วัด เติบโตมาจากชุมชน บางแห่งเริ่มจากสำนักสงฆ์เล็กๆ ก่อนชาวบ้านย่านนั้นๆจะช่วยกันพัฒนา สร้างโบสถ์ ทำเป็นวัด เป็นอะไรขึ้นมา พอวัดเติบโตมีชื่อเสียงโด่งดัง ผลประโยชน์มหาศาล วัดบางวัดกลับต้อนรับแต่คนมีเงิน ชาวบ้านในพื้นที่จนๆไม่มีสิทธิใช้ซะงั้น อย่างนี้เรียกว่า วัดลืมกำพืชได้ไหม ลืมไปว่าวัดเกิดมาเพื่อสนองตอบชุมชนของตนเอง ไม่ใช่ไว้รอต้อนรับนักบุญคนมีเงิน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.thairath.co.th/content/451827
ประชาสัมพันธ์ชมรมพ่อค้าแม่ค้า หน้าวัดโสธรฯคู่กัดหลานชายเจ้า อาวาสวัดโสธรฯที่เปิดศึกขัดแย้งเข้าพบหัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ให้การระบุคู่กรณีชักปืนออกมา แต่โดดคว้าข้อมือล้มลง กระสุนลั่นถากชายโครงแต่ไม่ระคายผิว เพราะห้อยเหรียญหลวงพ่อโสธรสองหน้า รุ่น 2497 เลยแคล้วคลาด กระสุนพลาดไปถูกคนที่เข้ามาช่วยบาดเจ็บ แฉแหลกวัดโสธรฯ มุ่งแต่เรื่องเงินเน้นสิ่งก่อสร้าง เอาญาติคนใกล้ชิดมาแบ่งพื้นที่กอบโกยผลประโยชน์กัน รวมทั้งเรียกเก็บค่าใช้จ่ายการจัดงานศพ งานบวช ราคาแพง ชาวบ้านคนจนไม่มีสิทธิมาใช้สถานที่วัดจัดงาน ขณะที่ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบการจัดประโยชน์ภายในวัดทุกเรื่องดำเนินการโปร่งใสหรือไม่
กรณีนายเอกราช ท้วมละมูล หลานชายเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา มีปัญหาขัดแย้งกับกลุ่มผู้ค้าของฝากภายในวัด จนเกิดเรื่องบานปลายถึงขั้นชักปืนออกมาทำท่าจะยิงแต่ฝ่ายตรงข้ามได้ปัดปืนทำให้กระสุนลั่นถูกนายสมชาย ดีสวัสดิ์ บาดเจ็บที่บริเวณกาแฟนายยะ โสธร สาขา 2 ที่ตั้งชมรมพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ ส่วนนายเอกราชถูกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารุมยำศีรษะแตกหน้าบวมปูดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหานายเอกราชพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและชักหรือแสดงอาวุธปืนในการวิวาทต่อสู้กัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ก.ย. นายปิยะ ศรีชวนะ อายุ 64 ปี ประชาสัมพันธ์ชมรมพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ ได้เข้าพบ พ.ต.อ.พงษธร พนาสนธิ์ พงส.ผทค.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานในคดี โดยนายปิยะได้เปิดเสื้อให้ดูรอยคมกระสุนที่ถูกยิงเฉี่ยวบริเวณสีข้างซ้ายจนเสื้อขาดเป็นรู บอกว่าที่แคล้วคลาดเพราะห้อยเหรียญหลวงพ่อโสธรสองหน้า รุ่น 2497ที่เลี่ยมทองห้อยคอมานานนับสิบปี ทั้งนี้นายปิยะให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้พูดผ่านไมโครโฟนประกาศเรื่องนายเอกราชนำตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงมาตั้งเพื่อขายกาแฟสดและเครื่องดื่ม ไม่เป็นไปตามระเบียบของทางวัด ทำให้นายเอกราชไม่พอใจเข้ามากระชากไมโครโฟนแต่ตนดึงเอาไว้ นายเอกราชได้ชักปืนออกมาจึงตัดสินใจกระโดดคว้าข้อมือก่อนล้มลงได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด ช่วงนั้นรู้สึกว่าตัวเองถูกยิง และกระสุนปืนพลาดไปถูกนายสมชาย ดีสวัสดิ์ ที่เข้ามาช่วยบาดเจ็บ
นายปิยะเปิดเผยว่า ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ให้กับวัดโสธรฯมานานนับสิบปี กระทั่งพระราชมงคลรังสี มาเป็นเจ้าอาวาส ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เช่น เปลี่ยนแปลงตัวบุคคลที่ทำงานกับวัด โดยเฉพาะคนที่ดูแลเรื่องเงินบริจาค ก็บีบบังคับให้ลาออกแล้วนำคนของเจ้าอาวาสมาทำแทน ส่วนการบริหารจัดการภายในวัดโสธรฯ มีการแบ่งพื้นที่ดูแลผลประโยชน์ชัดเจน โดยเฉพาะรายได้จากการบริจาคภายในอุโบสถหลังใหม่และหลังเก่าแยกกันชัดเจน ส่วนแผนงานโครงการของเจ้าอาวาส ได้มุ่งเน้นแต่สิ่งก่อสร้าง อาคารสถานที่หลายแห่งเสร็จแล้วก็ให้วงศาคณาญาติเข้าไปหาผลประโยชน์กัน แต่อาคารสถานที่ที่ประชาชนใช้บำเพ็ญบุญกุศล เช่น เมรุเผาศพ กลับทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ ทำให้ชาวบ้านไม่มีที่เผาศพ การทำพิธีศพต้องย้ายไปทำที่วัดอื่นแทน
นายปิยะกล่าวอีกว่า การจัดงานศพ ทางวัดยังเรียกเก็บเงินจากเจ้าภาพต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูง ตั้งแต่พิธีสวดศพจนถึงวันเผาศพ เอากันถึงขนาดนั้น ส่วนใครที่จะนำลูกหลานมาบวชก็ต้องเสียค่าพระอุปัชฌาย์ รูปละ 5,000 บาท พระกรรมวาจาจารย์หรือคู่สวด รูปละ 3,000 บาท พร้อมค่าน้ำมันรถอีกรูปละ 1,000 บาท พระอันดับ 500 บาท คนจนไม่มีสิทธิ์จะนำลูกหลานมาบวช หรือจัดงานศพที่แห่งนี้ได้อีกต่อไป ซึ่งแตกต่างจากในสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวไปสังเกตที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร พบว่าพุทธศาสนิกชนยังหลั่งไหลเดินทางมากราบนมัสการพระพุทธโสธร ทั้งภายในพระอุโบสถหลังเก่าและหลังใหม่กันอย่างเนืองแน่น ทำให้การจราจรติดขัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จัดกำลังมาคอยอำนวยความสะดวก ส่วนที่กุฏิพระราชมงคลรังสีเจ้าอาวาสเงียบเหงา มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 11 จำนวน 5 นาย มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าอาวาส แจ้งว่าเจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์ที่ จ.ชลบุรี ยังไม่ทราบเวลากลับที่ชัดเจน
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า กรณีการจัดการแผงค้าบริเวณหน้าวัดโสธรฯที่เกิดปัญหาจนถึงขั้นใช้ปืนยิงกันนั้น นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้สอบถามถึงเรื่องดังกล่าว และทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ชี้แจงว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปประสานกับสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ฉะเชิงเทรา และเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขอตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดประโยชน์ในเรื่องต่างๆของวัดโสธรฯทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้านค้า รำละครแก้บน ว่ามีการดำเนินการอย่างไร โปร่งใสหรือไม่ เพราะหากมีการจัดการที่ถูกต้อง โปร่งใส เจ้าอาวาสวัดจะให้หลานมาเปิดร้านค้าก็ไม่ใช่เรื่องผิด
วัด มีลืมกำพืชได้ด้วยเนาะ เมื่อวัดรวยขึ้น เป็นวัดไฮโซ ชาวบ้านข้างวัดก็ไม่มีสิทธิใช้วัดจัดงานได้อีกต่อไป
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.thairath.co.th/content/451827
ประชาสัมพันธ์ชมรมพ่อค้าแม่ค้า หน้าวัดโสธรฯคู่กัดหลานชายเจ้า อาวาสวัดโสธรฯที่เปิดศึกขัดแย้งเข้าพบหัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ให้การระบุคู่กรณีชักปืนออกมา แต่โดดคว้าข้อมือล้มลง กระสุนลั่นถากชายโครงแต่ไม่ระคายผิว เพราะห้อยเหรียญหลวงพ่อโสธรสองหน้า รุ่น 2497 เลยแคล้วคลาด กระสุนพลาดไปถูกคนที่เข้ามาช่วยบาดเจ็บ แฉแหลกวัดโสธรฯ มุ่งแต่เรื่องเงินเน้นสิ่งก่อสร้าง เอาญาติคนใกล้ชิดมาแบ่งพื้นที่กอบโกยผลประโยชน์กัน รวมทั้งเรียกเก็บค่าใช้จ่ายการจัดงานศพ งานบวช ราคาแพง ชาวบ้านคนจนไม่มีสิทธิมาใช้สถานที่วัดจัดงาน ขณะที่ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบการจัดประโยชน์ภายในวัดทุกเรื่องดำเนินการโปร่งใสหรือไม่
กรณีนายเอกราช ท้วมละมูล หลานชายเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา มีปัญหาขัดแย้งกับกลุ่มผู้ค้าของฝากภายในวัด จนเกิดเรื่องบานปลายถึงขั้นชักปืนออกมาทำท่าจะยิงแต่ฝ่ายตรงข้ามได้ปัดปืนทำให้กระสุนลั่นถูกนายสมชาย ดีสวัสดิ์ บาดเจ็บที่บริเวณกาแฟนายยะ โสธร สาขา 2 ที่ตั้งชมรมพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ ส่วนนายเอกราชถูกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารุมยำศีรษะแตกหน้าบวมปูดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหานายเอกราชพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและชักหรือแสดงอาวุธปืนในการวิวาทต่อสู้กัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ก.ย. นายปิยะ ศรีชวนะ อายุ 64 ปี ประชาสัมพันธ์ชมรมพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ ได้เข้าพบ พ.ต.อ.พงษธร พนาสนธิ์ พงส.ผทค.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานในคดี โดยนายปิยะได้เปิดเสื้อให้ดูรอยคมกระสุนที่ถูกยิงเฉี่ยวบริเวณสีข้างซ้ายจนเสื้อขาดเป็นรู บอกว่าที่แคล้วคลาดเพราะห้อยเหรียญหลวงพ่อโสธรสองหน้า รุ่น 2497ที่เลี่ยมทองห้อยคอมานานนับสิบปี ทั้งนี้นายปิยะให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้พูดผ่านไมโครโฟนประกาศเรื่องนายเอกราชนำตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงมาตั้งเพื่อขายกาแฟสดและเครื่องดื่ม ไม่เป็นไปตามระเบียบของทางวัด ทำให้นายเอกราชไม่พอใจเข้ามากระชากไมโครโฟนแต่ตนดึงเอาไว้ นายเอกราชได้ชักปืนออกมาจึงตัดสินใจกระโดดคว้าข้อมือก่อนล้มลงได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด ช่วงนั้นรู้สึกว่าตัวเองถูกยิง และกระสุนปืนพลาดไปถูกนายสมชาย ดีสวัสดิ์ ที่เข้ามาช่วยบาดเจ็บ
นายปิยะเปิดเผยว่า ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ให้กับวัดโสธรฯมานานนับสิบปี กระทั่งพระราชมงคลรังสี มาเป็นเจ้าอาวาส ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เช่น เปลี่ยนแปลงตัวบุคคลที่ทำงานกับวัด โดยเฉพาะคนที่ดูแลเรื่องเงินบริจาค ก็บีบบังคับให้ลาออกแล้วนำคนของเจ้าอาวาสมาทำแทน ส่วนการบริหารจัดการภายในวัดโสธรฯ มีการแบ่งพื้นที่ดูแลผลประโยชน์ชัดเจน โดยเฉพาะรายได้จากการบริจาคภายในอุโบสถหลังใหม่และหลังเก่าแยกกันชัดเจน ส่วนแผนงานโครงการของเจ้าอาวาส ได้มุ่งเน้นแต่สิ่งก่อสร้าง อาคารสถานที่หลายแห่งเสร็จแล้วก็ให้วงศาคณาญาติเข้าไปหาผลประโยชน์กัน แต่อาคารสถานที่ที่ประชาชนใช้บำเพ็ญบุญกุศล เช่น เมรุเผาศพ กลับทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ ทำให้ชาวบ้านไม่มีที่เผาศพ การทำพิธีศพต้องย้ายไปทำที่วัดอื่นแทน
นายปิยะกล่าวอีกว่า การจัดงานศพ ทางวัดยังเรียกเก็บเงินจากเจ้าภาพต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูง ตั้งแต่พิธีสวดศพจนถึงวันเผาศพ เอากันถึงขนาดนั้น ส่วนใครที่จะนำลูกหลานมาบวชก็ต้องเสียค่าพระอุปัชฌาย์ รูปละ 5,000 บาท พระกรรมวาจาจารย์หรือคู่สวด รูปละ 3,000 บาท พร้อมค่าน้ำมันรถอีกรูปละ 1,000 บาท พระอันดับ 500 บาท คนจนไม่มีสิทธิ์จะนำลูกหลานมาบวช หรือจัดงานศพที่แห่งนี้ได้อีกต่อไป ซึ่งแตกต่างจากในสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวไปสังเกตที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร พบว่าพุทธศาสนิกชนยังหลั่งไหลเดินทางมากราบนมัสการพระพุทธโสธร ทั้งภายในพระอุโบสถหลังเก่าและหลังใหม่กันอย่างเนืองแน่น ทำให้การจราจรติดขัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จัดกำลังมาคอยอำนวยความสะดวก ส่วนที่กุฏิพระราชมงคลรังสีเจ้าอาวาสเงียบเหงา มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 11 จำนวน 5 นาย มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าอาวาส แจ้งว่าเจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์ที่ จ.ชลบุรี ยังไม่ทราบเวลากลับที่ชัดเจน
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า กรณีการจัดการแผงค้าบริเวณหน้าวัดโสธรฯที่เกิดปัญหาจนถึงขั้นใช้ปืนยิงกันนั้น นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้สอบถามถึงเรื่องดังกล่าว และทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ชี้แจงว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปประสานกับสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ฉะเชิงเทรา และเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขอตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดประโยชน์ในเรื่องต่างๆของวัดโสธรฯทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้านค้า รำละครแก้บน ว่ามีการดำเนินการอย่างไร โปร่งใสหรือไม่ เพราะหากมีการจัดการที่ถูกต้อง โปร่งใส เจ้าอาวาสวัดจะให้หลานมาเปิดร้านค้าก็ไม่ใช่เรื่องผิด