::::: " ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก " ชีวิตลงตัว อยู่กับสิ่งที่มีความสุข :::::

" ใบเฟิร์น " ชีวิตลงตัว อยู่กับสิ่งที่มีความสุข

ห่างจอแก้วไปนานปีกว่า ล่าสุดนางเอกสาว "ใบเฟิร์น"พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ก็กลับมากระชากเรตติ้งให้ช่อง 7 กับละครเรื่อง "คุณผีที่รัก" ที่ได้รับบท "น้ำมนต์" จับคู่จิ้นกับพระเอกสุดซี้ "พอร์ช"ศรัณย์ ศิริลักษณ์ ในบท "พีระ" จนแฟนๆ ฟิน


ฟีดแบ็กละคร "คุณผีที่รัก" เป็นยังไงบ้าง

ใบเฟิร์น - "ดีเลยค่ะ ด้วยเป็นละครตลกคนจะรู้สึกว่า ดูง่าย แล้วจะมีคนบอกว่าเรื่องนี้เฟิร์นเล่นตลกไม่ห่วงสวย สบายใจที่คนคอมเมนต์ทางบวก จริงๆ ที่ผ่านมาจะได้รับแต่บทดราม่า แต่คาแร็กเตอร์ "น้ำมนต์" ดูเป็นการ์ตูนๆ ยอมรับตอนแรกที่รู้ว่าต้องเล่นตลกแบบนี้เครียดมาก เพราะคิดว่าเล่นไม่ได้แน่ๆ"

"อย่างถ่ายฉากเจอผีแล้วต้องกลัว กลายเป็นว่าเล่นแบบกลัวผีจริงจังจนดูเป็นผีน่ากลัว ตอนหลังโละบทเปลี่ยนใหม่ แล้วก็มาตีความว่าต้องเล่นยังไงให้ดูเป็นการกลัวแบบคอมเมดี้และต้องดูสมจริงด้วย ทำให้ต้องไปเรียนการแสดงเพิ่ม เพื่อให้จับทางได้ว่าตัวละครน้ำมนต์เป็นยังไง ผลที่ออกมาก็เป็นที่พอใจที่คนดูชอบกัน อีกอย่างที่ดีใจคือมีกลุ่มแฟนคลับที่รอดูละครของเฟิร์นอยู่หลังหายหน้าไปนาน"


ยากที่สุดในละครคืออะไร

ใบเฟิร์น - "คงเป็นเรื่องซีจีเพราะมีความรู้เรื่องนี้น้อย เคยเจอตอนเล่น "อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว" แต่อันนั้นคนละฟีลกัน เพราะเล่นเป็นแม่มด ของทุกอย่างลอยได้ซึ่งเป็นซีจีของส่วนที่ลอย แต่ในเรื่องนี้เฟิร์นเล่นเป็นคนแล้วพอร์ชเป็นผีการถ่ายทำต้องตั้งกล้องแมตช์เฟิร์น แมตช์พอร์ช แมตช์ทั้งสองคน มันยากมากแต่ก็ท้าทายดีค่ะ"


ได้หวนมาเจอคู่จิ้นอย่าง "พอร์ช-ศรัณย์" ด้วย

ใบเฟิร์น - "ใช่ค่ะ เคยเล่นละครเทิดพระเกียรติ "ลูกโขน" ด้วยกัน พอรู้ว่าจะได้เจอกันใน "คุณผีที่รัก" ก็สบายใจมาก เพราะสนิทกัน เล่นอะไรไม่เขิน มองตาก็รู้ใจ เฟิร์นกับพอร์ชโชคดีที่เล่นด้วยกันแล้วจะรู้สึกว่าเคมีมันเข้ากันง่าย"

"เฟิร์นหายจากจอไปนานปีกว่า เรื่องล่าสุด "ลูกไม้หลากสี" ที่ดูหายไปนานส่วนหนึ่งเพราะเรื่อง "คุณผีที่รัก" มันเลื่อน ทำบทใหม่ ถ่ายใหม่หมด รวมถึงเฟิร์นติดเรียนทำให้รับละครทีละเรื่อง"


ได้แจ้งผู้ใหญ่ไหมว่าเน้นเรียนเป็นหลัก

ใบเฟิร์น - "บอกค่ะ ตอนเซ็นสัญญาเข้ามากับคุณแดง(สุรางค์) คุณแดงบอกว่าเขารักเด็กที่ตั้งใจเรียน ทำให้เฟิร์นสบายใจมาก เพราะเป็นข้อตกลงกับที่บ้านว่าถ้าทำงานในวงการบันเทิงการเรียนต้องไม่ตก ยอมรับเคยมีช่วงท้อ งอแง งานก็เยอะ เรียนก็ต้องเรียน โทร.ไปหาแม่บอกไม่ไหวแล้ว ทำไมสองมือที่พยายามคว้าไว้ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงานแต่มันไม่ได้จริงๆ เหนื่อยมาก คนที่ไม่เข้าใจก็จะมองว่าเฟิร์นหายไปเพราะเป็นนางเอกขาลง จริงๆ ไม่ติดใจคำว่าขาลง แต่แค่รู้สึกว่าตัวเองทำเต็มที่แล้วแต่มันได้แค่นี้จริงๆ"

"สุดท้ายก็ปล่อยทั้งสองอย่างไม่ได้ กว่าจะได้เล่นละครสักเรื่องไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะมีวันนี้ได้มันเป็นโชคดีของเราไม่ใช่เหรอ เรื่องเรียนก็เหมือนกัน กว่าจะมาได้จนถึงทุกวันนี้สู้มาตั้งเยอะ เหลืออีกนิดเดียวที่จะทำให้มันจบ"


ทุ่มเทเรื่องเรียนขนาดนี้ ผลการเรียนได้ดั่งใจไหม

ใบเฟิร์น - "ไม่อยากคุย ตอนนี้เฟิร์นอยู่ปี 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและการ กำกับการแสดง ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ผลการเรียน 3 อัพทุกเทอม"


เรียนจบลุยละครเต็มที่เลยไหม

ใบเฟิร์น - "เฟิร์นยังติดนิสัยรับละครทีละเรื่องอยู่ เพราะทำงานละครบางทีกินไป 3-4 วันต่ออาทิตย์ เฟิร์นไม่ได้มองว่าละครคือทั้งชีวิต แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ดีที่เข้ามาในชีวิต อีกส่วนหนึ่งก็มีมุมอยากมีเวลาอยู่กับครอบครัว อยู่กับเพื่อน อยากเล่นหนัง อยากลองทำงานอื่นๆดู ไม่ได้ต้องการให้ตัวเองเป็นคนมีงานเยอะที่สุด มีชื่อเสียงที่สุด แต่ขอให้ชีวิตลงตัวก็โอเค ซึ่งหลังจบ "คุณผีที่รัก" งานละครยังไม่มี แต่ตอนนี้ ถ่ายหนังอยู่ 2 เรื่อง "2538 อัลเทอร์มาจีบ" ของโมโนฯ กับอีกเรื่องของเวิร์คพอยท์ฯ กำลังบวงสรวงเปิดกล้อง แต่ยังไม่บอกชื่อเรื่อง"


ดูเป็นคนมีงานเรื่อยๆ ไม่หวือหวา

ใบเฟิร์น - "ใช่ค่ะ พอใจและสบายใจที่เป็นแบบนี้ จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นในชีวิต จริงๆ เข้าวงการนานแล้ว แต่เริ่มเป็นที่รู้จักจริงๆ ตอนเล่นหนัง "สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก" 5 ปีที่แล้ว จนถึงวันนี้พอใจกับชีวิตในวงการมาก ไม่คิดว่าจะได้เล่นหนังเล่นละคร พอได้เล่นสิ่งเล็กๆฯ ก็ไม่คิดว่าจะมีคนชอบเยอะขนาดนี้ ดังไปถึงต่างประเทศ ทุกอย่างดูเป็นกำไรของชีวิตมากแล้ว"


วันนี้พอใจกับชื่อเสียงตัวเองรึยัง

ใบเฟิร์น - "มาแค่นี้เฟิร์นดีใจมากแล้ว ทุกอย่างเกินฝัน ทุกวันนี้ยังงงกับตัวเองอยู่เลย"


มองอนาคตในวงการยังไง

ใบเฟิร์น - "ยังมองอนาคตไม่เป็น เพราะไม่เคยมองอะไรไปไกลขนาดนั้น แต่ถามว่ารู้ไหมว่าความสุขของตัวเองคืออะไร ตอนนี้รู้แล้วว่าชอบการแสดงในทุกแขนง รู้สึกโชคดีที่ได้ยืนในทุกที่ที่ตัวเองชอบ ได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว ทุกอย่างลงตัวไปหมด"

"ฉะนั้นอนาคตของเฟิร์นคืออยู่กับสิ่งที่มีความสุข เฟิร์นอาจจะไม่ได้มีฝันที่ยิ่งใหญ่มากไปกว่าความสุขตรงนี้ที่มีทุกวันค่ะ"


สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

"จริงๆ ก็ไม่เงียบนะคะ ก็มีเข้ามาบ้าง" สาวใสวัย 21 ปี "ใบเฟิร์น"พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ รีบออกตัวเรื่องหัวใจที่เจอทักว่าดูเงียบๆ ไป

แล้วมีใครอยู่ในใจหรือยัง น้องหนูหัวเราะ "บอกเลยมีเรื่อยๆ แต่พอถึงเวลาที่รู้สึกคนนี้แหละคือรักแท้ แต่ไม่เกิน 3 เดือนกลายเป็นไม่ใช่ จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เฟิร์นรู้สึกว่าไม่เอาดีกว่า อย่างคนที่คุยด้วยล่าสุดเป็นคน นอกวงการ ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งแนวโน้มก็ยังไม่มีอะไรแย่ แต่ถามว่ามีอะไรที่มั่นใจขนาดนั้นหรือเปล่า ก็ยังไม่รู้"

เขาเกร็งไหมที่คุยกับ "ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก" "ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาคุยกับเฟิร์นจะไม่ค่อยเกร็ง เพราะนิสัยปกติเฟิร์นเป็นคนกวนๆ เล่นๆ แต่ทางกลับกัน เฟิร์นไม่ชอบผู้ชายที่กวนมาก แต่ผู้ชายส่วนใหญ่พอเห็นว่าเฟิร์นกวนก็จะกวนกลับเพื่อให้ดูว่านิสัยไปทางเดียวกัน ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะเฟิร์นก็จะแบบทำไมไม่พูดดีๆ อ่ะ ทุกวันนี้งงตัวเองเหมือนกัน มันถึงยังไม่มีอะไรจริงจังสักที"


แล้วหนุ่มๆ ในวงการมีเข้ามาบ้างไหม ใบเฟิร์นแง้ม "มีเหมือนกัน แต่เฟิร์นเป็นคนแน่ใจอะไรมากๆ ยาก พอเป็นคนในวงการเหมือนกันก็พอรู้ว่าใครเป็นยังไง"

อย่าง "พอร์ช-ศรัณย์" ไม่มีแนวโน้มบ้างเหรอ "เฟิร์นรู้จักพอร์ชตั้งแต่ก่อนที่เราสองคนจะเข้ามาเซ็นสัญญากับช่อง 7 แล้ว"

แต่คนก็ลุ้นอยากให้เป็นแฟนกันจริงๆ "ถ้าเป็นจริงๆ โลกแตกแน่ ลักษณะจะไม่มีใครยอมใคร เราสองคนเล่นกันแรงเกินกว่าจะมาหวานใส่กันได้อย่างคนที่เป็นแฟนกัน กล้าฟันธงเลยว่าคู่จิ้นคนนี้ไม่มีทางเป็นคู่จริงแน่นอนค่ะ ยอมรับพอร์ชหล่อ มีเสน่ห์ น่ารัก นิสัยดี แต่คนบางคนที่เป็นเพื่อนกันจนมันรู้นิสัยมันก็ยากที่จะรู้สึกอะไรเกินเพื่อนค่ะ"

ทุกวันนี้แม้ไม่ซีเรียสเรื่องความรัก แต่ดาราสาวยอมรับว่าอยากมีแฟน

"คนที่สนิทจะรู้ว่าเฟิร์นเพ้อเจ้อเพ้อฝัน พอร์ชว่าประจำว่าเฟิร์นบ้า เพ้อหาผู้ชายในฝัน อยากได้เจ้าชาย แล้วชาตินี้จะหาเจอไหม(หัวเราะ) เพราะสเป๊กเฟิร์นอยากได้คือสุภาพ อ่อนโยน แสนดี โรแมนติก มีเสน่ห์ รูปหล่อ เหมือนเจ้าชายที่อ่านในหนังสือ" ดาราสาวกล่าว

ที่บ้านว่ายังไงกับเรื่องความรัก "ที่บ้านไม่เคยห้ามไม่เคยว่า แม่รู้ทุกเรื่องรู้ทุกคนว่ามีใครเข้ามาจีบบ้าง แต่ช่วงหลังๆ แม่จะ ไม่ค่อยยุ่งแค่บอกว่ามีใครชัวร์ๆ เมื่อไหร่บอกแล้วกัน"

สุดท้ายเจ้าตัวแง้มนิยามความรักว่า "ความรักของเฟิร์นคือการมีใครสักคนที่ทำให้ตัวเองอยากตื่นขึ้นมาในทุกๆ วัน เป็นแรงกระตุ้น เป็นแรงบันดาลใจให้เฟิร์นอยากทำอะไรใหม่ๆ ซึ่งถ้ามีผู้ชายคนไหนที่ทำให้เฟิร์นรู้สึกแบบนี้ได้ บอกเลย เฟิร์นจะแต่งงานกับเขา แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครทำให้เฟิร์นอยากตื่นได้ มีแต่จะอยากนอนต่อตลอด"


ตัวตน

เป็นคนที่ใช้ชีวิตง่ายๆ สบายๆ สำหรับสาว หมวย "ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก" บางครั้งง่ายเกินไปจนรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับคำว่าดารานักแสดง

ใบเฟิร์นกล่าวว่า "ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ ว่าคนเป็นดาราต้องทำยังไง แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ ก็ทำความเข้าใจว่าที่จริงแล้วอยู่ที่เราอยากเป็นแบบไหน เพราะดารานักแสดงก็คืออาชีพหนึ่ง ถ้าไปคิดว่าตัวเองเป็นดาราแบบนั้นจะเหนื่อย แต่ถ้ามองเป็นอาชีพเราก็ทำไปตามหน้าที่ที่ให้ความสุขกับคนดู ซึ่งทุกวันนี้ยอมรับว่ารักในการเป็นนักแสดง มีความสุขทุกครั้งที่ได้แสดงบทบาทใหม่ๆ แต่จะไม่ถนัดพวกงานโชว์ตัว เดินแบบ หรืออีเวนต์ ไม่ชินกับโมเมนต์ที่ทุกคนจะมองว่านี่ดารา เฟิร์นเป็นดาราที่ธรรมดามากจนเหมือนคนทั่วไปเลยค่ะ"

แต่ก็มีข่าวว่าใบเฟิร์นเรื่องเยอะ หยิ่ง เข้าถึงยาก "บางทีการไม่ยิ้ม ไม่พูดคุย ไม่เล่น ไม่ใช่เพราะมั่นใจตัวเองมาก แต่เพราะขาดความมั่นใจมาก ไม่รู้จะยิ้มให้ใครดี ถ้ายิ้มมากจะคิดว่าสร้างภาพหรือเปล่า ทุกอย่างอยู่ในจุดที่คิดเยอะ แต่ที่ยืนยันได้คือไม่เคยหลงกับชื่อเสียง เฟิร์นยังเป็นเฟิร์นมีหน้าที่รับผิดชอบการเป็นนักแสดง เป็นนักศึกษา เป็นลูกสาวพ่อแม่ เป็นเพื่อนของเพื่อนๆ"

"คำว่าดาราหรือชื่อเสียงไม่ใช่ทั้งหมดที่สำคัญในชีวิต ยังคิดด้วยซ้ำว่าเฟิร์นไม่เหมาะและไม่ใช่ดารา แต่ในเรื่องความตั้งใจเมื่อก้าวเข้ามาเป็นนักแสดงแล้ว กล้าพูดได้ว่าตัวเองตั้งใจและพยายามพัฒนาตัวเองอย่างมาก ส่วนเรื่องอื่นใครจะว่าไม่สวย ไม่เหมาะเป็นนางเอก ไม่เป็นไร ห้ามความคิดใครไม่ได้"

เคยนอยด์ไหม "ไม่เลย ด้วยบุคลิกเฟิร์นไม่ใช่คนสวย ปกติชีวิตกากมากเคยมีคนแซวด้วยซ้ำว่าเป็นนางเอกลูกเป็ดขี้เหร่ ก็น้อมรับด้วยความยินดี เพราะเฟิร์นเป็นแบบนั้นจริงๆ เป็นผู้หญิงที่ไม่อ่าน แม็กกาซีน ไม่ดูแฟชั่น ไม่เอาอะไรที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาชอบกัน"