คือเรากับแฟน อยู่กินกันมาได้ปีนี้ปีที่ 5 แล้วค่ะ แต่รู้จักกันมาเข้าปีที่ 9 แล้ว
คือก่อนหน้านั้นเราก็มีแฟนของเรา และแฟนปัจจุบันเราก็มีแฟนของเค้า เราทั้งสองคู่ก็สนิทกันพอควร ไปเที่ยวไปแฮงค์เอาท์ด้วยกันบ่อยๆ ตามประสาคนต่างจังหวัด มาทำงานในนิคมอุตสากรรมไกลบ้านเกิด เรากับแฟน(ปัจจุบัน)และแฟนเก่าของแฟน(ปัจจุบัน) ทำงานที่เดียวกันค่ะ ก็สนิทสนมกันพอสมควร แต่แฟนเก่าเราทำอีกที่นึง ก็เลยไม่ค่อยได้มาเฮฮาด้วยเท่าไหร่ และเรากับแฟน(ปัจจุบัน)ด้วยความที่มาจากอีสานเหมือนกัน จบ ม.ขอนแก่นเหมือนกัน(คณะเดียวกันคนละภาค) ทำให้ยิ่งสนิทกันมากกว่าคนอื่นๆในโรงงาน
เราขอเรียกแฟนเก่าว่าพี่ จอ และ แฟนปัจจุบันว่า ทอ นะคะ
จนวันนึงน้องชายเราโดนแทง อาการสาหัส/แล้ววันนั้นเราดันไปเที่ยวบางแสน ขับมอไซต์จากศรีราชาไปบางแสนกันกับเพื่อนๆ ไปกัน6คัน มีเราคนเดียวที่สะพายเป้ไป เพื่อนๆเลยฝากกระเป๋าตังส์,โทรศัพท์,กุญแจรถ ไว้ในเป้เรา เราก็ดันลงไปเล่นน้ำกับเพื่อน แล้ววางเป้ไว้ที่เตียงผ้าใบของร้านอาหารริมหาด เล่นน้ำเสร็จ ขึ้นมาปรากฏเป้หาย ทุกสิ่งทุกอย่างหาย (ณ ตอนนั้นเครียดมากเรื่องใหญ่มากแต่จบไว้แค่นี้ก่อน555)พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ทำให้เราได้รู้ว่าพี่จอมีกิ๊ก เราก็เลยหงุดหงิดทั้งของหาย ทั้งแฟนนอกใจ ตอนเย็นเราเลยด่าพี่จอรุนแรง ทั้งเรื่องกิ๊กมันและเรื่องที่ไม่ห่วงเราทั้งๆที่เรามีปัญหาใหญ่ แทนที่พี่จอจะขอโทษเรา มันกลับด่าเราว่าไปด่าน้อง เอ ทำไม(น้องเอนี่คือกิ๊กมันนะคะ)แล้วก็ด่าว่าของหายก็เพราะเราเฟอะฟะเอง แล้วก็เถียงกันรุนแรง พี่จอจับแลปท้อปเราทุ่มลงพื้น ทำลายข้าวของเรา ท้อคกิ้งดิค ซีดีวอล์คแมน เกมส์บอยนินเทนโด้ แตกหมด เราตกใจมาก แล้วพี่จอยังจะออกไปกินเหล้ากับเพื่อนที่หลังมอเกษตรอีก เราด่ามันไม่ยอมให้มันไป ตะโกนด่ามัน บอกมันให้รับผิดชอบของทั้งหมดที่พังก่อน แต่มันเปิดประตูออกไปแล้วอ่ะค่ะ เราวิ่งไปดึงเสื้อมันแล้วด่ามันไปด้วย คนทั้งคอนโด เปิดประตูมาดูหมดอ่ะ จนมันคงหมดความอดทน มันตบเราค่ะ ตบเสร็จ เตะกระถางต้นไม้ใส่เราอีก ดึงแขนเราอีก ด่าเราว่า"มออึงจะเอาอะไรอีก มออึงเป็นบ้าอะไร" แล้วก็ตบๆตีๆ ยอมรับว่าเจ็บมาก สะบักสะบอม เราเลยโทรหาแม่จะเล่าให้แม่ฟัง แต่ได้ยินเสียงแม่สะอื้นพูดมาว่า"แม่โททั้งวัน ทำไมไม่ติด รู้มั้ยตอนนี้น้องอยู่ไอ ซี ยู น้องโดนแทงตั้งแต่เมื่อคืน พ่อ,คุณย่ากับป้าๆก็มากันหมด(พ่อกับแม่เราแยกทางกัน)น้องอาจจะไม่รอด" เราเลยตกใจห่วงน้องมากกว่า และไม่กล้าพูดเรื่องเราให้แม่ฟัง เราเลยบอกไปแค่ว่า "โทรศัพท์หนูหาย ให้หนูกลับไปบ้านมั้ยอ่ะแม่" (แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กลับและน้องก็ปลอดภัย)
พอเกิดเรื่องเราได้ย้ายไปอยู่กับเพื่อนๆที่ทำงาน เก็บเสื้อผ้าไปคืนนั้นเลย และ ทอ ก็ช่วยดูแลเราดีมาก พาไปหาหมอ พาไปทำบัตรประชาชนใหม่ พาไปทำบัตรเอทีเอ็ม ออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน ฯลฯ และให้เรายืมโทรศัพท์ใช้เพื่อติดต่อทางบ้านเรื่องน้องชาย (โนเกีย รุ่น2200 ใส่รูปที่ฝาหลังด้วยนะ) แล้วปัญหาก็เกิด เมื่อวันนั้น แผนกเรากับทอดันมีประชุมร่วม (เราอยู่ISO ,ทออยู่IE) แล้วระหว่างประชุม แม่เราโทรเข้า เราออกมารับโทรศัพท์แล้วเดินออกไปคุยแถวไลน์ผลิต แล้วแฟนทอทำงานในไลน์ผลิตพอดี ดันเห็นว่าเราใช้โทรศัพท์แฟนเค้า มันโกรธมาก เลยเข้ามาถาม แล้วกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอีก ตอนนั้นยอมรับว่ารู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นบ้าปัญหาเยอะ รู้สึกปวดหัว ร้องไห้บ่อย จุกคอ กลืนข้าวไม่ลง นอนหลับๆตื่นๆ ช่วงนั้นเป็นแบบนั้นจริงๆ
แต่เพื่อนๆในออฟฟิศดันเชียร์ให้ ทอ เลิกกับแฟน แล้วเชียร์ให้เราคบกัน (สุดท้ายก็คบกันอ่ะนะ)
พอเป็นแฟนกัน เราเป็นที่วิจารณ์ของพวกฝ่ายผลิตมาก ว่าไปแย่งแฟนคนอื่น ซื่งแฟนเก่า ทอ เค้าสนิทสนมกับคนในไลน์ผลิตอยู่แล้วเลยไม่แปลกที่พวกฝ่ายผลิตจะเกลียดเรา แต่หนักสุดคือ โดนกรีดเบาะรถมอไซต์เหวอะหวะ วันที่ฝนตก มันแย่มาก แต่เราก็ไม่วอรี่ เพราะ ทอ เป็นคนดีมาก ดีกับเรามาก คือดีอ่ะ ดีจนเรารู้สึกว่าเฮ้ย มีคนดีๆแบบนี้หลงเหลือมาให้ชั้นด้วยรึเนี่ย???
วันนึงพ่อแม่ ทอ มาจากอุดร เพื่อมาเยี่ยมทอ พวกเค้าก็ดีอ่ะ คือทุกอย่างดีหมด จนเราคิดว่าชีวิตเราคงมีความสุขมากๆ และเราดีใจมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้
มีวันนึงพ่อกับแม่ ทอ โทรหา แม่ทอบอกว่าอยากให้มาทำงานแถวบ้าน อยากให้ลูกมาอยู่ใกล้ๆ เราก็เลยขอเก็บตังส์กันอีกซักปีสองปีก่อน เสียดายโบนัส แต่แม่บอกว่าให้กลับเลย มาทั้งคู่เลย แต่งงานเลย แม่จะไปขอเลย ค่าสินสอดค่าแต่งแม่จะออกให้เอง แม่เราจะเรียกเท่าไหร่ก็คิดไว้ เดี๋ยวแม่จะไปหา เรากับทอก็ตกใจมาก ว่าทำไม เกิดไรขึ้น ถาม แกก็บอกว่า กลับมาเถอะน่า ยื่นใบลาออกไว้นะ ตุลา ปิดเทอมจะไปรับ(พ่อกับแม่ทอเป็นครู) แต่สุดท้ายเราก็บอกว่าใบลาออกต้องยื่นล่วงหน้า 3 เดือน แกเลยบอกว่างั้นยื่นเลย สามเดือนให้มาเตรียมแต่งงานเลยนะ
ช่วงนั้นมีวันออกพรรษา หรือเข้าพรรษา (จำไม่ได้อ่าเราไม่ใช่สายเข้าวัด) ไม่แน่ใจ เราเลยไม่ลงโอที แต่พากันกลับมาอุดร เพื่อมาทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้รู้ว่าน้องสาวของทอท้อง(กำลังเรียนอยู่ปี3)แล้วแม่ของผู้ชายก็ดูเหมือนไม่อยากรับผิดชอบ แต่พ่อกับแม่สงสารหลาน ไม่อยากให้ทำแท้งค์ และแม่ก็ไม่อยากให้ชาวบ้านรับรู้ว่าน้องสาวท้องในวัยเรียน บ้านเค้าค่อนข้างมีหน้ามีตา (เค้าว่านะ)แม่บอกว่าให้เราแต่ง และพอน้องคลอดลูกจะบอกชาวบ้านว่าเป็นลูกเรา (ซะงั้น)แต่แม่จะเลี้ยงเอง เราก็เลยยอมทำตามที่แม่บอกกัน (ซึ่งเราก็ดีใจอยู่น้าาา เพราะเราก็อยากแต่งแหละ และที่ทำงานพวกฝ่ายผลิตก็ดูเหมือนนินทาเราตลอดเวลาเราก็เบื่อ)แต่ที่บ้านเราตกใจกันมาก ว่าอะไรจะเร็วขนาดนี้ และแม่เราก็ไม่อยากให้ออกจากงาน อยากให้เก็บตังส์ก่อน แต่สุดท้ายก็แต่งหล่ะนะ
พอลาออกกลับมาอยู่บ้าน --แม่ทอ ให้เรากับทอ ไปเรียนเพิ่มเรียกว่า ป.บัณฑิต(วิชาชีพครู)เพื่อให้สอบครู เราก็โอเค้ ไม่เป็นไร คงจะมั่นคงก็พากันเรียน เรากับทอต้องไปเรียนในตัวจังหวัด แต่แม่กับพ่ออยู่ในอำเภอที่ห่างไปประมาณ 80 กิโล เรากับทอก็เลยใช้ชีวิตอยู่กัน 2 คน สบายดี เราก็ไม่อึดอัดแม่ผัวด้วยระหว่างนั้น แม่ทอก็ดีมาก แกมีบ้านเช่าอ่ะค่ะ แกให้เรากับทอ เก็บค่าเช่าบ้านใช้ระหว่างเรียน เพราะเรียนอันนี้ต้องไปฝึกสอนแต่ได้เงินเดือนแค่เดือนละ 4500 ไม่พอกิน เราก็ใช้ชีวิตอยู่แบบมีความสุขกัน2คน แต่เพื่อนๆสมัยเรียนของทอ พอพวกเค้ารุ้ว่าทอมาอยู่บ้านเท่านั้นแหละ ผลัดกันมาหา ผลัดกันมาชวนไปนู่น นี่ ทอก็ชวนเราไปด้วยทุกครั้ง แต่ไปปุ๊บ ก็มีปัญหาตามมาคือ ทอ เคยมีแฟนตอนสมัยเรียนมัธยม เป็นเพื่อนห้องเดียวกัน เพราะงั้นเพื่อนๆเค้าเลยกลุ่มเดียวกันและแฟนเพื่อนๆทุกคนก็สนิทกับแฟนคนนั้นของทอ ที่สำคัญ ผู้หญิงคนนั้นสนิทกับแม่ทอมาก พ่อแม่ทอก็เอ็นดูมาก เพราะเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นช่วยทำให้ทอตั้งใจเรียนในสมัยมอปลาย จนเอ็นท์ติด ตอนแรกเราก็ไม่อะไรหรอก เพราะไง เราก็เมียแต่ง วะ ฮ่ะ ฮ่า และทอก็ไม่ได้มีเยื่อใยอะไรเลยนะ (เท่าทีดูด้วยตาเรา) ทอเล่าให้ฟังว่า ที่เลิกกัน ไม่ใช่ทะเลาะ หรือมีปัญหาอะไรเลย แค่ห่างกัน ตอนเรียนจบต่างคนต่างไปทำงาน ไม่ได้ติดต่อกันนานมาก จนเลิกไปเลย โดยที่ไม่ได้ตกลงว่าเลิกด้วยนะ แต่แค่ต่างคนต่างเงียบกันไป
ปัญหาเราคือเพื่อนทอ ชอบพูดถึงผู้หญิงคนนั้นตลอดเวลา สมมติว่า เค้าชื่อ ออนะคะ เช่นมีวันนึง ไปทานข้าวกัน และทอเริ่มดื่มเบียร์เยอะเกินไปละ
เราเลยพูดว่า "เบาๆหน่อย หยุดดื่มได้แล้วมั้ง เดี๋ยวเมานะ" ทีนี้เพื่อนทอที่นั่งอยู่ด้วยก็พูดขึ้นว่า "กอนี่ไม่รู้จักทอจิงนี่หว่า ทออ่ะคอแข็ง มันไม่เมาหรอก ถ้าเป็นออนะ มันไม่พูดแบบนี้หรอก" แล้วแฟนของเพื่อนๆทอ ก็พากันพูดขึ้นว่า เออจะว่าไปก็คิดถึง ออ เนอะ ป่านนี้เป็นงัยวะ โทรหาดีกว่า แล้วก็ทำเป็นโทรหาคุยแบบสนิทสนม ให้เราได้ยินด้วยอ่ะ อีกวันนึง นัดกันไปดูหนัง พวกเพื่อนๆทอดันนัดนังออมาด้วย เราหงุดหงิดมาก มีหลายเหตุการณ์อ่ะ หวิดจะเลิกหลายที แต่ทอเป็นคนใจเย็น แล้วก็ง้อเราให้เราหายโกรธทุกครั้ง แต่มันกลายเป็นว่าเราไม่ไว้ใจทอเลย ไม่กล้าให้เค้าไปไหนกับเพื่อนสมัยมัธยมนานๆ หรือถ้าไปแล้วกลับดึก เราจะกังวล และเครียดมาก สุดท้ายเราเลยไปปรึกษาแม่ทอ แม่ทอก็บอกว่าอย่าคิดมาก เค้าเลิกกันไปนานแล้ว ไม่มีอะไรหรอก เราก็โอเค จบ เลิกพูด
พอเรียนป.บัณฑิตจบ ระหว่างรอเปิดสอบครูผู้ช่วย เราว่างๆเลยมายื่น RESUME ไว้ ที่โรงงานแห่งนึงในขอนแก่น นัดสัมภาษณ์แล้วได้ เราเลยมาทำและรายได้ก็โอเค เราเลยไม่ไปสอบบรรจุ และทอก็ได้มาทำงานเป็นฝ่ายวิชาการ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในขอนแก่น ซึ่งก็ไม่ไกลจากอุดร แล้วเพื่อนทอ ก็มักจะมาหาบ่อยอีกละ เดี๋ยวก็ชวนไปเขื่อน เดี๋ยวก็ชวนไปนู่น นี่ ซึ่งทอทำงานเวลาราชการ วันศุกร์เพื่อนมาเค้าก็ไปได้ แต่เราหยุดวันอาทิตย์วันเดียว บางทีมีเข้ากะอีก บางทีมีโอดึกๆ ทำให้ไม่ได้ไปด้วย เราอยากห้ามทอคบเพื่อนพวกนี้ แต่ก็ไม่กล้า เพราะดูเค้าผูกพันกันมานาน แล้วเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ทอหยุด แต่เราทำโอ ทอเลยกลับบ้านเพื่อรับลูก และพ่อกับแม่มาเที่ยวขอนแก่น(ลูกของน้องแต่ก็รักเหมือนลูกเราเองนะ) พอเราเลิกงานมา เราก็เห็นแม่กับพ่ออยู่ที่บ้านละ แกก็คุยกับเราดี ปกติ เราก็ขอตัวไปเล่นดินน้ำมันกับลูก
แต่เราได้ยินแม่ทอ คุยกับทอ ประมาณว่า "ออซื้อเสื้อมาฝากแม่วันสงกรานต์ นี่ตัวที่ใส่อยู่นี่แหละ ออถามหาทอด้วยนะ ถามด้วยว่าทอคือแต่งงานเร็วจัง นี่ ออเลิกกับแฟนแล้วนะ แม่ออยังมาบ่นกับแม่อยู่ ว่าชั้นเสียดายลูกชายเธอจัง บลาๆๆๆ" เห็นคุยกันเยอะอยู่ แต่ลูกก็เจื้อยแจ้วเหลือเกิน เราเลยฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ---วันนั้นความรู้สึกเราบอกไม่ถูกอ่ะค่ะ ตะขิดตะขวงใจยังงัยไม่รู้ แต่เราก็พยามนิ่ง ไม่พูด
จนเมื่อวันเสาร์นี้ ที่ผ่านมา เพื่อนทอ มาหาที่บ้านอีกละ เราเลยพูดกับทอว่า ทอทานกันที่บ้านนี่แหละ ไม่ต้องไปต่อที่ไหนได้ป่าว เราไม่ค่อยสบาย พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปเยี่ยมลูกที่อุดรด้วย แล้วเพื่อนทอก็พูดขึ้นว่า "ลูกแท้ๆก็ไม่ใช่ คือห่วงแท้น้อ" เรากับทอมองหน้ากัน งง ว่าเพื่อนรู้ได้ยังงัย สรุป ถามแล้ว เพื่อนบอกว่าออบอก แล้วออก็รู้มาจากแม่ทอ ซึ่งแม่ทอเคยพูดกับเราไว้"ว่าเรื่องนี้ไม่อยากให้ใครรู้ นอกจากคนในครอบครัวแค่นี้" ทุกคนคิดว่าลูกคือลูกเราหมด แล้วแม่ไปบอกออได้ยังงัย แล้วออเอามาพูดต่ออีก เราเสียใจมาก เครียด สงสารลูก(แต่ก็คิดไว้แล้วว่าวันนึงจะบอกลูก) แต่เสียใจกับการกระทำแม่ทอมากกว่า เราร้องไห้ เสียใจไม่เท่าไหร่ แต่อัดอั้นมากกว่า (อธิบายไม่ถูก)
วันนั้นหมดสนุก ทอบอกเพื่อนๆกลับไปก่อน และเราก็คุยกัน เราด่าทอ บอกว่าโทไปถามแม่ซิทำแบบนี้ได้งั้ย ทอก็บอกว่าดึกแล้วแม่นอนแล้วแหล่ะ ค่อยไปถามพรุ่งนี้ เราก็บ่นว่าแม่ไม่เป็นผู้ใหญ่เลย ทอก็เลยบอกเราว่า หยุดพูดเถอะถ้าไม่อยากทะเลาะกัน เพราะที่เรากำลังด่าอ่ะ แม่เค้านะ เราเลยหยุดพูด /วันอาทิตย์พอไปถึงอุดร เราให้ทอคุยกับแม่เรื่องนั้น เราก็พาลูกเดินเล่น แกะของเล่น ทำไม่สนใจ
ตอนทานข้าว แม่ก็พูดว่า ครูนอ(แม่ออ) มาพูดกับแม่บ่อยมาก ว่าเสียดายทอจัง อุตส่าห์อยากได้ทอเป็นลูกเขยไม่น่ารีบมีเมียเลย วันไหนว่างๆ ทอก็ไปเยี่ยมแม่ออบ้างนะ ขนาด ออ เค้ายังแวะมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ่อยๆ มาบ่อยกว่าตัวทอเองอีกนะ ลูกก็สนิทกับออมาก" เราก็เงียบ ทอคงรู้ชะตากรรม555 ทอเลยพูดขึ้นว่า "อืมๆ เดี๋ยวจะพากอ(เรา)ไปแวะสวัสดีแกอยู่" แล้วหันมาถามเราว่า จำได้มั้ยคนนั้นงัย ตอนงานแต่งเค้าก็มา เราก็พยักหน้า(เราก็รู้สึกโอเค ดูทอแคร์ความรู้สึกเราจัง)
พอเย็นกลับขอนแก่น ระหว่างในรถ ทอก็เล่าว่า แม่บอกว่า ที่เล่าให้ออฟัง เพราะออถามว่าทำไม่เรามีลูกโตเร็วจัง มีลูกก่อนแต่งเหรอ แม่เลยเล่าให้ออฟัง เพราะเห็นออเป็นคนในครอบครัว แม่ไม่รู้ว่าออจะไปพูดต่อ เดี๋ยวแม่จะไปต่อว่าออให้ แล้วทอก็ปลอบใจเราว่า ดีแล้วที่แม่พูดแบบนี้ เธอจะได้ไม่โดนว่าท้องก่อนแต่งงัย แล้วก็หัวเราะแบบเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆอ่ะค่ะ
เราก็โอเคพยามไม่คิดมาก แต่เราก็ตะขิดตะขวงใจอยู่ดี ตอนนี้ทอก็ไปเตะบอก เราก็นั่งเครียด อยากห้ามเค้าคบเพื่อนกลุ่มมัธยมจังเลยค่ะ แล้วก็รู้สึกไม่ชอบที่แม่ทอชอบพูดเรื่องออบ่อยๆ เราควรจะพูดยังงัยดีคะ หรือเราควรห้ามเค้าคบเพื่อนตรงๆไปเลย และบอกแม่ไปตรงๆเลย ว่าคิดมากเรื่องออ หรือควรจะนิ่งๆ ไม่รู้ไม่ชี้ดีคะ โว้ะ!!! เครียดค่ะ
ตะขิดตะขวงใจกับแม่แฟน และไม่ชอบเพื่อนๆมัธยมขอองแฟนเลย ควรบอกแฟนตรงๆมั้ยคะ??
คือก่อนหน้านั้นเราก็มีแฟนของเรา และแฟนปัจจุบันเราก็มีแฟนของเค้า เราทั้งสองคู่ก็สนิทกันพอควร ไปเที่ยวไปแฮงค์เอาท์ด้วยกันบ่อยๆ ตามประสาคนต่างจังหวัด มาทำงานในนิคมอุตสากรรมไกลบ้านเกิด เรากับแฟน(ปัจจุบัน)และแฟนเก่าของแฟน(ปัจจุบัน) ทำงานที่เดียวกันค่ะ ก็สนิทสนมกันพอสมควร แต่แฟนเก่าเราทำอีกที่นึง ก็เลยไม่ค่อยได้มาเฮฮาด้วยเท่าไหร่ และเรากับแฟน(ปัจจุบัน)ด้วยความที่มาจากอีสานเหมือนกัน จบ ม.ขอนแก่นเหมือนกัน(คณะเดียวกันคนละภาค) ทำให้ยิ่งสนิทกันมากกว่าคนอื่นๆในโรงงาน
เราขอเรียกแฟนเก่าว่าพี่ จอ และ แฟนปัจจุบันว่า ทอ นะคะ
จนวันนึงน้องชายเราโดนแทง อาการสาหัส/แล้ววันนั้นเราดันไปเที่ยวบางแสน ขับมอไซต์จากศรีราชาไปบางแสนกันกับเพื่อนๆ ไปกัน6คัน มีเราคนเดียวที่สะพายเป้ไป เพื่อนๆเลยฝากกระเป๋าตังส์,โทรศัพท์,กุญแจรถ ไว้ในเป้เรา เราก็ดันลงไปเล่นน้ำกับเพื่อน แล้ววางเป้ไว้ที่เตียงผ้าใบของร้านอาหารริมหาด เล่นน้ำเสร็จ ขึ้นมาปรากฏเป้หาย ทุกสิ่งทุกอย่างหาย (ณ ตอนนั้นเครียดมากเรื่องใหญ่มากแต่จบไว้แค่นี้ก่อน555)พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ทำให้เราได้รู้ว่าพี่จอมีกิ๊ก เราก็เลยหงุดหงิดทั้งของหาย ทั้งแฟนนอกใจ ตอนเย็นเราเลยด่าพี่จอรุนแรง ทั้งเรื่องกิ๊กมันและเรื่องที่ไม่ห่วงเราทั้งๆที่เรามีปัญหาใหญ่ แทนที่พี่จอจะขอโทษเรา มันกลับด่าเราว่าไปด่าน้อง เอ ทำไม(น้องเอนี่คือกิ๊กมันนะคะ)แล้วก็ด่าว่าของหายก็เพราะเราเฟอะฟะเอง แล้วก็เถียงกันรุนแรง พี่จอจับแลปท้อปเราทุ่มลงพื้น ทำลายข้าวของเรา ท้อคกิ้งดิค ซีดีวอล์คแมน เกมส์บอยนินเทนโด้ แตกหมด เราตกใจมาก แล้วพี่จอยังจะออกไปกินเหล้ากับเพื่อนที่หลังมอเกษตรอีก เราด่ามันไม่ยอมให้มันไป ตะโกนด่ามัน บอกมันให้รับผิดชอบของทั้งหมดที่พังก่อน แต่มันเปิดประตูออกไปแล้วอ่ะค่ะ เราวิ่งไปดึงเสื้อมันแล้วด่ามันไปด้วย คนทั้งคอนโด เปิดประตูมาดูหมดอ่ะ จนมันคงหมดความอดทน มันตบเราค่ะ ตบเสร็จ เตะกระถางต้นไม้ใส่เราอีก ดึงแขนเราอีก ด่าเราว่า"มออึงจะเอาอะไรอีก มออึงเป็นบ้าอะไร" แล้วก็ตบๆตีๆ ยอมรับว่าเจ็บมาก สะบักสะบอม เราเลยโทรหาแม่จะเล่าให้แม่ฟัง แต่ได้ยินเสียงแม่สะอื้นพูดมาว่า"แม่โททั้งวัน ทำไมไม่ติด รู้มั้ยตอนนี้น้องอยู่ไอ ซี ยู น้องโดนแทงตั้งแต่เมื่อคืน พ่อ,คุณย่ากับป้าๆก็มากันหมด(พ่อกับแม่เราแยกทางกัน)น้องอาจจะไม่รอด" เราเลยตกใจห่วงน้องมากกว่า และไม่กล้าพูดเรื่องเราให้แม่ฟัง เราเลยบอกไปแค่ว่า "โทรศัพท์หนูหาย ให้หนูกลับไปบ้านมั้ยอ่ะแม่" (แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กลับและน้องก็ปลอดภัย)
พอเกิดเรื่องเราได้ย้ายไปอยู่กับเพื่อนๆที่ทำงาน เก็บเสื้อผ้าไปคืนนั้นเลย และ ทอ ก็ช่วยดูแลเราดีมาก พาไปหาหมอ พาไปทำบัตรประชาชนใหม่ พาไปทำบัตรเอทีเอ็ม ออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน ฯลฯ และให้เรายืมโทรศัพท์ใช้เพื่อติดต่อทางบ้านเรื่องน้องชาย (โนเกีย รุ่น2200 ใส่รูปที่ฝาหลังด้วยนะ) แล้วปัญหาก็เกิด เมื่อวันนั้น แผนกเรากับทอดันมีประชุมร่วม (เราอยู่ISO ,ทออยู่IE) แล้วระหว่างประชุม แม่เราโทรเข้า เราออกมารับโทรศัพท์แล้วเดินออกไปคุยแถวไลน์ผลิต แล้วแฟนทอทำงานในไลน์ผลิตพอดี ดันเห็นว่าเราใช้โทรศัพท์แฟนเค้า มันโกรธมาก เลยเข้ามาถาม แล้วกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอีก ตอนนั้นยอมรับว่ารู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นบ้าปัญหาเยอะ รู้สึกปวดหัว ร้องไห้บ่อย จุกคอ กลืนข้าวไม่ลง นอนหลับๆตื่นๆ ช่วงนั้นเป็นแบบนั้นจริงๆ
แต่เพื่อนๆในออฟฟิศดันเชียร์ให้ ทอ เลิกกับแฟน แล้วเชียร์ให้เราคบกัน (สุดท้ายก็คบกันอ่ะนะ)
พอเป็นแฟนกัน เราเป็นที่วิจารณ์ของพวกฝ่ายผลิตมาก ว่าไปแย่งแฟนคนอื่น ซื่งแฟนเก่า ทอ เค้าสนิทสนมกับคนในไลน์ผลิตอยู่แล้วเลยไม่แปลกที่พวกฝ่ายผลิตจะเกลียดเรา แต่หนักสุดคือ โดนกรีดเบาะรถมอไซต์เหวอะหวะ วันที่ฝนตก มันแย่มาก แต่เราก็ไม่วอรี่ เพราะ ทอ เป็นคนดีมาก ดีกับเรามาก คือดีอ่ะ ดีจนเรารู้สึกว่าเฮ้ย มีคนดีๆแบบนี้หลงเหลือมาให้ชั้นด้วยรึเนี่ย???
วันนึงพ่อแม่ ทอ มาจากอุดร เพื่อมาเยี่ยมทอ พวกเค้าก็ดีอ่ะ คือทุกอย่างดีหมด จนเราคิดว่าชีวิตเราคงมีความสุขมากๆ และเราดีใจมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้
มีวันนึงพ่อกับแม่ ทอ โทรหา แม่ทอบอกว่าอยากให้มาทำงานแถวบ้าน อยากให้ลูกมาอยู่ใกล้ๆ เราก็เลยขอเก็บตังส์กันอีกซักปีสองปีก่อน เสียดายโบนัส แต่แม่บอกว่าให้กลับเลย มาทั้งคู่เลย แต่งงานเลย แม่จะไปขอเลย ค่าสินสอดค่าแต่งแม่จะออกให้เอง แม่เราจะเรียกเท่าไหร่ก็คิดไว้ เดี๋ยวแม่จะไปหา เรากับทอก็ตกใจมาก ว่าทำไม เกิดไรขึ้น ถาม แกก็บอกว่า กลับมาเถอะน่า ยื่นใบลาออกไว้นะ ตุลา ปิดเทอมจะไปรับ(พ่อกับแม่ทอเป็นครู) แต่สุดท้ายเราก็บอกว่าใบลาออกต้องยื่นล่วงหน้า 3 เดือน แกเลยบอกว่างั้นยื่นเลย สามเดือนให้มาเตรียมแต่งงานเลยนะ
ช่วงนั้นมีวันออกพรรษา หรือเข้าพรรษา (จำไม่ได้อ่าเราไม่ใช่สายเข้าวัด) ไม่แน่ใจ เราเลยไม่ลงโอที แต่พากันกลับมาอุดร เพื่อมาทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้รู้ว่าน้องสาวของทอท้อง(กำลังเรียนอยู่ปี3)แล้วแม่ของผู้ชายก็ดูเหมือนไม่อยากรับผิดชอบ แต่พ่อกับแม่สงสารหลาน ไม่อยากให้ทำแท้งค์ และแม่ก็ไม่อยากให้ชาวบ้านรับรู้ว่าน้องสาวท้องในวัยเรียน บ้านเค้าค่อนข้างมีหน้ามีตา (เค้าว่านะ)แม่บอกว่าให้เราแต่ง และพอน้องคลอดลูกจะบอกชาวบ้านว่าเป็นลูกเรา (ซะงั้น)แต่แม่จะเลี้ยงเอง เราก็เลยยอมทำตามที่แม่บอกกัน (ซึ่งเราก็ดีใจอยู่น้าาา เพราะเราก็อยากแต่งแหละ และที่ทำงานพวกฝ่ายผลิตก็ดูเหมือนนินทาเราตลอดเวลาเราก็เบื่อ)แต่ที่บ้านเราตกใจกันมาก ว่าอะไรจะเร็วขนาดนี้ และแม่เราก็ไม่อยากให้ออกจากงาน อยากให้เก็บตังส์ก่อน แต่สุดท้ายก็แต่งหล่ะนะ
พอลาออกกลับมาอยู่บ้าน --แม่ทอ ให้เรากับทอ ไปเรียนเพิ่มเรียกว่า ป.บัณฑิต(วิชาชีพครู)เพื่อให้สอบครู เราก็โอเค้ ไม่เป็นไร คงจะมั่นคงก็พากันเรียน เรากับทอต้องไปเรียนในตัวจังหวัด แต่แม่กับพ่ออยู่ในอำเภอที่ห่างไปประมาณ 80 กิโล เรากับทอก็เลยใช้ชีวิตอยู่กัน 2 คน สบายดี เราก็ไม่อึดอัดแม่ผัวด้วยระหว่างนั้น แม่ทอก็ดีมาก แกมีบ้านเช่าอ่ะค่ะ แกให้เรากับทอ เก็บค่าเช่าบ้านใช้ระหว่างเรียน เพราะเรียนอันนี้ต้องไปฝึกสอนแต่ได้เงินเดือนแค่เดือนละ 4500 ไม่พอกิน เราก็ใช้ชีวิตอยู่แบบมีความสุขกัน2คน แต่เพื่อนๆสมัยเรียนของทอ พอพวกเค้ารุ้ว่าทอมาอยู่บ้านเท่านั้นแหละ ผลัดกันมาหา ผลัดกันมาชวนไปนู่น นี่ ทอก็ชวนเราไปด้วยทุกครั้ง แต่ไปปุ๊บ ก็มีปัญหาตามมาคือ ทอ เคยมีแฟนตอนสมัยเรียนมัธยม เป็นเพื่อนห้องเดียวกัน เพราะงั้นเพื่อนๆเค้าเลยกลุ่มเดียวกันและแฟนเพื่อนๆทุกคนก็สนิทกับแฟนคนนั้นของทอ ที่สำคัญ ผู้หญิงคนนั้นสนิทกับแม่ทอมาก พ่อแม่ทอก็เอ็นดูมาก เพราะเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นช่วยทำให้ทอตั้งใจเรียนในสมัยมอปลาย จนเอ็นท์ติด ตอนแรกเราก็ไม่อะไรหรอก เพราะไง เราก็เมียแต่ง วะ ฮ่ะ ฮ่า และทอก็ไม่ได้มีเยื่อใยอะไรเลยนะ (เท่าทีดูด้วยตาเรา) ทอเล่าให้ฟังว่า ที่เลิกกัน ไม่ใช่ทะเลาะ หรือมีปัญหาอะไรเลย แค่ห่างกัน ตอนเรียนจบต่างคนต่างไปทำงาน ไม่ได้ติดต่อกันนานมาก จนเลิกไปเลย โดยที่ไม่ได้ตกลงว่าเลิกด้วยนะ แต่แค่ต่างคนต่างเงียบกันไป
ปัญหาเราคือเพื่อนทอ ชอบพูดถึงผู้หญิงคนนั้นตลอดเวลา สมมติว่า เค้าชื่อ ออนะคะ เช่นมีวันนึง ไปทานข้าวกัน และทอเริ่มดื่มเบียร์เยอะเกินไปละ
เราเลยพูดว่า "เบาๆหน่อย หยุดดื่มได้แล้วมั้ง เดี๋ยวเมานะ" ทีนี้เพื่อนทอที่นั่งอยู่ด้วยก็พูดขึ้นว่า "กอนี่ไม่รู้จักทอจิงนี่หว่า ทออ่ะคอแข็ง มันไม่เมาหรอก ถ้าเป็นออนะ มันไม่พูดแบบนี้หรอก" แล้วแฟนของเพื่อนๆทอ ก็พากันพูดขึ้นว่า เออจะว่าไปก็คิดถึง ออ เนอะ ป่านนี้เป็นงัยวะ โทรหาดีกว่า แล้วก็ทำเป็นโทรหาคุยแบบสนิทสนม ให้เราได้ยินด้วยอ่ะ อีกวันนึง นัดกันไปดูหนัง พวกเพื่อนๆทอดันนัดนังออมาด้วย เราหงุดหงิดมาก มีหลายเหตุการณ์อ่ะ หวิดจะเลิกหลายที แต่ทอเป็นคนใจเย็น แล้วก็ง้อเราให้เราหายโกรธทุกครั้ง แต่มันกลายเป็นว่าเราไม่ไว้ใจทอเลย ไม่กล้าให้เค้าไปไหนกับเพื่อนสมัยมัธยมนานๆ หรือถ้าไปแล้วกลับดึก เราจะกังวล และเครียดมาก สุดท้ายเราเลยไปปรึกษาแม่ทอ แม่ทอก็บอกว่าอย่าคิดมาก เค้าเลิกกันไปนานแล้ว ไม่มีอะไรหรอก เราก็โอเค จบ เลิกพูด
พอเรียนป.บัณฑิตจบ ระหว่างรอเปิดสอบครูผู้ช่วย เราว่างๆเลยมายื่น RESUME ไว้ ที่โรงงานแห่งนึงในขอนแก่น นัดสัมภาษณ์แล้วได้ เราเลยมาทำและรายได้ก็โอเค เราเลยไม่ไปสอบบรรจุ และทอก็ได้มาทำงานเป็นฝ่ายวิชาการ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในขอนแก่น ซึ่งก็ไม่ไกลจากอุดร แล้วเพื่อนทอ ก็มักจะมาหาบ่อยอีกละ เดี๋ยวก็ชวนไปเขื่อน เดี๋ยวก็ชวนไปนู่น นี่ ซึ่งทอทำงานเวลาราชการ วันศุกร์เพื่อนมาเค้าก็ไปได้ แต่เราหยุดวันอาทิตย์วันเดียว บางทีมีเข้ากะอีก บางทีมีโอดึกๆ ทำให้ไม่ได้ไปด้วย เราอยากห้ามทอคบเพื่อนพวกนี้ แต่ก็ไม่กล้า เพราะดูเค้าผูกพันกันมานาน แล้วเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ทอหยุด แต่เราทำโอ ทอเลยกลับบ้านเพื่อรับลูก และพ่อกับแม่มาเที่ยวขอนแก่น(ลูกของน้องแต่ก็รักเหมือนลูกเราเองนะ) พอเราเลิกงานมา เราก็เห็นแม่กับพ่ออยู่ที่บ้านละ แกก็คุยกับเราดี ปกติ เราก็ขอตัวไปเล่นดินน้ำมันกับลูก
แต่เราได้ยินแม่ทอ คุยกับทอ ประมาณว่า "ออซื้อเสื้อมาฝากแม่วันสงกรานต์ นี่ตัวที่ใส่อยู่นี่แหละ ออถามหาทอด้วยนะ ถามด้วยว่าทอคือแต่งงานเร็วจัง นี่ ออเลิกกับแฟนแล้วนะ แม่ออยังมาบ่นกับแม่อยู่ ว่าชั้นเสียดายลูกชายเธอจัง บลาๆๆๆ" เห็นคุยกันเยอะอยู่ แต่ลูกก็เจื้อยแจ้วเหลือเกิน เราเลยฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ---วันนั้นความรู้สึกเราบอกไม่ถูกอ่ะค่ะ ตะขิดตะขวงใจยังงัยไม่รู้ แต่เราก็พยามนิ่ง ไม่พูด
จนเมื่อวันเสาร์นี้ ที่ผ่านมา เพื่อนทอ มาหาที่บ้านอีกละ เราเลยพูดกับทอว่า ทอทานกันที่บ้านนี่แหละ ไม่ต้องไปต่อที่ไหนได้ป่าว เราไม่ค่อยสบาย พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปเยี่ยมลูกที่อุดรด้วย แล้วเพื่อนทอก็พูดขึ้นว่า "ลูกแท้ๆก็ไม่ใช่ คือห่วงแท้น้อ" เรากับทอมองหน้ากัน งง ว่าเพื่อนรู้ได้ยังงัย สรุป ถามแล้ว เพื่อนบอกว่าออบอก แล้วออก็รู้มาจากแม่ทอ ซึ่งแม่ทอเคยพูดกับเราไว้"ว่าเรื่องนี้ไม่อยากให้ใครรู้ นอกจากคนในครอบครัวแค่นี้" ทุกคนคิดว่าลูกคือลูกเราหมด แล้วแม่ไปบอกออได้ยังงัย แล้วออเอามาพูดต่ออีก เราเสียใจมาก เครียด สงสารลูก(แต่ก็คิดไว้แล้วว่าวันนึงจะบอกลูก) แต่เสียใจกับการกระทำแม่ทอมากกว่า เราร้องไห้ เสียใจไม่เท่าไหร่ แต่อัดอั้นมากกว่า (อธิบายไม่ถูก)
วันนั้นหมดสนุก ทอบอกเพื่อนๆกลับไปก่อน และเราก็คุยกัน เราด่าทอ บอกว่าโทไปถามแม่ซิทำแบบนี้ได้งั้ย ทอก็บอกว่าดึกแล้วแม่นอนแล้วแหล่ะ ค่อยไปถามพรุ่งนี้ เราก็บ่นว่าแม่ไม่เป็นผู้ใหญ่เลย ทอก็เลยบอกเราว่า หยุดพูดเถอะถ้าไม่อยากทะเลาะกัน เพราะที่เรากำลังด่าอ่ะ แม่เค้านะ เราเลยหยุดพูด /วันอาทิตย์พอไปถึงอุดร เราให้ทอคุยกับแม่เรื่องนั้น เราก็พาลูกเดินเล่น แกะของเล่น ทำไม่สนใจ
ตอนทานข้าว แม่ก็พูดว่า ครูนอ(แม่ออ) มาพูดกับแม่บ่อยมาก ว่าเสียดายทอจัง อุตส่าห์อยากได้ทอเป็นลูกเขยไม่น่ารีบมีเมียเลย วันไหนว่างๆ ทอก็ไปเยี่ยมแม่ออบ้างนะ ขนาด ออ เค้ายังแวะมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ่อยๆ มาบ่อยกว่าตัวทอเองอีกนะ ลูกก็สนิทกับออมาก" เราก็เงียบ ทอคงรู้ชะตากรรม555 ทอเลยพูดขึ้นว่า "อืมๆ เดี๋ยวจะพากอ(เรา)ไปแวะสวัสดีแกอยู่" แล้วหันมาถามเราว่า จำได้มั้ยคนนั้นงัย ตอนงานแต่งเค้าก็มา เราก็พยักหน้า(เราก็รู้สึกโอเค ดูทอแคร์ความรู้สึกเราจัง)
พอเย็นกลับขอนแก่น ระหว่างในรถ ทอก็เล่าว่า แม่บอกว่า ที่เล่าให้ออฟัง เพราะออถามว่าทำไม่เรามีลูกโตเร็วจัง มีลูกก่อนแต่งเหรอ แม่เลยเล่าให้ออฟัง เพราะเห็นออเป็นคนในครอบครัว แม่ไม่รู้ว่าออจะไปพูดต่อ เดี๋ยวแม่จะไปต่อว่าออให้ แล้วทอก็ปลอบใจเราว่า ดีแล้วที่แม่พูดแบบนี้ เธอจะได้ไม่โดนว่าท้องก่อนแต่งงัย แล้วก็หัวเราะแบบเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆอ่ะค่ะ
เราก็โอเคพยามไม่คิดมาก แต่เราก็ตะขิดตะขวงใจอยู่ดี ตอนนี้ทอก็ไปเตะบอก เราก็นั่งเครียด อยากห้ามเค้าคบเพื่อนกลุ่มมัธยมจังเลยค่ะ แล้วก็รู้สึกไม่ชอบที่แม่ทอชอบพูดเรื่องออบ่อยๆ เราควรจะพูดยังงัยดีคะ หรือเราควรห้ามเค้าคบเพื่อนตรงๆไปเลย และบอกแม่ไปตรงๆเลย ว่าคิดมากเรื่องออ หรือควรจะนิ่งๆ ไม่รู้ไม่ชี้ดีคะ โว้ะ!!! เครียดค่ะ