ผมจะมาเล่าตำนานที่มาของคำว่า dessert ซึ่งแปลว่า ขนมหวาน ให้ฟังกันครับ
ในยุคสมัยที่อารยธรรมอียิปต์กำลังรุ่งเรืองอยู่นั้น มนุษย์ยังไม่รู้จักเมนูอาหารจำพวก ของหวาน หรือ ขนมหวานครับ -กันเป็นแต่พวกเมนคอร์สที่ต้องไปล่าสัตว์เป็นอย่างเดียว แต่ด้วยความที่ฟาโรต์กษัตริย์แห่งอียิปต์ทรง-สัตว์มาเกือบทุกชนิดแล้ว และรู้สึกว่าชีวิตยังขาดรสชาติอะไรไปซักกะอย่างนึงแต่ยังคิดไม่ตกว่าสิ่งนั้นคืออะไร จึงได้สั่งให้ทหารเอกของเค้าออกตามหาวัตถุดิบที่จะสามารถสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆขึ้นมา ก่อนทหารเอกคนนั้นจะออกเดินทาง ฟาโรต์ทรงได้ตั้งฉายาให้ทหารเอกเพื่อเป็นฤกษ์งามยามดี ชื่อว่า "gold" ซึ่งหมายถึงทอง

ทองได้ขี่อูฐคู่ใจของเขาออกเดินทางตามหาวัตถุดิบในการจะทำเมนูอาหารตามพระทัยขององค์ท่านฟาโรต์ เขาอยู่ท่ามกลางทะเลทราย(desert)
ที่แสนกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา และด้วยอุณหภูมิความร้อนยังกะไมโครเวฟ ทำให้สถาณการณ์ชักแย่ลงเรื่อยๆ
ผ่านมาหลายสิบชั่วโมงก็ไม่มีทีท่าว่าจะเจอวัตถุดิบไรซักกะอย่างที่จะเอาไปประกอบอาหารได้เลย เห็นทีก็จะมีแต่ทราย(sand)
และแล้วความซวยก็มาเยือน ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง+กับความร้อนระอุอันร้อนแรงบนทะเลทราย ก็ทำให้อูฐถึงกับล้มพับนอนกองลงบนพื้นทะเลทราย..ใช่ครับมันกำลังจะตาย

"ไม่นะ คาเมล(camel)ที่รักของข้า" ทองเขย่าตัวอูฐของเค้าเพื่อหวังให้อูฐได้สติกลับคืนมา (คิดว่านี้เป็นละครช่อง3หรือไง)
น้ำตาของอูฐไหลลงอาบแก้มก่อนสิ้นใจตาย...มันไหลหยดลงบนพื้นทะเลทรายแล้วก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์
หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้ว วัตถุดิบที่ทองเค้าออกตามหานั้นอยู่บนทะเลทรายมาตลอด แต่แค่เค้าไม่รู้วิธีปลดล็อคเท่านั้นเอง บนพื้นทะเลทรายนั้นมีวัตถุดิบชนิดนึงซึ่งต้องทำปฏิกริยากับน้ำตาของอูฐเท่านั้นจึงจะเกิดเป็นวัตุดิบที่ให้ออกรสหวาน ซึ่งในยุคสมัยนั้นยังไม่เคยมีการค้นพบ แต่มาพบครั้งแรกก็ตอนที่ไอ้อูฐตัวนี้ตายอะแหละ

ปัจจุบันมันคือ น้ำตาลทราย ครับ ทำไมถึงเรียกว่า น้ำตาลทราย เพราะเค้าตั้งชื่อสดุดีให้กับเจ้าอูฐตัวนั้น ที่ "น้ำตา+ทราย" ส่วน ตัว "ล" หมายถึงการลาจากครับ รวมเป็น "น้ำตาลทราย"

เท่านี้ยังไม่พอ ไอ้เจ้าน้ำตาลทรายนี้ยังไปทำปฏิกริยากับแร่ธาตุต่างๆบนทะเลทรายและด้วยความร้อนแรงของดวงอาทิตย์ทำให้เกิดวัตถุดิบความหวานอีกชนิดนึงเรียกว่า "caramel" ที่ตั้งชื่อcaramel ก็เพราะว่า สดุดีให้กับเจ้าอูฐตัวนั้นอีกนั่นแหละครับ camel(อูฐ) ra(สุริยเทพราห์) รวมกันเป็น caramel
คำว่าของหวาน(dessert)จึงมีรากศัพท์มาจากคำว่าทะเลทราย(desert) อันเป็นการสดุดีให้กับแหล่งสถาณที่ที่ค้นพบวัตถุดิบมากมายในการทำเมนูของหวาน ตัวs จึงเป็นสัญลักษณ์ของพหูพจน์ที่อยู่ใจกลาง de(s)sert ของทะเลทรายนั้นเอง ต่อมา นำตัวsไปสดุดีคำว่าน้ำตาลทรายเป็น sugar

ทองหลังจากกลับมาที่วังฟาโรต์และได้บอกสูตรทำวัตถุดิบให้กับฟาโรต์ เค้าก็ได้เป็นโรคซึมเศร้า(ซึมเศร้าจากที่อูฐตัวเองตาย)และหนีไปอยู่ที่ประเทศไทย เค้าได้สร้างเมนูขนมหวานขึ้นมาขาย ชื่อว่า ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองม้วน

ฟาโรต์เกิดอาการบ้าคลั่งในวัตถุดิบมาก สั่งกองทัพทหารเอาอูฐไปฆ่ากลางทะเลทรายเป็นจำนวนพันกว่าตัวหวังให้เกิดวัตถุดิบใหม่ๆ เลือดอูฐสาดกระจายเต็มทะเลทราย เกิดเป็นวัตถุดิบว่า "น้ำตาลทรายแดง"

ปัจจุบันมีคนเอาวัตุดิบจากทราย(sand)มาสรรสร้างเมนูใหม่ๆขึ้นมาอีกที่เป็นของคาวและของหวานไปพร้อมๆกัน และรับประทานได้อย่างรวดเร็ว
เรียกว่า sandwich