"สิ่งที่ทรายอยากจะบอกมัทก็คือ ทรายกลัวเจ็บ รักษาความรู้สึกกันหน่อยนะ"
มัท ชายอายุ 30 ทิ้งฝันความก้าวหน้าทางการงานที่นิวยอร์คกลับมาสะสางปัญหาที่กรุงเทพ เพราะพ่อฆ่าตัวตายจากภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ในปี 2540 การกลับมาของมัทมีแต่ความเคว้ง เหงา พ่อตาย ไม่สนิทกับน้อง หนี้สินของพ่อที่ทิ้งไว้รอวันสะสาง สิ่งที่ทำให้มัทรู้สึกไม่โดดเดี่ยวคือการที่กลับมาเจอกับคนรักเก่าอย่างทราย เรื่องมันคงง่ายเพราะทรายเองก็ไม่มีใคร แต่มัทต่างหากที่มีใครอีกคนรออยู่ที่นิวยอร์ค
นิค เด็กอายุ 18 ปี อยู่ในโลกเหงาๆ ระหว่างเขากับพี่ชายนอกจากช่องว่างทางวัยที่ต่างกันถึง 12 ปี ยังมีช่องว่างทางความรู้สึกถึงความผูกพันในครอบครัวที่ห่างกันยิ่งกว่ากรุงเทพ-นิวยอร์ค ปูเป้สาวข้างบ้าน คือเพื่อนแก้เหงาที่ดี และความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปลึกซึ้งมากขึ้นๆ แต่จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อพี่ชายจะส่งเขาไปเรียนที่นิวยอร์ค
ปูเป้ เด็กสาววัยรุ่นคอนโดอยู่ข้างบ้านนิค ติดยา ไม่คิดถึงอนาคตมากนัก และดูจะมีอดีต มีปมกับพี่สาว ในช่วงที่นิคเพิ่งสูญเสียพ่อ ห้องที่คอนโดของเธอเป็นที่ให้นิคมาอยู่แก้เหงา ปูเป้ดูจะเป็นสาววัยรุ่นที่โหยหารัก เพราะเธอมีปมในใจบางอย่างที่คิดว่าไม่มีใครรักเธอ การมีนิคมาอยู่ข้างๆทำให้โลกของเธอไม่เคว้งเกินกว่าที่เป็น
ทราย อดีตดาราสาวที่ผันตัวมาทำธุรกิจเกี่ยวกับการสำรวจตลาดผู้บริโภค แต่สิ่งที่เธอลืมสำรวจคือความต้องการภายในใจ และเมื่อเศรษฐกิจของประเทศไทยพังครืนลงในปี 2540 ธุรกิจของเธอก็ระส่ำอย่างเลี่ยงไม่ได้ แถมเพื่อนในกลุ่มที่เคยไปแฮงค์เอาท์ด้วยบ่อยๆยังเริ่มออกไปแต่งงานมีครอบครัว นั่นยิ่งทำให้โลกของทรายหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวกว่าเดิม จนวันที่มัท อดีตแฟนกลับมาจากนิวยอร์คหลังทิ้งเธอไปตั้งแต่จบมัธยม และถ่านไฟเก่าก็มักจะติดไฟได้อยู่เสมอ
4 ชีวิตในเรื่องนี้เป็นชีวิตที่เจอวิกฤตในใจไม่ต่างอะไรกับสภาพสังคมไทยในยุคฟองสบู่แตก 2540 ชีวิตที่โหยหาการเติมเต็ม จากจุดเปลี่ยนของสังคมและครอบครัวมันจึงส่งผลต่อชีวิตของคนทุกคน เหมือนเวลาเจอตีแสกหน้า ภาวะที่เกิดจากนั้นคือจะเบลอๆเอ๋อๆ เหมือนตกอยู่ใน"ภวังค์" ล่องลอย ไร้ทิศทาง และบางครั้งก็ติดกับดักทางอารมณ์จนถอนตัวไม่ขึ้น
สิ่งที่ชอบ
- หนังเล่าเรื่องแบบไปข้างหน้าเรื่อยๆ เข้าใจง่าย มีใส่ฉากที่เป็นความคิดเหมือนตกอยู่ในภวังค์แทรกมาเป็นระยะ และการใส่เพลงยุค 90 ของปุ๊กกี้, ติ๊ก ชิโร่ ฯลฯ มันดึงให้เราไปอยู่ในภวังค์ได้จริงๆ
- โทนหนังดูเหงาๆตามสไตล์หนังอาร์ท ภาพอึนๆ มึนๆ เหมือนหนังหว่องกาไว มันเข้ากันดีกับภาวะคนไทยยุค 2540 เบื่อ เซ็ง เครียด จน
- การแสดงของอนันดา เจนสุดา และอภิญญา คือถวายชีวิตและอาเศียรวาทให้เลย อนันดาคาแรคเตอร์ชัดมาก สายป่านดราม่าแบบจัดเต็ม เจนสุดาก็พูดไดอาลอกได้เป็นธรรมชาติมาหโดยเฉพาะในฉากสัมภาษณ์รายการทอล์คโชว์ คือไหลลื่นมากๆ เหมือนไม่มีบท
- ความเป็นหนังไทยสไตล์ฝรั่ง เล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมาไม่ดัดจริต เซ็กซ์ ยาเสพติด เรื่องผิดศีลธรรม ถูกถ่ายทอดแบบไม่กระมิดกระเมี้ยน แถมนักแสดงก็เล่นแบบเข้าถึงมันจริงๆ ฉากเซ็กซ์ของสายป่านคือสิ่งที่ทำเอาอารมณ์เตลิดไปไกลเลย ยกให้มันเป็นฉากเมคเลิฟในหนังไทยที่เข้าถึงอารมณ์ที่สุดเรื่องหนึ่ง
- บท คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้ คำพูดตัวละครดูมีความคม และดูไม่เหมือนบทหนัง แต่ดูจับต้องได้ แต่ขณะเดียวกันมันแอบบาดเข้าไปข้างในหน่อยๆ ขอบคุณนักแสดงด้วย ถ่ายทอดได้ดีทีเดียว
- นักแสดงรับเชิญ คือแอบปังหลายคน คทลิน่า กรอสงี้ ใครทันรู้จักเธอบ้างครับ นางแบบเธอกับฉันยุคที่เราย่างเข้าวัยรุ่นเลยนะ แล้วก็ยังมี พิชสินีย์ ตันวิบูลย์ ซุเปอร์โมเดลไทยยุคนี้ มีพี่หมวย อริสรา พี่ต้น ตระการ แก้ว ซาซ่า และที่เซอร์ไพรส์มากคือ พี่ปู กมลชนก ปานใจ พี่สาวคนสวยของผมเอง ทุกคนล้วนมาทำให้เมืองไทยในยุค 90 ในหนังดูเรียลขึ้นมากๆ
สิ่งที่ไม่ชอบ
- การถ่ายภาพในช่วงแรกๆ กล้องดูสั่นๆ ภาพมันเลยไม่สมูท แต่หลังจากนั้นมันก็ดีขึ้นๆเรื่อย
- การใส่บริบทยุค 2540 เหมือนจะสุด แต่ก็ไม่สุด การที่กรุงเทพเปลี่ยนไปอย่างมากในช่วง 17 ปีที่ผ่านมาการหาโลเคชั่นที่ยังคงความเป็นยุค 90 จึงเป็นได้ยาก แต่ผกกก็เลือกหยิบเอาแฟ้มภาพข่าวมาตัดสลับกัน เลยพอทำให้เชื่อได้บ้างว่านั่นคือ ปี 2540 จริงๆ
หนังไม่ตลาดแน่นอน แต่ก็ไม่ถึงกับอาร์ทอินดี้จนเกินไป แค่ได้ดูการแสดงของอนันดา สายป่าน เจนสุดา บอกเลยว่าอิ่ม ส่วนยิ้มนักแสดงใหม่ก็ไม่ถึงกับดรอป แต่แค่ไม่ปังมากเท่านั้นเอง โดยส่วนตัว ชอบนะครับ ฝันอยากเห็นหนังไทยดราม่าแบบเรียลๆแบบนี้นานแล้ว ใครดูเรื่องนี้ก็อาจจะมีบ้างนะครับที่มันจะสะกิดแผลในใจนิดๆขึ้นมา โดยเฉพาะคนยุค Gen Y ในวัย 30+ การได้มาเห็นภาพเมืองไทยพังทลายและเสียเอกราชทางเศรษฐกิจในยุคนั้น เป็นเครื่องย้ำเตือนว่า อย่าประมาท จงมีสติ และอย่าติดอยู่ใน... "ภวังค์รัก"
ภวังค์รัก หนังไทยที่ดีลำดับต้นๆของปีนี้
"สิ่งที่ทรายอยากจะบอกมัทก็คือ ทรายกลัวเจ็บ รักษาความรู้สึกกันหน่อยนะ"
มัท ชายอายุ 30 ทิ้งฝันความก้าวหน้าทางการงานที่นิวยอร์คกลับมาสะสางปัญหาที่กรุงเทพ เพราะพ่อฆ่าตัวตายจากภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ในปี 2540 การกลับมาของมัทมีแต่ความเคว้ง เหงา พ่อตาย ไม่สนิทกับน้อง หนี้สินของพ่อที่ทิ้งไว้รอวันสะสาง สิ่งที่ทำให้มัทรู้สึกไม่โดดเดี่ยวคือการที่กลับมาเจอกับคนรักเก่าอย่างทราย เรื่องมันคงง่ายเพราะทรายเองก็ไม่มีใคร แต่มัทต่างหากที่มีใครอีกคนรออยู่ที่นิวยอร์ค
นิค เด็กอายุ 18 ปี อยู่ในโลกเหงาๆ ระหว่างเขากับพี่ชายนอกจากช่องว่างทางวัยที่ต่างกันถึง 12 ปี ยังมีช่องว่างทางความรู้สึกถึงความผูกพันในครอบครัวที่ห่างกันยิ่งกว่ากรุงเทพ-นิวยอร์ค ปูเป้สาวข้างบ้าน คือเพื่อนแก้เหงาที่ดี และความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปลึกซึ้งมากขึ้นๆ แต่จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อพี่ชายจะส่งเขาไปเรียนที่นิวยอร์ค
ปูเป้ เด็กสาววัยรุ่นคอนโดอยู่ข้างบ้านนิค ติดยา ไม่คิดถึงอนาคตมากนัก และดูจะมีอดีต มีปมกับพี่สาว ในช่วงที่นิคเพิ่งสูญเสียพ่อ ห้องที่คอนโดของเธอเป็นที่ให้นิคมาอยู่แก้เหงา ปูเป้ดูจะเป็นสาววัยรุ่นที่โหยหารัก เพราะเธอมีปมในใจบางอย่างที่คิดว่าไม่มีใครรักเธอ การมีนิคมาอยู่ข้างๆทำให้โลกของเธอไม่เคว้งเกินกว่าที่เป็น
ทราย อดีตดาราสาวที่ผันตัวมาทำธุรกิจเกี่ยวกับการสำรวจตลาดผู้บริโภค แต่สิ่งที่เธอลืมสำรวจคือความต้องการภายในใจ และเมื่อเศรษฐกิจของประเทศไทยพังครืนลงในปี 2540 ธุรกิจของเธอก็ระส่ำอย่างเลี่ยงไม่ได้ แถมเพื่อนในกลุ่มที่เคยไปแฮงค์เอาท์ด้วยบ่อยๆยังเริ่มออกไปแต่งงานมีครอบครัว นั่นยิ่งทำให้โลกของทรายหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวกว่าเดิม จนวันที่มัท อดีตแฟนกลับมาจากนิวยอร์คหลังทิ้งเธอไปตั้งแต่จบมัธยม และถ่านไฟเก่าก็มักจะติดไฟได้อยู่เสมอ
4 ชีวิตในเรื่องนี้เป็นชีวิตที่เจอวิกฤตในใจไม่ต่างอะไรกับสภาพสังคมไทยในยุคฟองสบู่แตก 2540 ชีวิตที่โหยหาการเติมเต็ม จากจุดเปลี่ยนของสังคมและครอบครัวมันจึงส่งผลต่อชีวิตของคนทุกคน เหมือนเวลาเจอตีแสกหน้า ภาวะที่เกิดจากนั้นคือจะเบลอๆเอ๋อๆ เหมือนตกอยู่ใน"ภวังค์" ล่องลอย ไร้ทิศทาง และบางครั้งก็ติดกับดักทางอารมณ์จนถอนตัวไม่ขึ้น
สิ่งที่ชอบ
- หนังเล่าเรื่องแบบไปข้างหน้าเรื่อยๆ เข้าใจง่าย มีใส่ฉากที่เป็นความคิดเหมือนตกอยู่ในภวังค์แทรกมาเป็นระยะ และการใส่เพลงยุค 90 ของปุ๊กกี้, ติ๊ก ชิโร่ ฯลฯ มันดึงให้เราไปอยู่ในภวังค์ได้จริงๆ
- โทนหนังดูเหงาๆตามสไตล์หนังอาร์ท ภาพอึนๆ มึนๆ เหมือนหนังหว่องกาไว มันเข้ากันดีกับภาวะคนไทยยุค 2540 เบื่อ เซ็ง เครียด จน
- การแสดงของอนันดา เจนสุดา และอภิญญา คือถวายชีวิตและอาเศียรวาทให้เลย อนันดาคาแรคเตอร์ชัดมาก สายป่านดราม่าแบบจัดเต็ม เจนสุดาก็พูดไดอาลอกได้เป็นธรรมชาติมาหโดยเฉพาะในฉากสัมภาษณ์รายการทอล์คโชว์ คือไหลลื่นมากๆ เหมือนไม่มีบท
- ความเป็นหนังไทยสไตล์ฝรั่ง เล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมาไม่ดัดจริต เซ็กซ์ ยาเสพติด เรื่องผิดศีลธรรม ถูกถ่ายทอดแบบไม่กระมิดกระเมี้ยน แถมนักแสดงก็เล่นแบบเข้าถึงมันจริงๆ ฉากเซ็กซ์ของสายป่านคือสิ่งที่ทำเอาอารมณ์เตลิดไปไกลเลย ยกให้มันเป็นฉากเมคเลิฟในหนังไทยที่เข้าถึงอารมณ์ที่สุดเรื่องหนึ่ง
- บท คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้ คำพูดตัวละครดูมีความคม และดูไม่เหมือนบทหนัง แต่ดูจับต้องได้ แต่ขณะเดียวกันมันแอบบาดเข้าไปข้างในหน่อยๆ ขอบคุณนักแสดงด้วย ถ่ายทอดได้ดีทีเดียว
- นักแสดงรับเชิญ คือแอบปังหลายคน คทลิน่า กรอสงี้ ใครทันรู้จักเธอบ้างครับ นางแบบเธอกับฉันยุคที่เราย่างเข้าวัยรุ่นเลยนะ แล้วก็ยังมี พิชสินีย์ ตันวิบูลย์ ซุเปอร์โมเดลไทยยุคนี้ มีพี่หมวย อริสรา พี่ต้น ตระการ แก้ว ซาซ่า และที่เซอร์ไพรส์มากคือ พี่ปู กมลชนก ปานใจ พี่สาวคนสวยของผมเอง ทุกคนล้วนมาทำให้เมืองไทยในยุค 90 ในหนังดูเรียลขึ้นมากๆ
สิ่งที่ไม่ชอบ
- การถ่ายภาพในช่วงแรกๆ กล้องดูสั่นๆ ภาพมันเลยไม่สมูท แต่หลังจากนั้นมันก็ดีขึ้นๆเรื่อย
- การใส่บริบทยุค 2540 เหมือนจะสุด แต่ก็ไม่สุด การที่กรุงเทพเปลี่ยนไปอย่างมากในช่วง 17 ปีที่ผ่านมาการหาโลเคชั่นที่ยังคงความเป็นยุค 90 จึงเป็นได้ยาก แต่ผกกก็เลือกหยิบเอาแฟ้มภาพข่าวมาตัดสลับกัน เลยพอทำให้เชื่อได้บ้างว่านั่นคือ ปี 2540 จริงๆ
หนังไม่ตลาดแน่นอน แต่ก็ไม่ถึงกับอาร์ทอินดี้จนเกินไป แค่ได้ดูการแสดงของอนันดา สายป่าน เจนสุดา บอกเลยว่าอิ่ม ส่วนยิ้มนักแสดงใหม่ก็ไม่ถึงกับดรอป แต่แค่ไม่ปังมากเท่านั้นเอง โดยส่วนตัว ชอบนะครับ ฝันอยากเห็นหนังไทยดราม่าแบบเรียลๆแบบนี้นานแล้ว ใครดูเรื่องนี้ก็อาจจะมีบ้างนะครับที่มันจะสะกิดแผลในใจนิดๆขึ้นมา โดยเฉพาะคนยุค Gen Y ในวัย 30+ การได้มาเห็นภาพเมืองไทยพังทลายและเสียเอกราชทางเศรษฐกิจในยุคนั้น เป็นเครื่องย้ำเตือนว่า อย่าประมาท จงมีสติ และอย่าติดอยู่ใน... "ภวังค์รัก"