ตัวอย่างประวัติศาสตร์ที่กฎหมายมรดกจะทำให้ประเทศเจริญขึ้นอย่างก้าวกระโดด

กระทู้คำถาม
ผมเห็นหลายท่านไม่เห็นด้วยกับกฎหมายมรดก แต่ที่แน่ใจเลยคือ ยังไงกฎหมายฉบับนี้จะต้องถูกผลักดันให้ผ่านออกมาแน่นอน ดังนั้นเพื่อให้ทำใจ

รับกฎหมายฉบับนี้ได้ง่ายขึ้น ผมจะยกตัวอย่างว่ากฎหมายมรดกทำให้ประเทศเจริญได้อย่างไร ตัวอย่างแรกย้อนไปสมัยหลังพุทธกาลไม่เกิน 100 ปี

รัฐฉินก่อนที่จะรวมทั้งเจ็ดรัฐเป็นหนึ่งเดียวสถาปนาประเทศจีนให้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกใน ปวศ.โลก อ๋องแคว้นฉินได้ทำการเวนคืนที่ดินจาก LandLord

ทั้งหมดแล้วนำมาปันส่วน(มาตรการนี้โหดร้ายกว่า กม.มรดกมาก แต่มีความคล้ายคลึงกันทางผลลัพท์) ให้ชาวนา เพราะเล็งเห็นว่าบุตรหลานของเจ้าที่ดิน

ไม่ต้องทำงาน ลำพังเก็บค่าเช่าที่ก็ดำรงชีวิตอย่างมีความสุข หลังจากเวนคืนแล้วเท่ากับว่าคนเหล่านี้ต้องสร้างผลผลิต(เอามาเลี้ยงลูกเมีย เพราะ

ไม่สบายอย่างแต่ก่อน) ส่งผลให้เก็บภาษีรายปีได้สูงขึ้นอีก ทำให้แคว้นฉินมั่งคั่งขึ้นจนแผ่ขยายเป็นมหาอำนาจ......

ตัวอย่างที่สอง การปฎิวัติเมจิในปี 1912 จากแต่เดิม รบ.โชกุน(บาคุฟุ) ปกครองประเทศมีไดเมียวปกครองหัวเมืองต่างๆ ทั้งหมดเป็นเจ้าของที่ ทำให้

คนส่วนใหญ่ต้องเช่าที่นาทำกิน ประเทศเจริญช้า ต่อมามีการยึดอำนาจ จึงมีการเวนคืนที่ดินจากไดเมียว และเพื่อป้องกันการครอบครองที่ดินจนเกิน

ความต้องการ รบ.จึงออก กม.มรดก เพื่อให้คนส่วนใหญ่สามารถถือครองที่ดินได้ ดังนั้นที่ดินจึงกระจายจากมือ Landlord ทั้งหลายไปสู่มือชาวบ้าน

ธรรมดา ทำให้ประเทศเก็บภาษีได้มากขึ้นและมีผลผลิตสูงขึ้น ส่งผลให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศมหาอำนาจในเวลาเพียง 40-50 ปีต่อมา

        จากตัวอย่างทั้งสองที่ผมยกมา และ จปส.ของกระทู้นี้ไม่ได้มีเพื่อที่จะโต้แย้งกับผู้ที่คัดค้าน กม.มรดก นะครับ แต่เพื่อแสดงให้เห็นว่า ไหนๆ

เราท่านต่างก็ต้องเผชิญกับ กม.นี้แล้ว ก็ควรจะทำความเข้าใจ และรับรู้ถึงข้อดีของมันใน ปวศ. ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่