เมื่อหลายวันก่อน เราได้ไปทำธุระกับเพื่อนสาขาโรบินสันตรงสะพานตากสิน
ช่วงเย็นๆ เลยเดินหาของกินกันค่ะ ก็เจอร้าน hotpot ที่อยู่ชั้นล่าง มีคนรอคิวอยู่2 คิว
เรากับเพื่อนเลยไปจองคิวต่อ
พนงสอบถามตอนเราไปจองคิวว่า จะเอาเตาปิ้งหรือหม้อชาบูคะ ถ้าจะเอาทั้ง2 อย่างต้องเพิ่มเงินท่านละ40 บาท แล้วเมื่อไปนั่งโต๊ะแล้วจะขอเพิ่มเตาไม่ได้แล้วนะคะ
(เราเข้าใจว่า พนงต้องออกบิลเลยเพราะ บุฟเฟต์แบบจำกัดเวลาต้องออกบิลก่อนลูกค้าจะได้รู้ว่าหมดเวลากี่โมงถ้าลูกค้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาคงยุ่งยาก)
เรากับเพื่อนเลยบอกว่าเอาเตาปิ้งค่ะ
ระหว่างนั้นก็มีลูกค้าท่านอื่นมารอต่อคิวต่อจากเรา พนง ก็พูดแบบเดียวกันค่ะ
พอถึงคิวเรา พนง ก็เรียกเรากับเพื่อนเข้าไป
ระหว่างเดินเข้าไป พนง ก็ถามเราอีกรอบว่า จะเอาปิ้งหรือชาบู ถ้าเลือกแล้วเปลี่ยนไม่ได้นะคะ
เราก็ยืนยันว่าเอาปิ้งค่ะ
จากนั้นเราก็ไปตักของกินตามปรกติ
แล้วโต๊ะด้านในที่ติดกับเราก็ลุกออกไปจ่ายเงิน (โต๊ะที่สาขานี้เป็นโต๊ะยาวๆค่ะ ไม่ได้มาด้วยกัน แต่เหมือนมาด้วยกันค่ะ เพราะโต๊ะยาวไปเลย)
สักพักมี ครอบครัวนึงมากัน 4 คน
พ่อ แม่ แม่สามี และลูกสาวตัวเล็กประมาณ6-7 ขวบ
ครอบครัวนี้ก็เดินเข้ามานั่งด้านใน แทนที่คนเมื่อกี้
พอมาถึงโต๊ะ คนพ่อก็ไม่ได้นั่ง แต่เดินไปตักของกิน
ระหว่างนั้น พนง ก็สอบถาม คนแม่ว่าตกลงเอาหม้อชาบูใช่ไหมคะ ถ้าออกบิลแล้วเปลี่ยนไม่ได้นะคะ
คนแม่ก็คอนเฟิร์มว่าจะเอาหม้อชาบูอย่างเดียวไม่เอาปิ้งค่ะ
ระหว่างนั้นลูกสาวของครอบครัวนั้น ก็ยื่นมือมาหยิบผักโต๊ะเราเล่นค่ะ
แต่เราเป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว เลยหันไปยิ้ม น้องเค้าเลยหดมือกลับไป
ตอนนั้นแม่ก็เห็นนะคะ แต่ไม่ได้ว่าอะไรลูกตัวเอง
พอคนพ่อกลับมา เห็นหม้อชาบูตั้งอยู่ เลยถามแม่ว่า ไหนเตาปิ้งล่ะ
คนแม่เลยบอกว่า ก็เมื่อกี้ตอนอยู่นอกร้าน พนงถามแล้ว พ่อบอกเอาอะไรก็ได้
แล้วพาแม่สามีกับเด็กมาเลยเอาแต่หม้อชาบูอย่างเดียว
คนพ่อทำหน้าอารมณ์เสีย แล้วบอกคนแม่ว่า ไปบอก พนงงานว่าจะเอาปิ้งแบบโต๊ะเราด้วย
พอ พนงงานเดินผ่านมา คนแม่ก็บอกขอเตาปิ้งด้วย
พนงงานก็อึกอักบอกว่า ออกบิลแล้วเปลี่ยนไม่ได้นะคะ
คนพ่อก็ไม่ยอม ชักสีหน้าแบบเซ็งมาก แล้วก็พูดว่าจะกินปิ้งไม่กินชาบู
(ตอนนี้ลูกสาวกลายเป็นเด็กเรียบร้อยไปเลยค่ะ เพราะคนพ่อดื้อแทน 555+)
เรานั่งกินอยู่กับเพื่อน แต่เราก็เซ็งนะคะ บรรยากาศที่แสนสงบหายไปแล้ว กลายเป็นสถานการณ์ตึงเครียด
คนแม่เลยบอกว่า ตอนแรกถามแล้วทำไมไม่บอกว่าจะเอาทั้ง2 อย่าง บอกว่าอะไรก็ได้แล้วตอนนี้มีปัญหา
คนพ่อเลยสวนว่า ตกลงเค้าผิดใช่ไหม? คนแม่เลยเงียบค่ะ
คนพ่อเลยบอก พนงอีกคนว่าเอาบิลไปแก้ให้หน่อย
พนงก็เลยไปตาม ผจก มา
พอผจก มา คนพ่อก็บอกเลยว่า ขอเพิ่มเตาปิ้งด้วย
ผจก บอกว่า ถ้าจะเอาเตาปิ้งด้วยลูกค้าต้องแจ้งล่วงหน้านะครับ เพราะเราจะได้จัดให้นั่งริม
ถ้าลูกค้านั่งข้างใน เราไม่สามารถยกเตาข้ามศีรษะลูกค้าโต๊ะนอกได้ครับ
(เรากับเพื่อนรู้สึกผิดยังไงไม่รู้ 555+)
คนแม่เลยบอกว่า คราวหน้าพ่อก็บอกก่อนสิ
โอ้ยยยย ตอนนั้นนะคะ คนพ่อหน้าหงิกมากพร้อมบอกว่า เออๆ ช่างมัน
แล้วก็วางช้อนวางชามแรงๆ กระแทกไปกระแทกมา จนเงียบกันทั้งโต๊ะ รวมทั้งโต๊ะเราด้วย (ที่เงียบเพราะรำคาญค่ะบอกเลย)
เรายังแอบกระซิบกับเพื่อนเลยว่า เดี๋ยวกินอิ่มแล้วยกเตาให้เค้าดีมั้ย เค้าจะได้เลิกหงุดหงิด 5555+
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะกินแบบไหนอะไรยังงัยก็บอกมาเลยแต่แรกค่ะ คำว่าอะไรก็ได้อะ เลิกใช้เถอะ ทั้งๆที่ พนง เค้าก็ถามตั้ง2 รอบแล้วนะ
แอบเห็นใจ พนงงานค่ะ บอกเลย
ปล ลืมบอกไปว่า พนง ที่นี่พูดจาสุภาพนะคะ แต่ที่เราพิมพ์ลงไปเราใช้คำศัพท์ของเราเอง เพราะเราจำคำพูดทุกคำไม่ไหวค่ะ
พนักงานร้านอาหาร บางครั้งพวกเค้าก็ไม่ได้ผิดเสมอไปนะคะ
ช่วงเย็นๆ เลยเดินหาของกินกันค่ะ ก็เจอร้าน hotpot ที่อยู่ชั้นล่าง มีคนรอคิวอยู่2 คิว
เรากับเพื่อนเลยไปจองคิวต่อ
พนงสอบถามตอนเราไปจองคิวว่า จะเอาเตาปิ้งหรือหม้อชาบูคะ ถ้าจะเอาทั้ง2 อย่างต้องเพิ่มเงินท่านละ40 บาท แล้วเมื่อไปนั่งโต๊ะแล้วจะขอเพิ่มเตาไม่ได้แล้วนะคะ
(เราเข้าใจว่า พนงต้องออกบิลเลยเพราะ บุฟเฟต์แบบจำกัดเวลาต้องออกบิลก่อนลูกค้าจะได้รู้ว่าหมดเวลากี่โมงถ้าลูกค้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาคงยุ่งยาก)
เรากับเพื่อนเลยบอกว่าเอาเตาปิ้งค่ะ
ระหว่างนั้นก็มีลูกค้าท่านอื่นมารอต่อคิวต่อจากเรา พนง ก็พูดแบบเดียวกันค่ะ
พอถึงคิวเรา พนง ก็เรียกเรากับเพื่อนเข้าไป
ระหว่างเดินเข้าไป พนง ก็ถามเราอีกรอบว่า จะเอาปิ้งหรือชาบู ถ้าเลือกแล้วเปลี่ยนไม่ได้นะคะ
เราก็ยืนยันว่าเอาปิ้งค่ะ
จากนั้นเราก็ไปตักของกินตามปรกติ
แล้วโต๊ะด้านในที่ติดกับเราก็ลุกออกไปจ่ายเงิน (โต๊ะที่สาขานี้เป็นโต๊ะยาวๆค่ะ ไม่ได้มาด้วยกัน แต่เหมือนมาด้วยกันค่ะ เพราะโต๊ะยาวไปเลย)
สักพักมี ครอบครัวนึงมากัน 4 คน
พ่อ แม่ แม่สามี และลูกสาวตัวเล็กประมาณ6-7 ขวบ
ครอบครัวนี้ก็เดินเข้ามานั่งด้านใน แทนที่คนเมื่อกี้
พอมาถึงโต๊ะ คนพ่อก็ไม่ได้นั่ง แต่เดินไปตักของกิน
ระหว่างนั้น พนง ก็สอบถาม คนแม่ว่าตกลงเอาหม้อชาบูใช่ไหมคะ ถ้าออกบิลแล้วเปลี่ยนไม่ได้นะคะ
คนแม่ก็คอนเฟิร์มว่าจะเอาหม้อชาบูอย่างเดียวไม่เอาปิ้งค่ะ
ระหว่างนั้นลูกสาวของครอบครัวนั้น ก็ยื่นมือมาหยิบผักโต๊ะเราเล่นค่ะ
แต่เราเป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว เลยหันไปยิ้ม น้องเค้าเลยหดมือกลับไป
ตอนนั้นแม่ก็เห็นนะคะ แต่ไม่ได้ว่าอะไรลูกตัวเอง
พอคนพ่อกลับมา เห็นหม้อชาบูตั้งอยู่ เลยถามแม่ว่า ไหนเตาปิ้งล่ะ
คนแม่เลยบอกว่า ก็เมื่อกี้ตอนอยู่นอกร้าน พนงถามแล้ว พ่อบอกเอาอะไรก็ได้
แล้วพาแม่สามีกับเด็กมาเลยเอาแต่หม้อชาบูอย่างเดียว
คนพ่อทำหน้าอารมณ์เสีย แล้วบอกคนแม่ว่า ไปบอก พนงงานว่าจะเอาปิ้งแบบโต๊ะเราด้วย
พอ พนงงานเดินผ่านมา คนแม่ก็บอกขอเตาปิ้งด้วย
พนงงานก็อึกอักบอกว่า ออกบิลแล้วเปลี่ยนไม่ได้นะคะ
คนพ่อก็ไม่ยอม ชักสีหน้าแบบเซ็งมาก แล้วก็พูดว่าจะกินปิ้งไม่กินชาบู
(ตอนนี้ลูกสาวกลายเป็นเด็กเรียบร้อยไปเลยค่ะ เพราะคนพ่อดื้อแทน 555+)
เรานั่งกินอยู่กับเพื่อน แต่เราก็เซ็งนะคะ บรรยากาศที่แสนสงบหายไปแล้ว กลายเป็นสถานการณ์ตึงเครียด
คนแม่เลยบอกว่า ตอนแรกถามแล้วทำไมไม่บอกว่าจะเอาทั้ง2 อย่าง บอกว่าอะไรก็ได้แล้วตอนนี้มีปัญหา
คนพ่อเลยสวนว่า ตกลงเค้าผิดใช่ไหม? คนแม่เลยเงียบค่ะ
คนพ่อเลยบอก พนงอีกคนว่าเอาบิลไปแก้ให้หน่อย
พนงก็เลยไปตาม ผจก มา
พอผจก มา คนพ่อก็บอกเลยว่า ขอเพิ่มเตาปิ้งด้วย
ผจก บอกว่า ถ้าจะเอาเตาปิ้งด้วยลูกค้าต้องแจ้งล่วงหน้านะครับ เพราะเราจะได้จัดให้นั่งริม
ถ้าลูกค้านั่งข้างใน เราไม่สามารถยกเตาข้ามศีรษะลูกค้าโต๊ะนอกได้ครับ
(เรากับเพื่อนรู้สึกผิดยังไงไม่รู้ 555+)
คนแม่เลยบอกว่า คราวหน้าพ่อก็บอกก่อนสิ
โอ้ยยยย ตอนนั้นนะคะ คนพ่อหน้าหงิกมากพร้อมบอกว่า เออๆ ช่างมัน
แล้วก็วางช้อนวางชามแรงๆ กระแทกไปกระแทกมา จนเงียบกันทั้งโต๊ะ รวมทั้งโต๊ะเราด้วย (ที่เงียบเพราะรำคาญค่ะบอกเลย)
เรายังแอบกระซิบกับเพื่อนเลยว่า เดี๋ยวกินอิ่มแล้วยกเตาให้เค้าดีมั้ย เค้าจะได้เลิกหงุดหงิด 5555+
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะกินแบบไหนอะไรยังงัยก็บอกมาเลยแต่แรกค่ะ คำว่าอะไรก็ได้อะ เลิกใช้เถอะ ทั้งๆที่ พนง เค้าก็ถามตั้ง2 รอบแล้วนะ
แอบเห็นใจ พนงงานค่ะ บอกเลย
ปล ลืมบอกไปว่า พนง ที่นี่พูดจาสุภาพนะคะ แต่ที่เราพิมพ์ลงไปเราใช้คำศัพท์ของเราเอง เพราะเราจำคำพูดทุกคำไม่ไหวค่ะ