สวัสดีค่ะเราชื่อจิ๊กนะคะ ชอบการเดินทางด้วยตัวเอง
ไม่ชอบไปกับทัวร์อ่ะ ไม่อิสระแถมพาไปซื้อของอีก ต้องซื้อทุกทีเพราะความเกรงใจอ่ะนะ (โดนมาแล้วไง555+++เข็ด)
จุดเริ่มต้นของทริปนี้เกิดจากการที่เราตั้งใจว่าปีนึงเราจะไปเที่ยวให้ได้ 1 ประเทศ
ปีนี้ก็เลยคิดว่าจะไปไหนดีน๊าาาาที่ไม่แพงมากและก็เดินทางง่าย
มีพี่ที่เรียนโทด้วยกันบอกว่าพี่อยากไปสิงคโปร์พาไปหน่อยดิ ก็เลยเอาวะปีนี้ไปสิงคโปร์ละกัน ทริปนี้จึงเกิดขึ้น
แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาทำรีวิวนะรูปก็เลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ รีวิวแรกให้อภัยด้วยนะ
เริ่มต้นเลยละกัน อันดับแรกเราหาสายการบินก่อนแน่นอนหละเน้นถูก555++ สรุปจบที่แอร์เอเชีย
จองไว้ที่แปดโมงกว่าแต่ทางแอร์เอเซียแจ้งเวลาใหม่เมื่อวันใกล้บินว่าเปลี่ยนเวลาเป็นหกโมงครึ่ง
เค้าบอกว่าต้องมาก่อนเวลา3ชั่วโมง ตี3 ต้องไปถึงแล้วสินะ ไม่เป็นไรบ้านอยู่แถวสนามบินอยู่แล้ว สบาย
ทริปนี้มีสมาชิก 5 คนนะคะ มีเรา-น้องชาย-เพื่อน-พี่ป.โทที่เรียนด้วยกัน-น้องของพี่เค้า (งง)
คืนก่อนวันเดินทางเพิ่งจัดกระเป๋าครับท่านนอนก็ไม่หลับเที่ยงคืนแล้ว(ปกตินอนดึกอยู่แล้วด้วย)
ต้องตื่นตี2 เพื่อไปสนามบินตี3 กว่าจะทำธุระส่วนตัวเสร็จกว่าจะหาแท็กซี่ได้ ไปถึงสนามบินตี4ค่ะ เอิ่มบ้านใกล้นะ
พอไปถึงป๊าดดดดแถวยาวมากกกกกเลยให้น้องชายเข้าไปต่อคิวก่อนส่วนเราไปแลกตังค์(คือไม่เตรียมพร้อมมากกกก)
พอไปถึงตั๋วเครื่องบินที่จองราคาถูกจากงานเที่ยวไทยไม่มีน้ำหนักกระเป๋าครับพี่น้องจ่ายเพิ่มอีกเป็นพัน
เช็คอินเรียบร้อยก็ไป ตม. เจ้าหน้าที่มาดูตั๋วเห็นเวลาแล้วโดนบ่นอีก โหเครื่องจะออกอยู่แล้วทำไมพึ่งมา บลาๆๆๆๆ
แล้วเค้าก็เปิดช่องใหม่เพิ่มสำหรับกลุ่มเราเลย (รู้สึกดี) เจ้าหน้าที่ปากร้ายแต่ใจดีนะ ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
คือแบบปั้มๆๆๆผ่านๆๆๆ แล้วบอกรีบวิ่งเลยนะเครื่องจะออกแล้ว
คือเขาประกาศเตือนครั้งสุดท้ายแล้วอ่ะแต่ก็มีคนวิ่งเหมือนเราเยอะ เราก็ขึ้นเครื่องเป็นกลุ่มรองสุดท้ายหอบแฮกๆกันเลยทีเดียว
ขึ้นเครื่องได้แล้วโล่งมั๊ยล่ะ

เครื่องลงแล้วฮะ

พอผ่าน ตม. มาได้ ก็เดินตามป้าย Train to City เลยค่ะเพื่อไปยังรถไฟฟ้า MRT แต่ก่อนอื่นต้องไปซื้อบัตรก่อนเราเลือกอันนี้

ซื้อสำหรับ 3 วันเลยค่ะ ราคา 20 เหรียญ แต่มีค่ามัดจำบัตรอีก 10 เหรียญ สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไม่จำกัดจำนวนครั้งรวมถึงรถบัสด้วยค่ะ
แต่ที่นี่ต้องแตะบัตรทั้งขึ้นรถและลงรถนะคะ เรามาลงที่สถานี Paya Lebar เราพักที่โรงแรม Hotel 81 sakura อยู่ตรงถนน Joo chiat ในแผนที่ดูไม่ไกลนะแต่เดินไปก็เหนื่อยมากเพราะอากาศร้อนสุดๆ ทั้งลากกระเป๋าเดินทาง พอมาถึงโรงแรมประมาณ 10 โมง ตามเวลาในสิงคโปร์ (เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง)
เขาให้เช็คอินได้บ่าย2 ถ้าจะเข้าห้องก่อนต้องจ่าย 500 เหรียญหรือเท่าไหร่นี่แหละจำไม่ได้
เราเลยตัดสินใจยังไม่เข้าห้องดีกว่า เสียดายตังค์ เลยฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนบอกเขาว่าเดี๋ยว 1 ทุ่ม จะเข้ามาเช็คอินใหม่
นั่งพักที่ล็อบบี้ให้หายเหนื่อยสักพักตากแอร์เย็นๆ แล้วก็ตัดสินใจลุยต่อค่ะ
แถวนี้มีวัดแขกเดินไปถ่ายรูปนิดนึงดีกว่า แต่ว่าเหมือนจะใกล้แต่เดินเหนื่อยอีกแล้วค่ะท่านผู้ชม

แค่ถ่ายรูปด้านหน้าเฉยๆนะคะไม่ได้เข้าไปข้างใน เป็นโรคกลัววัดแขกกลัวเสียงสวด**"
และร้านในหนังสือที่เค้าแนะนำมาก็อยู่ใกล้กัน ตั้งอยู่บนถนน East coast ชื่อร้าน Chicken King
ขอบอกว่าหิวมากๆและนี่คืออาหารมื้อแรกของเราในสิงคโปร์ค่ะ ราคาประมาณ 4 เหรียญ

ข้าวหน้าเป็ดกับยำเท้า(ตีน)ไก่มั้งเนี่ย อย่าเรียกว่ายำเลยเรียกว่าตีนไก่ใส่ซอสพริกเถอะ
หน้าตาเหมือนจะไม่อร่อยใช่มั้ยคะ เข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ อาหารที่นี่ไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่
กินเสร็จ โปรแกรมของเราคือไปไชน่าทาวน์ เพื่อไปซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกและนั่งชิงช้าสวรรค์
ดูจากแผนที่แล้วไชน่าทาวน์น่าจะต้องไปขึ้นรถอีกฝั่งนึงนะ เลยข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่ง
เพื่อที่จะลองนั่งรถบัสกันไป (จริงๆนั่งใต้ดินง่ายและเร็วกว่าแต่แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งชิวๆชมเมืองไปเรื่อย)
ที่ป้ายรถบัสจะมีบอกว่าสายไหนไปไหน เห็นไชน่าทาวน์ก็ขึ้นเลยจร้า สายไรไม่รู้ จำมะได้
ขึ้นมาอยู่บนรถแล้ว

จะบอกว่าเลยป้ายไป 1 ป้ายค่ะเลยเดินย้อนกลับมาไม่ไกลมาก
เรามากันที่ตึกสีแดงๆที่อยู่ตรงข้ามห้าง China Town Point จำชื่อไม่ได้แถมไม่ได้ถ่ายรูปมา ขึ้นไปชั้น 3เลยค่ะ
ไปที่ร้าน SEA Wheel ก็ไม่มีรูปอีกนั่นแหละ555++ เพื่อมาซื้อตั๋ว Universal Studio ราคาประมาณ 1600 บาท
และบัตร Singapore Flyer ราคาประมาณ 500 บาท ถามว่าทำไมไม่ไปซื้อที่หน้าประตูทางเข้าสวนสนุกเลย
คำตอบก็คือ ไม่ต้องเข้าแถวรอคิวและราคาถูกว่านิดหน่อย ยังไงก็มาไชน่าทาวน์อยู่แล้วเลยซื้อที่นี่ดีกว่า
ซื้อตั๋วเสร็จกลับมาฝั่งตรงข้าม นั่นก็คือห้าง China Town Point เพื่อมาเดินเล่นและมากินแมคโดนัลและกาแฟ
คืออาหารเมื่อเช้าไม่คุ้นเคยไง

มองไปบนห้างก็สวยดีนะ

มาดูบรรยากาศของไชน่าทาวน์กันบ้างของฝากเยอะเเยะเลยที่นี่

เดี๋ยวพรุ่งนี้มารีวิวใหม่นะคะ วันนี้ดึกมากแล้วต้องตื่นไปทำงานขอนอนก่อนน๊า บ๊าย บาย
[CR] รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ ไปเองก็ได้ง่ายเนอะ 7 - 9 ก.พ. 57 ^^"
ไม่ชอบไปกับทัวร์อ่ะ ไม่อิสระแถมพาไปซื้อของอีก ต้องซื้อทุกทีเพราะความเกรงใจอ่ะนะ (โดนมาแล้วไง555+++เข็ด)
จุดเริ่มต้นของทริปนี้เกิดจากการที่เราตั้งใจว่าปีนึงเราจะไปเที่ยวให้ได้ 1 ประเทศ
ปีนี้ก็เลยคิดว่าจะไปไหนดีน๊าาาาที่ไม่แพงมากและก็เดินทางง่าย
มีพี่ที่เรียนโทด้วยกันบอกว่าพี่อยากไปสิงคโปร์พาไปหน่อยดิ ก็เลยเอาวะปีนี้ไปสิงคโปร์ละกัน ทริปนี้จึงเกิดขึ้น
แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาทำรีวิวนะรูปก็เลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ รีวิวแรกให้อภัยด้วยนะ
เริ่มต้นเลยละกัน อันดับแรกเราหาสายการบินก่อนแน่นอนหละเน้นถูก555++ สรุปจบที่แอร์เอเชีย
จองไว้ที่แปดโมงกว่าแต่ทางแอร์เอเซียแจ้งเวลาใหม่เมื่อวันใกล้บินว่าเปลี่ยนเวลาเป็นหกโมงครึ่ง
เค้าบอกว่าต้องมาก่อนเวลา3ชั่วโมง ตี3 ต้องไปถึงแล้วสินะ ไม่เป็นไรบ้านอยู่แถวสนามบินอยู่แล้ว สบาย
ทริปนี้มีสมาชิก 5 คนนะคะ มีเรา-น้องชาย-เพื่อน-พี่ป.โทที่เรียนด้วยกัน-น้องของพี่เค้า (งง)
คืนก่อนวันเดินทางเพิ่งจัดกระเป๋าครับท่านนอนก็ไม่หลับเที่ยงคืนแล้ว(ปกตินอนดึกอยู่แล้วด้วย)
ต้องตื่นตี2 เพื่อไปสนามบินตี3 กว่าจะทำธุระส่วนตัวเสร็จกว่าจะหาแท็กซี่ได้ ไปถึงสนามบินตี4ค่ะ เอิ่มบ้านใกล้นะ
พอไปถึงป๊าดดดดแถวยาวมากกกกกเลยให้น้องชายเข้าไปต่อคิวก่อนส่วนเราไปแลกตังค์(คือไม่เตรียมพร้อมมากกกก)
พอไปถึงตั๋วเครื่องบินที่จองราคาถูกจากงานเที่ยวไทยไม่มีน้ำหนักกระเป๋าครับพี่น้องจ่ายเพิ่มอีกเป็นพัน
เช็คอินเรียบร้อยก็ไป ตม. เจ้าหน้าที่มาดูตั๋วเห็นเวลาแล้วโดนบ่นอีก โหเครื่องจะออกอยู่แล้วทำไมพึ่งมา บลาๆๆๆๆ
แล้วเค้าก็เปิดช่องใหม่เพิ่มสำหรับกลุ่มเราเลย (รู้สึกดี) เจ้าหน้าที่ปากร้ายแต่ใจดีนะ ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
คือแบบปั้มๆๆๆผ่านๆๆๆ แล้วบอกรีบวิ่งเลยนะเครื่องจะออกแล้ว
คือเขาประกาศเตือนครั้งสุดท้ายแล้วอ่ะแต่ก็มีคนวิ่งเหมือนเราเยอะ เราก็ขึ้นเครื่องเป็นกลุ่มรองสุดท้ายหอบแฮกๆกันเลยทีเดียว
ขึ้นเครื่องได้แล้วโล่งมั๊ยล่ะ
เครื่องลงแล้วฮะ
พอผ่าน ตม. มาได้ ก็เดินตามป้าย Train to City เลยค่ะเพื่อไปยังรถไฟฟ้า MRT แต่ก่อนอื่นต้องไปซื้อบัตรก่อนเราเลือกอันนี้
ซื้อสำหรับ 3 วันเลยค่ะ ราคา 20 เหรียญ แต่มีค่ามัดจำบัตรอีก 10 เหรียญ สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไม่จำกัดจำนวนครั้งรวมถึงรถบัสด้วยค่ะ
แต่ที่นี่ต้องแตะบัตรทั้งขึ้นรถและลงรถนะคะ เรามาลงที่สถานี Paya Lebar เราพักที่โรงแรม Hotel 81 sakura อยู่ตรงถนน Joo chiat ในแผนที่ดูไม่ไกลนะแต่เดินไปก็เหนื่อยมากเพราะอากาศร้อนสุดๆ ทั้งลากกระเป๋าเดินทาง พอมาถึงโรงแรมประมาณ 10 โมง ตามเวลาในสิงคโปร์ (เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง)
เขาให้เช็คอินได้บ่าย2 ถ้าจะเข้าห้องก่อนต้องจ่าย 500 เหรียญหรือเท่าไหร่นี่แหละจำไม่ได้
เราเลยตัดสินใจยังไม่เข้าห้องดีกว่า เสียดายตังค์ เลยฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนบอกเขาว่าเดี๋ยว 1 ทุ่ม จะเข้ามาเช็คอินใหม่
นั่งพักที่ล็อบบี้ให้หายเหนื่อยสักพักตากแอร์เย็นๆ แล้วก็ตัดสินใจลุยต่อค่ะ
แถวนี้มีวัดแขกเดินไปถ่ายรูปนิดนึงดีกว่า แต่ว่าเหมือนจะใกล้แต่เดินเหนื่อยอีกแล้วค่ะท่านผู้ชม
แค่ถ่ายรูปด้านหน้าเฉยๆนะคะไม่ได้เข้าไปข้างใน เป็นโรคกลัววัดแขกกลัวเสียงสวด**"
และร้านในหนังสือที่เค้าแนะนำมาก็อยู่ใกล้กัน ตั้งอยู่บนถนน East coast ชื่อร้าน Chicken King
ขอบอกว่าหิวมากๆและนี่คืออาหารมื้อแรกของเราในสิงคโปร์ค่ะ ราคาประมาณ 4 เหรียญ
ข้าวหน้าเป็ดกับยำเท้า(ตีน)ไก่มั้งเนี่ย อย่าเรียกว่ายำเลยเรียกว่าตีนไก่ใส่ซอสพริกเถอะ
หน้าตาเหมือนจะไม่อร่อยใช่มั้ยคะ เข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ อาหารที่นี่ไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่
กินเสร็จ โปรแกรมของเราคือไปไชน่าทาวน์ เพื่อไปซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกและนั่งชิงช้าสวรรค์
ดูจากแผนที่แล้วไชน่าทาวน์น่าจะต้องไปขึ้นรถอีกฝั่งนึงนะ เลยข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่ง
เพื่อที่จะลองนั่งรถบัสกันไป (จริงๆนั่งใต้ดินง่ายและเร็วกว่าแต่แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งชิวๆชมเมืองไปเรื่อย)
ที่ป้ายรถบัสจะมีบอกว่าสายไหนไปไหน เห็นไชน่าทาวน์ก็ขึ้นเลยจร้า สายไรไม่รู้ จำมะได้
ขึ้นมาอยู่บนรถแล้ว
จะบอกว่าเลยป้ายไป 1 ป้ายค่ะเลยเดินย้อนกลับมาไม่ไกลมาก
เรามากันที่ตึกสีแดงๆที่อยู่ตรงข้ามห้าง China Town Point จำชื่อไม่ได้แถมไม่ได้ถ่ายรูปมา ขึ้นไปชั้น 3เลยค่ะ
ไปที่ร้าน SEA Wheel ก็ไม่มีรูปอีกนั่นแหละ555++ เพื่อมาซื้อตั๋ว Universal Studio ราคาประมาณ 1600 บาท
และบัตร Singapore Flyer ราคาประมาณ 500 บาท ถามว่าทำไมไม่ไปซื้อที่หน้าประตูทางเข้าสวนสนุกเลย
คำตอบก็คือ ไม่ต้องเข้าแถวรอคิวและราคาถูกว่านิดหน่อย ยังไงก็มาไชน่าทาวน์อยู่แล้วเลยซื้อที่นี่ดีกว่า
ซื้อตั๋วเสร็จกลับมาฝั่งตรงข้าม นั่นก็คือห้าง China Town Point เพื่อมาเดินเล่นและมากินแมคโดนัลและกาแฟ
คืออาหารเมื่อเช้าไม่คุ้นเคยไง
มองไปบนห้างก็สวยดีนะ
มาดูบรรยากาศของไชน่าทาวน์กันบ้างของฝากเยอะเเยะเลยที่นี่
เดี๋ยวพรุ่งนี้มารีวิวใหม่นะคะ วันนี้ดึกมากแล้วต้องตื่นไปทำงานขอนอนก่อนน๊า บ๊าย บาย