คนสมัยนี้คิดไงกับคำว่า ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า

เรื่องของนักร้องกับภรรยาที่ออกมาแฉกันตอนนี้ มันทำให้นึกถึงคำนี้จริง แต่ถ้าคุณเจอเรื่องอย่างเราหล่ะคุณจะทำอย่างไง.
  ยาวหน่อยนะค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า แฟนเราไปมีกิ๊กเป็นคุณแม่ลูกสอง สามีอีกหนึ่ง คือแอบคบกันตอนไปดูงาน 5 วัน แล้วเพื่อนอดีตแฟนเรา
เอาภาพหลุดมาโพสต์แล้วแท็กแฟนเรา เป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งนอนกอดกัน นั้นก็คือแฟนเรากับกิ๊กเค้า ทำแค่อยากเอาชนะ โดยไม่คิดถึง
ความรู้สึกเด็กที่ไม่รับรู้อะไรด้วย ณ.วันนั้นเรายอมเดินออกมาเงียบๆ เพราะเราถามเค้าแล้ว ภาพที่เกิดขึ้นคืออะไร เค้าบอกแค่ 5วันแล้วจะจบ
ความคิดเราขอออกมาตั้งหลักก่อนดีกว่า ห่างกันเกือบเดือนมันเป็นอะไรที่ยากที่จะผ่านไปได้จริงๆ ร้องไห้ทุกวันทำอะไรก็ไม่ได้ พอเค้ามาง้อ
เลยใจอ่อน แต่พอกลับมาสิ่งที่รับรู้คือ ระหว่างที่เราไม่อยู่เค้าติดต่อกับคุณแม่ลูกสองตลอดเวลาถามเค้าว่าทำได้อย่างไง เค้าบอกว่าเค้าอยู่
คนเดียวไม่ได้ ระหว่างที่แฟนผู้หญิงคนนั้นไปใต้ แฟนเรากับผู้หญิงคนนั้นเปิดกล้องคุยกันตลอดเวลา ทั้งๆที่ลูกสองคนของผู้หญิงคนนั้นนอน
อยู่ด้วยกันกับแม่เค้า ฉันพูดได้แค่ เด็ก 7 ขวบกับ 1 ขวบเค้ารู้เค้าจำหน้าพ่อเค้าได้แล้ว เค้าเห็นว่าแม่เค้าทำอะไร เคยคิดถึงจิตใจเด็กไหม
แฟนเราสัญญาว่าจะค่อยๆห่างออกมา เราทำทั้งแค็ปไลน์ ข้อความที่แอบคุยกันทาง fb แต่ทุกวันนี้ที่ทำได้แค่เอามาอ่านให้เจ็บใจเล่น
ไม่กล้าโพสต์ประจาน สิ่งที่ทำทุกวันนี้ก็แค่บ่น แค่เพ้อ บน fb ตัวเอง แต่ถ้าต้องทำร้ายเด็กที่ไม่รู้เรื่องเลย เลยไม่กล้าเอาหลักฐานมาโพสต์ประจาน
สุดท้ายเราก็อยู่ด้วยไม่ได้ ด้วยความที่เรานิ่งไม่พูด ยอมมาตลอด 8 ปีทำให้เค้าหลอกลวงคนอื่นได้อีก ถึงเค้าจะเลิกกับคุณแม่ลูกสอง แต่คนเจ้าชู้
อย่างไงก็ไม่หยุดสุดท้ายก็ไปจีบเพื่อนสนิทตัวเอง แล้วขอให้เราออกไปจากชีวิตเค้า พอวันหนึ่งเราจะพูดความจริงกลายเป็นคนชอบแฉ กลายเป็นคนผิด
  แต่สุดท้ายเราก็ภูมิใจในตัวเอง ถึงครอบครัวเราจะพัง แต่เราไม่เคยเอาหลักฐานหรือทำลายครอบครัวผู้หญิงคนนั้น ยังมีหน้ามีตาทางสังคมได้
ถึงความจริงมันจะเลวร้ายก็ตาม ถ้าแค่การระบายของผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนอะไรหนักๆมันจะผิด เราคงเป็นคนผิด ผิดที่ยังไม่ลืม ผิดที่ยังเจ็บอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่