คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ขอชื่นชมจขกท.ที่มีการวิเคราะห์ตัวเองและบอกรายละเอียดได้อย่างดีมากๆเลยค่ะ
อยากให้คนอื่นที่เข้ามาตั้งกระทู้ "มีเงิน *** บาท ลงทุนอะไรดี" หรือ ที่มีปัญหาเรื่องการทำธุรกิจต่างๆ
ให้รายละเอียดและวิเคราะห์ตัวเองแบบนี้ค่ะ
เดาว่า จขกท. คงจะได้เรียนเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจมา
แม้ความรู้เราจะน้อยนิดแต่ก็ขอแนะนำ ดังนี้ค่ะ
1. สำหรับธุรกิจที่เข้าปีที่ 3แล้วไม่มีเงินทุนหมุนเวียน แสดงว่า ธุรกิจของเราขาดทุนค่าแรงของเราเองค่ะ
ลองนั่งทำบัญชีต่างๆ ดูนะคะ จะทำให้มองเห็นตัวเองได้อย่างทะลุมากขึ้นค่ะ
2. ถ้าจขกท.เรียนบริหารธุรกิจมา แล้วได้ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ก็ลองหาอัตราส่วนต่างๆ ดูค่ะ
เช่น ค่าเช่า คิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของยอดขาย
อัตรากำไรขั้นต้นเท่าไหร่ น้อยไปหรือไม่
ค่าจ้างพนักงานเทียบกับรายได้แล้วเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ เพื่อจะได้ทราบประสิทธิภาพในทำรายได้ของพนักงานค่ะ
3. เมื่อทราบจุดอ่อนของธุรกิจเราแล้ว ก็จะแก้ปัญหาได้ตรงจุดค่ะ
4. ต่อมาเรื่องการตลาดค่ะ ต้องposition ตัวเองว่า เราจะขายให้ใคร หรือ วิเคราะห์ลูกค้าของเราว่า
เป็นใคร อาชีพอะไร รายได้ประมาณเท่าไหร่ แล้วหาสินค้าให้เหมาะสมกับลูกค้า
ความหลากหลายเป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับธุรกิจที่มีทุนน้อย เราต้องเจาะตลาดค่ะ
ดูว่าคู่แข่งรายใหญ่เค้าเจาะกลุ่มไหน เราอย่าไปชนกับเค้าค่ะ เกาะลูกค้าของเราให้แน่นค่ะ
5. คนสมัยนี้ ชอบซื้อสินค้าตามดารา จขกท.ก็หารูปดาราที่ไปงานต่างๆ แล้วก็เชียร์ลูกค้าซื้อแบบที่ใกล้เคียงค่ะ
6.จัดทำแคตตาล็อคสำหรับร้านเราเอง ทำให้ดี สวยๆ นะคะ
(แคตตาล็อคพวกนี้จะเป็นพนักงานขายให้เราได้ค่ะ)
ให้ลูกค้าสั่งซื้อค่ะ ไม่ต้องสต๊อคสินค้าค่ะ
7. ถ้าจขกท. มีแฟน ให้ทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ค่ะ ลูกค้าบางคนไม่กล้าซื้อ
เพราะมองไม่เห็นภาพว่าถ้ามีคนใช้แล้วจะสวยแค่ไหน
8. สินค้าแฟชั่น สำคัญที่การตั้งราคาค่ะ คิดวิเคราะห์ให้ดีเลยนะคะ
ว่า จะขายถูก แต่เยอะ หรือ ขายแพงหน่อยแต่ดี
สินค้าที่โดดเด่นต้องตั้งราคาให้สูงหน่อย หาพระเอกของเราให้เจอค่ะ แล้วโชว์ให้เด่น ให้ลูกค้าผ่านแล้วต้องหันมามองค่ะ
9. การจัดหน้าร้าน ลองมองจากไกลๆ ว่า เห็นร้านเราหรือเปล่า
ขับรถผ่านแล้วเห็นร้านเราไม๊
10.มารยาทของพนักงานขาย ต้องอบรมก่อนนะคะ ไม่ใช่หน้าหงิก
ทำสายตาดูถูกลูกค้า ข่มลูกค้า นินทาลูกค้า พูดจาเสียงดัง เหมือนไม่มีมารยาท
เรื่องยาวเลยค่ะ ถ้ารักอาชีพนี้ ก็ลองสู้ดูนะคะ
เอาใจช่วยค่ะ...
อยากให้คนอื่นที่เข้ามาตั้งกระทู้ "มีเงิน *** บาท ลงทุนอะไรดี" หรือ ที่มีปัญหาเรื่องการทำธุรกิจต่างๆ
ให้รายละเอียดและวิเคราะห์ตัวเองแบบนี้ค่ะ
เดาว่า จขกท. คงจะได้เรียนเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจมา
แม้ความรู้เราจะน้อยนิดแต่ก็ขอแนะนำ ดังนี้ค่ะ
1. สำหรับธุรกิจที่เข้าปีที่ 3แล้วไม่มีเงินทุนหมุนเวียน แสดงว่า ธุรกิจของเราขาดทุนค่าแรงของเราเองค่ะ
ลองนั่งทำบัญชีต่างๆ ดูนะคะ จะทำให้มองเห็นตัวเองได้อย่างทะลุมากขึ้นค่ะ
2. ถ้าจขกท.เรียนบริหารธุรกิจมา แล้วได้ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ก็ลองหาอัตราส่วนต่างๆ ดูค่ะ
เช่น ค่าเช่า คิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของยอดขาย
อัตรากำไรขั้นต้นเท่าไหร่ น้อยไปหรือไม่
ค่าจ้างพนักงานเทียบกับรายได้แล้วเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ เพื่อจะได้ทราบประสิทธิภาพในทำรายได้ของพนักงานค่ะ
3. เมื่อทราบจุดอ่อนของธุรกิจเราแล้ว ก็จะแก้ปัญหาได้ตรงจุดค่ะ
4. ต่อมาเรื่องการตลาดค่ะ ต้องposition ตัวเองว่า เราจะขายให้ใคร หรือ วิเคราะห์ลูกค้าของเราว่า
เป็นใคร อาชีพอะไร รายได้ประมาณเท่าไหร่ แล้วหาสินค้าให้เหมาะสมกับลูกค้า
ความหลากหลายเป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับธุรกิจที่มีทุนน้อย เราต้องเจาะตลาดค่ะ
ดูว่าคู่แข่งรายใหญ่เค้าเจาะกลุ่มไหน เราอย่าไปชนกับเค้าค่ะ เกาะลูกค้าของเราให้แน่นค่ะ
5. คนสมัยนี้ ชอบซื้อสินค้าตามดารา จขกท.ก็หารูปดาราที่ไปงานต่างๆ แล้วก็เชียร์ลูกค้าซื้อแบบที่ใกล้เคียงค่ะ
6.จัดทำแคตตาล็อคสำหรับร้านเราเอง ทำให้ดี สวยๆ นะคะ
(แคตตาล็อคพวกนี้จะเป็นพนักงานขายให้เราได้ค่ะ)
ให้ลูกค้าสั่งซื้อค่ะ ไม่ต้องสต๊อคสินค้าค่ะ
7. ถ้าจขกท. มีแฟน ให้ทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ค่ะ ลูกค้าบางคนไม่กล้าซื้อ
เพราะมองไม่เห็นภาพว่าถ้ามีคนใช้แล้วจะสวยแค่ไหน
8. สินค้าแฟชั่น สำคัญที่การตั้งราคาค่ะ คิดวิเคราะห์ให้ดีเลยนะคะ
ว่า จะขายถูก แต่เยอะ หรือ ขายแพงหน่อยแต่ดี
สินค้าที่โดดเด่นต้องตั้งราคาให้สูงหน่อย หาพระเอกของเราให้เจอค่ะ แล้วโชว์ให้เด่น ให้ลูกค้าผ่านแล้วต้องหันมามองค่ะ
9. การจัดหน้าร้าน ลองมองจากไกลๆ ว่า เห็นร้านเราหรือเปล่า
ขับรถผ่านแล้วเห็นร้านเราไม๊
10.มารยาทของพนักงานขาย ต้องอบรมก่อนนะคะ ไม่ใช่หน้าหงิก
ทำสายตาดูถูกลูกค้า ข่มลูกค้า นินทาลูกค้า พูดจาเสียงดัง เหมือนไม่มีมารยาท
เรื่องยาวเลยค่ะ ถ้ารักอาชีพนี้ ก็ลองสู้ดูนะคะ
เอาใจช่วยค่ะ...
แสดงความคิดเห็น
ธุรกิจเริ่มเข้าเนื้อ ขาดสภาพคล่อง ทำอย่างไรดีครับ ช่วยหน่อย
ขอสอบถามผู้มีประสบการณ์หน่อยนะครับ**
ผมเปิดร้านขายสินค้าประเภทแฟชั่น(โดยเฉพาะกระเป๋า) อยู่ในทำเลที่ดีมากๆในตัวจังหวัด แต่ค่าเช่าสูง และมีคู่แข่ง 2-3 เจ้า
เปิดมาได้ 3 ปีแล้วครับ ทุกปีหมุนเงินพออยู่ได้เรื่อยๆ มาปีนี้หนักจริงๆ ยอดขาย+ลูกค้าหายไปเกิน 50% (ส่วนนึงคาดว่าเพราะเศรษฐกิจและคู่แข่งทางอ้อมรายนึงขยายกิจการใหญ่โตดึงลูกค้าไปหมด)
จนปัจจุบันเริ่มเข้าเนื้อครับ เงินทุนซื้อของไม่มี ของในร้านก็ร่อยหรอ (คือในความเป็นจริงก็มีสินค้าบางตัวที่ขายและทำกำไรได้ แต่ไม่มากพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ)
**วิเคราะห์คร่าวๆให้พอเห็นภาพนะครับ**
จุดแข็ง
- ความรู้และความเข้าใจในตัวสินค้า จากประสบการณ์ที่ขายมาประมาณ 3 ปี ทำให้พอรู้ว่าตัวไหนขายได้ ตัวไหนทำกำไรได้สูง
- ทำเลที่ตั้งถือว่าแทบจะดีที่สุดในจังหวัดเลยก็ว่าได้ อยู่ในย่านการค้าใจกลางเมือง ใกล้ตลาด ติดถนนหลัก ใกล้สถานีรถไฟ ผู้คนจากจังหวัดข้างเคียงชอบเดินทางเข้ามาเลือกซื้อสินค้าในบริเวณนี้
จุดอ่อน
- เงินทุนน้อย
- สินค้ายังไม่ค่อยมีความแตกต่างจากคู่แข่งมากนัก (มีบางประเภทที่แตกต่างและขายได้ดี)
- ค่าเช่าสูงมาก อยู่ในกลุ่มสูงที่สุดในตัวจังหวัด (เนื่องด้วยเพราะทำเล)
- พื้นที่ขายหน้าร้านน้อย (เป็นอาคารพานิชย์ข้างล่างแคบ ข้างบนกว้าง)
- แม้เป็นทำเลที่ดีแต่ช่วงเวลาการขายค่อนข้างน้อย คือแค่ช่วงกลางวันถึงไม่เกิน 1 ทุ่ม หลังจากนั้นก็จะไม่มีคนแล้ว
- ขาดการทำการตลาดที่ดี
โอกาส
- ด้วยทำเลที่ตั้งของตัวเมืองติดกับจังหวัดรอบข้างไปมาสะดวกทั้งทางรถและรถไฟ จึงถือว่าเป็นแหล่งการค้าปลีก ค้าส่ง ของคนจังหวัดรอบข้าง 2-3 จังหวัดและเป็นศูนย์กลางราชการ+การแพทย์ด้วย
- ตัวสินค้าประเภทแฟชั่นจะเกาะกลุ่มกันอยู่ในทำเลนี้เป็นแหล่งใหญ่ที่สุด ทำให้เป็นที่จดจำของลูกค้า ลูกค้าในตัวจังหวัดและข้างเคียงจะมุ่งมายังทำเลนี้ก่อน
- ยังไม่มีห้างโมเดิร์นเทรดจากส่วนกลางเข้ามาลงทุนในพื้นที่ มีแต่ห้างสรรพสินค้าเล็กๆ(คนจะเยอะมากช่วงวันหยุด)
อุปสรรค
- สินค้ายังไม่มีจุดเด่นชัดเจน ทำให้เกิดคู่แข่งได้ง่าย สินค้าบางตัวแข่งขันสูงคู่แข่งตัดราคากัน เหมือนขายเอามันส์ --'
- ราคายางตกมากๆ ทำให้คนไม่มีกำลังซื้อ (จังหวัดที่ผมอยู่และจังหวัดรอบข้าง เศรษฐกิจพึ่งพาจากผลผลิตการเกษตรเป็นหลัก)
- จังหวัดค่อนข้างห่างไกลความเจริญ นวัตกรรมหรืออะไรใหม่ๆจากส่วนกลางจะมาถึงช้า การบริโภคของคนในท้องถิ่นยังเดิมๆอยู่
***คำถามนะครับ ไม่ทราบว่าผมควรจะทำอย่างไรดีระหว่าง***
1.เพิ่มทุน ขายประเภทเดิม ที่เดิม แต่จับกลุ่มลูกค้าใหม่ สินค้าเฉพาะทางมากขึ้น ทำการตลาดให้มากขึ้น (แต่คาดว่าจะกู้ได้ไม่มาก เพราะไม่มีทรัพย์ค้ำเลย)
2.หาทำเลใหม่ที่ถูกลง แต่ก็คาดว่าจะขายได้น้อยลง เพราะคนน้อยลงและไม่ใช่แหล่งที่คนจะนึกถึง ต้องเน้นทำการตลาดหนักๆ
3.เปลี่ยนไปขายในห้าง (ตอนนี้มีพื้นที่ว่างราคาถูกกว่าเท่าตัว แต่ทำเลข้างในยังไม่ค่อยดี)
4.เปลี่ยนเป็นขายอย่างอื่น แต่ยึดทำเลเดิม
5.ลงทุนทำอะไรใหม่ หาทำเลใหม่
6.เลิกทำ หยุดพักกายพักใจก่อนซักระยะ TT (ลืมบอกไป ผมมีงานประจำอยู่แล้วครับ)
ขอบคุณล่วงหน้าครับ