Leading word . . . คำนำ - _ -‘’
เนื่องด้วยความที่ผมเข้ามาเสพมาสืบกระทู้พาเที่ยวญี่ปุ่นจากที่นี่มานมนาน
แล้วประจวบเหมาะว่าก่อนที่จะไปเที่ยวรอบนี้ ผมพึ่งซื้อกล้องให้ตัวเองตัวแรกในชีวิต
จึงกำเนิดเกิดทริปเที่ยวแบบเห่อกล้องสุดชีวิต ก็ยิงมั่วยิงไปเรื่อยเลยครับ ไปไหนก็ยิงๆๆๆๆ
ระหว่างอยู่ที่นู่นก็เลยคิดอยากลองตั้งกระทู้พาเที่ยวขึ้นมา
อาจจะไม่ได้เที่ยวโหดมาก เราเน้นพักผ่อนตามอัธยาศัยตลอดเวลา อยากไปไหนก็ไป อยากกินไหนก็กิน
ไปเหมือนไปอยู่มากกว่าเที่ยว ซึ่งผมว่ามันก็ดีไปอีกแบบนึงนะ ทุกอย่างมันจะหลวมๆ ไม่ค่อยกดดันตัวเองเวลาจะไปไหนแล้ว failed
ยังไงก่อนจะเริ่มขอฝากช่องทางติดต่อไว้นะครับ
www.facebook.com/GG.kasemsarn
IG : @GG.Georgie
ปล. ในทริปนี้จะประกอบไปด้วย . . จอร์จ / จิ๋ว / ต้นกล้า
ปล. Trip นี้สำหรับผมมันคือ Tripสวรรค์ . . ฉะนั้นนนนนน . . ฉันจะไม่นับ KCAL ! 555555555555
ปล. หากข้อมูลส่วนไหนไม่เป๊ะ ขออภัยมา ณ ที่นี้
ปล. บางรูปอาจถ่ายจากมือถือ ขออภัยมา ณ ที่นี้ เช่นกัน

เอ๊ามา ! เริ่มเลยละกัน . .
วันแรก TAXI จากบางจากมาสุวรรณภูมิ . . flight ออก 11.30น.
ที่ไหนมีร้าน ที่นั่นมีเธอ . .
ด้วยความเห่อกล้อง . . จัดเอง แอคเอง ถ่ายเอง หน้า gate
หลังจากนั้นก็ขึ้นเครื่อง . . ระยะเวลาราว ๆ 5 ชม.ครึ่ง ไม่แวะ ไม่พัก บินตรงโอซาก้า
สำหรับผมคนที่ไม่ค่อยถูกกับเครื่องบิน . . มันลำบากพอดู แต่ถึงยังงั้นก็ต้องขอขอบคุณหนังเรื่อง Pompeii ที่เป็นยานอนหลับชั้นเลิศให้กระผม
ถึงที่หมายตอนนั้นราว ๆ 19.00น. ต้นกล้าขับรถมารับ . . อากาศร้อนกว่าบ้านเรา หน้าดีใจจริง ๆ หนีร้อนมากมาหาร้อนโคตร
และแน่นอน ถึงเวลากิน ทุกครั้งที่ผมมาญี่ปุ่นจะพยายามกินนอกบ้านทุกมื้อ อาจจะไม่ได้ร้านแพงร้านดัง
ร้านบ้านๆข้างทางก็ได้ เพียงแต่เราชอบในความใส่ใจของคนประเทศเค้า . . ใส่ใจในการทำ ใส่ใจในการบริการ
ใส่ใจความสะอาด ใส่ใจมันทุกอย่างจริงๆ ซึ่งร้านที่กำลังจะไปกินนี้ ผมขอเรียกร้านประเภทนี้ว่า”ร้านก๊งเหล้า”ละกัน
ต้องอธิบายว่าร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้น จะเป็นในลักษณะขายอาหารประเภทเดียว
ร้านราเมงขายราเมง ร้านทงคัตซึขายทงคัตซึ . . จะไม่ค่อยมีร้านอาหารที่รวม variety แบบ ZEN / FUJI บ้านเรา
แต่ว่าถ้าเราอยากกินอะไรที่มี variety หลายๆอย่าง หลายๆแบบคละๆกัน เราต้องหา “ร้านก๊งเหล้า”
ซึ่งร้านแรกที่จะไปกินอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน แถวสถานี ทานิมาจิ 6 โจวเมะ . . นั่งรถไฟสายทานิมาจิ ลงทางออกที่4 เลี้ยวชวาและเดินไปเรื่อยๆ
จะเจอทางเข้าที่มีร้านทาโกยากิตรงปากซอย เดินตรงไปเรื่อยๆ ร้านจะอยู่ขวามือ
ป้ายหน้าร้าน . . ชื่อร้าน “วงกลม ส้ามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม Okonomiyaki Fusaya”
ภายใน
น้ำรามูเนะ . . ใครเคยดูขำกลิ้งลิงกับหมา จะมีตอนนึงที่ปังคุงมันหาทางเปิดขวด
ซึ่งก็คือต้องกดลูกแก้วด้านบนลง ซึ่งผมชอบเอามาก ๆ มันได้ฟิลลิ่งสุด ๆ รสเปรี๊ยวนำหวานตาม
ยานแม่เทียบท่า
จานแรก เนงิ ชิโอะยากิ กรอบนอก ในหนึบ ๆ รสหวานเนงิ ตัดเปรี๊ยวเค็มด้วยเกลือกับมะนาว
จานสองยากิโซบะ
จานสาม ดมเปยากิ (มั้ง) เป็นแป้งคลุกกับไข่ปลา . . น่าจะนำไปย่าง , ห่อสาหร่าย แล้วย่างซ้ำอีกที (ผมมั่ว ผิดขออภัย5555)
อันนี้เหนียวๆหนึบๆ กลิ่นไข่ปลาบวกกลิ่นโนริได้อารมณ์โอทอปวินเทจเจแพนมาก ๆ
จานสี่ โอโคโนมิยากิ . . ไม่เหมือนร้านอื่น ไม่เหมือนเลยแม้แต่นิดเดียว . . มันไม่กรอบ แต่นุ่ม/ฟู/ละลาย เอามากๆ
ด้านในเป็นไข่ความสุกประมาณ 70% คือเข้าปากแล้วละลายยยยย
ทีนี้ก็ถึงพระเอก . . เปิดหม้อมาเจอหมูสามชั้น sliced บางๆ วางบนภูเขาถั่วงอก
ซึ่งผมเป็นคนนึงครับที่เกลียดถั่วงอกเป็นชีวิตจิตใจ ไม่กินเลยไม่ว่าจะเมนูอะไรก็ตาม
แต่เมนูนี้สุดยอด สุดยอดมาก ๆ มัน simple แบบที่สุด ไม่มีการปรุงแต่งอะไรใด ๆ
มันเป็นแค่หมู(เทพ) ที่นึ่งพร้อมถั่วงอก(เทพ) จิ้มพอนซึ(เทพ)
หมูนุ่มเหนียวมัน ถั่วงอกไม่เหม็นเลยยยย เข้าปากแล้วกรอบ , แตก , น้ำระเบิดคาปาก
เมนูนี้คงเป็นเมนูขีดจำกัดสายเลือด คือมาทำกินที่ไทยคงไม่ได้รสชาตินี้แน่ ๆ วัตถุดิบรสชาติไม่เหมือนกัน
ครั้งแรกในชีวิต ที่ฟินจากถั่วงอก
และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ . . ของหวาน
จานนี้หน้าตาสวนทางกับรสชาติมาก ๆ . . icecream vanilla + มันต้ม
มันคือสุดยอด combination . . ไอศครีมนุ่มๆเย็นๆ กับมันต้มร้อนๆเหนียวๆหน่อย
ที่สำคัญคือ มันเค้าหวานมาก หวานกว่าไอศครีมซะด้วยซ้ำ พอตักเข้าปาก แทนที่จะเป็นไอศครีมนำมันตาม กลับกลายเป็นมันคือพระเอกและกลิ่นไอศกรีมตาม
มันคือที่สุดแห่งแจ้มาก ๆ มากจนอยากกลับมาเปิดร้านขายในบ้านเรา แต่กลัวหามันหวานแบบเค้าไม่ได้ เป็นอีกหนึ่งเมนูขีดจำกัดสายเลือด

[in my opinion – ร้านนี้เป็นอีกร้านที่ครั้งหน้าไปจะไปซ้ำแน่นอน ชอบในความ simple ที่สามารถดึงรสชาติของวัตถุดิบธรรมดาๆออกมาได้งดงามมาก . . G’s score = 8.8/10]
กินเสร็จกลับบ้าน (บ้านต้นกล้าอยู่แถวๆสถานี fukaibashi) เล่นเกม , เดินเล่น family mart , นอน
[CR] [CR] 10DAYS in OSAKA JAPAN by GG :)
เนื่องด้วยความที่ผมเข้ามาเสพมาสืบกระทู้พาเที่ยวญี่ปุ่นจากที่นี่มานมนาน
แล้วประจวบเหมาะว่าก่อนที่จะไปเที่ยวรอบนี้ ผมพึ่งซื้อกล้องให้ตัวเองตัวแรกในชีวิต
จึงกำเนิดเกิดทริปเที่ยวแบบเห่อกล้องสุดชีวิต ก็ยิงมั่วยิงไปเรื่อยเลยครับ ไปไหนก็ยิงๆๆๆๆ
ระหว่างอยู่ที่นู่นก็เลยคิดอยากลองตั้งกระทู้พาเที่ยวขึ้นมา
อาจจะไม่ได้เที่ยวโหดมาก เราเน้นพักผ่อนตามอัธยาศัยตลอดเวลา อยากไปไหนก็ไป อยากกินไหนก็กิน
ไปเหมือนไปอยู่มากกว่าเที่ยว ซึ่งผมว่ามันก็ดีไปอีกแบบนึงนะ ทุกอย่างมันจะหลวมๆ ไม่ค่อยกดดันตัวเองเวลาจะไปไหนแล้ว failed
ยังไงก่อนจะเริ่มขอฝากช่องทางติดต่อไว้นะครับ
www.facebook.com/GG.kasemsarn
IG : @GG.Georgie
ปล. ในทริปนี้จะประกอบไปด้วย . . จอร์จ / จิ๋ว / ต้นกล้า
ปล. Trip นี้สำหรับผมมันคือ Tripสวรรค์ . . ฉะนั้นนนนนน . . ฉันจะไม่นับ KCAL ! 555555555555
ปล. หากข้อมูลส่วนไหนไม่เป๊ะ ขออภัยมา ณ ที่นี้
ปล. บางรูปอาจถ่ายจากมือถือ ขออภัยมา ณ ที่นี้ เช่นกัน
เอ๊ามา ! เริ่มเลยละกัน . .
วันแรก TAXI จากบางจากมาสุวรรณภูมิ . . flight ออก 11.30น.
ที่ไหนมีร้าน ที่นั่นมีเธอ . .
ด้วยความเห่อกล้อง . . จัดเอง แอคเอง ถ่ายเอง หน้า gate
หลังจากนั้นก็ขึ้นเครื่อง . . ระยะเวลาราว ๆ 5 ชม.ครึ่ง ไม่แวะ ไม่พัก บินตรงโอซาก้า
สำหรับผมคนที่ไม่ค่อยถูกกับเครื่องบิน . . มันลำบากพอดู แต่ถึงยังงั้นก็ต้องขอขอบคุณหนังเรื่อง Pompeii ที่เป็นยานอนหลับชั้นเลิศให้กระผม
ถึงที่หมายตอนนั้นราว ๆ 19.00น. ต้นกล้าขับรถมารับ . . อากาศร้อนกว่าบ้านเรา หน้าดีใจจริง ๆ หนีร้อนมากมาหาร้อนโคตร
และแน่นอน ถึงเวลากิน ทุกครั้งที่ผมมาญี่ปุ่นจะพยายามกินนอกบ้านทุกมื้อ อาจจะไม่ได้ร้านแพงร้านดัง
ร้านบ้านๆข้างทางก็ได้ เพียงแต่เราชอบในความใส่ใจของคนประเทศเค้า . . ใส่ใจในการทำ ใส่ใจในการบริการ
ใส่ใจความสะอาด ใส่ใจมันทุกอย่างจริงๆ ซึ่งร้านที่กำลังจะไปกินนี้ ผมขอเรียกร้านประเภทนี้ว่า”ร้านก๊งเหล้า”ละกัน
ต้องอธิบายว่าร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้น จะเป็นในลักษณะขายอาหารประเภทเดียว
ร้านราเมงขายราเมง ร้านทงคัตซึขายทงคัตซึ . . จะไม่ค่อยมีร้านอาหารที่รวม variety แบบ ZEN / FUJI บ้านเรา
แต่ว่าถ้าเราอยากกินอะไรที่มี variety หลายๆอย่าง หลายๆแบบคละๆกัน เราต้องหา “ร้านก๊งเหล้า”
ซึ่งร้านแรกที่จะไปกินอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน แถวสถานี ทานิมาจิ 6 โจวเมะ . . นั่งรถไฟสายทานิมาจิ ลงทางออกที่4 เลี้ยวชวาและเดินไปเรื่อยๆ
จะเจอทางเข้าที่มีร้านทาโกยากิตรงปากซอย เดินตรงไปเรื่อยๆ ร้านจะอยู่ขวามือ
ป้ายหน้าร้าน . . ชื่อร้าน “วงกลม ส้ามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม Okonomiyaki Fusaya”
ภายใน
น้ำรามูเนะ . . ใครเคยดูขำกลิ้งลิงกับหมา จะมีตอนนึงที่ปังคุงมันหาทางเปิดขวด
ซึ่งก็คือต้องกดลูกแก้วด้านบนลง ซึ่งผมชอบเอามาก ๆ มันได้ฟิลลิ่งสุด ๆ รสเปรี๊ยวนำหวานตาม
ยานแม่เทียบท่า
จานแรก เนงิ ชิโอะยากิ กรอบนอก ในหนึบ ๆ รสหวานเนงิ ตัดเปรี๊ยวเค็มด้วยเกลือกับมะนาว
จานสองยากิโซบะ
จานสาม ดมเปยากิ (มั้ง) เป็นแป้งคลุกกับไข่ปลา . . น่าจะนำไปย่าง , ห่อสาหร่าย แล้วย่างซ้ำอีกที (ผมมั่ว ผิดขออภัย5555)
อันนี้เหนียวๆหนึบๆ กลิ่นไข่ปลาบวกกลิ่นโนริได้อารมณ์โอทอปวินเทจเจแพนมาก ๆ
จานสี่ โอโคโนมิยากิ . . ไม่เหมือนร้านอื่น ไม่เหมือนเลยแม้แต่นิดเดียว . . มันไม่กรอบ แต่นุ่ม/ฟู/ละลาย เอามากๆ
ด้านในเป็นไข่ความสุกประมาณ 70% คือเข้าปากแล้วละลายยยยย
ทีนี้ก็ถึงพระเอก . . เปิดหม้อมาเจอหมูสามชั้น sliced บางๆ วางบนภูเขาถั่วงอก
ซึ่งผมเป็นคนนึงครับที่เกลียดถั่วงอกเป็นชีวิตจิตใจ ไม่กินเลยไม่ว่าจะเมนูอะไรก็ตาม
แต่เมนูนี้สุดยอด สุดยอดมาก ๆ มัน simple แบบที่สุด ไม่มีการปรุงแต่งอะไรใด ๆ
มันเป็นแค่หมู(เทพ) ที่นึ่งพร้อมถั่วงอก(เทพ) จิ้มพอนซึ(เทพ)
หมูนุ่มเหนียวมัน ถั่วงอกไม่เหม็นเลยยยย เข้าปากแล้วกรอบ , แตก , น้ำระเบิดคาปาก
เมนูนี้คงเป็นเมนูขีดจำกัดสายเลือด คือมาทำกินที่ไทยคงไม่ได้รสชาตินี้แน่ ๆ วัตถุดิบรสชาติไม่เหมือนกัน
ครั้งแรกในชีวิต ที่ฟินจากถั่วงอก
และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ . . ของหวาน
จานนี้หน้าตาสวนทางกับรสชาติมาก ๆ . . icecream vanilla + มันต้ม
มันคือสุดยอด combination . . ไอศครีมนุ่มๆเย็นๆ กับมันต้มร้อนๆเหนียวๆหน่อย
ที่สำคัญคือ มันเค้าหวานมาก หวานกว่าไอศครีมซะด้วยซ้ำ พอตักเข้าปาก แทนที่จะเป็นไอศครีมนำมันตาม กลับกลายเป็นมันคือพระเอกและกลิ่นไอศกรีมตาม
มันคือที่สุดแห่งแจ้มาก ๆ มากจนอยากกลับมาเปิดร้านขายในบ้านเรา แต่กลัวหามันหวานแบบเค้าไม่ได้ เป็นอีกหนึ่งเมนูขีดจำกัดสายเลือด
[in my opinion – ร้านนี้เป็นอีกร้านที่ครั้งหน้าไปจะไปซ้ำแน่นอน ชอบในความ simple ที่สามารถดึงรสชาติของวัตถุดิบธรรมดาๆออกมาได้งดงามมาก . . G’s score = 8.8/10]
กินเสร็จกลับบ้าน (บ้านต้นกล้าอยู่แถวๆสถานี fukaibashi) เล่นเกม , เดินเล่น family mart , นอน