ทรายสีเพลิง:: ทราย ศรุตา เธอคือนางเอกหรือไม่?
ก่อนอื่นต้องหาคำจำกัดความของคำว่านางเอกให้ถูกต้องตรงกันก่อนเพื่อจะได้มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน
เนื่องจากคำคำนี้มีความหมายเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ พื้นฐานความรู้ วิธีการคิดวิเคราะห์ของแต่ละคน ผู้เขียนจึงขอแยกย่อยออกไปในมุมต่าง ๆ เพื่อให้พิจารณากันทีละแง่ทีละมุม
ทั้งนี้จะอธิบายเฉพาะในนวนิยายเท่านั้น ไม่ก้าวล่วงไปถึงภาคละครที่ถือว่าเป็นชิ้นงานคนละชิ้นนะคะ
-ถ้าคำว่านางเอกมีความหมายถึงการเป็นผู้เดินเรื่องทั้งหมด หรือในความหมายว่า Leading Role(character)ศรุตาหรือทรายคือนางเอกในความหมายนั้นอย่างแน่นอน เพราะในนวนิยายได้เริ่มเรื่องขึ้นที่ทราย ตั้งแต่อายุสี่ขวบ แล้วโลกทั้งใบ...ตัวละครอื่น ๆ ทุกตัวในเรื่องก็หมุนวนอยู่รอบ ๆ ตัวทรายจนกระทั่งถึงจุดจบที่เป็นโศกนาฏกรรมของเรื่องเมื่อเธอมีอายุได้ยี่สิบหกปี
-ถ้าคำว่านางเอกคือผู้หญิงที่รักพระเอก และได้รับความรักจากพระเอก ทรายก็คือนางเอกอีกเช่นกัน เพราะทรายรักบุรี ทั้งรักทั้งนับถือและอาจกล่าวได้ว่าบุรีคือผู้ชายคนเดียวในโลกที่เธอรัก ทรายไม่รักพ่อ แม้กระทั่งพ่อเลี้ยงแสนดี ทรายก็ยังไม่รัก แค่‘แสดง’ว่ารักเพื่อประโยชน์ของตัวเองและแม่เท่านั้น
-ถ้านางเอกคือผู้หญิงที่พระเอกรัก ทรายก็คือนางเอก เพราะบุรีก็รักเธอ ทั้งรักทั้งเมตตาทั้งเข้าใจตลอดมา เพียงแต่พระเอกคนนี้ เป็นชายหนุ่มผู้ยึดถือคุณธรรมน้ำมิตรและไม่เคยรักอะไร(หรือใคร)เท่ากับความถูกต้องเหมาะสม ...“คุณวางกติกาแล้วมุ่งหน้าฟาดฟัน มันจะไม่ร้ายกาจน่ารังเกียจนัก ถ้าคุณไม่เอาผู้บริสุทธิ์อย่างลูกศรและฌานมาเป็นเหยื่อ” (ทรายสีเพลิง บทที่ ๖๔)
-ถ้าคำว่านางเอกคือผู้หญิงที่สวย เก่ง ฉลาด ทรายก็คือนางเอก...เพราะเธอมีคุณสมบัติทั้งหมดนี้ครบถ้วน ซ้ำยังรู้จักใช้คุณสมบัติเหล่านี้ของตนถากถางเส้นทางให้ไปสู่ชัยชนะด้วย เธอเป็นคนฉลาด ใช้ชีวิตเป็น รู้จักเลือกใช้คนให้เหมาะกับงาน เพียงแต่ภายใต้คุณสมบัติที่เลอเลิศเหล่านั้น มีเด็กผู้หญิงที่ไม่สามารถรักษาหัวใจที่แตกร้าวรุนแรงในวัยแปดขวบได้ ไม่สามารถก้าวข้ามความคิดและรู้สึกเหล่านั้นไปได้ จึงเป็นความสวย ความเก่ง ความฉลาด ที่เป็นเพียงเปลือกห่อหุ้มซากปรักหักพัง ความอ่อนไหว และอ้างว้างไว้เท่านั้น
-ถ้าคำว่านางเอกคือหญิงสาวแสนดี ซื่อสัตย์ อดกลั้น ไม่ก้าวร้าวไม่มีความมุ่งร้ายต่อใคร และเปี่ยมไปด้วยความรักต่อผู้คนไม่ว่าจะถูกกระทำมาสักเท่าใดเธอก็จะทนและให้อภัย...ทรายไม่ใช่นางเอกเพราะไม่มีคุณสมบัติข้อนี้
การต้องเติบโตในบ้านใหญ่อย่างครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่รู้ว่าฐานะของตนเองคือตรงไหนกันแน่ “ยืนก็ยืนได้ไม่เต็มเท้า นั่งก็นั่งได้ไม่เต็มกาย”(ทรายสีเพลิง บทที่ ๓) ทำให้ทรายมีมุมที่กระด้างและแหลมคม เธอข่วนครูที่พยายามเข้าไปปลอบใจตอนอายุ ๔ ขวบ ทำน้องตกน้ำและปฏิเสธเสียงแข็งว่า “ทรายไม่ได้ผลัก”(เพราะเธอใช้ไหล่กระแทก)ตอนอายุ ๘ ขวบ
เมื่อเธอกลับมาและมีอาวุธครบมือ มีหรือจะไม่จงใจทำร้าย แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจให้ผลของมันรุนแรงถึงขั้นนั้นก็ตาม
การกลับมาของทรายไม่ใช่เหตุผลตื้น ๆ แค่การล้างแค้น แต่เป็นความต้องการจะลบปมในใจ แซนดี้ ดาลตันชนะมาแล้วทุกเวที มีแต่ที่นี่เท่าน้นที่ทรายเป็นผู้แพ้ และเธอต้องการจะกลับมาเพื่อ "ชนะ"
-ถ้าคำว่านางเอกคือหญิงสาว“บริสุทธิ์” ตามขนบความเชื่อเดิม ทรายย่อมไม่ใช่นางเอกอย่างแน่นอน
คำที่เป็นกุญแจสำคัญในเรื่องนี้คือคำว่า “ร้อยไว้ใช้”ที่คุณหญิงย่าบอกกับพ่อ เมื่อโตเป็นสาวทรายก็ใช้ความสวยความฉลาดความเป็นผู้หญิงของเธอ “ร้อย”ผู้ชายไว้ใช้
การที่เติบโตในสังคมอเมริกัน...ไม่คบคนไทย(นอกจากฌาน คีตา และงามสรรพ) เธอจึงมองเรื่องเพศเหมือนเด็กสาวอเมริกันทั่ว ๆ ไป แต่เลือกและถือตัวพอที่จะไม่ยินยอมเลยเถิดไปกับผู้ชายรุ่นเดียวกัน ในนิยายให้ทราย “เลือก”ให้ศาสตราจารย์หนุ่มคนหนึ่ง(ซึ่งแต่งงานแล้ว)ในมหาวิทยาลัยเป็น“คนแรกของเธอ”
เมื่อครอบครัวเขาแตกร้าวสมใจก็ผละจากไป จากนั้นก็เดินหน้าทำบททดสอบต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อเติมความมั่นใจให้ตัวเองว่าเธอก็สามารถร้อยผู้ชายไว้ใช้ได้เช่นกัน บางคนต้องลงทุน บางคนก็แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
เมื่ออ่านจบเรื่อง บางความเห็นของผู้อ่านก็บอก “ทรายไม่ใช่นางเอกในความรู้สึก สิ่งที่ทำ...เกินให้อภัย” ขณะที่มีความเห็นของบางคนว่า “ทรายคือนางเอก เพราะเป็นผู้ถูกกระทำให้สูญเสียและต่ำต้อยมาตั้งแต่ต้น แล้วสุดท้ายก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ไขตัวเอง”
...นี่คือความสำเร็จของนักเขียนที่สร้างตัวละครให้คนอ่านได้ตัดสิน...ให้ผู้อ่านได้ตัดสินและประเมินค่าด้วยมุมมองและประสบการณ์ของแต่ละคนอย่างอิสระ ไม่มีถูก ไม่มีผิด
นวนิยายเรื่องนี้เป็นไปตามคำนำและคำประกาศของคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ เป็นเรื่องที่ตั้งใจเขียนขึ้นเพื่อสะท้อนถึงความรับผิดชอบของผู้ใหญ่ที่มีต่อชีวิตและจิตใจของเด็ก คำพูดการกระทำหรือแม้แต่อารมณ์ของพ่อแม่อาจสร้างแผลลึกเกินเยียวยา
และเขียนขึ้น...เพื่อพูดถึงความต้องการอยากได้ชัยชนะโดยไม่คำนึงถึงกฎกติกา ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว การได้ขึ้นไปยืนอยู่บนที่ที่สูงสุด อาจคือการยืนอยู่บนซากปรักหักพัง และอาจคือการต้องยืนอยู่ “คนเดียว”
จากผู้แต่ง ทรายสีเพลิง ลูกสาวของคุณปิยะพร
ที่มา เพจของคุณปิยะพรเอง
https://www.facebook.com/PiyabhornSakkasem?fref=
ขออนุญาตเอามาเผยแพร่ ให้เข้าใจทรายกันได้ลึกซึ้งขึ้น
ไขปริศนาจากเจ้าของเรื่องราว ทรายสีเพลิง:: ทราย ศรุตา เธอคือนางเอกหรือไม่?
ก่อนอื่นต้องหาคำจำกัดความของคำว่านางเอกให้ถูกต้องตรงกันก่อนเพื่อจะได้มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน
เนื่องจากคำคำนี้มีความหมายเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ พื้นฐานความรู้ วิธีการคิดวิเคราะห์ของแต่ละคน ผู้เขียนจึงขอแยกย่อยออกไปในมุมต่าง ๆ เพื่อให้พิจารณากันทีละแง่ทีละมุม
ทั้งนี้จะอธิบายเฉพาะในนวนิยายเท่านั้น ไม่ก้าวล่วงไปถึงภาคละครที่ถือว่าเป็นชิ้นงานคนละชิ้นนะคะ
-ถ้าคำว่านางเอกมีความหมายถึงการเป็นผู้เดินเรื่องทั้งหมด หรือในความหมายว่า Leading Role(character)ศรุตาหรือทรายคือนางเอกในความหมายนั้นอย่างแน่นอน เพราะในนวนิยายได้เริ่มเรื่องขึ้นที่ทราย ตั้งแต่อายุสี่ขวบ แล้วโลกทั้งใบ...ตัวละครอื่น ๆ ทุกตัวในเรื่องก็หมุนวนอยู่รอบ ๆ ตัวทรายจนกระทั่งถึงจุดจบที่เป็นโศกนาฏกรรมของเรื่องเมื่อเธอมีอายุได้ยี่สิบหกปี
-ถ้าคำว่านางเอกคือผู้หญิงที่รักพระเอก และได้รับความรักจากพระเอก ทรายก็คือนางเอกอีกเช่นกัน เพราะทรายรักบุรี ทั้งรักทั้งนับถือและอาจกล่าวได้ว่าบุรีคือผู้ชายคนเดียวในโลกที่เธอรัก ทรายไม่รักพ่อ แม้กระทั่งพ่อเลี้ยงแสนดี ทรายก็ยังไม่รัก แค่‘แสดง’ว่ารักเพื่อประโยชน์ของตัวเองและแม่เท่านั้น
-ถ้านางเอกคือผู้หญิงที่พระเอกรัก ทรายก็คือนางเอก เพราะบุรีก็รักเธอ ทั้งรักทั้งเมตตาทั้งเข้าใจตลอดมา เพียงแต่พระเอกคนนี้ เป็นชายหนุ่มผู้ยึดถือคุณธรรมน้ำมิตรและไม่เคยรักอะไร(หรือใคร)เท่ากับความถูกต้องเหมาะสม ...“คุณวางกติกาแล้วมุ่งหน้าฟาดฟัน มันจะไม่ร้ายกาจน่ารังเกียจนัก ถ้าคุณไม่เอาผู้บริสุทธิ์อย่างลูกศรและฌานมาเป็นเหยื่อ” (ทรายสีเพลิง บทที่ ๖๔)
-ถ้าคำว่านางเอกคือผู้หญิงที่สวย เก่ง ฉลาด ทรายก็คือนางเอก...เพราะเธอมีคุณสมบัติทั้งหมดนี้ครบถ้วน ซ้ำยังรู้จักใช้คุณสมบัติเหล่านี้ของตนถากถางเส้นทางให้ไปสู่ชัยชนะด้วย เธอเป็นคนฉลาด ใช้ชีวิตเป็น รู้จักเลือกใช้คนให้เหมาะกับงาน เพียงแต่ภายใต้คุณสมบัติที่เลอเลิศเหล่านั้น มีเด็กผู้หญิงที่ไม่สามารถรักษาหัวใจที่แตกร้าวรุนแรงในวัยแปดขวบได้ ไม่สามารถก้าวข้ามความคิดและรู้สึกเหล่านั้นไปได้ จึงเป็นความสวย ความเก่ง ความฉลาด ที่เป็นเพียงเปลือกห่อหุ้มซากปรักหักพัง ความอ่อนไหว และอ้างว้างไว้เท่านั้น
-ถ้าคำว่านางเอกคือหญิงสาวแสนดี ซื่อสัตย์ อดกลั้น ไม่ก้าวร้าวไม่มีความมุ่งร้ายต่อใคร และเปี่ยมไปด้วยความรักต่อผู้คนไม่ว่าจะถูกกระทำมาสักเท่าใดเธอก็จะทนและให้อภัย...ทรายไม่ใช่นางเอกเพราะไม่มีคุณสมบัติข้อนี้
การต้องเติบโตในบ้านใหญ่อย่างครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่รู้ว่าฐานะของตนเองคือตรงไหนกันแน่ “ยืนก็ยืนได้ไม่เต็มเท้า นั่งก็นั่งได้ไม่เต็มกาย”(ทรายสีเพลิง บทที่ ๓) ทำให้ทรายมีมุมที่กระด้างและแหลมคม เธอข่วนครูที่พยายามเข้าไปปลอบใจตอนอายุ ๔ ขวบ ทำน้องตกน้ำและปฏิเสธเสียงแข็งว่า “ทรายไม่ได้ผลัก”(เพราะเธอใช้ไหล่กระแทก)ตอนอายุ ๘ ขวบ
เมื่อเธอกลับมาและมีอาวุธครบมือ มีหรือจะไม่จงใจทำร้าย แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจให้ผลของมันรุนแรงถึงขั้นนั้นก็ตาม
การกลับมาของทรายไม่ใช่เหตุผลตื้น ๆ แค่การล้างแค้น แต่เป็นความต้องการจะลบปมในใจ แซนดี้ ดาลตันชนะมาแล้วทุกเวที มีแต่ที่นี่เท่าน้นที่ทรายเป็นผู้แพ้ และเธอต้องการจะกลับมาเพื่อ "ชนะ"
-ถ้าคำว่านางเอกคือหญิงสาว“บริสุทธิ์” ตามขนบความเชื่อเดิม ทรายย่อมไม่ใช่นางเอกอย่างแน่นอน
คำที่เป็นกุญแจสำคัญในเรื่องนี้คือคำว่า “ร้อยไว้ใช้”ที่คุณหญิงย่าบอกกับพ่อ เมื่อโตเป็นสาวทรายก็ใช้ความสวยความฉลาดความเป็นผู้หญิงของเธอ “ร้อย”ผู้ชายไว้ใช้
การที่เติบโตในสังคมอเมริกัน...ไม่คบคนไทย(นอกจากฌาน คีตา และงามสรรพ) เธอจึงมองเรื่องเพศเหมือนเด็กสาวอเมริกันทั่ว ๆ ไป แต่เลือกและถือตัวพอที่จะไม่ยินยอมเลยเถิดไปกับผู้ชายรุ่นเดียวกัน ในนิยายให้ทราย “เลือก”ให้ศาสตราจารย์หนุ่มคนหนึ่ง(ซึ่งแต่งงานแล้ว)ในมหาวิทยาลัยเป็น“คนแรกของเธอ”
เมื่อครอบครัวเขาแตกร้าวสมใจก็ผละจากไป จากนั้นก็เดินหน้าทำบททดสอบต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อเติมความมั่นใจให้ตัวเองว่าเธอก็สามารถร้อยผู้ชายไว้ใช้ได้เช่นกัน บางคนต้องลงทุน บางคนก็แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
เมื่ออ่านจบเรื่อง บางความเห็นของผู้อ่านก็บอก “ทรายไม่ใช่นางเอกในความรู้สึก สิ่งที่ทำ...เกินให้อภัย” ขณะที่มีความเห็นของบางคนว่า “ทรายคือนางเอก เพราะเป็นผู้ถูกกระทำให้สูญเสียและต่ำต้อยมาตั้งแต่ต้น แล้วสุดท้ายก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ไขตัวเอง”
...นี่คือความสำเร็จของนักเขียนที่สร้างตัวละครให้คนอ่านได้ตัดสิน...ให้ผู้อ่านได้ตัดสินและประเมินค่าด้วยมุมมองและประสบการณ์ของแต่ละคนอย่างอิสระ ไม่มีถูก ไม่มีผิด
นวนิยายเรื่องนี้เป็นไปตามคำนำและคำประกาศของคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ เป็นเรื่องที่ตั้งใจเขียนขึ้นเพื่อสะท้อนถึงความรับผิดชอบของผู้ใหญ่ที่มีต่อชีวิตและจิตใจของเด็ก คำพูดการกระทำหรือแม้แต่อารมณ์ของพ่อแม่อาจสร้างแผลลึกเกินเยียวยา
และเขียนขึ้น...เพื่อพูดถึงความต้องการอยากได้ชัยชนะโดยไม่คำนึงถึงกฎกติกา ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว การได้ขึ้นไปยืนอยู่บนที่ที่สูงสุด อาจคือการยืนอยู่บนซากปรักหักพัง และอาจคือการต้องยืนอยู่ “คนเดียว”
จากผู้แต่ง ทรายสีเพลิง ลูกสาวของคุณปิยะพร
ที่มา เพจของคุณปิยะพรเอง https://www.facebook.com/PiyabhornSakkasem?fref=
ขออนุญาตเอามาเผยแพร่ ให้เข้าใจทรายกันได้ลึกซึ้งขึ้น