สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
อืมม์ อ่านกระทู้คุณแล้ว เหมือนคุณมองภาพตัวเองเป็นนางเอกเลยครับ เขียนให้ตัวเองดูดี ไม่มีความผิด ตลอด
แบบนี้คือสัญญาณของอาการ self-delusional หลอกตัวเอง นะครับ
ทีหลังอย่าปากไม่ตรงกับใจนะ น่าเบื่อมาก แล้วก็ไม่ต้องทำนางเอ๊กนางเอกผู้ไม่เคยผิดด้วยครับ
เพราะปัญหามันจะแก้ยาก เนื่องจาก ถ้าคุณจขกท.ยังไม่ "ถอดหน้ากากออก" แล้วยอมรับความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคุณ มันจะแก้ไม่ได้เลย
ถ้าเกรงว่าผมใส่ร้าย ลองอ่านที่ตัวเองเขียนดูนะครับ
ประโยคที่คุณเขียนแบบทำให้ตัวเองดูดี คือตัวเอน
ประโยคที่คุณทำลงไปจริงๆตาม "แรงปรารถนาจริงๆ คือขีดเส้นใต้นะครับ
ผมใส่ในสปอยล์นะครับ เพราะกลัวคห.ยาว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
^
^
คุณอ่านที่ตัวเองเขียนนะ
คุณเขียน"ย้ำซ้ำๆซากๆ" (อาการ "พยายามสะกดจิตตัวเอง") ในข้อความแค่ 2 ย่อหน้า ว่า "จบคือจบ" กี่ครั้ง
- ส่วนเราก็ไม่ขอไปต่อเพราะเคลียร์ตั้งแต่ตอนคบกันแล้วว่าอย่าให้เรามีปัญหา
- แต่เราก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้ชายแล้ว จบคือจบ
- ในเมื่อผู้ชายเลือกเราแล้วทำไมเรายังไม่เอาอีก
- เราเลยนัดผู้ชายมาเคลียร์ว่า เรื่องของเรามันจบแล้ว เราไม่ไปต่อ
- แต่เราก็ใจแข็งไม่ไปต่อ
- เราก็ใจแข็งว่ายังไงก็จะจบ
แต่คุณดันตบท้ายด้วยข้อความนี้
เมื่อเราสองคนไม่ได้ติดต่อกัน เราก็มาย้อนคิดว่าเราตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่ไม่ยอมไปต่อ ทั้งที่ผู้ชายก็ยอมเดินออกมาจากครอบครัวแล้ว และเราก็ยังอยากคุยกับผู้ชายอยู่ ความทรงจำดีดีก็มีมากมาย เพียงแต่เราห้ามใจตัวเองไว้
และคำถามนี้
.......ช่วยแสดงความคิดเห็นที ว่าเราควรทำยังไงต่อไป ?????
^
^
ถามแบบนี้ไม่เงิบเองเหรอ อุตส่าห์ทำ "เก่ง" อยู่ตั้ง 2 ย่อหน้า
แบบนี้คือสัญญาณของอาการ self-delusional หลอกตัวเอง นะครับ
ทีหลังอย่าปากไม่ตรงกับใจนะ น่าเบื่อมาก แล้วก็ไม่ต้องทำนางเอ๊กนางเอกผู้ไม่เคยผิดด้วยครับ
เพราะปัญหามันจะแก้ยาก เนื่องจาก ถ้าคุณจขกท.ยังไม่ "ถอดหน้ากากออก" แล้วยอมรับความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคุณ มันจะแก้ไม่ได้เลย
ถ้าเกรงว่าผมใส่ร้าย ลองอ่านที่ตัวเองเขียนดูนะครับ
ประโยคที่คุณเขียนแบบทำให้ตัวเองดูดี คือตัวเอน
ประโยคที่คุณทำลงไปจริงๆตาม "แรงปรารถนาจริงๆ คือขีดเส้นใต้นะครับ
ผมใส่ในสปอยล์นะครับ เพราะกลัวคห.ยาว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
^
^
คุณอ่านที่ตัวเองเขียนนะ
คุณเขียน"ย้ำซ้ำๆซากๆ" (อาการ "พยายามสะกดจิตตัวเอง") ในข้อความแค่ 2 ย่อหน้า ว่า "จบคือจบ" กี่ครั้ง
- ส่วนเราก็ไม่ขอไปต่อเพราะเคลียร์ตั้งแต่ตอนคบกันแล้วว่าอย่าให้เรามีปัญหา
- แต่เราก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้ชายแล้ว จบคือจบ
- ในเมื่อผู้ชายเลือกเราแล้วทำไมเรายังไม่เอาอีก
- เราเลยนัดผู้ชายมาเคลียร์ว่า เรื่องของเรามันจบแล้ว เราไม่ไปต่อ
- แต่เราก็ใจแข็งไม่ไปต่อ
- เราก็ใจแข็งว่ายังไงก็จะจบ
แต่คุณดันตบท้ายด้วยข้อความนี้
เมื่อเราสองคนไม่ได้ติดต่อกัน เราก็มาย้อนคิดว่าเราตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่ไม่ยอมไปต่อ ทั้งที่ผู้ชายก็ยอมเดินออกมาจากครอบครัวแล้ว และเราก็ยังอยากคุยกับผู้ชายอยู่ ความทรงจำดีดีก็มีมากมาย เพียงแต่เราห้ามใจตัวเองไว้
และคำถามนี้
.......ช่วยแสดงความคิดเห็นที ว่าเราควรทำยังไงต่อไป ?????
^
^
ถามแบบนี้ไม่เงิบเองเหรอ อุตส่าห์ทำ "เก่ง" อยู่ตั้ง 2 ย่อหน้า

ความคิดเห็นที่ 15
เดี๋ยวนะ รู้ว่าเค้ามีลูกมีเมียแล้วจะยุ่งกับเค้าทำไมอะ? หรือว่าหน้าตาอัปลักษณ์ขนาดหาชายโสดไม่ได้? จะพูดว่าถูกผู้ชายหลอกเพราะเมียที่บ้านเค้านอกใจ? ขอโทษนะ เราไม่เชื่อ โตๆกันแล้วไม่ใช่เด็ก 10 ขวบ อย่าเอาคำนี้มาอ้างดีกว่า แสดงว่านิสัยคุณก็ร้ายไม่แพ้กัน ทำครอบครัวเค้าแตกแยก เดินออกมาจากชีวิตเค้าแล้วยังมีการลังเลว่าทำถูกมั้ย? ยังอยากกลับไปอีก?
คนดีๆที่ไหนจะเอาคนที่มีลูกเมียอยู่แล้ว?
คือ ก็รู้อะนะว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้ แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานของศีลธรรมและความถูกต้องหรือเปล่า?
ขอโทษนะ เราเกลียดผู้หญิงแบบคุณ
คนดีๆที่ไหนจะเอาคนที่มีลูกเมียอยู่แล้ว?
คือ ก็รู้อะนะว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้ แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานของศีลธรรมและความถูกต้องหรือเปล่า?
ขอโทษนะ เราเกลียดผู้หญิงแบบคุณ

ความคิดเห็นที่ 14
อ่านๆมา เหมือนคุณจะพยายามเขียนให้ตัวเองดูดี เช่นปฎิเสธเขาตั้งแต่แรก ให้เขาไปเคลียกับเมียแล้ว พอเรื่องแตกคุณก็บอกว่าบอกเลิกกับเขาแล้ว จะไม่กลับไปหาเขาอีก ฯลฯ
คุณต้องการอะไรจากการตั้งกระทู้นี้คะ คำชมเชยว่าคุณแสนดียอมเลิกกับสามีชาวบ้าน(ทั้งที่เลิกพราะเมียหลวงจับได้) หรือคุณแสนดีที่ไม่ยอมรับเขากลับมาอีกหลังจากเขาถูกครอบครัวไล่ออกจากบ้าน
คุณต้องการอะไรจากการตั้งกระทู้นี้คะ คำชมเชยว่าคุณแสนดียอมเลิกกับสามีชาวบ้าน(ทั้งที่เลิกพราะเมียหลวงจับได้) หรือคุณแสนดีที่ไม่ยอมรับเขากลับมาอีกหลังจากเขาถูกครอบครัวไล่ออกจากบ้าน
ความคิดเห็นที่ 11
How could you involved with a married man?
You make yourself like an innocent girl from the beginning
and now turn to an angel who sacrify your love.
He is not yours from the beginning, so I think you misunderstood
your position here.
You slept with other woman's husband.
Don't you feel ashamed?
The way you wrote is like you try to turn your story from black
to white.
You cannot convince me..
You make yourself like an innocent girl from the beginning
and now turn to an angel who sacrify your love.
He is not yours from the beginning, so I think you misunderstood
your position here.
You slept with other woman's husband.
Don't you feel ashamed?
The way you wrote is like you try to turn your story from black
to white.
You cannot convince me..
แสดงความคิดเห็น
เมื่อผู้ชายเลือกคนมาทีหลัง แต่ไม่เลือกภรรยาที่มีลูกด้วยกันถึง 2 คน
แต่เราได้ย้ายที่พักใหม่ ผู้ชายเลยมาช่วยย้ายของ (เพื่อนของเรามีแฟนที่เป็นเพื่อนกับผู้ชายคนนี้) แล้วก็มีการเลี้ยงขอบคุณ..นี่คือจุดเริ่มต้น
พอได้คุยกันตอนแรก เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเรายังไม่รู้จัก แต่ผ่านไป 3-4 วัน ผู้ชายคนนี้ก็แอ๊ดไลน์เรามา เราก็แปลกใจ แต่ก็รับไป
คุยกันไปคุยกันมา ผู้ชายก็บอกว่า เราตลก อารมดี รับมุกทัน ชอบเราที่เป็นแบบนี้ และก็บอกชอบเราทุกวัน เราก็พูดไปว่าเลิกงานแล้วก็กลับไปหาลูก หาภรรยาที่บ้าน จะได้อยู่กันพร้อมหน้า ผู้ชายก็เริ่มเล่าว่าภรรยาเขาไม่สนใจ ทานข้าวเสร็จก็นั่งเล่นโทรศัพท์ ต่างคนต่างอยู่ มีปัญหากันแต่ไม่ได้ทะเลาะกันไม่ได้เสียงดังใส่กัน แล้วผู้ชายก็เริ่มอยากมาหาเรา อยากมาใกล้ชิด เราก็ยังไม่มีใครและไม่อยากปิดกั้นตัวเอง ส่วนเรื่องครอบครัวผู้ชายเราก็ไม่ได้ไปยุ่ง ก็คุยไปเรื่อยๆจนผู้ชายขอคบ เราก็คิดอยู่พักใหญ่ และตอบตกลงไป แต่หลังจากนั้นผู้ชายก็มาหาบ่อยขึ้น อย฿่กับเรานานขึ้นและกลับบ้านดึกทุกวัน ส่วนเราก็ถามว่า ที่บ้านไม่ว่าอะไรหรอ ผู้ชายก็บอกว่าเขาไม่ว่าอะไรหรอก โตๆกันแล้ว แต่เรารู้สึกไม่บายใจเลยบอกให้ผู้ชายไปคุยกับภรรยาว่ากำลังคบกับเราอยู่ เพราะเราไม่อยากมีปัญหา วันต่อมาผู้ชายก็มาบอกว่าไปคุยแล้ว ภรรยาเขาโอเค เพราะภรรยาเขาก็คุยกับคนอื่นเหมือนกัน และมีคนไปรับถึงที่บ้าน เราก็ถามว่า พ่อ แม่ กับน้องสาวล่ะ ผู้ชายก็บอกว่าเขาก็โอเค ไม่ได้ว่าอะไร
เรากับผู้ชายก็คบกันเรื่อยๆ ไปดูหนังด้วยกันบ้าง กินข้าวนอกบ้านบ้าง และในที่สุดก็มีอะไรกัน ทุกอย่างกำลังจะไปด้วยดี อยู่ๆก็มีข่าวว่าภรรยาเขาจับได้ว่าผู้ชายคุยกับเรา ถ้าอยากได้มากก็เอาไปเลย เราก็งง แต่เราก็ไปถามฝ่ายชายว่ามีอะไรจะบอกเราหรือป่าว แต่เขาก็บอกว่าไม่มี จะโกหกไปทำไมอึดอัดเปล่าๆ เราก็เชื่อใจเขา ไม่อยากคิดมาก ผ่านไปอาทิตย์หนึ่ง ภรรยากับน้องสาวของผู้ชายมาหาเราถึงที่บ้าน คำพูดแรกที่ภรรยาเขาถามคือ น้องอยากได้มากใช่มั้ย ถ้าอยากได้ก็เอาไปเลย และก็ถามว่ามีอะไรกันหรือยัง เราก็ตอบว่ามีแล้ว แต่เราก็บอกว่าให้ไปคุยกับผู้ชายเองเราไม่รู้เรื่อง แต่เขาก็ไม่ยอมจะคุยให้รู้เรื่องวันนั้นเลย เราก็โอเค ภรรยาเขาก็เลยโทรหาผู้ชายว่าจะเอายังไง ไม่ดูแลลูกยังไม่พอ ยังกล่าวหาว่าภรรยามีชู้อีก ผู้ชายก็เลยบอกว่าเลือกเรา แต่ขอลูกไว้ แต่ภรรยาเขาไม่ยอม จะไม่ให้แตะต้องลูกเลย ผู้ชายเลยบอกว่า ขอโทษที่พูดแบบนั้น พูดไม่ทันคิด ขออยู่กับลูกเถอะ แต่ภรรยาเขาก็ไม่ยอม ส่วนเราก็ไม่ขอไปต่อเพราะเคลียร์ตั้งแต่ตอนคบกันแล้วว่าอย่าให้เรามีปัญหา สุดท้ายก็เกิดเรื่องจนได้ และฝ่ายทางครอบครัวเขาก็ไล่ผู้ชายออกจากบ้านแต่ผู้ชายยังไม่ยอมออก จนน้องสาวของเขาได้โทรมาหาเราว่าช่วยบอกผู้ชายทีว่าตอนนี้ทุกคนรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่เขาทำ แต่เราก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้ชายแล้ว จบคือจบ แต่น้องสาวของผู้ชายก็ยังไม่ยอมจบกับเรา ในเมื่อผู้ชายเลือกเราแล้วทำไมเรายังไม่เอาอีก ...???
เรื่องมันเกี่ยวโยงกับหลายคน เราเลยนัดผู้ชายมาเคลียร์ว่า เรื่องของเรามันจบแล้ว เราไม่ไปต่อ เราไม่อยากเดือดร้อน ถึงผู้ชายจะอ้อนวอนเราขอให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม เพราะเขายอมที่จะลาออกจากงานและไปหางานใหม่กับเรา ส่วนลูกก็จะส่งเงินให้ เรื่องครอบครัวก็ปล่อยให้เวลารักษามัน แต่เราก็ใจแข็งไม่ไปต่อ เพราะถึงเราจะไปต่อยังไงครอบครัวเขาก็ไม่ยอมรับเราอยู่ดีเพราะเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ทางครอบครัวของเราก็รู้เรื่องแล้วด้วย ไม่มีทางรับผู้ชายได้แน่นอน เราไม่อยากมีปัญหาทีหลัง ถึงผู้ชายจะบอกว่าหยุดอยู่ที่เรา รักเราจริงๆ ไม่งั้นคงไม่เลือกเราตั้งแต่แรก เราก็ใจแข็งว่ายังไงก็จะจบ
เมื่อเราสองคนไม่ได้ติดต่อกัน เราก็มาย้อนคิดว่าเราตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่ไม่ยอมไปต่อ ทั้งที่ผู้ชายก็ยอมเดินออกมาจากครอบครัวแล้ว และเราก็ยังอยากคุยกับผู้ชายอยู่ ความทรงจำดีดีก็มีมากมาย เพียงแต่เราห้ามใจตัวเองไว้
...
....
ช่วยแสดงความคิดเห็นที ว่าเราควรทำยังไงต่อไป ?????