ชายชุดดำไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตพล.อ ร่มเกล้าอย่างนี้ภรรยาคุณพล.อ.ร่มเกล้ากับ ถารว เสนเนียมก็ต้องรอความเป็นธรรมต่อไป

กระทู้สนทนา
หลังจากก่อนหน้านี้ ที่ตำรวจนำโดย พล.ต.อ สมยศ ได้แถลงเกียวกับการจับตัวชายชุดดำ  วันต่อมาแถลงว่าไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของ พล.อ ร่มเกล้า
และส่งฟ้องผู้ต้องหาแค่ข้อหาเบาหวิว พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาติ

ล่าสุด (18 กันยายน 2557) พล.ต.อ. สมยศ ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาในการดำเนินคดีชายชุดดำไม่เคยพาดพิงถึงกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง เจ้าหน้าที่ได้ทำตามพยานหลักฐานและไม่เคยกล่าวว่ากลุ่มชายชุดดำที่นำมาแถลงเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ พล.อ. ร่มเกล้า ธุวธรรม เพียงแต่จับกุมในข้อหาครอบครอบอาวุธสงครามเท่านั้น เนื่องจากจุดเกิดเหตุก็อยู่คนละจุดกับที่ พล.อ. ร่มเกล้า เสียชีวิต จึงต้องแจ้งทำความเข้าใจกับทางกลุ่ม นปช. แต่ทั้งนี้หากการสอบสวนขยายผลว่ามีความเชื่อมโยงจึงจะดำเนินการ โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่นิยมการคุกคามบีบคั้นหรือทำร้ายร่างกายผู้ถูกกล่าวหาให้รับสารภาพ และพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ที่มา http://hilight.kapook.com/view/108256


ข้อหาที่ฟ้องชายชุดดำ ใช้เอกสารถึง 775 หน้า จะเยอะไปไหน กับข้อหาเบาหวิว
       ข้อหาประกอบด้วย ร่วมกันมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตให้ครอบครอง และข้อหาพกพาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ที่มาข้อหา  http://hilight.kapook.com/view/108084

ก่อนหน้านี้ คุณนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาพล.อ ร่มเกล้า ได้ออกมาขอบคุณ ตำรวจ ยกใหญ่  แต่มาถึงวันนี้ไม่รู้ว่า ภรรยาคุณ ร่มเกล้าจะ รู้สึกอย่างไรหลังจากตำรวจ แถลงไป

คำแถลงขอบคุณ ตำรวจ ของคุณ นิชา
วันที่ 11 ก.ย. นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม นายทหารที่ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553 ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่แยกคอกวัว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ได้เขียนข้อความ ผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ Nicha Hiranburana Thuvatham ระบุว่า 1) จากการแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายชายชุดดำปี 2553 "ดิฉันขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ ที่ติดตามคดีให้ หลังจากหมดหวังไปแล้ว ขอขอบคุณ ค.ส.ช. และท่าน ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่กรุณาติดตามคดี เพื่อเรียกความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมกลับคืนมา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการปรองดองสมานฉันท์ ซึ่งข้ามผ่านไม่ได้ และเป็นมาตรฐานสากล ในเรื่องการค้นหาข้อเท็จจริงและกระบวนการยุติธรรม "

ที่มา คำขอบคุณ  http://www.thairath.co.th/content/449548
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่