ชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งที่เคยโดน "โห่...ไล่"

เนื่องจากเพิ่งกลับจากเลิกงาน แล้วตอนอาบน้ำอยู่ความคิดนี้ก็วิ่งเข้ามาในหัวว่า "เห้ย วันหนึ่งตอนเราเรียนอยู่มัธยมต้น ตอนเข้าแถวเราเคยโดนโห่ไล่จากเพื่อนนี่หว่า" ตอนนั้นมันรู้สึกยังไงผมก็จำไม่ได้แล้ว แต่ผมรู้สึกได้ว่าจากเหตุการณ์ในวันนั้นที่ผมเคยลืมไปแล้วมันส่งผลถึงพฤติกรรมของผมวันนี้

ขอออกตัวนึดนึงว่า ผมเป็นคนที่หน้าตาดีใช้ได้ (ในตอนนั้น) เพราะผมหน้าออกเหมือนฝรั่งนิดนึง จึงมักจะมีเพื่อนผู้ชายด้วยกันที่ไม่ชอบหน้า หาว่าขี้เก๊ก เคยโดนว่าต่อหน้าเลยว่า "มองไรมืง ไอ้ขี้เก๊ก" ผมก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไร แต่พอโดนมากๆเข้ามันก็เริ่มรู้สึกว่า เราต้องปรับเปลี่ยนตัวเราแล้วล่ะ สุดท้ายผมก็พยายามเปลี่ยนจนกลายเป็นผู้ชายที่ลัลลา ใครยิ้มให้ก็ยิ้มกลับ พูดจาออกท่าทางมากขึ้น ไม่ขรึมเหมือนแต่ก่อน จนกลายเป็นว่ามันหาว่าผมเป็นตุ๊ดไปซะแล้ว

แต่นั่นมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เมื่อวันหนึ่ง ณ โรงเรียนประจำจังหวัดตอนเช้า เข้าแถวเคารพธงชาติ นักเรียนในโรงเรียนก็จะเข้าแถวแบ่งกันไปตามระดับ ซึ่งตอนนั้นผมอยู่ม.2 ซึ่งเข้าแถวอยู่ใต้อาคารเรียน การดำเนินพิธีในช่วงแรกก็ไม่มีอะไรมากมาย ทุกอย่างเป็นปกติดี เมื่อเคารพธงชาติกันเสร็จอาจารย์ก็จะมาพูดหน้าแถวเรื่องระเบียบนู่นนี่ในโรงเรียน

อาจารย์ก็พูดไปเรื่อยๆผมก็ไม่ค่อยจะได้ฟังเท่าไร จนผมได้ยินอาจารย์พูดเสียงดังว่า "ไหน หัวหน้าห้องชั้น ม.2/1 ช่วยดูแลเพื่อนในห้องด้วย" (สาเหตุที่อาจารย์พูดก็คือ อาจารย์เห็นเพื่อนห้องผมชอบแอบเอาขนมไปกินในห้องเรียน) และเนื่องจากผมเป็นหัวหน้าห้อง และทุกคนต่างก็หันมาที่ผมคนเดียว ผมก็งงว่า เห้ย มองอะไรกัน ส่วนอาจารย์ก็นิ่งและมองหน้าผมอยู่ ยิ่ง งง ไปกันใหญ่

ด้วยความตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา ผมก็เลยรีบลุกขึ้นจากแถวเพื่อที่จะเดินไปหาอาจารย์และสอบถามว่ามีอะไรหรือเปล่าครับ พอเดินไปได้ครึ่งทาง อาจารย์กลับพูดออกมาว่า "อะไรๆ มืงเดินมาทำไม" ผมก็งงสิครับ ทีนี้เพื่อนทั้งระดับโห่...ไล่เป็นเสียงเดียวกัน จนผมไม่สามารถจำได้เลยว่าใครมันโห่บ้าง ตอนเดินกลับไปที่แถวก็โดนซ้ำเติมจาก 2 แถวข้างทาง "ทำอะไรของมืง" "เมาปล่าวเห้ย" "ทำเหี...อะไรของเมิง" แน่นอนเสียงที่ผมได้ยินก็จะมาจากพวกเพื่อนนักเรียน(ที่ทำตัวนักเล็ง) ผมเดินก้มหน้าและกลับไปที่แถวตามเดิม และนั่งก้มหน้าต่อไป (และคิดในใจว่าเราผิดอะไร)

ช่วงเวลาที่นั่งอยู่ตรงนั้นชั่งยาวนานเหลือเกิน ผมอยากให้เวลาตรงนั้นเดินให้เร็วกว่านี้ หรือหยุดทุกสิ่งทุกตรงนั้นแล้วให้ผมเดินออกไปจากตรงนี้ หรือย้อนเวลาให้ผมไม่โง่เดินไปหาอาจารย์ จนในที่สุดก็เลิกแถวแยกย้ายเข้าห้องเรียนเสียที แต่นั่นก็ยังไม่จบเพราะตอนแยกย้ายบางคนก็เดินเข้าสู่ห้องเรียนโดยไม่สนใจอะไร บางคนก็หันมาหาแล้วยิ้มแบบแหยะๆให้ มันยิ่งทำให้ผมคิดอีกเลยว่า "เห้ยอะไรกันวะ นี่เราผิดขนาดนั้นเลยหรอ"

ช่วงที่เรียนหนังสือผมก็เอาแต่นั่งคิดว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะอะไร เพราะอะไร ไม่มีกะจิตกะใจเรียนเลย พอเลิกเรียนก็ภาวนาอย่าให้เจอพวกที่โห่ไล่ตอนเช้าเลย ไม่อยากจะเห็นหน้าพวกนั้น ไม่อยากเจอใครทั้งนั้นแม้แต่เพื่อนสนิทตัวเอง ผมรีบเดินและขี่รถกลับบ้าน โยนกระเป๋าและนอนลงบนเตียงคิดว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น คิดแล้วคิดอีก คิดอยู่นั่นแหละ คิดไปถึงว่าพรุ่งนี้เราจะไปโรงเรียนอย่างไรให้มีความสุข จะหยุดเรียนให้พวกนั้นมันลืมเรื่องนี้ก่อนดีไหม

สุดท้ายวันต่อมาผมก็ตัดสินใจไปเรียนอีกครั้ง โชคดีที่วันนี้ไม่ได้เจอพวกที่ชอบทำหน้าแหยะๆ แต่ในใจก็ยังคิดว่า "มันอาจจะเห็นหน้าเรา แล้วไปแอบขำกันคิกคักที่อื่นก็ได้" สุดท้ายกว่าผมจะสามารถลืมเรื่องนี้และสามารถใช้ชีวิตในโรงเรียนได้อย่างสงบสุขก็เกือบ 2 เดือน แต่ !! สิ่งสำคัญที่ผมรู้สึกได้ว่าหายไปจากชีวิตของผมคือ
1. ผมไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปหาเพื่อนห้องอื่นและคุยกับเขา เพราะในใจคิดว่าเขาจะอยากคุยกับเราหรือเปล่า เขาคงไม่ลืมเรื่องวันนั้นของเราหรอก
2. ความกล้าแสดงออกของผมหายไป ความเขินอายเริ่มมาบดบังความกล้า บ้าบิ่นที่ผมเคยมี เมื่อใดที่อาจารย์ให้แสดงบทบาทสมมติผมมักจะแสดงเต็มที่ จ่าย 100 แสดง 1,000 แต่วันนี้ผมขอทำให้มันผ่านๆไป
3. เริ่มพูดน้อยลง กลายเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงขึ้น มีความคิดที่อยากอยู่คนเดียวมากกว่าจะไปไหนกับเพื่อนๆ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สิ่งที่ผมพิมพ์มาทั้งหมดนี้ อาจจะดูเหมือนเป็นการระบายความในใจ ซึ่งผมก็ขอยอมรับว่าผมก็อยากจะระบาย แต่ที่ผมตัดสินใจพิมพ์นี้เพราะผมอยากจะบอกกับทุกคนว่า การโห่..ไล่ คนๆหนึ่งมันอาจจะเปลี่ยนชีวิตของคนๆหนึ่งได้ จริงอยู่ว่าการกระทำบางอย่างมันสมควรที่จะโดนโห่ แต่ถ้ามันไม่ได้ทำให้คุณต้องเดือดร้อนมาก ก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องโห่ไล่หรอกครับ ผมไม่ได้มาห้ามให้ทุกคนห้ามโห่ไล่ แต่อยากให้คิดให้เยอะนึดหนึ่งว่า เราโห่ไล่คนนั้นเพราะอะไร เพราะความสะใจ ? เพราะเห็นเพื่อนโห่ เลยโห่ไล่มั่ง ? ลองนึกดูถึงตอนที่ Present งานหน้าห้องเรียนกันครับว่าเราตื่นเต้นกันขนาดไหน เราตื่นเต้นกันเพราะอะไร ? เรารู้กันไหม หากใครยังไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไร ลองนึกถึงรายการหนึ่งที่แสดงบนเวที พอการแสดงมันดูงี่เง่าไร้สาระ ก็โห่ไล่กัน เรื่องบางอย่างเรามีความหวังดีทีจะทำมัน แต่บางครั้งมันจะอาจจะกลับตะละปัดและส่งผลร้ายกับเราได้ ตรงนี้เราก็คงต้องยอมรับมัน

จนวันนี้ผมแทบจะใช้ชีวิตตัวคนเดียว เดินไปไหนมาไหนคนเดียว ไปเที่ยวก็ไปคนเดียว ไปดูหนังก็ไปคนเดียว แต่ผมไม่เสียใจเลย ผมรู้สึกมีความสุขที่ได้ไปไหนคนเดียว รู้สึกมันมีอิสระ และผมก็ไม่ได้หล่ออย่างเมื่อก่อนแล้ว(^^) ผมก็คิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องให้ใครมาสนใจเรา "เราควรสนใจตัวเราเองว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างไร เราจะทำอะไรตอบแทนพ่อแม่บ้างที่เขาให้ชีวิตเรามา" ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นข้อดีที่ผมได้รับและสั่งสมมา ผมแทบจะไม่มองผู้หญิงเลย เพราะผมคิดว่าถ้าไม่จำเป็นการไม่มีคู่ก็ไม่เห็นจะเป็นไร แต่ถ้ามีก็ขอเป็นคนที่เขาเข้าใจเราและเรารักเขา แค่นั้นก็พอครับ

สุดท้ายนี้อยากฝากไว้ว่า ชีวิตเราเกิดมาครั้งเดียว คงไม่มีอยากจะเจอเรื่องแย่ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีต่อตัวเราหรือคนอื่นๆ เราควรจะหันมาสนใจตัวเราเองและทำชีวิตของเราให้ดีทีสุด ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นๆว่าเขาจะเป็นอย่างไร

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ชีวิตวัยรุ่น ปัญหาชีวิต
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่