[CR] ลัดเลาะเกาะช้างวันฝนตก พักเมอร์เคียว เกาะช้าง ไฮด์อเวย์ (Mercure Koh Chang Hideaway)

เพื่อพิสูจน์ว่า เกาะช้างเที่ยวได้ทั้งปี และพอดีคะแนน ROP จะหมดอายุเลยต้องออกทริปแบบเร่งด่วน ปรึกษา ผบ.ทบ. เรียบร้อยว่าจะไปไหนดี ระหว่างเชียงราย เกาะช้าง หรือพัทยา ได้ข้อสรุปว่าเชียงรายไกลไปค่าใช้จ่ายเนอะ พัทยาใกล้ไปความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน สุดท้ายจบที่เกาะช้าง ถึงฝนตกก็ไม่เป็นไร เพราะจะไปนอนกับกิน แล้วก็กินกับนอน

จัดแจงจองห้องพักที่ เมอร์เคียว เกาะช้าง ไฮด์อเวย์ (Mercure Koh Chang Hideaway) ล่วงหน้า 7 วัน (ตามคำเตือนของบัตรกำนัล ROP)
ก่อนออกจากบ้านที่ศรีราชาศึกษาเส้นทาง (ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว) สรุปว่าจากบ้านเราไปท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้างได้ 3 ทาง สุดท้ายเลือกตามเส้นทาง 36 (ที่ใช้ประจำ) ระยะทางก็ราวๆ 272 กม. ใช้เวลาประมาณ 3.45 ชม. สำหรับใครที่มาจาก กทม. คงไม่ยากเพราะวิ่งมอเตอร์เวย์มาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับถนน 36 แบบไม่ต้องเลี้ยวไหนเลยครับ


เราออกจากบ้านประมาณ 9.30 น. ค่อยๆขับมาเรื่อยๆ แวะปั๊มบ้าง ร้านกาแฟบ้าง ไก่ย่างวิเชียรบุรีบ้าง(เยอะเหลือเกินระหว่างทาง) จนมาถึงท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้างประมาณ 13.00 น. ความจริงท่าเรือไปเกาะช้างมี 2 ท่า คือ เฟอร์รี่เกาะช้าง และ เซ็นเตอร์พอยท์เกาะเช้าง แต่ที่เราเลือกท่าเรือนี้เพราะเขาโฆษณาว่าเป็นทางเรือที่ได้มาตรฐานและใช้เวลาเดินทางสั้นที่สุด(ประมาณ 20 นาที)...จัดแจงซื้อตั๋วโดยสารสำหรับ 2 คนกับรถ 1 คัน จ่ายไป 280 บาทถ้วน สำหรับเที่ยวเดียว (รูปนี้เป็นตั๋วขากลับนะครับ ขาไปลืมถ่ายเพราะรีบไปต่อคิวขึ้นเรือ)


น่าเสียดายที่เรือเที่ยวก่อนหน้าออกไปก่อนเราไม่ถึง 5 นาที ยังเห็นลำเรืออยู่ใกล้ๆ เลยทำให้ต้องรอเที่ยวต่อไปอีก 30 นาที โดยมาจอดรอเป็นคันแรกเลย ก็เลยไม่เข้าใจว่าจะรีบมาเข้าคิวทำไม เพราะเรือไปแล้ว


ระหว่างรอเรือเที่ยวต่อไปในรถ ตาเหลือบไปเห็นป้ายโฆษณาของโรงแรมที่เราจะไปพัก เลยบอก ผบ.ทบ. ให้ดูพร้อมกับถามกลับมาว่า ว้าว!!! นั่นห้องที่เราจะไปพักเหรอ ผมตอบกลับว่า เหอะๆๆ เดี่ยวก็รู้ (ของฟรี จะดีขนาดนี้หรือเปล่า)


เรือมาล่ะขึ้นเรือกันดีกว่า ระหว่างนั่งเรือก็ไม่มีอะไรตื่นเต้นมากเพราะเรามาเกาะช้างเป็นครั้งที่ 3 ล่ะ นั่งมอง นั่น โน่น นี่ไปเรื่อย เลยไปเห็นว่าวันนี้เรามีเรือเล็กขอพ่วงไปด้วย


ระหว่างนั่งอยู่บนเรือ ด้วยความสงสัยผมเลยหยิบโทรศัพท์ฉลาด (smart phone) มาดูว่าตอนนี้อยู่ไหนแล้ว สิ่งที่เห็นก็คือเราอยู่กลางทะเล ซึ่งก็ไม่แปลก แต่ที่สะดุดตาก็คือ สถานที่บนเกาะช้างมีตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ทำไมใน Google Map ถึงแสดงเฉพาะโรงแรม ที่ผมกำลังจะไปพัก คือ เมอร์เคียม เกาะช้าง ไฮด์อะเวย์ ที่สำคัญยังรู้อีกว่าผมจะเข้าพักวันที่ 14 ก.ย. - 16 ก.ย. (มันจะรู้มากเกินไปล่ะ) ผมไปตั้งกระทู้ถามไว้ว่าทำไม ถ้าใครสนใจอยากรู้คำตอบตามไปอ่านได้เลยครับ http://pantip.com/topic/32581608


ใกล้ถึงเกาะล่ะ เตรียมตัวลงกันดีกว่า


พอเรือถึงเกาะ ผมขับรถลงจากเรือ มุ่งหน้าไปต่อที่โรงแรม เพราะจากแผนที่บอกว่าอยู่โน้น ท้ายเกาะเลย (วัดระยะทางก็ราวๆ 25 กม.) ถ้าเป็นทางราบก็คงขับสบายๆ 10 นาทีถึง แต่ที่นี่ทางต้องขึ้นเขาบ้าง สงสัยจะให้เวลานานกว่าเดิม
หลังจากขับรถผ่านเนินแรกมา ผ่านศาลเจ้าพ่อเกาะช้าง ลงเขามาแล้วก็มาจ๊ะเอ๋กับปั๊ม ปตท. มีปั๊มบนเกาะคงไม่แปลก ที่แต่ต้องเซอร์ไพส์คือ ปั๊มนี้มี LPG ด้วยแถมราคาก็ไม่ได้แพง (แบบไม่มีเหตุผล)


ทางขึ้นลงเขาและลัดเลาะระหว่างชายหาดทีหลายโค้ง หลายเนิน หลายเขา แต่ ผบ.ทบ.ผมถ่ายรูกมาได้รูปเดียวเองครับ ไม่รู้ว่าเพราะเมาโค้ง หรือตื่นตา ตื่นใจ


ขับรถต่อมาเรื่อยๆ ผ่านมาหลายหาด ทั้งหาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ ก็ยังไม่ถึงสักที ผ่านไปพักใหญ่จนมาเกือบท้ายเกาะก็ถึงซะที



ไม่รอช้ารีบเข้าไปเช็คอิน เพราะอยากรู้ว่าจะได้ห้องแบบไหน เข้าไปถึงได้รับการต้อนรับด้วยน้ำมะตูมกับผ้าเย๊น เย็น และระหว่างต่อรองกับ Reception อยู่ก็เลยโดนแอบถ่าย



ระหว่างรอการเจรจา ผบ.ทบ. ก็เลยเดินเก็บบรรยากาศบริเวณ Reception มาได้บ้างประปราย





จากการเจรจาอยู่พักใหญ่ สรุปได้ว่าบัตรกำนัล ROP ของเราจะได้ห้องพักแบบ Superior หรือแปลง่ายๆ คือห้องธรรมดาที่สุด แถมเรายังได้ดีลที่พิเศษด้วยคือ ไม่รวมอาการเช้า(เอิ้กๆๆ) ต้องจ่ายเพิ่มหัวล่ะ 440 บาท รวมแล้วต้องจ่ายเพิ่ม 1760 บาทเป็นค่าอาหารเช้า แล้วเรายังได้ข้อเสนอพิเศษอีกด้วยว่าถ้าอยากอัพเกรดเป็นห้องแบบ Ocean View ก็เพิ่มเงิน 1200 บาท (ไม่ต้องพูดถึงห้องแบบ Pool Access หรือ Pool Villa น่ะ) แน่นอนผมให้ไปมองหน้า ผบ.ทบ. แบบไม่ต้องถาม ได้รับคำตอบมาว่านอนมันห้องนี้แหละ เอาเงินไปกินข้าวดีกว่า ถ้าอยากเห็นทะเลก็เดินออกมาก็ได้...

ไปดูห้องกันดีกว่า....เนื่องจากห้องที่เราพักเป็นห้อง Superior และ Garden View ก็เลยต้องเดินลัดเลาะมาตามสวน ผ่านห้องแบบ Pool Access ให้เห็นพอให้ได้อิจฉา ส่วนห้อง Ocean View เรายังไม่เห็น



ถึงซะทีห้องที่เขาให้เราพัก จัดรูปให้ดูแบบเต็มๆ แบบไม่ต้องมีคำบรรยาย






ขอบรรยายหน่อย 2 รูปนี้เป็นส่วน Outdoor ที่อยู่หลังห้อง ใครที่ซาดิสต์ ชอบให้ยุงกัดก็มานั่งเล่นตอนเย็นๆ ได้



ต่อด้วยสิ่งอำนวยความสะดากในห้อง





หลังจากจัดแจงเก็บของเข้าห้องเรียบร้อย ได้เวลาออกไล่ล่า รูปถ่ายของโรงแรมล่ะ ไปดูกันต่อเลย เห็นกันหรือยังครับห้องแบบ Ocean View








เดินดูนั่น โน่น นี่เรียบร้อย เริ่มหิวแล้ว จากการค้นหาข้อมูลมา ได้ความว่าร้านอาหารทะเลเด่นๆ ดังๆ มีหลายร้านแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ท่าเรือและหมู่บ้านชาวประมงบ้านบางเบ้า ซึ่งเลยจากที่พักของเราไปนิดเดียว ก็เลยมุ่งหน้าไปแบบไม่ต้องรอถามใครอีก



สุดท้ายไปจบที่ร้านเรือนไทยซีฟู้ด เดินเข้าไปเจอป้ายรูปภาพอาหารหลายอย่าง และจากที่เขารีวิวกันมาก้มีเมนูแนะนำ หลายเมนูแต่เราไม่สั่ง แล้วก็สั่งมาเฉพาะเมนูที่เราอยากกิน คือ ฉู่ฉี่ปลาอินทรีย์ ต้มยำกุ้งและยำวุ้นเส้น หน้าตาเลยออกมาแบบนี้ สั่งมาแค่พอดีกินกันสองคน ราคาก็เลยพอดีกับกินสองคน ส่วนรสชาติเหรอ ไม่ต้องพูดถึงเด็ดและคุ้มค่าเกินราคาอาหารจริงๆ.....!!!! กินอิ่มก็เริ่มเย็น เรากลับไปพักผ่านที่ห้องดีกว่าครับ ไม่ไปไหนทั้งนั้นล่ะเย็นนี้




เช้าล่ะมาดูหน้าตาอาหารเช้าที่เราจ่ายไปคนล่ะ 440 บาทกันดีกว่า จริงๆอาหารมีเยอะนะครับ แต่พอดีตอนที่กำลังถ่ายรูป ฝรั่งเยอะ เขาคงนึกในใจว่าจะถ่ายไปทำไม มันก็แค่อาหาร แต่ไม่เป็นไรเก็บภาพผัดกระเพรามาละกัน รสชาติถูกปากจริงๆๆ





หลังจากเก็บแต้มสะสมเรื่องอาหารเช้าไปจนเต็มพุง ก็ออกมาเดินชมวิวยามเช้าริมชายหาดอีกรอบ คราวนี้เดินออกมาตามแนวหินที่เขาเรียงเอาไว้ถึงกลางทะเล เลยได้รูปสวยๆนี้มา แดดเริ่มแรงล่ะขอกลับเข้าห้องพักผ่อนดีกว่า!!!


ตื่นๆๆ เที่ยงแล้ว กระเพาะเริ่มทำงาน สั่งว่าออกไปหาอาหารเที่ยงกินได้แล้ว ระหว่างทางไม่รู้ว่าเป้นเพราะ ผบ.ทบ.ของผมมีสติมากขึ้นหรือว่ายังไง ถ่ายรูประหว่างทางมาได้พอสมควร โดยเฉพาะโค้ง 180' ที่เขาพูดถึงกัน ขางมาแลดูไม่เท่าไหร่เพราะเป็นช่วงลงเขา แต่ขากลับนี่สิเป็นช่วงขึ้นเขา เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หลังจากนั้นจะผ่านจุดชมวิวไก่แบ้ ขอแวะถ่ายรูปกับตู้ไปรษณีย์หน่อยละกัน




ออกจากจุดชมวิวไก่แบ้ไม่นาน เราก็เลยขับรถออกมาด้วยความตั้งใจจะไปร้านประจำที่เคยมาเกาะช้าง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ก็ต้องมาแวะ ร้านครัวเจ๊อิ๋ว นั่นเอง!!! ร้านนี้ถ้ามาจากโรงแรมก็จะอยู่ก่อนถึงหาดคลองพร้าว ทางขวามือครับ เช่นเดิม อาหารที่เคยกิน อาหารที่แนะนำเราไม่สั่ง แต่เราสั่ง หลนปูทะเล หอยเชลล์ผัดฉ่าและข้าวผัดปู ราคาก็ไม่แพงสำหรับสองคนเช่นเดิมครับ รสชาติก็เยี่ยม!! (แอบบอกว่าถ้าตัดหลนปูทะเลออกไป ราคาอาหารลดลงไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว)