เรื่องมีอยู่ว่าผมได้ทำงานกับพี่ชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทำงานกันมาตั่งแต่บริษัทยังเล็กมากๆๆๆเรียกว่าหลังชนกันได้เลย ทำงานมาอยู่2-3ปีก็มีความสุขดี จนมาถึงจุดเปลี่ยนพอบริษัทเริ่มขยายตัวขึ้นมีพื้นที่มากขึ้น. เครื่องจักรมากขึ้น คนงานมากขึ้น แล้วจู่ๆวันนึงเค้าก็เรียกเราเข้าไปคุยว่า ให้เราไปหาที่เรียน(ป.โท) มาเดียวเค้าจะส่งเสียเราทุกอย่างแล้วให้เงินพิเศษเราอีกหนึ่งหมื่นบาททุกๆเดือน เพื่อเป็นค่าสังคนเพราะป.โทสังคมค่อนค้างเยาะ พร้อมกับบอกเราว่าจะแบ่งหุ้นให้เราอีก20% พอผมฟังเสร็จผมกับที่บ้านดีใจกันมากเพราะอนาคตน่าจะสดใสแน่เรา แต่สุดท้ายที่เรียนพี่แกก็เลือกให้ทั้งๆที่เรามีไว้ในใจอยู่แล้ว แล้วเลือกเวลาให้เราอีกว่าต้องเป็น เวลาที่แกเลือกให้เท่านั้น ผมเองก็เริ่มงงนิดๆผมเองก็ทนเรียน จนเรียนจบ(ทำให้ผมเองไม่มีเวลาส่วนตัวเลยตลอด2ปี) เท่านั้นเองพอน้ำลดตอก็เริ่มผุดขึ้นมา พอเรียนจบชื่อผมก็ได้เข้าไปเป็นหุ้นส่วน20%ตามที่ตกลงกันไว้ "แต่" เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
1. ผมเองไม่ได้ปันผลเลยในปีนี้ทั้งๆที่คุยกันไว้ว่าเรียนจบชื่อเข้าปุ๊ป สิ้นปีแบ่งปันผลเลย แล้วยังมีการมาบอกอีกว่าปีหน้าถ้ากำไรน้อยก็งดปันผลนะจะต้องเอาเงินเข้าบริษัท สรุปชื่อเข้าอย่างเดียวไม่มีห่าอะไรดีขึ้นเลย ผมเองก็ตั้งใจทำงานไม่เคยคุยเรื่องเงินเดือนสักนิดเพราะคิดว่าปันผลคงเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งปัจจุบันเงินเดือนผมน้อยมากๆ
2.พี่แกเริ่มจู้จี้มากๆปกติเป็นคนยังงัยก็ได้(เป็นคนเยาะว่างั้นเหาะ) พอผมเรียนจบมายอดขายตกก็เรียกเข้าไปบ่นไปด่า หาว่าเราเรียนมาไม่คิดจะใช้ให้เกิดประโยชน์เลยหลอ งานมีปัญหาก็มาโยนที่ผมหมด สรุปง่ายๆว่าปัญหาทุกอย่างในบริษัทเราต้องรับผิดชอบหมดทั้งที่ตอนแรก เราไม่มีข้อตกลงเลยสักนิดว่าเรียนจบจะต้องมาดูแลตรงนี้
จริงๆแล้วผมเองก็ไม่ได้อะไรมากหลอ เพราะยังงัยเราก็ไม่ได้เอาเงินลงไปทำบริษัทตั่งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เค้าน่าจะเห็นใจผมบ้างคนที่เป็นญาติกันทำงานกันมาตั่งแต่สมัยบริษัทยังเป็นรูหนูก็ว่าได้
สิ่งที่ผมโดนมาแบบนี้เพื่อนๆพี่ๆคิดว่าผมโดนเอาเปรียบไหม พูดประจำว่าปันผลมาผมจะตกใจกับเงินที่ได้5555 จนป่านนี้ผมยังไม่เห็นเงินเลยสักบาทยิ่งคิดก็ยิ่งหมั่นใส้555
ปากก็พูดว่าเงินไม่ต้องการแล้วอยากให้เรามาดูแลต่อ แต่สิ่งที่ผมคิดคือ ผมบริหารเงินให้เค้าโดยที่เค้าไม่ต้องทำอะไรเลยมานั่งๆนอนๆกินเงินเดือนกินปันผลพูดง่ายๆว่า "การที่เค้าส่งผมไปเรียนก็เพื่อที่จะมาทำเงินต่อให้เค้านั่นเอง"
ปล.ทำไมคนรวยชอบแสวงหาผลประโยชน์กับคนไม่มีทางเลือกจัง
เราถูกเอาเปรียบไหม
1. ผมเองไม่ได้ปันผลเลยในปีนี้ทั้งๆที่คุยกันไว้ว่าเรียนจบชื่อเข้าปุ๊ป สิ้นปีแบ่งปันผลเลย แล้วยังมีการมาบอกอีกว่าปีหน้าถ้ากำไรน้อยก็งดปันผลนะจะต้องเอาเงินเข้าบริษัท สรุปชื่อเข้าอย่างเดียวไม่มีห่าอะไรดีขึ้นเลย ผมเองก็ตั้งใจทำงานไม่เคยคุยเรื่องเงินเดือนสักนิดเพราะคิดว่าปันผลคงเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งปัจจุบันเงินเดือนผมน้อยมากๆ
2.พี่แกเริ่มจู้จี้มากๆปกติเป็นคนยังงัยก็ได้(เป็นคนเยาะว่างั้นเหาะ) พอผมเรียนจบมายอดขายตกก็เรียกเข้าไปบ่นไปด่า หาว่าเราเรียนมาไม่คิดจะใช้ให้เกิดประโยชน์เลยหลอ งานมีปัญหาก็มาโยนที่ผมหมด สรุปง่ายๆว่าปัญหาทุกอย่างในบริษัทเราต้องรับผิดชอบหมดทั้งที่ตอนแรก เราไม่มีข้อตกลงเลยสักนิดว่าเรียนจบจะต้องมาดูแลตรงนี้
จริงๆแล้วผมเองก็ไม่ได้อะไรมากหลอ เพราะยังงัยเราก็ไม่ได้เอาเงินลงไปทำบริษัทตั่งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เค้าน่าจะเห็นใจผมบ้างคนที่เป็นญาติกันทำงานกันมาตั่งแต่สมัยบริษัทยังเป็นรูหนูก็ว่าได้
สิ่งที่ผมโดนมาแบบนี้เพื่อนๆพี่ๆคิดว่าผมโดนเอาเปรียบไหม พูดประจำว่าปันผลมาผมจะตกใจกับเงินที่ได้5555 จนป่านนี้ผมยังไม่เห็นเงินเลยสักบาทยิ่งคิดก็ยิ่งหมั่นใส้555
ปากก็พูดว่าเงินไม่ต้องการแล้วอยากให้เรามาดูแลต่อ แต่สิ่งที่ผมคิดคือ ผมบริหารเงินให้เค้าโดยที่เค้าไม่ต้องทำอะไรเลยมานั่งๆนอนๆกินเงินเดือนกินปันผลพูดง่ายๆว่า "การที่เค้าส่งผมไปเรียนก็เพื่อที่จะมาทำเงินต่อให้เค้านั่นเอง"
ปล.ทำไมคนรวยชอบแสวงหาผลประโยชน์กับคนไม่มีทางเลือกจัง