เรื่องจริงของกฏแห่งกรรมกับน้องหมาตัวหนึ่ง

ได้ฟังจากปากของคนในครอบครัวหนึ่ง
เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในบ้านเล็ก ๆ ที่กำลังสร้างครอบครัว
มีพ่อ แม่ ลูก ครอบครัวนี้ประกอบอาชีพค้าขาย และปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์บริเวณบ้านนิดหน่อย
สัตว์ที่ว่านั่นก็คือ ไก่เนื้อ และไก่ไข่ เขาเล่าว่าสาเหตุที่เลี้ยงไก่เพราะอยากให้ลูกมีเพื่อนเล่น แก้เหงา
ซึ่งอาจจะดูแปลกกว่าบ้านอื่นที่เขาเลี้ยงสุนัขหรือแมว .... (ต่อ)
เขาเลี้ยงมาได้สักระยะ เจ้าไก่ 4-5 ตัวก็เริ่มเติบโต พอที่จะให้ผลพลอยได้จากการเลี้ยง นั่นก็คือ ไข่
ลูก ๆ ดูสนุกสนานกับเพื่อนแสนดี และประคบประหงมไก่ทุกตัวเป็นอย่างดี
วันหนึ่ง ไก่ในคอกที่เลี้ยงเริ่มหายไปทีละตัว ๆ โดยไร้สาเหตุ ทั่ง ๆ ที่ก็อยู่ในคอก ครอบครัวนี้จึงตั้งข้อสงสัยถึงสาเหตุที่ไก่หายไป
และได้สุ่มดูในช่วงเวลาที่อยู่บ้าน เพื่อต้องการจับผู้ต้องสงสัย และผ่านไปไม่นาน ผู้ต้องสงสัยก็มาถึง
มันคือหมาประมาณ 2-3 ตัวที่ทำหน้าที่เป็นผู้ล่าไก่นั่นเอง วันที่หนึ่ง เขาใช่วิธีไล่มันเมื่อมาทำร้ายไก่ แต่พลาด...
วันที่สอง ก็พลาดเหมือนเดิม จนไก่เริ่มเหลือน้อยลงทุกที แต่...วันนี้ไม่พลาดแล้ว เพราะ ผู้เป็นผู้นำครอบครัวจัดการ
กับน้องหมาตัวนั่นทันและเสียชีวิตในที่สุด หลังจากนั่นไก่ที่เหลือก็อยู่ครบตามปกติเหมือนเดิม
เพราะสุนัขที่เหลือ เห็นแบบนั่นคงไม่กล้าเข้ามาอีก การตายของผู้ต้องสงสัยไม่ได้ทำให้บ้านนี้สบายใจเท่าไหร่
เพราะไม่ได้ต้องการทำให้เหตุการณ์มันบานปลายถึงกระทั่งสุนัขตาย
หลังจากนั้น ผ่านไปประมาณ 4-5 ปี ก็มีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้น คือ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เช่น วัด คนทรงเจ้า หรือผู้ที่มีเซ้นทางด้าน
วิญญาณ (ประมาณนั่น) เขาก็ทักเสมอว่าเห็นภาพสุนัขตัวหนึ่งเดินพันแข้งพันขา
ทักคนแรก ยังเฉย ๆ เริ่มทักมากขึ้นเรื่อย ๆ แบบเดิม ๆ
ก็เริ่มเชื่อ และก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลบ่อยขึ้น (จากเดิมที่ทำปกติอยู่แล้ว) เวลาผ่านไป ส่วนบุญนั่นก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเท่าไหร่
เพราะคนที่ทำบุญอยู่สม่ำเสมอ คือ ภรรยา ที่ไม่ใช่คนกระทำ ทกคนที่มีเซ้นด้านนี้เขาก็ทักจนเหมือนเป็นความเคยชินไปสะแล้ว
อยู่มาวันหนึ่ง สามี (ที่เป็นคนกระทำ) อยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะ ภรรยาไปตจว.และลูกไปเรียนในเมืองกลับค่ำ
วันนั้นเหมือนทุกอย่างเป็นใจฝนตกหนัก ฟ้าร้อง มืด ได้อารมณ์สยองว่างั้นเถอะ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นไปหาลูกจากคนข้างบ้าน
และบอกว่า ผู้เป็นพ่อลื่นหัวกระแทกกับหน้าต่างนอนล้มไม่เป็นท่า ไม่นานลูกก็กลับมา สภาพที่เห็นคือ ศรีษะยุบลงไปจาก
การกระแทกนิดหน่อยแต่เห็นแล้วก็แทบไม่นานเชื่อว่าจะแรงถึงขนาด
ศรีษะยุบได้นี่ก็คงไม่ธรรมดา ไปดูสภาพที่กระจกบ้านแตกยับ ยังโชคดีตรงที่ตอนกระจกแตกแล้วคอไม่ไปพาดกับหน้าต่าง
เพราะ ไม่งั้นสภาพคงแย่หรืออาจตายได้แน่ ๆ ส่วนฝั่งภรรยาพอรู้เรื่องก็รีบกลับบ้านทันที และหลังจากนั่นก็มีเหตุการณ์แรง ๆ
แบบนี้แทบจะทุกครั้งเฉพาะตอนภรรยาไม่อยู่ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเมียไม่อยู่พี่แกโดนทุกที เวลาผ่านไปหลายปี
จนวันหนึ่งมีคนทักอีก ว่ามีสุนัขพันแข้งพันขา แต่ที่สยองสุด ๆ จากที่ได้ยินคือ เขารอวันที่คุณอยู่เพียงลำพัง
เขาจะซ้ำคุณจนตาย เขาไม่ยอมรับส่วนบุญ แต่เขาจะเอาชีวิตคุณไปแทน
ที่ช็อกกว่านั้น คือ สุนัขที่โดนกระทำจนตาย ดันผิดตัว คือ ตีผิดตัวนั่นเอง สุนัขตัวนี้อาจจะร่วมขบวนการกินไก่ก็จริง
แต่วันนั้นยังไม่ได้กินว่างั้นเถอะ โห...ได้ยินแบบนี้ การทำบุญใส่บาตรคงเอาไม่อยู่แระ วิธีทางแก้ที่ถูกแนะนำ
คือ ต้องบวช เพราะสิ่งที่ทำมันร้ายแรงเกินไปแต่การบวชไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แค่ทำให้เรื่องมันดูเบาลงเท่านั้นเอง
เพราะ สุนัขเขาก็ยังอาฆาตอยู่ดี เรื่องเราวผ่านมาจนถึงวันนี้
ก็ยังคงมีเรื่องเกิดขึ้นกับคน ๆ นี้เสมอเวลาคุณภรรยาไม่อยู่ต้องไปทำงานตจว.ไกล ๆ  แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจจะเบาลง
ไม่ได้ดูรุนแรงเหมือนเมื่อก่อน แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมเสมอ จากวันนั้นถึงวันนี้ คือ
สุนัขตัวที่ตาย ยังคงพันแข้งพันขา รอวันที่เขาเผลอ และ พลาดเท่านั้นเอง....

ขอขอบคุณเจ้าของเรื่องที่เล่าสู่กันฟังนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่