ความรู้สึกเมื่ออ่าน "ทรายสีเพลิง" ฉบับนิยายจบ

เห็นใครๆบ่นกันนักกว่าบทละครแย่ยังงั้นยังงี้ ได้โอกาสเรยพิสูจน์ซะเลย อิอิ
อ่านจบแล้ว เปรียบเทียบกับละคร (ที่ตอนหลังๆรู้สึกไม่สนุกจิงๆและเลิกติดตามไปแล้ว) เกิดความคิดความรู้สึกหลายอย่าง อยากจะแชร์ดังนี้จ้าาา....

1."ยาพิษที่ค่อยๆซึมเข้าในใจด.ญ.ศรุตา" ในนิยายเล่าถึงบรรยากาศชีวิตของทรายตอนเด็กไว้ละเอียดหลายบททีเดียว
    รวมถึงความทุกข์ความคับแค้นใจของดวงตา หลายๆครั้งที่เธอทนไม่ไหวระบายมันออกมา ด้วยความเป็นเด็กถึงทรายจะไม่เข้าใจ
    แต่เธอก็ซึมซับจดจำมันไว้ได้ทั้งหมด เมื่อโตขึ้นจึงสร้างเป็นบุคลิกตัวตนและความคิดของเธอ ตรงนี้คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้เขียนอยากจะสื่อ
    ในละครไม่ได้พูดถึงไว้มากนัก อาจจะจำกัดด้วยเวลาออกอากาศด้วยมั้ง

2."พี่บีไม่ใช่รักแรกของทราย" อันที่จริงทรายเจอกับพี่บีครั้งเดียวตอน 8ขวบ มีเวลาอยู่ด้วยกันเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น
    สิ่งที่เธอรู้สึกคือภาพความประทับใจเล็กๆในเด็กชายวัยรุ่นที่อบอุ่นและใจดีกับเธอเท่านั้น ตัวตนที่ทรายหลงรักจริงๆ คือ "บุรี" ตอนโต
    คนที่มีบุคลิกอบอุ่น น่าศรัทธา น่าเลื่อมใส เป็นผู้นำ พึ่งพิงได้ ความมีคุณธรรม ไม่ได้หลงไหลกับเสน่ห์ของเธอเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ
    ลึกๆแล้วเป็นความอบอุ่นที่ "เด็กผู้หญิงขาดพ่อ" อย่างเธอเฝ้าโหยหามาตลอดชีวิต ดูในละครบทบาทของบุรีไม่ได้อบอุ่นน่ารักแบบนี้
    เหมือนทรายจะรักบุรีเพราะรู้ว่าเค้าคือพี่บีที่เธอรักตอนเด็กมากกว่า

3."คุณอาเสาวณีย์" ไม่ใช่คนร้ายกาจ ถลึงตา ปะทะคารมกับทรายทุกครั้งที่มีโอกาส ตั้งแต่แรกเริ่มคุณเสาวณีย์ใช้ความเป็นผู้ดี
    แสดงคุณค่าที่เหนือกว่าเอาชนะดวงตา เมื่อทรายกลับมา คุณเสาวณีย์ก็เก็บความอัดอั้นเอาไว้ในใจไม่แสดงมันออกมา
    เพราะต้องการรักษาภาพลักษณ์แสนดีที่อยู่ในใจคุณศกเสมอมา เพิ่งมาหลุด ด่าทรายต่อหน้าคุณศกก็ตอนพัชระมาขอถอนหมั้นลูกศรนั่นแหละ

4."กระหายชัยชนะ" ที่ทรายกลับมา ไม่ได้จะตั้งใจมาทำสงครามแก้แค้นคุณเสาว์กะลูกศรหรอก มันดูลึกซึ้งกว่านั้น ที่อเมริกา แซนดี้ ดาลตัน ชนะมาทุก
    สนามแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การงาน ความรัก เธอใช้ความสามารถเอาชนะ จนได้สิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่เป็นที่หนึ่งมาครอบครองเหมือง"ของสะสม"
   อยู่เสมอๆจนเธอเองก็เริ่มจะไม่ตื่นเต้นยินดีกับชัยชนะเหล่านั้นแล้ว แต่มีปมนึงที่ติดค้างในใจทรายตั้งแต่เด็ก คือ
   ทำไมเธอเป็นลูกพ่อและหลานย่าเหมือนกัน ทั้งยังเกิดก่อน แม่เธอก็มาก่อน ลูกศรก็อ่อนแอไม่เอาไหนสู้เธอไม่ได้ซักนิด
   แต่ทำไมใครๆถึงทุ่มเทแต่สิ่งที่ดีที่สุดไปให้ลูกศร ทำไมเธอถึงต้องเป็นฝ่ายแพ้ ต้องออกจากบ้าน ต้องอพยพไปไกลถึงอเมริกา การทรายกลับมาครั้งนี้
   เหมือนกลับมาล้างตาในสนามแข่งที่เธอเคยแพ้ อันที่จริงคิดว่าวัตถุประสงค์หลักของทรายคือพิสูจน์ตัวเองมากกว่า เป็นความท้าทายครั้งใหม่
   ว่าเธอจะชนะ คนที่เธอเคยแพ้อย่างราบคาบหรือไม่

5."แขกรับเชิญ" นิยายของคุณปิยะพร จะเป็นแบบนี้เสมอ มีการกล่าวถึงตัวละครในนิยายเล่มอื่นๆไว้ด้วย เรื่องนี้มีพูดถึง "งามสรรพ"
   จากระบำดาว กับ "รสา" จากตะวันทอแสง ตอนจบระบำดาวเล่าว่างามสรรพไปเรียนต่อที่อเมริกา ก็ได้เจอกับทรายที่นิวยอร์ก คีตา
   แฟนของงามสรรพก็เป็นเพื่อนสนิทกับฌานกับบุรี ส่วนรสา ก็ได้มาเจอกับเพื่อนๆบุรีที่ผับ แถมรสายังเคยเรียนอยู่ที่เดียวกับพัชระ
   พัชระเคยแอบชอบอีกตะหาก เป็นความน่ารักของคุณปิยะพร ที่ทำให้เรารู้สึกผูกพันกับตัวละครในนิยายแต่ละเล่ม
   เหมือนได้รับรู้ว่าหลังจากจบนิยายเล่มนั้นไป ชีวิตของพวกเค้าเป็นยังไงต่อ

จิงๆมีเรื่องอยากเล่าอยากแชร์มาก นิยายอ่านสนุกมาก 770 หน้ารวดเดียวจบนอนตีสามเป็นผีดิบไปทำงาน อิอิ
แต่เขียนไปเขียนมาแล้วนึกออกแค่นี้ แฟนละครแฟนนิยายมีอะไรอยากแชร์เชิญจ้าาาา


*** ต่ออีกนิดนะคะเพิ่งคิดออกเพิ่ม ยิ้ม
6."ลิซ่า และ อลัน" กลายมาเป็นละครทีวีแล้วสงสารตัวละครสองตัวนี้ที่สุด ลิซ่า ไม่ใช่ผู้หญิงหิวเงิน ไม่ใช่นางร้ายจิกตา ตามจับฌาน
    ตอนที่คบกันอยู่คิดว่าลิซ่ารักฌานจริงๆ แต่เธอก็ต้องกตัญญูกับครอบครัว ให้พ่อเลี้ยงของฌานช่วยโอบอุ่มธุรกิจครอบครัวเธอด้วย
    ภายหลังจึงมาคบและหมั้นกับอลัน ลิซ่าไม่เคยขึ้นคอนโดฌาน ไม่เคยเจอกับลูกศร ไม่เคยเป็นหมาบ้าตบตีลูกศรด้วยค่ะ
    ส่วนอลันก็ไม่ได้ขี้แพ้ขนาดนั้น ในทางธุรกิจฌานกับอลันก็มีข้อดีข้อเสียไปคนละอย่าง ทำให้นอร์แทนเลือกไม่ถูกว่าใครเป็นคนที่ดีกว่า
    และนึกเสียดายว่าถ้าทั้งสองรักกันทำงานร่วมกันได้คงจะดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่