วันพฤหัสที่ 11 กันยาที่ผ่านมา
คุณตาของเพื่อนตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกแขนขวาไม่มีแรง พอลุกขึ้นเดินท่านบอกว่า
ขาขวาเริ่มไม่มีแรงตามยืนไม่ไหว จึงรีบพาไปโรงพยาบาล
ซึ่งประมาณเมื่อ 2 ปีก่อนคุณตาเคยมาหาจึงพามาที่นี่
มาถึงทางโรงพยาบาล ไม่มีเครื่องสแกนสมอง จึงได้ส่งตัวไปสแกน
ที่ศูนย์สแกนสมอง แถวรัชดา ซึงที่นั่นใช้เวลาประมาณ 4 ชม. ในการสแกน
หลังจากเสร็จแล้วจึงกลับมาที่โรงพยาบาล เพื่อรอฟังผลและพักรักษาตัว
ความประทับใจเริ่มแรกคิอ พยาบาลมาจดเรื่องอาหารมื้อเย็นของคุณตา ประมาณ 4 โมงครึ่ง
เพื่อนผมจึงกลับบ้านไปรับคุณยายเพื่อมาดูคุณตา พอกลับมาถึงประมาณ 5 โมงครึ่ง คิดว่าคุณตา
น่าจะได้กินอาหารเย็นแล้ว แต่คุณตาบอกว่ายังไม่ได้เลย เพื่อนผมจึงไปถามกับทางพยาบาลที่ประจำชั้น 9
ทางพยาบาลแจ้งว่าได้สั่งทางห้องครัวไปแล้ว เดี๋ยวจะตามเรื่องให้ ผมหลังจากเสร็จงานจึงตามไปหาเพื่อนที่โรงพยาบาล
เวลาประมาณ 6 โมงครึ่ง ซึ่งตอนนั้น อากหารเย็นที่คุณพยาบาลไปตามก็ยังไม่ได้ ผมจึงไปตามให้อีกรอบ
ซึ่งก็ได้คำตอบเดิมคือ แจ้งกับทางห้องครัวไปแล้ว สุดท้ายอาหารเย็นมาประมาณ 1 ทุ่ม 45 จึงได้ถามกับทางคนส่งอาหารไปว่า
ทำไมอาหารมาช้าจังเลยครับ สั่งไปตั้งแต่ 4 โมทครึ่งแล้ว ทางคนส่งอาหารก็ตอบกลับมาว่า พยาบาลเพิ่งสั่งอาหารลงไป และเร่งให้ทางห้องครัวทำให้ ??
แล้วที่จดไปตอน 4 โมงครึ่ง จดไปไหน?? ที่ตามไปตอน 5 โมงครึ่ง ตามอะไร??
ความประทับใจต่อมาเช้สวันศุกที่ 12 คุณตารอที่จะกินอาหารเช้า
ความประทับใจสุดท้าย ทั้งวันมีหมอมาตรวจอาการคุณตาเพียงครั้งเดียว (ผมไม่รู้ว่าปกติต้องตรวจอะไรยังไงแบบไหนมั่ง)
ซึ่งหมอก็ยังไม่สามารถบอกอารได้ว่าเกิดจากอะไรแต่เขียนว่า แขน ขา อ่อนแรง"ข้างซ้าย"
เอิ่ม ,,,,, คุณตาของเพื่อนผมเป็นข้างขวาครับ
ผมเลยบอกเพื่อนให้ย้านเถอะ ถ้าแบบนิ ไม่ดีขึ้นแน่ๆ จึงตัดสินใจย้ายโรงพยาบาล
ไปโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งพอไปถึง ทางโรงพยาบาลดูแลดีมาก
หมอก็มาตรวจและวินิจฉัยโรค ผลออกมาว่าเป้นเส้นเลือดที่คอตีบ ถ้าหากปล่อยไว้นานก็อาจจะร้ายแรงกว่านี้ได้
มาที่โรงพยาบาลกรุงเทพไม่ถึงครึ่งวัน แต่รู้อาการและทางรักษาเลย
เพื่อนผมและญาติ ค่อยโล่งใจหน่อย
ผมมาเขียนเพื่อเล่าประสบการณ์ที่เจอมาเองครับ
การบริการของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านถนนบางนา-ตราด เลยเซ็นทรัล บางนาประมาณ 50 เมตร
คุณตาของเพื่อนตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกแขนขวาไม่มีแรง พอลุกขึ้นเดินท่านบอกว่า
ขาขวาเริ่มไม่มีแรงตามยืนไม่ไหว จึงรีบพาไปโรงพยาบาล
ซึ่งประมาณเมื่อ 2 ปีก่อนคุณตาเคยมาหาจึงพามาที่นี่
มาถึงทางโรงพยาบาล ไม่มีเครื่องสแกนสมอง จึงได้ส่งตัวไปสแกน
ที่ศูนย์สแกนสมอง แถวรัชดา ซึงที่นั่นใช้เวลาประมาณ 4 ชม. ในการสแกน
หลังจากเสร็จแล้วจึงกลับมาที่โรงพยาบาล เพื่อรอฟังผลและพักรักษาตัว
ความประทับใจเริ่มแรกคิอ พยาบาลมาจดเรื่องอาหารมื้อเย็นของคุณตา ประมาณ 4 โมงครึ่ง
เพื่อนผมจึงกลับบ้านไปรับคุณยายเพื่อมาดูคุณตา พอกลับมาถึงประมาณ 5 โมงครึ่ง คิดว่าคุณตา
น่าจะได้กินอาหารเย็นแล้ว แต่คุณตาบอกว่ายังไม่ได้เลย เพื่อนผมจึงไปถามกับทางพยาบาลที่ประจำชั้น 9
ทางพยาบาลแจ้งว่าได้สั่งทางห้องครัวไปแล้ว เดี๋ยวจะตามเรื่องให้ ผมหลังจากเสร็จงานจึงตามไปหาเพื่อนที่โรงพยาบาล
เวลาประมาณ 6 โมงครึ่ง ซึ่งตอนนั้น อากหารเย็นที่คุณพยาบาลไปตามก็ยังไม่ได้ ผมจึงไปตามให้อีกรอบ
ซึ่งก็ได้คำตอบเดิมคือ แจ้งกับทางห้องครัวไปแล้ว สุดท้ายอาหารเย็นมาประมาณ 1 ทุ่ม 45 จึงได้ถามกับทางคนส่งอาหารไปว่า
ทำไมอาหารมาช้าจังเลยครับ สั่งไปตั้งแต่ 4 โมทครึ่งแล้ว ทางคนส่งอาหารก็ตอบกลับมาว่า พยาบาลเพิ่งสั่งอาหารลงไป และเร่งให้ทางห้องครัวทำให้ ??
แล้วที่จดไปตอน 4 โมงครึ่ง จดไปไหน?? ที่ตามไปตอน 5 โมงครึ่ง ตามอะไร??
ความประทับใจต่อมาเช้สวันศุกที่ 12 คุณตารอที่จะกินอาหารเช้า
ความประทับใจสุดท้าย ทั้งวันมีหมอมาตรวจอาการคุณตาเพียงครั้งเดียว (ผมไม่รู้ว่าปกติต้องตรวจอะไรยังไงแบบไหนมั่ง)
ซึ่งหมอก็ยังไม่สามารถบอกอารได้ว่าเกิดจากอะไรแต่เขียนว่า แขน ขา อ่อนแรง"ข้างซ้าย"
เอิ่ม ,,,,, คุณตาของเพื่อนผมเป็นข้างขวาครับ
ผมเลยบอกเพื่อนให้ย้านเถอะ ถ้าแบบนิ ไม่ดีขึ้นแน่ๆ จึงตัดสินใจย้ายโรงพยาบาล
ไปโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งพอไปถึง ทางโรงพยาบาลดูแลดีมาก
หมอก็มาตรวจและวินิจฉัยโรค ผลออกมาว่าเป้นเส้นเลือดที่คอตีบ ถ้าหากปล่อยไว้นานก็อาจจะร้ายแรงกว่านี้ได้
มาที่โรงพยาบาลกรุงเทพไม่ถึงครึ่งวัน แต่รู้อาการและทางรักษาเลย
เพื่อนผมและญาติ ค่อยโล่งใจหน่อย
ผมมาเขียนเพื่อเล่าประสบการณ์ที่เจอมาเองครับ