เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงเกิดขึ้นกับผมเมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมา และผมจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต...
อกหัก.. ครั้งแรก.... อุทิศแด่ความเจ้าชู้งี่เง่าและไม่รู้จักโตของตัวเอง
ผมรู้สึกดีกับเขามากๆ ตั้งแต่ผมยังอยู่เมืองนอก ตั้งแต่เรายังไม่เคยเห็นหน้ากันจริงๆ
หัวใจพังๆของผมก็เริ่มต้นจากตรงนี้แหละ
ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอผู้ชายน่ารักๆคนนี้ (ไม่ต้องตกใจนะครับ เดี๋ยวนี้โลกเปิดกว้างแล้ว)
ผมเรียนอยู่ที่ปักกิ่ง เรียนมาได้ปีนึง ก็อยากกลับไปพักที่ไทยสักหน่อย
ใกล้ปิดเทอมจัดกระเป๋ารอไว้บางส่วน เหลืออีกอาทิตย์กว่าๆก็จะกลับแล้ว
ที่จีนเล่นอินสตาแกรมได้นะครับ เฟสบุคก็เล่นได้ถ้ามี VPN
อินสตาแกรมเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมรู้จักเขา
ผมจำได้ว่าครั้งแรกเขามากดไลค์รูปผม
อินสตาแกรมของเขามีแต่รูปแก้วกาแฟกับร้านกาแฟสวยๆ มีรูปที่เห็นหน้าไม่กี่รูป
แต่เขาก็น่ารักมากๆ แว๊บแรกที่เห็นผมก็ชอบเขาทันที
ผมกำลังจะกดไลค์ตอบไป.. แต่ผมก็ต้องชะงัก เพราะเขามีรูปที่ถ่ายคู่กับแฟนเก่าคนแรกของเรา
เราเลยกดเข้าไปอ่าน content ข้างใน โล่งอกไป เป็นแค่เพื่อนกัน (จริงรึเปล่าไม่รู้)
ผมจะรู้สึกเฉยๆมากถ้าผมเลิกกับแฟนเก่าแบบสวยๆ แต่มันไม่ใช่...
ในใจก็กลัวว่าเขาต้องไปคุยกันแน่ว่าผมนิสัยไม่ดียังไง
แต่ผมก็กดไลค์เขากลับไป และเขาก็กดตอบกลับมาในเวลาไม่ถึง5นาที
เป็นแบบนี้อยู่หลายรูปครับ
ด้วยความที่ชอบมากๆ ผมเลยไปกดหาชื่อเล่นของเขาจากเฟสบุค และก็บังเอิญเจอซะด้วยสิ
ผมเลยแอดไปแล้วก็คุยกับเขาใน personal message
ผมสัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนหยิ่งนิดๆ ถือตัว วางตัวในจุดยืนที่โอเค นั่นแหละทำให้เขาดูน่าค้นหามากๆ
ใกล้ถึงวันจะสอบแล้ว ผมเลยไม่ค่อยได้คุยกับเขา แต่ก็ยังเก็บความรู้สึกดีๆเอาไว้อยู่ ช่วงนั้นผมลงรูปอะไร เขาก็มากดไลค์นะครับ เหมือนว่าเขายังสนใจผมอยู่บ้าง
การสอบก็ราบรื่นดีครับ ภาษาจีนไม่ค่อยยาก เน้นจำตัวอักษรให้ได้ก็พอ วิธีใช้เหมือนภาษาไทยเลย
ผมโดดสอบมาหนึ่งวิชาด้วยครับ เพราะอยากกลับไปไทยให้ทันรับปริญญาเพื่อน
ผมกลับมาไทยได้ไม่นาน ผมก็ขอไลน์เขา (ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าผมขอตั้งแต่ที่จีนรึเปล่า ลืมแล้ว ฮ่าๆ)
ผมคุยไลน์กะเขา ผมชอบบ่นๆว่าอยากไปต่างจังหวัด คิดถึงประเทศไทย
เราก็คุยกันหลายเรื่อง สุดท้ายผมก็ถามครับว่ามีแฟนหรือเปล่า
เขาไม่มีแฟนครับ เขาบอก ผมก็เชื่อครับ
แต่จู่ๆเขาก็ตอบผมน้อยมากๆ นานๆหลายชั่วโมงถึงจะตอบทีนึง เป็นแบบนี้ประมาณสองสามวัน
จนผมก็ไปคุยกับคนอื่น เพราะคิดว่าเขาไม่สนใจแล้ว ผมคิดว่ามันเสียเวลาที่ผมมาเฝ้ารอคนที่ไม่สนใจผมสักนิด
แต่มีอยู่คืนนึง หลังจากที่ผมออกไปทานข้าวกับเพื่อนแล้วกลับมาที่บ้าน (ตอนนั้นยังไม่ได้เปิดระบบเนตในมือถือ เลยต้องมาต่อ wifi ที่บ้าน)
เขาก็ตอบไลน์ที่ผมพิมค้างไว้ประมาณชาติกว่าๆ พร้อมกับข้อความสั้นๆ ชวนผมไปเที่ยวทะเล
ผมช๊อคไปสิบวิ แล้วรีบตอบกลับไปว่า จริงรึเปล่า? ตอนนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่คนที่ผมชอบชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด ทั้งๆที่ยังไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน
ผมก็กล้าๆกลัวๆครับ เพราะตอนกลับไทยใหม่ๆผมอ้วนขึ้นเยอะมาก ดำด้วย เพราะอยู่จีนไม่ได้ดูแลตัวเองเลย แถมทรงผมยังเจ๊กสุดๆ แต่ผมก็ตอบตกลงครับ เพราะไม่อยากให้พลาดโอกาส
คืนนั้นน่าจะเป็นวันศุกร์คับ วันรุ่งขึ้นตกลงว่าจะไปพัทยากัน เขาขับรถไปให้ เพราะผมบอกเขาว่ายังขับรถไม่แข็ง พวกเราวางแผนว่าจะไปกันตอนบ่ายๆ
ผมตื่นแต่เช้าก็บอกแม่ว่าจะไปพัทยาตอนบ่าย แม่ไม่ว่าครับ เพราะเข้าใจว่าผมอยู่ปักกิ่งไม่เคยเจอทะเลอยู่แล้ว อีกอย่างผมก็อายุ 23 แล้วด้วย
ผมไปรอเขาที่หน้าซอยรางน้ำ ไลน์หาก็นานมากกว่าจะตอบ โทรไปก็ไม่รับ ตอนแรกผมนึกว่าโดนหลอกซะแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็โทรกลับมา แล้วฝากให้ผมซื้ออะไรไปให้เขากินหน่อย ผมเลยเข้าไปในห้างเซ็นจูรี่ ซื้อ KFCมาชุดนึงครับ
แว๊บแรกที่ผมเปิดประตูรถเขาออกมา ผมเห็นเขานั่งอยู่ตรงฝั่งคนขับ หน้าตาน่ารักน้อยกว่าในรูปนิดหน่อย แต่ดูกวนตีนและมีสเน่ห์กว่ามากๆ หนวดก็ไม่ได้โกน หน้าตาดูอดหลับอดนอน
ผมอายมากครับ เพราะตัวผมนี่สิ ทั้งโทรม ทั้งอ้วน (อารมณ์คนอยู่เมืองนอกเป็นปีๆ อาหารจีนมันๆ ไม่ทาครีมกันแดดเพราะไม่มีแดด)
ทำอะไรไม่ถูกเลย แต่เขาก็คุยกับผมปกติ ทำทุกอย่างเหมือนปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมก็แอบคิดว่าเขาคงผิดหวังที่เห็นผมในโทรมๆแบบนี้ (ปกติผมโทรมจะไม่ออกจากบ้านเลยครับ ต้องrepairจนกว่าจะรู้สึกว่าสามารถออกไปต่อสู้กับคนกรุงฯสมัยนี้ที่หน้าตาดีกันเหลือเกิน)
ด้วยนิสัยส่วนตัวผมชอบเทคแคร์คนอื่นอยู่แล้ว ผมก็ป้อนไก่ป้อนเฟรนช์ไฟร์ให้เขา คอยหยิบน้ำให้เป็นพักๆ ตัวผมเองก็กินด้วย
(เขาขับๆรถไปผมก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาบ้าง 555) <<<นิสัยแย่ ไม่ควรลอกเลียนแบบครับ
ในใจผมคิดนะครับว่าผมต้องบอกว่า ผมรู้จักกับเพื่อนของเขา ซึ่งก็คือแฟนเก่าผม
ผมตัดสินใจอยู่นานมากๆ ผมก็เลยเอ่ยปากบอกไป
"เอ่อ คือ เราเคยเป็นแฟนของ XX นะ" ผมก็ไม่มองหน้าเขา แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมาทำให้ผมรู้สึกกังวลมากขึ้น
"เรื่องนั้นเรารู้นานแล้วแหละ เราได้ยินชื่อนายมานานแล้วแหละ ตั้งแต่ก่อนเป็นเพื่อน XX อีก แล้วพอเราเป็นเพื่อนกับมัน เพื่อนสนิทมันก็ชอบล้อมันประจำเกี่ยวกับนาย"
"ทำไมถึงรู้จักชื่อเราล่ะ เราไปอยู่เมืองนอกนานอยู่นะ"
"นายเจ้าชู้จะตาย มีใครไม่รู้จักบ้าง.."
พอจบประโยคนี้ผมก็เงียบเลยครับ ไปต่อไม่ถูก ผมเดาออกเลยว่าเขาต้องไปคุยอะไรกันไว้แน่ๆ หรือไม่ก็ต้องรับรู้อะไรเสียๆหายๆของผมมาแน่ๆ
ค่อยๆทยอยลงนะครับ เรื่องมันยาว T-T....
หัวใจพังๆ.... (ประสบการณ์อกหักครั้งแรกที่ยากจะลืม, ชช นะอย่าตกใจ)
ผมรู้สึกดีกับเขามากๆ ตั้งแต่ผมยังอยู่เมืองนอก ตั้งแต่เรายังไม่เคยเห็นหน้ากันจริงๆ
หัวใจพังๆของผมก็เริ่มต้นจากตรงนี้แหละ
ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอผู้ชายน่ารักๆคนนี้ (ไม่ต้องตกใจนะครับ เดี๋ยวนี้โลกเปิดกว้างแล้ว)
ผมเรียนอยู่ที่ปักกิ่ง เรียนมาได้ปีนึง ก็อยากกลับไปพักที่ไทยสักหน่อย
ใกล้ปิดเทอมจัดกระเป๋ารอไว้บางส่วน เหลืออีกอาทิตย์กว่าๆก็จะกลับแล้ว
ที่จีนเล่นอินสตาแกรมได้นะครับ เฟสบุคก็เล่นได้ถ้ามี VPN
อินสตาแกรมเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมรู้จักเขา
ผมจำได้ว่าครั้งแรกเขามากดไลค์รูปผม
อินสตาแกรมของเขามีแต่รูปแก้วกาแฟกับร้านกาแฟสวยๆ มีรูปที่เห็นหน้าไม่กี่รูป
แต่เขาก็น่ารักมากๆ แว๊บแรกที่เห็นผมก็ชอบเขาทันที
ผมกำลังจะกดไลค์ตอบไป.. แต่ผมก็ต้องชะงัก เพราะเขามีรูปที่ถ่ายคู่กับแฟนเก่าคนแรกของเรา
เราเลยกดเข้าไปอ่าน content ข้างใน โล่งอกไป เป็นแค่เพื่อนกัน (จริงรึเปล่าไม่รู้)
ผมจะรู้สึกเฉยๆมากถ้าผมเลิกกับแฟนเก่าแบบสวยๆ แต่มันไม่ใช่...
ในใจก็กลัวว่าเขาต้องไปคุยกันแน่ว่าผมนิสัยไม่ดียังไง
แต่ผมก็กดไลค์เขากลับไป และเขาก็กดตอบกลับมาในเวลาไม่ถึง5นาที
เป็นแบบนี้อยู่หลายรูปครับ
ด้วยความที่ชอบมากๆ ผมเลยไปกดหาชื่อเล่นของเขาจากเฟสบุค และก็บังเอิญเจอซะด้วยสิ
ผมเลยแอดไปแล้วก็คุยกับเขาใน personal message
ผมสัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนหยิ่งนิดๆ ถือตัว วางตัวในจุดยืนที่โอเค นั่นแหละทำให้เขาดูน่าค้นหามากๆ
ใกล้ถึงวันจะสอบแล้ว ผมเลยไม่ค่อยได้คุยกับเขา แต่ก็ยังเก็บความรู้สึกดีๆเอาไว้อยู่ ช่วงนั้นผมลงรูปอะไร เขาก็มากดไลค์นะครับ เหมือนว่าเขายังสนใจผมอยู่บ้าง
การสอบก็ราบรื่นดีครับ ภาษาจีนไม่ค่อยยาก เน้นจำตัวอักษรให้ได้ก็พอ วิธีใช้เหมือนภาษาไทยเลย
ผมโดดสอบมาหนึ่งวิชาด้วยครับ เพราะอยากกลับไปไทยให้ทันรับปริญญาเพื่อน
ผมกลับมาไทยได้ไม่นาน ผมก็ขอไลน์เขา (ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าผมขอตั้งแต่ที่จีนรึเปล่า ลืมแล้ว ฮ่าๆ)
ผมคุยไลน์กะเขา ผมชอบบ่นๆว่าอยากไปต่างจังหวัด คิดถึงประเทศไทย
เราก็คุยกันหลายเรื่อง สุดท้ายผมก็ถามครับว่ามีแฟนหรือเปล่า
เขาไม่มีแฟนครับ เขาบอก ผมก็เชื่อครับ
แต่จู่ๆเขาก็ตอบผมน้อยมากๆ นานๆหลายชั่วโมงถึงจะตอบทีนึง เป็นแบบนี้ประมาณสองสามวัน
จนผมก็ไปคุยกับคนอื่น เพราะคิดว่าเขาไม่สนใจแล้ว ผมคิดว่ามันเสียเวลาที่ผมมาเฝ้ารอคนที่ไม่สนใจผมสักนิด
แต่มีอยู่คืนนึง หลังจากที่ผมออกไปทานข้าวกับเพื่อนแล้วกลับมาที่บ้าน (ตอนนั้นยังไม่ได้เปิดระบบเนตในมือถือ เลยต้องมาต่อ wifi ที่บ้าน)
เขาก็ตอบไลน์ที่ผมพิมค้างไว้ประมาณชาติกว่าๆ พร้อมกับข้อความสั้นๆ ชวนผมไปเที่ยวทะเล
ผมช๊อคไปสิบวิ แล้วรีบตอบกลับไปว่า จริงรึเปล่า? ตอนนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่คนที่ผมชอบชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด ทั้งๆที่ยังไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน
ผมก็กล้าๆกลัวๆครับ เพราะตอนกลับไทยใหม่ๆผมอ้วนขึ้นเยอะมาก ดำด้วย เพราะอยู่จีนไม่ได้ดูแลตัวเองเลย แถมทรงผมยังเจ๊กสุดๆ แต่ผมก็ตอบตกลงครับ เพราะไม่อยากให้พลาดโอกาส
คืนนั้นน่าจะเป็นวันศุกร์คับ วันรุ่งขึ้นตกลงว่าจะไปพัทยากัน เขาขับรถไปให้ เพราะผมบอกเขาว่ายังขับรถไม่แข็ง พวกเราวางแผนว่าจะไปกันตอนบ่ายๆ
ผมตื่นแต่เช้าก็บอกแม่ว่าจะไปพัทยาตอนบ่าย แม่ไม่ว่าครับ เพราะเข้าใจว่าผมอยู่ปักกิ่งไม่เคยเจอทะเลอยู่แล้ว อีกอย่างผมก็อายุ 23 แล้วด้วย
ผมไปรอเขาที่หน้าซอยรางน้ำ ไลน์หาก็นานมากกว่าจะตอบ โทรไปก็ไม่รับ ตอนแรกผมนึกว่าโดนหลอกซะแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็โทรกลับมา แล้วฝากให้ผมซื้ออะไรไปให้เขากินหน่อย ผมเลยเข้าไปในห้างเซ็นจูรี่ ซื้อ KFCมาชุดนึงครับ
แว๊บแรกที่ผมเปิดประตูรถเขาออกมา ผมเห็นเขานั่งอยู่ตรงฝั่งคนขับ หน้าตาน่ารักน้อยกว่าในรูปนิดหน่อย แต่ดูกวนตีนและมีสเน่ห์กว่ามากๆ หนวดก็ไม่ได้โกน หน้าตาดูอดหลับอดนอน
ผมอายมากครับ เพราะตัวผมนี่สิ ทั้งโทรม ทั้งอ้วน (อารมณ์คนอยู่เมืองนอกเป็นปีๆ อาหารจีนมันๆ ไม่ทาครีมกันแดดเพราะไม่มีแดด)
ทำอะไรไม่ถูกเลย แต่เขาก็คุยกับผมปกติ ทำทุกอย่างเหมือนปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมก็แอบคิดว่าเขาคงผิดหวังที่เห็นผมในโทรมๆแบบนี้ (ปกติผมโทรมจะไม่ออกจากบ้านเลยครับ ต้องrepairจนกว่าจะรู้สึกว่าสามารถออกไปต่อสู้กับคนกรุงฯสมัยนี้ที่หน้าตาดีกันเหลือเกิน)
ด้วยนิสัยส่วนตัวผมชอบเทคแคร์คนอื่นอยู่แล้ว ผมก็ป้อนไก่ป้อนเฟรนช์ไฟร์ให้เขา คอยหยิบน้ำให้เป็นพักๆ ตัวผมเองก็กินด้วย
(เขาขับๆรถไปผมก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาบ้าง 555) <<<นิสัยแย่ ไม่ควรลอกเลียนแบบครับ
ในใจผมคิดนะครับว่าผมต้องบอกว่า ผมรู้จักกับเพื่อนของเขา ซึ่งก็คือแฟนเก่าผม
ผมตัดสินใจอยู่นานมากๆ ผมก็เลยเอ่ยปากบอกไป
"เอ่อ คือ เราเคยเป็นแฟนของ XX นะ" ผมก็ไม่มองหน้าเขา แต่สิ่งที่เขาตอบกลับมาทำให้ผมรู้สึกกังวลมากขึ้น
"เรื่องนั้นเรารู้นานแล้วแหละ เราได้ยินชื่อนายมานานแล้วแหละ ตั้งแต่ก่อนเป็นเพื่อน XX อีก แล้วพอเราเป็นเพื่อนกับมัน เพื่อนสนิทมันก็ชอบล้อมันประจำเกี่ยวกับนาย"
"ทำไมถึงรู้จักชื่อเราล่ะ เราไปอยู่เมืองนอกนานอยู่นะ"
"นายเจ้าชู้จะตาย มีใครไม่รู้จักบ้าง.."
พอจบประโยคนี้ผมก็เงียบเลยครับ ไปต่อไม่ถูก ผมเดาออกเลยว่าเขาต้องไปคุยอะไรกันไว้แน่ๆ หรือไม่ก็ต้องรับรู้อะไรเสียๆหายๆของผมมาแน่ๆ
ค่อยๆทยอยลงนะครับ เรื่องมันยาว T-T....