ความเชื่อ ความศรัทธา และความงมงาย

กระทู้สนทนา
ผมมีความเห็นเช่นนี้

ความเชื่อ เมื่อกล่าวถึงความเชื่อย่อมแสดงว่ายังไม่รู้จริงในสิ่งที่เชื่อ เพราะถ้ารู้จริงก็คงไม่ต้องบอกว่าเชื่อ

ความเชื่อที่ผ่านการพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน มีโยนิโสมนสิการ ประกอบด้วยปัญญา ย่อมก่อให้เกิดศรัทธา
เมื่อศรัทธาแล้ว หากมีศรัทธาอย่างแรงกล้าก็จะก่อให้เกิดความเพียรในการปฎิบัติธรรมอันสมควรแก่ธรรม

ความเชื่อที่ขาดการไตร่ตรอง ไม่ประกอบด้วยปัญญา ย่อมมีโอกาสก่อให้เกิดเป็นความงมงาย

แต่หากเชื่อคนที่ไตร่ตรองอย่างถึ่ถ้วน มีโยนิโสมนสิการ ประกอบด้วยปัญญา ก็ไม่ใช่ความงมงาย แต่ก็ไม่ใช่ความศรัทธาเช่นกัน
แต่ก็ยังมีประโยชน์เกิดแก่ผู้นั้นบ้างตามสมควร

เรื่องของความเชื่อคงบังคับกันไม่ได้ ทั้งนี้แล้วแต่พื้นฐาน ประสบการณ์ เหตุการณ์ต่างๆที่แต่ละคนประสบ รวมถึงจริต สติปัญญา การเรียนรู้ ของแต่ละคน

เมื่อมีความแตกต่างทางความเชื่อ
หากมั่นใจว่าสิ่งที่เราเชื่อนั้นถูกต้องในทางธรรม ก็ควรที่จะชี้แนะผู้อื่นด้วยใจเมตตา ด้วยความเป็นกัลยาณมิตร
หากแนะนำตักเตือนแล้วไม่ได้ผล ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรมใครกรรมมัน ไม่ควรที่จะไปโกรธเคืองให้จิตเป็นอกุศล

เพราะเป็นธรรมดาที่พระธรรมจะต้องเสื่อมสูญไปตามกาลเวลาที่ผ่านไปตามกฎไตรลักษณ์ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่