..."ห้องเพลง คนรากหญ้า"("กลุ่มอดีตคนเคยสวยรากหญ้าสร้างชาติรักประชาธิปไตย นอนตะแคงจนตาแข็ง") 17/9/2557...!!!




...ทู้นี้เป็นทู้เพลง กลุ่มพวกเรายินดีต้อนรับสมาชิกชาวราชดำเนินทุกท่านนะคะ...



...โหลลลลล 1โหล 12 , 2 โหล 24 , 3โหล 36 , เทสท์
ทดสอบ ทดสอบ ไมค์ทำไมแพงจุง ทดสอบ ทดสอบ เทศท์ เทสท์
เรียนทั่นรองพญา In C ทั่นเลขาพิม ทั่นฝ่ายกฏหมายชุนเทียน
ทั่น 2 ระยะ "ฝ่ายการต่างประเทศและลูกค้าสัมพันธ์ "
ทั่นหมีน้อยตัวเล็ก เสมียญหน้าห้อง
ทั่นนู๋สร้างชาติ ผู้ก่อตั้ง ห้องเพลงคนรากหญ้า
และท่าน Old Law Boy นิติวิพากษ์ เป็นที่ปรึกษา (เงา) ด้านกดม่าย
ของหัวหน้าทีมฝ่ายกฎหมาย "กลุ่มอดีตคนเคยสวยรากหญ้าสร้างชาติรักประชาธิปไตย นอนตะแคงจนตาแข็ง"
รวมทั้งสวัสดีท่านสมาชิกที่น่ารักทุกท่าน...






...พอวิ่งมาถึง เขาพูดว่า สวัสดีครับแม่ เรามองกลับไปข้างหลังว่าจะมีคนอื่นมั้ย
แต่ก็ไม่มีใคร มีเราคนเดียว  เราก็เลยยิ้มให้เขา เขาถามเราว่า
คุณแม่จะเข้าไปข้างในมั้ยครับ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดี๋ยวผมพาคุณแม่ไป เราบอกว่าไม่ไปแล้ว เพราะดูท่าฝนจะตก
เขายืนเอามือประสานกันไว้ข้างหน้า เรายืนเอามือไขว้หลัง ต้องแหงนหน้ามองเขา
เขาตัวสูงเราตัวเล็ก เขามีเรื่องเย๊อะแย๊ะ คุยให้เราฟัง เรายืนฟังด้วยความตั้งใจ
เราพยักหน้าเมื่อเขาขอความเห็น และยิ้มให้เขาเพื่อที่เขาจะได้รู้ว่าเราสนใจเรื่องที่เขาพูด
เรามองดูเท้าเขาที่ใส่รองเท้าแตะ หล้งเท้าเริ่มออกสีคล้ำๆ แต่หน้าตาเขายังสดใสอยู่...



...ขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่ มีรถกระบะวิ่งมาจอดถาม
น้องเขาไปคุยกับคนขับ เรามองไปที่กระบะรถ มีผู้หญิงคน 1 อายุประมาณ 30+
นั่งกอดหมอน แล้วมีผู้หญิงอีก 3 คนนั่งมาด้วย 1ใน3คนนั้นพูดว่า
นี่เห็นมั้ย วัดน่าอยู่กว่าที่บ้านอีก เรามองคนพูด แล้วเราก็มองหน้าคนกอดหมอน
เราสบตากับคนกอดหมอน สายตาของเธอมีแต่ความว่างเปล่า
เราเริ่มอึดอัด เอามือที่ไขว้หลังออก เราเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้ง 2 ข้าง
มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่เรายืนสบตากับเธอ พอรถจะเคลื่อนออกเรายิ้มให้เธอ
เธอยิ้มน้อยๆที่มุมปาก แต่สายตาเธอยังว่างเปล่าเหมือนเดิม...





...แล้วเขาก็หันหน้ามาหาเราแล้วก็ยิ้มพร้อมบอกว่า เขาเอาคนป่วยมาส่งครับแม่
เราพยักหน้า แล้วพูดกับเขาว่า ดูท่าทางเธอแล้วเธอไม่อยากมาอยู่นี่น๊ะ
เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า เมื่อไม่กี่วันก็มีคนเอาผู้หญิงมาทิ้งไว้หน้าวัด
ฝนก็ตก กว่าจะเช้ามีคนมาเจอ ผู้หญิงก็แทบแย่ พอพูดถึงตรงนี้เราก็เงียบเขาก็เงียบ...

...เปิงมางที่แสดงก็จบลงแล้ว มีคนเริ่มทะยอยเดินออกมา
ตามที่เล่าบางคนก็เดินลำบากต้องนั่งรถเข็น
มีการหยอกล้อกัน ยกรถเดินล้อเดียว น้องเขาพูดว่า
ดูสิครับคุณแม่ ขนาดป่วยยังเล่นกันเหมือนเด็ก เราก็หัวเราะ น้องเขาหัวเราะ
เราบอกน้องเขาว่า แม่จะกลับแล้วน๊ะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เขาชะงักไปนิด 1 แล้วบอกขอบคุณครับแม่ เดินทางปลอดภัยนะครับ
เรายกมือขึ้นแล้วบอกเขาว่า บายนะลูก เขายกมือบายตอบ แล้วบอกบายครับแม่...


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



จึงเรียนมาเพื่อทราบว่าประธานสวย

(ประธาน  "กลุ่มอดีตคนเคยสวยรากหญ้าสร้างชาติรักประชาธิปไตย นอนตะแคงจนตาแข็ง")



คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 59
ฝากทีมงานบ้านรากหญ้า ลงชื่อสนับสนุน กิจกรรมของกลุ่มนอกกะลาด้วยนะคะ

ลงชื่อต่อ คห.ย่อยของคห.นี้เลย เพื่อแสดงตัวว่าอยู่ในทีมเดียวกัน

http://pantip.com/topic/32588712/comment39
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
จ่าพิเชษฐ์ฝากมาโพสท์ค่ะ


-----------------------------------------------------

คนที่ "หลงเสน่ห์" เพลงยุค 70 80  อย่างจ่า
จะไม่ลืมนักร้องหน้าเศร้าที่ชื่อ John O'Banion
กับเพลงที่ชื่อ satomi hakken den ของเขาแน่นอนครับ

งานชิ้นนี้อยู่ในปี 1983
ที่ยังคงมีคนคลิกเข้าไปหาฟังกันอยู่เสมอๆในยูทูป
และ เป็นงาน "สร้างชื่อ" ให้ O'Banion ดังเป็นพลุแตกในญี่ปุ่นครับ

ชื่อเพลงเป็นภาษาญี่ปุ่น
แต่ตัวเพลงเป็นเพลงฝรั่งครับ

มันเป็นเพลงประกอบหนังเรื่อง "8 ลูกแก้วอภินิหาร"
ที่บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าหญิงแห่งเมือง satomi
ที่มีหน้าที่ต้องปกป้องเมืองของตนเองจากผู้รุกราน

แต่เจ้าหญิงก็สู้ไม่ได้หรอกครับ
เลยต้องมอบของวิเศษที่มีอยู่ให้กับ 8 ซามูไร
เพื่อเอาไว้ใช้ต่อกรปกป้องอาณาจักรของเธอ

"หน้าหนัง" มันฟังดูแล้วเหมือนหนังบู๊
แต่ซาวนด์แทร็คเพลงนี้ของ  O'Banion
จ่าว่าแสนจะโรแมนติค และเพราะจับใจมากครับ

อ่อนหวาน นุ่มนวล ทั้งเมโลดี้และน้ำเสียงของ O'Banion

อาจเป็นเพราะจ่าโตมาในยุค 70 80 90
ก็เลยซาบซึ้งกับดนตรีในช่วงเวลานั้นครับ

O'Banion เป็นนักร้องที่ถือเป็นสัญญลักษณ์
ของการถ่ายเททางวัฒนธรรมระหว่าง East กับ West





คนญี่ปุ่นในยุคนั้นชอบเขามาก
เขามีงานในแนว "เวสท์โคสท์ สไตล์" ออกมาแค่ไม่กี่ชุดเท่านั้นครับ

แต่เขาดังสุดๆในญี่ปุ่นจากรางวัลที่งาน "โตเกียว มิวสิค เฟสฯ"

ก่อนวันเกิดอายุครบ 60 เพียง 2 วัน
O'Banion ก็ลาโลกนี้ไปที่บ้านเกิดของเขา
เขาตายท่ามกลางการรายล้อมของครอบครัวและเพื่อนฝูง
สาเหตุของการตายก็มาจากอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุระหว่างการออกทัวร์ครับ


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

จ่าเชื่อว่านักฟังเพลงในยุคนั้น
คงมีน้อยคนที่ไม่เคยได้ยินเพลง satomi hakken den
จากน้ำเสียงอันอบอุ่น ทุ้ม และอ่อนโยนของ  O'Banion ครับ

ลองฟังดูนะครับ ไม่แน่ว่าคุณๆอาจ "ตกหลุมรัก" งานในยุค 80 ชิ้นนี้เหมือนจ่าก็เป็นได้














จ่าพิเชษฐ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่