โปรเจค ล้ม เจ้าซิอย่าโทษอ้ายนะ


    หลายครั้งใน ธุรกิจเขียนโปรแกรม คนเขียนโปรแกรมมักจะเป็นแพะรับบาป อยู่ยันเลย
    คนเขียนทิ้งงาน
    คนเขียนห่วย!!
    คนเขียน ทำไม่ได้
    สุดท้ายโปรเจคล้ม ระเนระนาด  คนเขียนรับไปเต็มๆ ซึ่ง วันนี้เลยอยากจะคุยไม่ได้ แก้ต่างให้ตัวเอง แต่อยากจะเล่าว่า ทำไมโปรเจคถึงล้ม
    หวงข้อมูลไม่บอกหมด แหม เซ็นต์สัญญาว่าจ้างกันแล้วมันก็เหมือน กับการแต่งงานกันแล้ว แก้ผ้าคุยกันเอ้ย ไม่บอกกันหมด มันจะ รู้เรื่องกันหรือ ลูกค้านะ ส่วนใหญ่จะเร่งให้ เสนอราคาเพราะกลัวแพง คนเขียน

โปรแกรมก็จะดึงให้รู้สเปคที่แน่นอนไว้ก่อน เพราะกลัวเสนอราคา ไปแล้วยังเก็บสเปคไม่หมด ทีนีเจ็บตัว
    ผมนี่แหละ เจอลูกค้าแบบนี้บ่อยมาก เร่งๆ ถามอยู่นั่นเท่าไร บอกว่าระบบคลังสินค้า แต่พอเสนอราคาเสร็จ พวกงอกระบบ ใบสั่งซื้อใบรับสินค้าออกมา อีก ผมก็บอกว่า
    "เฮ้ย ราคานี้ไม่รวมใบสั่งซื้อนะ เพราะ สต๊อกสินค้ามันเริ่มที่ใบรับสินค้าไม่สนใจ ราคาด้วย สนใจแค่จำนวนที่เข้าคลังวัตถุดิบเท่านั้น"
    คุณลูกค้าก็อิดออดจะเอาให้ได้ เอานะคนเขียนโปรแกรมก็ใจอ่อน ตามแบบอายุของใบหน้าก็ตามใจให้ไป ทีนี้ งานงอก เหมือนความรักไม่รู้จบเลย
    สุดท้าย ต้องขีดเส้นบอกว่าไม่ได้แล้วนะว่าตามเอกสาร งอน!! เป็นคำตอบสุดท้ายเอาไปพูดต่อ ว่า คนเขียนโปรแกรมเขาทำไม่ได้ แต่ไม่บอกเลยนะพ่อทูนหัวว่าขอ เพิ่มซะขนาดนี้

    อ้างไม่มีเวลาทดสอบ โปรแกรม ผม รับงานก็รีบทำให้ ทีนี้คุณ ลูกค้าก็เร่ง
    "งานไปถึงไหนแล้ว สามวันแล้วนะ งานเสร็จยัง"
    โอวววววววววว คุณ ท่านครับ สัญญาโปรแกรมนี้สามเดือนเสร็จนี่ผ่านไปสามวัน ชัวร์หรือมั่วนิ่ม จะเอางานเสร็จ ทุกอย่างยังร่างในกระดาษ เป็น ภาพดินสอ เหมือนสตอรี่บอร์ดอยู่เลย
    ทีนี้ คุณท่านก็เร่งงาน เช้ากลางวันเย็น วันหยุดเพิ่มรอบเช้าสิบโมงด้วยมัง
    ผมก็รีบปั่นงานให้ เสร็จ ทะยอยส่งทีละส่วน
    "พี่ครับ ผมทำส่วนมาสเตอร์ไฟล์เรียบร้อยหมดแล้ว ตอนนี้ ป้อน ข้อมูลลูกค้า เจ้าหนี้ รายการสินค้า ได้ครับ จากนั้นตามคู่มือที่ ผมเขียนไว้ พี่ปอน รายการ รับสินค้า ใบแจ้งหนี้ใบวางบิล ฯลฯ ได้เลยส่วนรายงานอื่นๆ ผม ขอเวลาทำต่อ เดี๋ยววันจันทร์ ผมจะเข้ามา นั่งสแตนบายที่บริษัทพี่ด้วยนะครับให้พี่ป้อนไป แล้วมีอะไรผม จะได้ดู"
    แหม บอกดิบดี
    ถึงเวลา
    "น้องวันจันทร์นี้ขอเลื่อนไปก่อน พี่ต้องปิดบัญชี เดือน งานยุ่ง แล้วไงจะนัดใหม่นะครับ"
    ผ่านไปสองเดือน
    "พี่ครับงานเสร็จหมดแล้วเดี๋ยวผมรีโมทไปติดโปรแกรมให้พี่นะ แล้วพี่พร้อมเทสรันได้เมื่อไร" ผมเริ่มถาม เพราะงานเสร็จก็ต้องการเก็บเงินเหมือนกัน
    "โอยน้อง พี่ยังยุ่งอยู่น้องเอาโปรแกรมใส่ให้เรื่องพี่ก่อน"
    ผ่านไปอีก เดือน ถามไปแล้วก็ไม่มีกำหนดทดสอบระบบ บอกว่ายุ่งไม่มีเวลา

    สุดท้าย ผ่านไปอีกสามเดือน
    "น้องโปรแกรมของน้องมันไม่ทำงานแล้ว มันเป็นไรไม่รู้"
    หมดอายุ ซิวะ ข้าตั้งเวลา ไว้ถึงเวลา ต้องให้มันหยุดทำงาน ก้เงินค่าโปรแกรมไม่ได้นี่หว่า

    ยังๆ ครับ โปรเจคล่ม ยังไม่หมด
    "พี่ครับ โปรแกรมสินค้าคงคลังของพี่ ให้ มันรายงานยอดสินค้า R125B5525 ให้มันเป็นศูนย์ได้ไหมครับ สินค้าตัวอื่นรายงานยอดตามปรกติ"
    ผมก็ มิสเตอร์เซเยส แต่ ยังครับ ผมเช้ค ดูยอดในคอม ก่อนสินค้าเจ้าปัญหา นี้ มียอดอยู่ในคอม เป็นมูลค่า สามแสนบาท !!
    ไม่น้อยเลย ทำไมต้องให้รายงานยอดเป็นศูนย์นี่คือคำถาม โปรแกรมเมอร์ไม่ใช่ สั่งอะไรต้องทำตาม
    "ผมเจอยอดสินค้านี้ในคอมเยอะมาก หลายแสน ทำไมต้องให้รายงานเฉพาะตัวนี้เป็นศูนย์ เวลาพันยอดออกมาไงก็มีคงเหลือสามแสน "
    "ช่วยๆ แก้ข้อมูลหน่อย สร้างเป็น Dummy ขึ้นให้มันตัดเป็นศูนย์ไปหน่อย" ผจกคลังสินค้า บอกผม
    รู้จัก ข้าน้อยไปแล้วว้อย ผมสืบได้ความว่า ผจก คลังสินค้าเป็นสามี ของ ผู้จัดการฝ่ายบัญชี
    เฮ้ย คลัง กับบัญชีผัวเมียกันยิ้ม ร่วมกันโกงหรือเปล่าสินค้า ตัวจริงไม่มี เป็นสต๊อกลม เหมือน ข้าวประเทศสารขัณฑ์เลย แล้วมีแต่ยอด มันเกิดไรขึ้น
    ให้คอมพิวเตอร์บิดเบือนข้อมูลเป็นเท็จ ติดคุกนะครับ เหมือนโกงบัญชีเลย
    ผมจึงเสนอ
    "คุณทำเป็นหนังสือให้ ผม เป็นลายลักษณ์อักษรได้ไหมครับ ว่าคุณสั่งให้ผม รายงานยอดสินค้าตัวนี้ให้เป็นศูนย์ด้วยเหตุผลไรก็ได้ แล้วผมจะทำให้"
    "คุณนี่เรื่องมากแบบนี้ ผมจะยกเลิกสัญญา จ้าง outsource กับคุณ"
    ยกไปซิ ดีกว่าติดคุก ลูกยังเรียนไม่จบ เมียคนสุดท้อง ก็ ยัง งอนเก่งอยู่เลย
    สุดท้าย ยกเลิกสัญญาผม เหมือนโปรเจคนี้ล่มสลาย แต่ เอา ตัวรอดจากคุกไว้ก่อน
    นี่แค่ ตัวอย่างของโปรเจคล้มไว้ว่างๆ จะมาเล่าสู่กันฟังใหม่ครับมีตัวอย่างเน่าๆ เยอะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่