ของผมเพิ่งออกรถมาครับ เนื่องจากรถคันนี้ผมไม่ได้ใช้ประจำ หลังจากออกรถมาก็เลยไม่ได้สังเกตุ อะไรมาก เพิ่มมาเจอครับ
1.การประกอบชิ้นส่วนสเกิ๊ตหน้ารถซ้ายขวาไม่สนิทเหมือนกัน คงต้องส่งกลับไปประกอบใหม่ อันนี้เป็นข้อผิดพลาดของผมเลยครับ เนื่องจากวันออกรถ ผมก็ไปกับครอบครัว การออกรถครอบครัวถือฤกษ์ในการออก มันจวนตัวมากเมื่อเทียบกับเวลาออกรถกับการใช้เวลาตรวจรับรถครับ
ดังนั้น ถ้าเราสามารถตรวจสภาพรถก่อนวันออกรถได้จะปลอดภัยกว่านะครับ
2.ตรวจสอบปีของยางรถยนต์ดีๆนะครับ รถผมออกกันยายนปี 14 ผมได้ยางรถยนต์ที่ใส่รถใหม่ผมมา ปี 13
จุดพลาดของผมเอง คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นแบบนี้ ปัญหาคือ เวลาที่ผมไปเปลี่ยนล้อเปลี่ยนแม็ก มันจะต้องมีการเทิร์นยางเก่าและล้อแม็กเก่ากับทางร้านที่เปลี่ยน มันจะตีราคาได้ไม่มากนัก ถ้าเราโดนกรณีเอายางเก่ามาใส่รถใหม่แบบนี้ ระวังกันนิดนึงนะครับ
3.เอกสารการชำระเงินไม่ว่าอะไรก็ตามเก็บไว้ให้ดีครับ ของผมเจอเหตุการณ์คือ เวลาเราออกรถ ทางเซลโชว์รูมรถจะเขียนใบรายการ มาว่า มีรายจ่ายอะไรบ้างที่เราต้องจ่าย เช่นค่าประกันภัยรถยนต์ประเภท1 ของผมโดนค่าเบี้ยไป 31000 บาท แต่พอออกรถไปซักอาทิตย์ กรมธรรม์ประกันภัยส่งมาที่บ้าน
ใบเสร็จรับเงินแจ้งค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประมาณ 22000 บาท ยอดมันหายไปเยอะ ถ้าไม่สังเกต มันหายไปแน่นอน
ถ้าสังเกต เราก็ต้องมาท้วง และทำเรื่องให้เค้าคืนเงินเรา เสียเวลาทำมาหากินครับ
ถ้าออกรถใหม่ ระบุให้เค้าคำนวนมาตรงๆเลย ว่าเป็ฯเท่าไหร่ จ่ายกันไปตามความจริงดีกว่าไหมครับ
4.การออกรถใหม่ เดี๋ยวนี้มีอัตราดอกเบี้ย 0% นั่นหมายความว่า เราดาวน์รถไปจำนวนนึง
เงินที่เหลือ ก็หารจำนวนเดือน ว่าเราจะผ่อนกี่เดือน มันจะเป็นตัวเลขที่เรารู้ในใจ (ดอกเบี้ยทางโชว์รูมรถจะเป็นคนจ่ายให้ไฟแนนท์เอง เพื่อส่งเสริมการขาย) แต่ถ้ามีอัตราดอกเบี้ย จากไฟแนนท์ ให้สังเกตุยอดดอกเบี้ยดีๆ ว่าตรงกับที่คุยกันไว้ตอนออกรถไหม
ลองเอาดอกเบี้ยxยอดเช่าซื้อx จำนวนปี แล้วบวกไปในยอดเช่าซื้ออีกครั้ง หารจำนวนเดือนที่ผ่อน เราก็จะรู้ว่า เราต้องจ่ายค่างวดต่อเดือนเท่าไหร่
ให้สังเกตุตัวเลขดีๆว่าเป็นค่างวดเท่าไหร่ (เก็บตัวเลขนี้ไว้ในใจ เพื่อมาเช็คกับตัวเลขที่ไฟแนนท์ระบุมาให้ในวันเซ็นสัญญา ว่าตรงกันไหม)
พอวันเซ็นสัญญา ระวังทางไฟแนนท์ พ่วงประกันอะไรก็แล้วแต่มาในสัญญา ทำให้ค่างวดเพิ่มจากความเป็นจริงที่เราคำนวนไว้ มันจะเพ่ิมขึ้นมาจากค่างวดที่เราเคยคำนวณไว้ มันจะรู้ว่ามีอะไรผิดปกติไหม ซึ่งบางครั้งเราอาจจะเสียผลประโยชน์
กรณีผม ตอนออกรถ ทางธนาคารไม่ได้พูดถึงอะไรเกี่ยวกับประกันเลย จนถึงวันรับรถ และเซ็นสัญญา ถึงรู้ว่าต้องมีประกันชีวิต กรณีเสียชีวิตจะได้ครอบคลุมสินเชื่อนี้ แต่เอกสารที่ให้ผมเซ็นกลับเป็นเอกสารทำประกันอุบัติเหตุ ซึ่งมันคนละแบบกับทางเจ้าหน้าที่พูดซึ่งผมก็แย้งนะ และทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าอันเดียวกัน เซ็นๆไปเถอะ
จนผมได้รับกรมธรรม์ ถึงเห็นว่า มันมีชื่อว่า "ประกันอุบัติเหตุอุ่นใจ" ซึ่งไม่มีรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับการชดใช้สินเชื่อเมื่อกรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตเลย
อันนี้เป็นกระทู้เก่า ที่ผมคุยกับทางไฟแนนท์ และทางไฟแนนท์ยอมแก้ไขปัญหา โดยทำการยกเลิกกรมธรรมประกันอุบัติเหตุดังกล่าวให้ผม โดยสัญญาว่าจะคืนเงินผมภายใน 15 วัน
ลองอ่านดูเป็นเคสตัวอย่างที่เราควรระวังเมื่อมีการออกรถใหม่
http://pantip.com/topic/32552563
แล้วเพื่อนๆคนไหน เจอประสบการณ์อะไรที่เราต้องควรระวังสำหรับการออกรถใหม่ ลองเขียนบอกเพื่อนๆกันนะครับ เพื่อช่วยเพื่อนคนอื่นไม่ให้โดนหรือได้รับการกระทำแบบที่เราโดนครับ
รวบรวมปัญหาการออกรถป้ายแดงจากทุกยี่ห้อ ใครเจอปัญหาไรกันบ้างครับ ได้เป็นแนวให้กับเพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจออกรถใหม่
1.การประกอบชิ้นส่วนสเกิ๊ตหน้ารถซ้ายขวาไม่สนิทเหมือนกัน คงต้องส่งกลับไปประกอบใหม่ อันนี้เป็นข้อผิดพลาดของผมเลยครับ เนื่องจากวันออกรถ ผมก็ไปกับครอบครัว การออกรถครอบครัวถือฤกษ์ในการออก มันจวนตัวมากเมื่อเทียบกับเวลาออกรถกับการใช้เวลาตรวจรับรถครับ
ดังนั้น ถ้าเราสามารถตรวจสภาพรถก่อนวันออกรถได้จะปลอดภัยกว่านะครับ
2.ตรวจสอบปีของยางรถยนต์ดีๆนะครับ รถผมออกกันยายนปี 14 ผมได้ยางรถยนต์ที่ใส่รถใหม่ผมมา ปี 13
จุดพลาดของผมเอง คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นแบบนี้ ปัญหาคือ เวลาที่ผมไปเปลี่ยนล้อเปลี่ยนแม็ก มันจะต้องมีการเทิร์นยางเก่าและล้อแม็กเก่ากับทางร้านที่เปลี่ยน มันจะตีราคาได้ไม่มากนัก ถ้าเราโดนกรณีเอายางเก่ามาใส่รถใหม่แบบนี้ ระวังกันนิดนึงนะครับ
3.เอกสารการชำระเงินไม่ว่าอะไรก็ตามเก็บไว้ให้ดีครับ ของผมเจอเหตุการณ์คือ เวลาเราออกรถ ทางเซลโชว์รูมรถจะเขียนใบรายการ มาว่า มีรายจ่ายอะไรบ้างที่เราต้องจ่าย เช่นค่าประกันภัยรถยนต์ประเภท1 ของผมโดนค่าเบี้ยไป 31000 บาท แต่พอออกรถไปซักอาทิตย์ กรมธรรม์ประกันภัยส่งมาที่บ้าน
ใบเสร็จรับเงินแจ้งค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประมาณ 22000 บาท ยอดมันหายไปเยอะ ถ้าไม่สังเกต มันหายไปแน่นอน
ถ้าสังเกต เราก็ต้องมาท้วง และทำเรื่องให้เค้าคืนเงินเรา เสียเวลาทำมาหากินครับ
ถ้าออกรถใหม่ ระบุให้เค้าคำนวนมาตรงๆเลย ว่าเป็ฯเท่าไหร่ จ่ายกันไปตามความจริงดีกว่าไหมครับ
4.การออกรถใหม่ เดี๋ยวนี้มีอัตราดอกเบี้ย 0% นั่นหมายความว่า เราดาวน์รถไปจำนวนนึง
เงินที่เหลือ ก็หารจำนวนเดือน ว่าเราจะผ่อนกี่เดือน มันจะเป็นตัวเลขที่เรารู้ในใจ (ดอกเบี้ยทางโชว์รูมรถจะเป็นคนจ่ายให้ไฟแนนท์เอง เพื่อส่งเสริมการขาย) แต่ถ้ามีอัตราดอกเบี้ย จากไฟแนนท์ ให้สังเกตุยอดดอกเบี้ยดีๆ ว่าตรงกับที่คุยกันไว้ตอนออกรถไหม
ลองเอาดอกเบี้ยxยอดเช่าซื้อx จำนวนปี แล้วบวกไปในยอดเช่าซื้ออีกครั้ง หารจำนวนเดือนที่ผ่อน เราก็จะรู้ว่า เราต้องจ่ายค่างวดต่อเดือนเท่าไหร่
ให้สังเกตุตัวเลขดีๆว่าเป็นค่างวดเท่าไหร่ (เก็บตัวเลขนี้ไว้ในใจ เพื่อมาเช็คกับตัวเลขที่ไฟแนนท์ระบุมาให้ในวันเซ็นสัญญา ว่าตรงกันไหม)
พอวันเซ็นสัญญา ระวังทางไฟแนนท์ พ่วงประกันอะไรก็แล้วแต่มาในสัญญา ทำให้ค่างวดเพิ่มจากความเป็นจริงที่เราคำนวนไว้ มันจะเพ่ิมขึ้นมาจากค่างวดที่เราเคยคำนวณไว้ มันจะรู้ว่ามีอะไรผิดปกติไหม ซึ่งบางครั้งเราอาจจะเสียผลประโยชน์
กรณีผม ตอนออกรถ ทางธนาคารไม่ได้พูดถึงอะไรเกี่ยวกับประกันเลย จนถึงวันรับรถ และเซ็นสัญญา ถึงรู้ว่าต้องมีประกันชีวิต กรณีเสียชีวิตจะได้ครอบคลุมสินเชื่อนี้ แต่เอกสารที่ให้ผมเซ็นกลับเป็นเอกสารทำประกันอุบัติเหตุ ซึ่งมันคนละแบบกับทางเจ้าหน้าที่พูดซึ่งผมก็แย้งนะ และทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าอันเดียวกัน เซ็นๆไปเถอะ
จนผมได้รับกรมธรรม์ ถึงเห็นว่า มันมีชื่อว่า "ประกันอุบัติเหตุอุ่นใจ" ซึ่งไม่มีรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับการชดใช้สินเชื่อเมื่อกรณีผู้เอาประกันเสียชีวิตเลย
อันนี้เป็นกระทู้เก่า ที่ผมคุยกับทางไฟแนนท์ และทางไฟแนนท์ยอมแก้ไขปัญหา โดยทำการยกเลิกกรมธรรมประกันอุบัติเหตุดังกล่าวให้ผม โดยสัญญาว่าจะคืนเงินผมภายใน 15 วัน
ลองอ่านดูเป็นเคสตัวอย่างที่เราควรระวังเมื่อมีการออกรถใหม่
http://pantip.com/topic/32552563
แล้วเพื่อนๆคนไหน เจอประสบการณ์อะไรที่เราต้องควรระวังสำหรับการออกรถใหม่ ลองเขียนบอกเพื่อนๆกันนะครับ เพื่อช่วยเพื่อนคนอื่นไม่ให้โดนหรือได้รับการกระทำแบบที่เราโดนครับ