เนื่องจากเดือนกันยายนปีแล้ว พ่อเราได้เข้าโรงพยาบาล ราชเวชเชียงใหม่ เพราะเส้นเลือดสมองแตก
และนอนอยู่ที่ -ICU
(แต่ขณะที่เข้าโรงพยาบาลนั้น ตัวเราและแม่ อยู่ที่สมุทรปราการเพราะว่ามาเรียนหนังสืออยู่ที่นี่)
และได้รู้เรื่องว่าพ่อเข้าโรงพยาบาลหลังจากนั้นหนึ่งวัน
พอเราไปถึงโรงพยาบาล ก็พบว่าไม่มีอะไรติดตัวพ่อเลยสักชิ้นเดียว แม้แต่สร้อยพระก็ไม่มี
ซึ่งโดยปกติ พ่อจะเป็นคนที่มีกระเป๋าพระเครื่อง และปืน ติดตัวอยู่ตลอดเวลา (พ่อเป็นข้าราชการ)
เราเลยไปทำการแจ้งความที่โรงพักเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดจากโรงพยาบาลว่าคนที่นำพ่อมาส่งโรงพยาบาล
ได้นำทรัพย์สินอะไรติดตัวออกไปด้วยหรือเปล่า?
แต่ทางโรงพยาบาลกลับบอกว่าไม่มีกล้องวงจรปิด
และคนที่นำพอมาส่งโรงพยาบาลไม่ยอมรับว่านำอะไรออกไป
และบอกว่าไม่มีอะไรติดตัวพ่อเราเลยมาสักอย่างเดียว
แต่หลังจากที่เราลงบันทึกประจำวันว่าของส่วนตัวพ่อเราหายไป
ประมาณสองเดือน คนที่นำกระเป๋าไปได้นำมาทิ้งไว้ที่น้องชาบพ่อเรา
และเราได้ไปรับของคืน ที่โรงพัก และลงบันทึกประจำวันว่ารับอะไรมาบ้าง
และ ตอนที่ตรวจดูของนั้น บัตรเอทีเอ็มได้หายไป แต่มีสลิปการกดเงินอยู่
และวันที่กดเงิน เป็นวันที่พ่อเรา เข้าโรงพยาบาล นอนในไอซ๊ยู (ตอนที่เราไม่อยู่)
เลยได้นำสลิปนั้นไปแจ้งกับโรงพัก เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดจากตู้ เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ
ทางธนาคารได้แจ้งกลับมาว่า จะส่งกลับมาให้ภายในหนึ่งเดือน และได้ลากยาวมาจนกันยา57
และเราได้รับหนังสือจากทางธนาคารที่ส่งให้ตำรวจว่า " ตู้เอทีเอ็มไม่มีกล้อง "
อ้าววววว แล้วที่รอมาคืออะไร เงินที่โดนกดออกไปคืออะไร?
เราเลยโทรไปสำนักงานใหญ่ และ พนง ได้ให้เบอร์ติดต่ออีกเบอร์หนึ่งมา
พอเราโทรไป เป็นพนง.ผู้ชายรับ และพูดจาดีมาก สักพัก มีมนุษย์ป้าคนนึงเสนอหน้าโผล่มาคุย
แล้วบอกว่า " น้องคะ ก็มันไม่มีกล้องอะ ถ้ามีก็ส่งให้ละ ตู้บางอันรุ่นเก่า บางอันรุ่นใหม่ มีกล้องบ้างไม่มีบ้าง ก็เหมือนการที่น้องไปเซเว่นละโดนปล้น แต่เซเว่นบอกว่าไม่มีกล้อง มันก็ให้ภาพไม่ได้นั่นแหละค่ะ" เท่านั้นแหละ โมโหเลย
เลยบอกไปว่า แล้วเงินที่โดนกดออกไปนี่คือตามไม่ได้ใช่มั้ย จะได้ไม่ต้องตาม
อีป้านี่ตอบกลับมาว่า " น้องก็ต้องไปให้ตำรวจเขาตามเอง" พร้อมกับบอกว่า อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบธนาคาร
เพราะเราอายัดไม่ทันเอง
1.การที่จะอายัดต้องเป็นเจ้าของบัญชีไม่ใช่หรอ แล้วตอนนั้นพ่อเรานอนอยู่ในไอซ๊ยู
2.ทำไมธนาคารตอบได้ชุ่ยมากว่า บางตู้มีกล้อง บางตู้ไม่มี แล้วถ้าเราเสร่อไปกดตู้ที่ไ่ม่มี แล้วโดนฆ่าตาย คาตู้
ธนาคารก็จะตอบแบบนี้ใช่มั้ยคะ ว่ามันไม่มีภาพ ให้ฉันทำยังไง?
3.มาตรฐานความปลอดภัยของธนาคารคุณคืออะไร ถ้าไม่มีความสามารถที่จะให้ความปลอดภัยในการรักษาเงินของลูกค้า ไม่ต้องเปิดธนาคารมั้ย?
เอาไปฝังไห ฝังโอ่งก็ได้
4.เราไม่รู้ว่าคนกดได้รหัสไปได้ยังไง ตอนนั้นพ่อเรามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำไมคุณถึงโบ้ยความผิดให้พ่อเราอย่างเดียวว่า ถ้าไม่บอกใครจะรู้รหัส
แล้ว ความปลอดภัยจากตู้เอทีเอ็ม คุณไม่จำเป็นต้องมีใช่มั้ย?
5.ถ้าเรากลับไปยังโรงพยาบาลราชเวช พร้อมกับงัดตู้เอทีเอ็ม เอาเงินของธนาคารคุณไปหมด
คุณก็คงจะตามตัวคนทำไม่ได้สินะ ?
สุดท้ายแล้วอยากจะบอกว่า เงินที่กดออกไป จำนวน สามหมึ่นบาทนั้น มันอาจจะไม่มากมาย
กับสถาบันการเงินที่ใหญ่ระดับประเทศแบบคุณ แต่ข้อมูลที่มันพึงจะมีในกล้องวงจรปิด มันสามารถต่อยอด ของจำนวนของที่หายไปได้อีกเยอะ
และ รู้สึกผิดหวัง และ เสียใจ กับธนาคารกรุงเทพอย่างมาก ถ้ารู้ว่ามาตรฐานความปลอดภัยของคุณห่วยแบบนี้
ทางบ้านดิฉันจะได้นำเงินไปขุดหลุมฝังไหฝังหม้อแบบอารยธรรมบ้านเชียง
อ้อ เลขตู้เอทีเอ็ม T155B523 วันที่กดเงินคือ 1 กันยายน 2556 เวลา 12.13.40-12.14.53น
ความปลอดภัยของตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ และโรงพยาบาลราชเวช อยู่ที่ไหน?
และนอนอยู่ที่ -ICU
(แต่ขณะที่เข้าโรงพยาบาลนั้น ตัวเราและแม่ อยู่ที่สมุทรปราการเพราะว่ามาเรียนหนังสืออยู่ที่นี่)
และได้รู้เรื่องว่าพ่อเข้าโรงพยาบาลหลังจากนั้นหนึ่งวัน
พอเราไปถึงโรงพยาบาล ก็พบว่าไม่มีอะไรติดตัวพ่อเลยสักชิ้นเดียว แม้แต่สร้อยพระก็ไม่มี
ซึ่งโดยปกติ พ่อจะเป็นคนที่มีกระเป๋าพระเครื่อง และปืน ติดตัวอยู่ตลอดเวลา (พ่อเป็นข้าราชการ)
เราเลยไปทำการแจ้งความที่โรงพักเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดจากโรงพยาบาลว่าคนที่นำพ่อมาส่งโรงพยาบาล
ได้นำทรัพย์สินอะไรติดตัวออกไปด้วยหรือเปล่า?
แต่ทางโรงพยาบาลกลับบอกว่าไม่มีกล้องวงจรปิด
และคนที่นำพอมาส่งโรงพยาบาลไม่ยอมรับว่านำอะไรออกไป
และบอกว่าไม่มีอะไรติดตัวพ่อเราเลยมาสักอย่างเดียว
แต่หลังจากที่เราลงบันทึกประจำวันว่าของส่วนตัวพ่อเราหายไป
ประมาณสองเดือน คนที่นำกระเป๋าไปได้นำมาทิ้งไว้ที่น้องชาบพ่อเรา
และเราได้ไปรับของคืน ที่โรงพัก และลงบันทึกประจำวันว่ารับอะไรมาบ้าง
และ ตอนที่ตรวจดูของนั้น บัตรเอทีเอ็มได้หายไป แต่มีสลิปการกดเงินอยู่
และวันที่กดเงิน เป็นวันที่พ่อเรา เข้าโรงพยาบาล นอนในไอซ๊ยู (ตอนที่เราไม่อยู่)
เลยได้นำสลิปนั้นไปแจ้งกับโรงพัก เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดจากตู้ เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ
ทางธนาคารได้แจ้งกลับมาว่า จะส่งกลับมาให้ภายในหนึ่งเดือน และได้ลากยาวมาจนกันยา57
และเราได้รับหนังสือจากทางธนาคารที่ส่งให้ตำรวจว่า " ตู้เอทีเอ็มไม่มีกล้อง "
อ้าววววว แล้วที่รอมาคืออะไร เงินที่โดนกดออกไปคืออะไร?
เราเลยโทรไปสำนักงานใหญ่ และ พนง ได้ให้เบอร์ติดต่ออีกเบอร์หนึ่งมา
พอเราโทรไป เป็นพนง.ผู้ชายรับ และพูดจาดีมาก สักพัก มีมนุษย์ป้าคนนึงเสนอหน้าโผล่มาคุย
แล้วบอกว่า " น้องคะ ก็มันไม่มีกล้องอะ ถ้ามีก็ส่งให้ละ ตู้บางอันรุ่นเก่า บางอันรุ่นใหม่ มีกล้องบ้างไม่มีบ้าง ก็เหมือนการที่น้องไปเซเว่นละโดนปล้น แต่เซเว่นบอกว่าไม่มีกล้อง มันก็ให้ภาพไม่ได้นั่นแหละค่ะ" เท่านั้นแหละ โมโหเลย
เลยบอกไปว่า แล้วเงินที่โดนกดออกไปนี่คือตามไม่ได้ใช่มั้ย จะได้ไม่ต้องตาม
อีป้านี่ตอบกลับมาว่า " น้องก็ต้องไปให้ตำรวจเขาตามเอง" พร้อมกับบอกว่า อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบธนาคาร
เพราะเราอายัดไม่ทันเอง
1.การที่จะอายัดต้องเป็นเจ้าของบัญชีไม่ใช่หรอ แล้วตอนนั้นพ่อเรานอนอยู่ในไอซ๊ยู
2.ทำไมธนาคารตอบได้ชุ่ยมากว่า บางตู้มีกล้อง บางตู้ไม่มี แล้วถ้าเราเสร่อไปกดตู้ที่ไ่ม่มี แล้วโดนฆ่าตาย คาตู้
ธนาคารก็จะตอบแบบนี้ใช่มั้ยคะ ว่ามันไม่มีภาพ ให้ฉันทำยังไง?
3.มาตรฐานความปลอดภัยของธนาคารคุณคืออะไร ถ้าไม่มีความสามารถที่จะให้ความปลอดภัยในการรักษาเงินของลูกค้า ไม่ต้องเปิดธนาคารมั้ย?
เอาไปฝังไห ฝังโอ่งก็ได้
4.เราไม่รู้ว่าคนกดได้รหัสไปได้ยังไง ตอนนั้นพ่อเรามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำไมคุณถึงโบ้ยความผิดให้พ่อเราอย่างเดียวว่า ถ้าไม่บอกใครจะรู้รหัส
แล้ว ความปลอดภัยจากตู้เอทีเอ็ม คุณไม่จำเป็นต้องมีใช่มั้ย?
5.ถ้าเรากลับไปยังโรงพยาบาลราชเวช พร้อมกับงัดตู้เอทีเอ็ม เอาเงินของธนาคารคุณไปหมด
คุณก็คงจะตามตัวคนทำไม่ได้สินะ ?
สุดท้ายแล้วอยากจะบอกว่า เงินที่กดออกไป จำนวน สามหมึ่นบาทนั้น มันอาจจะไม่มากมาย
กับสถาบันการเงินที่ใหญ่ระดับประเทศแบบคุณ แต่ข้อมูลที่มันพึงจะมีในกล้องวงจรปิด มันสามารถต่อยอด ของจำนวนของที่หายไปได้อีกเยอะ
และ รู้สึกผิดหวัง และ เสียใจ กับธนาคารกรุงเทพอย่างมาก ถ้ารู้ว่ามาตรฐานความปลอดภัยของคุณห่วยแบบนี้
ทางบ้านดิฉันจะได้นำเงินไปขุดหลุมฝังไหฝังหม้อแบบอารยธรรมบ้านเชียง
อ้อ เลขตู้เอทีเอ็ม T155B523 วันที่กดเงินคือ 1 กันยายน 2556 เวลา 12.13.40-12.14.53น