ขอ share ประสบการณ์เกี่ยวกับการให้บริการระหว่าง DHL และ Fedex ครับ
ผมได้นำเข้าสินค้าชนิดเดียวกันระยะเวลาห่างกันประมาณ 6 เดือน ครั้งแรกใช้ Fedex ครั้งที่สองใช้ DHL สามารถสรุปได้ดังนี้
1. ความใส่ใจในความต้องการของลูกค้า
Fedex: ผมแจ้งว่าต้องการสินค้าภายในก่อนเที่ยงของวันที่ 3 เนื่องจากผมกำหนดส่งสินค้ากับลูกค้าไว้ ทาง Fedex ดำเนินการให้อย่างเร่งด่วน ซึ่งใน 3 วันนี้นับจากวันที่ผมส่งเอกสารสำหรับจดทะเบียน paperless หรือนับวันที่ Fedex ได้รับเอกสารจากผม ซึ่งผมคาดว่าวันที่ 2 จะเป็นวันที่จดทะเบียน paperless ในตอนเช้า และดำเนินการเคลียร์ของในตอนเย็น และมาส่งผมในเช้าวันที่ 3 หรือ อาจจะเคลียร์ของเช้าวันที่ 3 และมาส่งผมทันก่อนเที่ยง
DHL: ผมส่งเมล์แจ้ง DHL ผ่านทางหน้าเว็บวันพุธว่าจะมีสินค้าเข้ามา ผมต้องการทราบเอกสารที่ต้องการเพื่อจดทะเบียน paperless เพื่อให้ผมสามารถจะได้สินค้าวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป ที่แจ้งไปเพราะทราบจาก Fedex ว่าการจดทะเบียน paperless ใช้เวลา 1 วันเต็ม วันนั้นไม่มีการติดต่อกับ DHL
วันพฤ.ได้รับแจ้งจาก DHL ว่าสินค้ามาถึงแล้ว และส่งรายการเอกสารมาให้ เมื่อเห็นรายการก็พบว่าเหมือนเอกสารที่เตรียมให้ fedex จึงแจ้งให้ส่ง messenger มารับเอกสารวันศุกร์ได้เลย เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมา กลัวว่าเอกสารไม่เรียบร้อย ยังไงรบกวนเตรียมเอกสารและ scan ส่งมาให้ approve ก่อนดีกว่า แล้วจะส่ง messenger มารับวันจันทร์ เพราะเสาร์ อาทิตย์หยุด ซึ่งผมก็ได้ย้ำไปว่าผมต้องการของวันอังคารนะครับ ให้ messenger มารับตอนเช้าได้ไหม ก็ได้รับคำตอบว่าได้
วันศุกร์ผมเตรียมเอกสารและ scan ให้แต่เช้า เผื่อตอนเย็น messenger จะมารับได้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเอกสารเรียบร้อยจะส่ง messenger มารับวันจันทร์ให้เตรียมเอกสารให้พร้อม
วันจันทร์รอทั้งวันก็ไม่มี messenger มา โทรไปตอนเย็นได้รับคำตอบว่า messenger มาไม่ทันจะมารับวันอังคาร ผมก็เลยถามว่าถ้ามารับวันอังคารจะส่งของให้ได้เมื่อไหร่ ได้รับคำตอบว่าวันพฤ. ผมจึงตัดสินใจนำเอกสารไปส่งให้ DHL แต่เช้าวันอังคารประมาณ 9 โมงเช้า เพราะ เจ้าหน้าที่บอกว่าจะทำการยื่นเอกสารเวลา 11:30 น. ให้มาก่อน 10:00 น.
เช้าวันอังคารเดินทางนำเอกสารไปให้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไปถึง 9:15 น.ให้เอกสารกับเจ้าหน้าที่ประมาณ 9:30 น. ตอนเที่ยงได้รับแจ้งว่าไม่สามารถจด paperless ได้เพราะผมยังไม่จ่ายเงินค่าดำเนินการของคราวที่แล้วให้กรมศุลกากรจำนวน 200 บาท ผมก็แจ้งให้ช่วยสำรองจ่ายไปก่อน และแจ้งว่าผมต้องการของด่วน สามารถทำอย่างไรได้บ้าง เจ้าหน้าที่ก็ขอทำงานล่วงเวลา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 700 บาท ผมก็อนุมัติตามนั้น เพื่อวันพุธจะได้เคลียร์ของแต่เช้าและผมจะได้ได้ของตอนบ่าย
วันพุธโทรไปสอบถามตอน 11:40 เพราะทราบว่าจดทะเบียน paperless 11:30 ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถจด paperless ได้ ตอนนี้ผู้ใหญ่ของ DHL กำลังไปเคลียร์ของกรมศุลกากรอยู่ ผมก็ย้ำอีกว่าต้องการของด่วนรบกวนด้วย ตอนเย็นวันพุธผมโทรไปสอบถามอีก ก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิมว่ายังจด paperless ไม่ได้ ผู้ใหญ่ของ DHL กำลังเคลียร์กับกรมศุลกากรอยู่
วันพฤ. 13:30 โทรไปสอบถามอีก ก็ยังได้คำตอบเดิมว่ายังจดไม่ได้ ผมก็เลยสอบถามว่าผมเข้าไปดำเนินการเองได้ไหม ได้รับคำตอบว่าได้ โดยให้เข้าไปเอกสาร D/O ที่ตึก AO2 ชั้น 4 ห้อง DHL (จำเลขไม่ได้) และนำไปดำเนินการต่อได้เลย ผมก็หาเบอร์กรมศุลกากรในเว็บ และโทรไปสอบถามก็ได้คำตอบเดียวกันว่า ผมสามารถดำเนินการเองได้ ผมก็เลยเข้าไปสุวรรณภูมิและดำเนินการจด paperless เวลา 15:30 ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีก็เสร็จ เสียค่าอากร 30 บาท และไปรับเอกสารจาก DHL เวลาประมาณ 16:15 น. เสียเงิน 321 บาท ไม่มีค่าล่วงเวลา 700 บาท แสดงว่าที่ผมอนุมัติไปไม่ได้ทำให้ หรือไม่คิดให้ก็ไม่ทราบได้ และก็ไม่มีจำนวน 200 บาท ที่ผมให้สำรองจ่าย ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าไม่ได้จ่ายให้หรืออย่างไร และติดต่อเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเพื่อดำเนินการต่อ ประมาณ 1 ทุ่มกว่าได้รับสินค้าเรียบร้อย (มีจ่ายค่าล่วงเวลาให้เจ้าหน้าที่กรมศุล)
สรุปว่าสิ่งที่ DHL ทำไม่ได้ใน 3-5 วัน ผมสามารถทำได้ภายในครึ่งวัน
2. ความเอาใจใส่ลูกค้า
Fedex: มีการโทรสอบถามลูกค้าเป็นระยะเพื่อให้ทันตามกำหนดที่ผมต้องการ เช่น เตรียมเอกสารเสร็จหรือยัง, ส่งเอกสารหรือยัง เป็นต้น
DHL: ไม่เคยมีการโทรมาเลย มีแต่ผมโทรไปสอบถาม สังเกตุวันพฤ.ทาง DHL ทราบตั้งแต่ประมาณ 11:40 แล้วว่าจด paperless ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้โทรมาแจ้ง ส่วนผมช่วงดังกล่างไม่สะดวก ก็เลยไม่ได้โทร โทรไปอีกทีเที่ยงก็ติดต่อไม่ได้แล้ว ติดต่อได้อีกที่ 13:02 น. เจ้าหน้าที่ดูแลยังไม่กลับจากทานข้าวอีก กว่าจะรู้เรื่องก็ 13:30 น.
จากเหตุการณ์ที่เล่ามาผมไม่เถียงว่า ตัวผมเองก็มีส่วนที่ทำให้การเคลียร์ของด้วย DHL ล่าช้า คือ ไม่ได้จ่ายค่าดำเนินการเก่าให้กรมศุลกากร แต่ผมรับไม่ได้กับ 2 อย่าง คือ
1. messenger ไม่มารับเอกสารตามที่นัดหมาย
2. ทั้งที่แจ้งความเร่งด่วนไปแล้ว แต่ไม่เคยได้รับการแจ้งถึงขั้นตอนที่มีผลกระทบอย่างมาก คือ ไม่สามารถจด paperless ได้ หลังจากที่ผมให้สำรองจ่าย 200 บาทไปแล้ว (ครั้งแรกที่จด paperless ไม่ได้เพราะไม่ได้จ่าย มีการโทรแจ้ง)
อีกอย่างที่ทำให้ผมทราบว่า DHL ไม่ใส่ใจเท่าที่ควร คือ ผมแจ้งแล้วว่ารีบ จริงๆ ไม่ควรรอการจดทะเบียน paperless ตามรอบปกติ คือ 11:30 และ 16:30 เพราะจากที่ผมไปจดเองทำให้ทราบว่า จะดำเนินการจดเมื่อไหร่ก็ได้ และใช้เวลาไม่มาก ผมไม่แน่ใจว่าของ fedex เค้าดำเนินการนอกเหนือจากรอบปกติหรือไม่ แต่ผมได้ของภายในเวลาที่ผมต้องการ
สำหรับเจ้าอื่นที่ผมเคยใช้ก็มี UPS แต่เป็นสินค้าจำนวนน้อยที่ไม่ต้องจด paperless จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ ซึ่งถ้าเป็นกรณีจำนวนน้อยจะเจ้าไหน (Fedex, DHL) ก็ดำเนินการได้ไม่ต่างกันครับ
ก็ขอแบ่งปันประสบการณ์แต่เพียงเท่านี้ครับ
ประสบการณ์ส่วนตัวระหว่าง DHL กะ Fedex
ผมได้นำเข้าสินค้าชนิดเดียวกันระยะเวลาห่างกันประมาณ 6 เดือน ครั้งแรกใช้ Fedex ครั้งที่สองใช้ DHL สามารถสรุปได้ดังนี้
1. ความใส่ใจในความต้องการของลูกค้า
Fedex: ผมแจ้งว่าต้องการสินค้าภายในก่อนเที่ยงของวันที่ 3 เนื่องจากผมกำหนดส่งสินค้ากับลูกค้าไว้ ทาง Fedex ดำเนินการให้อย่างเร่งด่วน ซึ่งใน 3 วันนี้นับจากวันที่ผมส่งเอกสารสำหรับจดทะเบียน paperless หรือนับวันที่ Fedex ได้รับเอกสารจากผม ซึ่งผมคาดว่าวันที่ 2 จะเป็นวันที่จดทะเบียน paperless ในตอนเช้า และดำเนินการเคลียร์ของในตอนเย็น และมาส่งผมในเช้าวันที่ 3 หรือ อาจจะเคลียร์ของเช้าวันที่ 3 และมาส่งผมทันก่อนเที่ยง
DHL: ผมส่งเมล์แจ้ง DHL ผ่านทางหน้าเว็บวันพุธว่าจะมีสินค้าเข้ามา ผมต้องการทราบเอกสารที่ต้องการเพื่อจดทะเบียน paperless เพื่อให้ผมสามารถจะได้สินค้าวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป ที่แจ้งไปเพราะทราบจาก Fedex ว่าการจดทะเบียน paperless ใช้เวลา 1 วันเต็ม วันนั้นไม่มีการติดต่อกับ DHL
วันพฤ.ได้รับแจ้งจาก DHL ว่าสินค้ามาถึงแล้ว และส่งรายการเอกสารมาให้ เมื่อเห็นรายการก็พบว่าเหมือนเอกสารที่เตรียมให้ fedex จึงแจ้งให้ส่ง messenger มารับเอกสารวันศุกร์ได้เลย เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมา กลัวว่าเอกสารไม่เรียบร้อย ยังไงรบกวนเตรียมเอกสารและ scan ส่งมาให้ approve ก่อนดีกว่า แล้วจะส่ง messenger มารับวันจันทร์ เพราะเสาร์ อาทิตย์หยุด ซึ่งผมก็ได้ย้ำไปว่าผมต้องการของวันอังคารนะครับ ให้ messenger มารับตอนเช้าได้ไหม ก็ได้รับคำตอบว่าได้
วันศุกร์ผมเตรียมเอกสารและ scan ให้แต่เช้า เผื่อตอนเย็น messenger จะมารับได้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเอกสารเรียบร้อยจะส่ง messenger มารับวันจันทร์ให้เตรียมเอกสารให้พร้อม
วันจันทร์รอทั้งวันก็ไม่มี messenger มา โทรไปตอนเย็นได้รับคำตอบว่า messenger มาไม่ทันจะมารับวันอังคาร ผมก็เลยถามว่าถ้ามารับวันอังคารจะส่งของให้ได้เมื่อไหร่ ได้รับคำตอบว่าวันพฤ. ผมจึงตัดสินใจนำเอกสารไปส่งให้ DHL แต่เช้าวันอังคารประมาณ 9 โมงเช้า เพราะ เจ้าหน้าที่บอกว่าจะทำการยื่นเอกสารเวลา 11:30 น. ให้มาก่อน 10:00 น.
เช้าวันอังคารเดินทางนำเอกสารไปให้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไปถึง 9:15 น.ให้เอกสารกับเจ้าหน้าที่ประมาณ 9:30 น. ตอนเที่ยงได้รับแจ้งว่าไม่สามารถจด paperless ได้เพราะผมยังไม่จ่ายเงินค่าดำเนินการของคราวที่แล้วให้กรมศุลกากรจำนวน 200 บาท ผมก็แจ้งให้ช่วยสำรองจ่ายไปก่อน และแจ้งว่าผมต้องการของด่วน สามารถทำอย่างไรได้บ้าง เจ้าหน้าที่ก็ขอทำงานล่วงเวลา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 700 บาท ผมก็อนุมัติตามนั้น เพื่อวันพุธจะได้เคลียร์ของแต่เช้าและผมจะได้ได้ของตอนบ่าย
วันพุธโทรไปสอบถามตอน 11:40 เพราะทราบว่าจดทะเบียน paperless 11:30 ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถจด paperless ได้ ตอนนี้ผู้ใหญ่ของ DHL กำลังไปเคลียร์ของกรมศุลกากรอยู่ ผมก็ย้ำอีกว่าต้องการของด่วนรบกวนด้วย ตอนเย็นวันพุธผมโทรไปสอบถามอีก ก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิมว่ายังจด paperless ไม่ได้ ผู้ใหญ่ของ DHL กำลังเคลียร์กับกรมศุลกากรอยู่
วันพฤ. 13:30 โทรไปสอบถามอีก ก็ยังได้คำตอบเดิมว่ายังจดไม่ได้ ผมก็เลยสอบถามว่าผมเข้าไปดำเนินการเองได้ไหม ได้รับคำตอบว่าได้ โดยให้เข้าไปเอกสาร D/O ที่ตึก AO2 ชั้น 4 ห้อง DHL (จำเลขไม่ได้) และนำไปดำเนินการต่อได้เลย ผมก็หาเบอร์กรมศุลกากรในเว็บ และโทรไปสอบถามก็ได้คำตอบเดียวกันว่า ผมสามารถดำเนินการเองได้ ผมก็เลยเข้าไปสุวรรณภูมิและดำเนินการจด paperless เวลา 15:30 ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีก็เสร็จ เสียค่าอากร 30 บาท และไปรับเอกสารจาก DHL เวลาประมาณ 16:15 น. เสียเงิน 321 บาท ไม่มีค่าล่วงเวลา 700 บาท แสดงว่าที่ผมอนุมัติไปไม่ได้ทำให้ หรือไม่คิดให้ก็ไม่ทราบได้ และก็ไม่มีจำนวน 200 บาท ที่ผมให้สำรองจ่าย ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าไม่ได้จ่ายให้หรืออย่างไร และติดต่อเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเพื่อดำเนินการต่อ ประมาณ 1 ทุ่มกว่าได้รับสินค้าเรียบร้อย (มีจ่ายค่าล่วงเวลาให้เจ้าหน้าที่กรมศุล)
สรุปว่าสิ่งที่ DHL ทำไม่ได้ใน 3-5 วัน ผมสามารถทำได้ภายในครึ่งวัน
2. ความเอาใจใส่ลูกค้า
Fedex: มีการโทรสอบถามลูกค้าเป็นระยะเพื่อให้ทันตามกำหนดที่ผมต้องการ เช่น เตรียมเอกสารเสร็จหรือยัง, ส่งเอกสารหรือยัง เป็นต้น
DHL: ไม่เคยมีการโทรมาเลย มีแต่ผมโทรไปสอบถาม สังเกตุวันพฤ.ทาง DHL ทราบตั้งแต่ประมาณ 11:40 แล้วว่าจด paperless ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้โทรมาแจ้ง ส่วนผมช่วงดังกล่างไม่สะดวก ก็เลยไม่ได้โทร โทรไปอีกทีเที่ยงก็ติดต่อไม่ได้แล้ว ติดต่อได้อีกที่ 13:02 น. เจ้าหน้าที่ดูแลยังไม่กลับจากทานข้าวอีก กว่าจะรู้เรื่องก็ 13:30 น.
จากเหตุการณ์ที่เล่ามาผมไม่เถียงว่า ตัวผมเองก็มีส่วนที่ทำให้การเคลียร์ของด้วย DHL ล่าช้า คือ ไม่ได้จ่ายค่าดำเนินการเก่าให้กรมศุลกากร แต่ผมรับไม่ได้กับ 2 อย่าง คือ
1. messenger ไม่มารับเอกสารตามที่นัดหมาย
2. ทั้งที่แจ้งความเร่งด่วนไปแล้ว แต่ไม่เคยได้รับการแจ้งถึงขั้นตอนที่มีผลกระทบอย่างมาก คือ ไม่สามารถจด paperless ได้ หลังจากที่ผมให้สำรองจ่าย 200 บาทไปแล้ว (ครั้งแรกที่จด paperless ไม่ได้เพราะไม่ได้จ่าย มีการโทรแจ้ง)
อีกอย่างที่ทำให้ผมทราบว่า DHL ไม่ใส่ใจเท่าที่ควร คือ ผมแจ้งแล้วว่ารีบ จริงๆ ไม่ควรรอการจดทะเบียน paperless ตามรอบปกติ คือ 11:30 และ 16:30 เพราะจากที่ผมไปจดเองทำให้ทราบว่า จะดำเนินการจดเมื่อไหร่ก็ได้ และใช้เวลาไม่มาก ผมไม่แน่ใจว่าของ fedex เค้าดำเนินการนอกเหนือจากรอบปกติหรือไม่ แต่ผมได้ของภายในเวลาที่ผมต้องการ
สำหรับเจ้าอื่นที่ผมเคยใช้ก็มี UPS แต่เป็นสินค้าจำนวนน้อยที่ไม่ต้องจด paperless จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ ซึ่งถ้าเป็นกรณีจำนวนน้อยจะเจ้าไหน (Fedex, DHL) ก็ดำเนินการได้ไม่ต่างกันครับ
ก็ขอแบ่งปันประสบการณ์แต่เพียงเท่านี้ครับ