สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ต้องเริ่มจาก เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เรากับเพื่อน ได้มาเจอร้านรองเท้ามือสองร้านหนึ่ง ตั้งอยู่แถวบ้าน วันนั้นเรากับเพื่อนได้อุดหนุนร้านนั้นไปแล้ว เราซื้อกันคนละคู่ และด้วยความที่ถูกใจรองเท้าร้านนี้บวกกับราคาไม่แพง เพียงคู่ละ 150 บาท ทำให้พวกเราติดใจ อีกทั้งคุณลุงคุณป้าที่เป็นคนขาย ก็ชวนให้พวกเรากลับมาซื้ออีกในอาทิตย์หน้า (ร้านนี้จะขายเฉพาะศุกร์ เสาร์)
การซื้อของมือสองโดยเฉพาะรองเท้า ต่อให้เราถูกใจคู่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่ามันใช่สำหรับเราเพราะไม่ใช่ว่าเราจะใส่ได้ทุกคู่ และเราก็รอจนกระทั่งถึงวันศุกร์ที่ลุงจะมาขายอีกครั้ง เหมือนเดิมค่ะ เราเดินเข้าไปเลือกรองเท้าด้วยความหลั่นล้าดีใจ มีรองเท้าแบบใหม่มามากมาย ถูกใจพวกเราหลายคู่ พวกเราก็เลือก แล้วก็ลอง ทุกครั้งหลังจากที่ลองเสร็จ พวกเราก็จะยัดกระดาษกลับสู่สภาพเดิมทุกครั้ง และครั้งนี้คุณป้าคนขายก็พยายามหารองเท้าแบบต่างๆที่ตรงกับไซส์ของเรามาเสนอให้หลายแบบ เราก็เอามาลองใส่ดู แต่คู่ไหนเราไม่ชอบก็วางเก็บที่เดิมไม่ได้ดึงกระดาษออกมา แล้วคู่ไหนที่เราถูกใจ แต่ลองแล้วใส่ไม่ได้ เราก็ใส่กระดาษคืนไปทุกคู่ จนพักนึง พวกเราเลือกกันเสร็จ เราได้มาหนึ่งคู่ และเพื่อนก็ได้อีกหนึ่งคู่ ในขณะนั้น เราก็ได้โทรถามน้องว่าจะเอารองเท้าด้วยมั้ย? เราจะได้ซื้อไปให้ และแล้วตัวละครตัวใหม่ก็โผล่มาซึ่งเมื่ออาทิตย์ก่อนเราไม่เจอ ชีก็ได้ปรากฎตัวจากด้านหลังพวกเราอย่างเงียบๆ ก่อนจะถามคำถามคล้ายเป็นห่วงเป็นใย(พวกเราคิดไปเอง) ว่า
เจ๊มู่ทู่ : น้องๆได้กี่คู่แล้ว?
เรา : อ้อ ได้คู่นึงแล้วค่ะ กำลังถามน้องอยู่ว่าจะเอาคู่ไหน (กำลังถ่ายรูปไปให้น้องดู)
โดยพวกเราคิดว่าเค้าคนนั้นอาจจะเดินมาช่วยพวกเราดู แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ เค้าเดินกลับมาตรงที่พวกเรานั่งแล้วบอกว่า
(คือหน้ามู่มากกกก)
เจ๊มู่ทู่ : พี่เห็นพวกน้องลองกันมาเป็นสิบๆคู่แล้ว ได้ไปกี่คู่ (ไม่ค่อยพอใจ)
เราและเพื่อนก็ติดสตั๊นไปชั่วครู่ แล้วเจ๊แกก็ใส่กลับมาอีกครั้ง ให้เงิบรอบสอง
เจ๊มู่ทู่ : แม่พี่แก่แล้ว แกเหนื่อยแล้ว สงสารแม่พี่บ้างเถอะ แกเก็บไม่ไหว บางวันหน้ามืด เพราะต้องมานั่งเก็บรองเท้า
เรา : ก็ไม่ถึงสิบคู่นะคะ แล้วพวกเราก็เก็บให้ทุกคู่ที่ลองด้วย
เจ๊มู่ทู่ก็เดินมาเก็บรองเท้าที่พวกเราลองอยู่เก็บคาเท้า
เพื่อนพูดกับเรา(ให้เจ้นั่นได้ยิน) กูไม่เอาแล้ว แล้วเพื่อนก็เก็บรองเท้าคืนไป
เจ๊มู่ทู่ : ก็แล้วแต่ค่ะน้อง แล้วแต่น้องนะคะ
เรา : อาทิตย์ที่แล้วพวกเราก็มาซื้อไปสองคู่นะคะ แล้วพวกเราก็เก็บให้ตลอดด้วย
เจ๊มู่ทู่ : ค่ะ พี่รู้ว่าน้องซื้อ (แต่อาทิตย์ที่แล้วนางไม่ได้มานะคะ มีแค่ลุงกับป้าเท่านั้น สงสัยจะเป็นญาติกับเจน ญาณทิพย์)
เมื่อบรรยากาศมันมาคุ เพื่อนเราไม่เอารองเท้า(มันเดินออกจากร้านตอนนั้นเลย) แต่เราเรียกป้ามาเก็บเงินรองเท้าที่เราเลือกไปก่อนหน้านี้แล้ว
เรา : เสียดายว่ะ คงไม่ได้มาซื้ออีกแล้วร้านนี้
เจ๊มู่ทู่ : ก็แล้วแต่น้องเถอะค่ะ (กระแทกเสียง+ไม่สบตาพวกเรา)
และป้าก็รับเงินเราไปด้วยหน้าตาแบบไม่รู้ไม่ชี้ คล้ายกับว่าได้เงินแล้ว พวกเด็กๆจะไปไหนก็ไป ฉันไม่แคร์ ฉันไม่สน..
สิ่งที่เราไม่เข้าใจ
1.การที่เราลองรองเท้าในร้านรองเท้า(แล้วก็เก็บเองทุกครั้ง) มันทำให้คุณป้าเหนื่อย จนหน้ามืดจะเป็นลมหรอคะ?
2.คุณป้าเป็นคนหยิบรองเท้ามาให้เราเลือกเอง แล้วเราผิดตรงไหน เราทำให้ป้าเหนื่อยมากเลยหรอ?
3.อาเจ๊มาทำแบบไม่อยากขาย ไล่เราเพราะอะไร?
ก็เข้าใจนะคะ ว่าขายดี คงไม่ต้องง้อลูกค้าเด็กๆอย่างพวกเรา(อายุ22กันแล้วค่ะ) แต่เจ๊เป็นแม่ค้าอ่ะ ทำไมเจ๊ไม่มี service mind เลยอ่ะ เรากับเพื่อนเสียความรู้สึกมาก ทั้งๆที่เรากับเพื่อนกำลังจะกลายเป็นลูกค้าประจำร้านนี้ และตั้งตารอวันศุกร์เพื่อมาช็อปรองเท้าร้านคุณพ่อคุณแม่ของเจ๊
สุดท้ายอยากฝากไปถามเจ๊ว่า เราเป็นลูกค้าที่ตั้งใจมาอุดหนุน พูดคุยกับพ่อแม่เจ๊ด้วยความสุภาพมาตลอด เจ๊ตอบแทนเราด้วยสีหน้าวาจาและการกระทำใส่อารมณ์แบบนี้เจ๊คิดว่าเจ๊สวยมากหรอคะ????
พวกเราเคืองมาก โกรธมาก ใจสั่นวัดได้สิบริกเตอร์
T.T
เราและเพื่อนคือลูกค้าที่โดนลูกแม่ค้าไล่ออกจากร้าน สมัยนี้ตอบแทนลูกค้าด้วยการกระทำแบบนี้หรอคะ????
สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ต้องเริ่มจาก เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เรากับเพื่อน ได้มาเจอร้านรองเท้ามือสองร้านหนึ่ง ตั้งอยู่แถวบ้าน วันนั้นเรากับเพื่อนได้อุดหนุนร้านนั้นไปแล้ว เราซื้อกันคนละคู่ และด้วยความที่ถูกใจรองเท้าร้านนี้บวกกับราคาไม่แพง เพียงคู่ละ 150 บาท ทำให้พวกเราติดใจ อีกทั้งคุณลุงคุณป้าที่เป็นคนขาย ก็ชวนให้พวกเรากลับมาซื้ออีกในอาทิตย์หน้า (ร้านนี้จะขายเฉพาะศุกร์ เสาร์)
การซื้อของมือสองโดยเฉพาะรองเท้า ต่อให้เราถูกใจคู่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่ามันใช่สำหรับเราเพราะไม่ใช่ว่าเราจะใส่ได้ทุกคู่ และเราก็รอจนกระทั่งถึงวันศุกร์ที่ลุงจะมาขายอีกครั้ง เหมือนเดิมค่ะ เราเดินเข้าไปเลือกรองเท้าด้วยความหลั่นล้าดีใจ มีรองเท้าแบบใหม่มามากมาย ถูกใจพวกเราหลายคู่ พวกเราก็เลือก แล้วก็ลอง ทุกครั้งหลังจากที่ลองเสร็จ พวกเราก็จะยัดกระดาษกลับสู่สภาพเดิมทุกครั้ง และครั้งนี้คุณป้าคนขายก็พยายามหารองเท้าแบบต่างๆที่ตรงกับไซส์ของเรามาเสนอให้หลายแบบ เราก็เอามาลองใส่ดู แต่คู่ไหนเราไม่ชอบก็วางเก็บที่เดิมไม่ได้ดึงกระดาษออกมา แล้วคู่ไหนที่เราถูกใจ แต่ลองแล้วใส่ไม่ได้ เราก็ใส่กระดาษคืนไปทุกคู่ จนพักนึง พวกเราเลือกกันเสร็จ เราได้มาหนึ่งคู่ และเพื่อนก็ได้อีกหนึ่งคู่ ในขณะนั้น เราก็ได้โทรถามน้องว่าจะเอารองเท้าด้วยมั้ย? เราจะได้ซื้อไปให้ และแล้วตัวละครตัวใหม่ก็โผล่มาซึ่งเมื่ออาทิตย์ก่อนเราไม่เจอ ชีก็ได้ปรากฎตัวจากด้านหลังพวกเราอย่างเงียบๆ ก่อนจะถามคำถามคล้ายเป็นห่วงเป็นใย(พวกเราคิดไปเอง) ว่า
เจ๊มู่ทู่ : น้องๆได้กี่คู่แล้ว?
เรา : อ้อ ได้คู่นึงแล้วค่ะ กำลังถามน้องอยู่ว่าจะเอาคู่ไหน (กำลังถ่ายรูปไปให้น้องดู)
โดยพวกเราคิดว่าเค้าคนนั้นอาจจะเดินมาช่วยพวกเราดู แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ เค้าเดินกลับมาตรงที่พวกเรานั่งแล้วบอกว่า
(คือหน้ามู่มากกกก)
เจ๊มู่ทู่ : พี่เห็นพวกน้องลองกันมาเป็นสิบๆคู่แล้ว ได้ไปกี่คู่ (ไม่ค่อยพอใจ)
เราและเพื่อนก็ติดสตั๊นไปชั่วครู่ แล้วเจ๊แกก็ใส่กลับมาอีกครั้ง ให้เงิบรอบสอง
เจ๊มู่ทู่ : แม่พี่แก่แล้ว แกเหนื่อยแล้ว สงสารแม่พี่บ้างเถอะ แกเก็บไม่ไหว บางวันหน้ามืด เพราะต้องมานั่งเก็บรองเท้า
เรา : ก็ไม่ถึงสิบคู่นะคะ แล้วพวกเราก็เก็บให้ทุกคู่ที่ลองด้วย
เจ๊มู่ทู่ก็เดินมาเก็บรองเท้าที่พวกเราลองอยู่เก็บคาเท้า
เพื่อนพูดกับเรา(ให้เจ้นั่นได้ยิน) กูไม่เอาแล้ว แล้วเพื่อนก็เก็บรองเท้าคืนไป
เจ๊มู่ทู่ : ก็แล้วแต่ค่ะน้อง แล้วแต่น้องนะคะ
เรา : อาทิตย์ที่แล้วพวกเราก็มาซื้อไปสองคู่นะคะ แล้วพวกเราก็เก็บให้ตลอดด้วย
เจ๊มู่ทู่ : ค่ะ พี่รู้ว่าน้องซื้อ (แต่อาทิตย์ที่แล้วนางไม่ได้มานะคะ มีแค่ลุงกับป้าเท่านั้น สงสัยจะเป็นญาติกับเจน ญาณทิพย์)
เมื่อบรรยากาศมันมาคุ เพื่อนเราไม่เอารองเท้า(มันเดินออกจากร้านตอนนั้นเลย) แต่เราเรียกป้ามาเก็บเงินรองเท้าที่เราเลือกไปก่อนหน้านี้แล้ว
เรา : เสียดายว่ะ คงไม่ได้มาซื้ออีกแล้วร้านนี้
เจ๊มู่ทู่ : ก็แล้วแต่น้องเถอะค่ะ (กระแทกเสียง+ไม่สบตาพวกเรา)
และป้าก็รับเงินเราไปด้วยหน้าตาแบบไม่รู้ไม่ชี้ คล้ายกับว่าได้เงินแล้ว พวกเด็กๆจะไปไหนก็ไป ฉันไม่แคร์ ฉันไม่สน..
สิ่งที่เราไม่เข้าใจ
1.การที่เราลองรองเท้าในร้านรองเท้า(แล้วก็เก็บเองทุกครั้ง) มันทำให้คุณป้าเหนื่อย จนหน้ามืดจะเป็นลมหรอคะ?
2.คุณป้าเป็นคนหยิบรองเท้ามาให้เราเลือกเอง แล้วเราผิดตรงไหน เราทำให้ป้าเหนื่อยมากเลยหรอ?
3.อาเจ๊มาทำแบบไม่อยากขาย ไล่เราเพราะอะไร?
ก็เข้าใจนะคะ ว่าขายดี คงไม่ต้องง้อลูกค้าเด็กๆอย่างพวกเรา(อายุ22กันแล้วค่ะ) แต่เจ๊เป็นแม่ค้าอ่ะ ทำไมเจ๊ไม่มี service mind เลยอ่ะ เรากับเพื่อนเสียความรู้สึกมาก ทั้งๆที่เรากับเพื่อนกำลังจะกลายเป็นลูกค้าประจำร้านนี้ และตั้งตารอวันศุกร์เพื่อมาช็อปรองเท้าร้านคุณพ่อคุณแม่ของเจ๊
สุดท้ายอยากฝากไปถามเจ๊ว่า เราเป็นลูกค้าที่ตั้งใจมาอุดหนุน พูดคุยกับพ่อแม่เจ๊ด้วยความสุภาพมาตลอด เจ๊ตอบแทนเราด้วยสีหน้าวาจาและการกระทำใส่อารมณ์แบบนี้เจ๊คิดว่าเจ๊สวยมากหรอคะ????
พวกเราเคืองมาก โกรธมาก ใจสั่นวัดได้สิบริกเตอร์
T.T