียน เกรดก็ไม่ได้ดีเด่นอะไรเลย

.................

แต่ทั้งสองคน ดีเหมือนกันอยู่อย่าง คือไม่ทิ้งเพื่อน ถ้ารู้ว่าเพื่อนคนไหนลำบาก เช่นรู้ว่าเพื่อนคนนี้ เงินเดือนน้อย

เวลาเพื่อนๆ นัดกันกินข้าว มันจะพูดดักไว้เลย ว่าวันนี้ เลี้ยงเอง ได้กำไรมา

หรือถ้ารู้ว่าเพื่อนแย่ มันจะพูดเลยว่าให้ช่วยอะไรไหม เอาเงินไปหมุ่นก่อนไหม

หรือย่างเร็วๆนี้ มีเพื่อนคนหนึ่ง เงินเดือนน้อย เป็น พนง สัญญาญจ้าง เงินเดือน 15000 ต้องส่งให้แม่ด้วย ไม่พอใช้ เพราะแม่ป่วยทำงานไม่ได้แล้ว

มันพูดกับเพื่อนตรงๆ ว่าอยากเปลี่ยนงานไหม เดียวจะลองถามๆดูให้ เอาให้เกินซัก 2 หมื่น ถ้าได้จะเอาไหม แบบนี้เลยครับ

ยังไง ใครที่เคยล้ม เคยท้อแท้ ว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น อย่าเพิ่งดูถูก โชคชะตานะครับ

สู้ๆ แล้วคุณจะชนะเอง

จำได้ว่าเรื่องนี้เคยเล่าไปแล้ว ทีหนึ่ง แต่ก็อยากจะเล่าอีก เพราะผมเห็นเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยตัวเอง

ตอนที่เพื่อนทั้ง 2 คน ยังลำบากอยู่ ผมเองยังเรียน ป.โท อยู่ที่ ม. เลยพอจะรู้ข่าว กันบ้าง เห็นกันบ้าง เพื่อนมาไกลได้ขนาดนี้ก็ดีใจด้วย

ของแบบนี้ อยากจะบอกว่า ก้าวไปข้างหน้าอย่างเดียวครับ แล้วมองหาลู่ทางตลอด อย่าจมปลั๊ก อยู่กับที

อย่างเพื่อนคนแรก ที่ทำงานในไลน์ ถ้ามันท้อแท้ กับโชคชะตา ทนทำในไลน์ ต่อไป วันนี้มันก็อาจจะยังเป็น พนง ในไลน์ อยู่ก็ได้

หรืออย่าง เพื่อนคนที่สอง ถ้าพอใจกับการทำงานเป็น เลขา งานสบาย ทำงานห้องแอร์ หรือพอใจกับการเป็นแม่ค้า ตลาดนัด มันก็อาจจะยังคงเป็นอยู่ก็ได้

พยายาม หาลู่ทาง ครับ

เป็น พนง ขายโทรศัพท์ร้านตู้ ให้มองว่าอนาคต ฉันจะต้องเป็นเจ้าของ เก็บรายละเอียด ให้หมด

เป็น เด็กฝึกงานซ้อมแอร์ ก็ต้องมองว่าต่อไปจะต้องมีร้านเป็นของตัวเองให้ได้

เป็นต้นครับ

ใครมี ประสบการณ์แนวๆดี แชร์ๆกันบ้างครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่