สวัสดีค่ะ ดิฉันมีเรื่องอยากสอบถามท่านผู้รู้ค่ะ คือดิฉันเป็นผู้ติดเชื้อ hivตั้งแต่เกิด
เรียนจบ ปตรี นิติศาสตร์แล้ว จบเป็นเนติบัณฑิตไทยแล้ว อายุ24ปี ตอนนี้ทำงานทนายความเก็บคดีครบ20คดี
กำลังจะมีสิทธิสอบอัยการผู้ช่วย และผู้ช่วยผู้พิพากษาปีหน้า
อยากถามว่า ปัจจุบันการสอบ อัยการผู้ช่วย และผู้พิพากษา มีการเปลี่ยนแปลงคือ ไม่ต้องไปตรวจร่างกายที่ รพ ตุลาการเฉลิมพระเกียรติก่อน
แล้วประกาศชื่อผู้มีสิทธิเหมือนเมื่อก่อน แต่ให้ไปตรวจร่างกายตาม รพ ทั่วไปแล้วนำใบตรวจโรคห้าโรคไปตรวจได้แก่
เรื้อน วัณโรค เท้าช้าง ติดยาเสพย์ติด และพิษสุราเรื้อรัง
ซึ่งทาง กต และ กอ ระบุว่า "เป็นการตรวจเบื้องต้น"ถ้าสอบผ่านข้อเขียนแล้ว ให้ไปตรวจละเอียดที่ รพ ตุลาการเฉลิมพระเกียรติ อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งในประกาศรับสมัครระบุว่า มีการ "ตรวจเลือดด้วย" แต่ดิฉันไม่ทราบว่าตรวจ HIV หรือไม่...
ตามประกาศอ้างถึง "โรคติดต่อที่เป็นเหตุให้ไม่เหมาะสมที่จะเป็นข้าราชการตุลาการ/อัยการ" แต่ก็ไม่ยอมระบุให้ชัดเจนเหมือนโรคทั้งห้าโรคดังกล่าว
ดิฉันเลยไม่ทราบว่า โรคติดต่อที่ว่านั้น คือ HIV หรือไม่ ดิฉันเคยลองโทรไปกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับการสอบคัดเลือกของหน่วยงานดังกล่าว
บางครั้งก็ไม่มีคนรับสายเลย บางคนตอบโยนมาว่า ตามประกาศ ต้องให้ "คณะกรรมการแพทย์" ทำความเห็นเสนอมาว่าตรวจอะไรบ้าง
เคยสอบถามไปที่ รพ ตุลาการเฉลิมพระเกียรติแล้ว ก็ได้คำตอบโยนกลับมาว่า แล้วแต่ กต กอ จะสั่งมาตรวจ
ดิฉันเลยอยากสอบถามว่า....
1 มีพี่ๆท่านใดเคยสอบในยุคก่อนที่มีการตรวจเลือดที่ รพ ตุลาการก่อนสอบข้อเขียนบ้าง แล้วพอจะทราบไหมค่ะว่าตรวจเลือดเขาตรวจอะไร
ถ้าเขาตรวจหา HIV ตามกฎหมายเขาจะต้องแจ้งก่อนตรวจค่ะ
2มีพี่ท่านใดที่พอทราบบ้างว่า "โรคติดต่อที่เป็นเหตุให้ไม่เหมาะสมที่จะเป็นข้าราชการอัยการ/ตุลาการตามประกาศที่ใช้ถ้อยคำเช่นนี้
หมายถึง HIV หรือไม่
ดิฉันมีแผนว่า ถ้าเขาไม่กีดกัน ดิฉันจะลางานออกมาอ่านหนังสือสอบในปีหน้า และเรียนต่อ ป โทให้จบเพราะต้องทำวิทยานิพนธ์แล้วค่ะ
แต่ถ้าเขากีดกันดิฉันคงจะไม่ออกจากงาน เพราะปัจจุบันดิฉันยังมีภาระต้องดูแลยายกับอา ที่เลี้ยงดิฉันมาจนเรียนจบ
ปัจจุบันดิฉันสุขภาพแข็งแรง ทานยาต้านไวรัสทุกวันไม่มีโรคอื่นค่ะ ไม่ปรากฎอาการใดๆทั้งสิ้น
ดิฉันเคยถามรุ่นพี่คนหนึ่งเขาก็พูดว่า มีปัญญาสอบให้ผ่านก่อนเถอะ แล้วก็ทำท่าทางเหมือนรังเกียจดิฉัน เอาไปเล่าให้คนอื่นฟัง จนคนมาถามดิฉันว่าดิฉันเป็น HIV หรือ ดิฉันจึงไม่กล้าถามใครอีก สมัยเด็กๆดิฉันเคยอยากเรียนหมอ แต่ก็เจียมตัวเสมอ กลัวเขาตรวจเลือด และเกิดเราทำงานพลาดเอาโรคนี้ไปติดคนไข้เลยเลือกมาเรียนกฎหมายค่ะ เพราะเคยได้ยินว่า ข้าราชการเค้าจะไม่กีดกันผู้มีเชื้อ และเห็นว่า อาชีพนั้น่าจะเข้าใจคำว่า "สิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนูญ" ก้อคงจะไม่กีดกัน
ดิฉันเคยเห็นอัยการพิมพ์หนังสือแจกเรื่องรณรงค์ไม่ให้ตรวจเลือดเข้าทำงาน ก็คิดมาตลอดว่า หน่วยงานพวกนี้คงไม่ทำอะไรแบบนี้ แต่พอมารู้ว่าตรวจเลือดด้วยก็ไม่มั่นใจว่า เขาตรวจหา HIV หรือไม่ จริงอยู่ค่ะที่เรื่องมันยังไกล เพราะยังสอบข้อเขียนไม่ผ่านเลย แต่ถ้ารู้ว่าเค้ากีดกัน ดิฉันจะได้ไม่ต้องออกจากงานมาอ่านหนังสือ วางแผนชีวิตใหม่ เท่านั้นเอง
ดิฉันเคยเห็นทางมูลนิธิหนึ่งที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนด้านเอดส์เค้าได้เคยมีหนังสือไปถามทาง สำนักงานอัยการว่า มีการตรวจ HIV ในผู้สมัครสอบหรือไม่และเขา เคยลงเอกสารเป็นหนังสือตอบจากทางสำนักงานอัยการทางเฟสบุคเขาซึ่งตอบมาว่า
ว่าไม่เคยตรวจเลือดหา hiv ในหนังสือลงชื่อ นาย สมชาย คูวิจิตรสุวรรณ แต่ก้อไม่ทราบจริงเท็จเพียงใด เพราะเคยค้นในกูเกิ้ล ก็มีบางคนบอกว่าตรวจ ส่วนทางผู้พิพากษา ของ กต นั้นก็ไม่ทราบจริงๆค่ะว่าตรวจหรือไม่สับสนมากค่ะ
หวังว่าพี่ๆผู้รู้คงมีจิตเมตตาและเข้าใจดิฉัน ติดหวัด ติดอีโบล่า ง่ายกว่าติด HIV นะค่ะ ปัจจุบันหากทานยาต้านไวรัส ก็แข็งแรงทำงานได้ ดิฉันติดมาแต่เกิดไม่ได้เคย

แต่อย่างใด มีชีวิตอยู่มาได้ 24ปีแข็งแรงปกติดีค่ะ ขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้าสำหรับคำตอบ ขอบคุณค่ะ
มีเชื้อhivห้ามเป็นอัยการ/ผู้พิพากษาหรือไม่ค่ะ
เรียนจบ ปตรี นิติศาสตร์แล้ว จบเป็นเนติบัณฑิตไทยแล้ว อายุ24ปี ตอนนี้ทำงานทนายความเก็บคดีครบ20คดี
กำลังจะมีสิทธิสอบอัยการผู้ช่วย และผู้ช่วยผู้พิพากษาปีหน้า
อยากถามว่า ปัจจุบันการสอบ อัยการผู้ช่วย และผู้พิพากษา มีการเปลี่ยนแปลงคือ ไม่ต้องไปตรวจร่างกายที่ รพ ตุลาการเฉลิมพระเกียรติก่อน
แล้วประกาศชื่อผู้มีสิทธิเหมือนเมื่อก่อน แต่ให้ไปตรวจร่างกายตาม รพ ทั่วไปแล้วนำใบตรวจโรคห้าโรคไปตรวจได้แก่
เรื้อน วัณโรค เท้าช้าง ติดยาเสพย์ติด และพิษสุราเรื้อรัง
ซึ่งทาง กต และ กอ ระบุว่า "เป็นการตรวจเบื้องต้น"ถ้าสอบผ่านข้อเขียนแล้ว ให้ไปตรวจละเอียดที่ รพ ตุลาการเฉลิมพระเกียรติ อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งในประกาศรับสมัครระบุว่า มีการ "ตรวจเลือดด้วย" แต่ดิฉันไม่ทราบว่าตรวจ HIV หรือไม่...
ตามประกาศอ้างถึง "โรคติดต่อที่เป็นเหตุให้ไม่เหมาะสมที่จะเป็นข้าราชการตุลาการ/อัยการ" แต่ก็ไม่ยอมระบุให้ชัดเจนเหมือนโรคทั้งห้าโรคดังกล่าว
ดิฉันเลยไม่ทราบว่า โรคติดต่อที่ว่านั้น คือ HIV หรือไม่ ดิฉันเคยลองโทรไปกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับการสอบคัดเลือกของหน่วยงานดังกล่าว
บางครั้งก็ไม่มีคนรับสายเลย บางคนตอบโยนมาว่า ตามประกาศ ต้องให้ "คณะกรรมการแพทย์" ทำความเห็นเสนอมาว่าตรวจอะไรบ้าง
เคยสอบถามไปที่ รพ ตุลาการเฉลิมพระเกียรติแล้ว ก็ได้คำตอบโยนกลับมาว่า แล้วแต่ กต กอ จะสั่งมาตรวจ
ดิฉันเลยอยากสอบถามว่า....
1 มีพี่ๆท่านใดเคยสอบในยุคก่อนที่มีการตรวจเลือดที่ รพ ตุลาการก่อนสอบข้อเขียนบ้าง แล้วพอจะทราบไหมค่ะว่าตรวจเลือดเขาตรวจอะไร
ถ้าเขาตรวจหา HIV ตามกฎหมายเขาจะต้องแจ้งก่อนตรวจค่ะ
2มีพี่ท่านใดที่พอทราบบ้างว่า "โรคติดต่อที่เป็นเหตุให้ไม่เหมาะสมที่จะเป็นข้าราชการอัยการ/ตุลาการตามประกาศที่ใช้ถ้อยคำเช่นนี้
หมายถึง HIV หรือไม่
ดิฉันมีแผนว่า ถ้าเขาไม่กีดกัน ดิฉันจะลางานออกมาอ่านหนังสือสอบในปีหน้า และเรียนต่อ ป โทให้จบเพราะต้องทำวิทยานิพนธ์แล้วค่ะ
แต่ถ้าเขากีดกันดิฉันคงจะไม่ออกจากงาน เพราะปัจจุบันดิฉันยังมีภาระต้องดูแลยายกับอา ที่เลี้ยงดิฉันมาจนเรียนจบ
ปัจจุบันดิฉันสุขภาพแข็งแรง ทานยาต้านไวรัสทุกวันไม่มีโรคอื่นค่ะ ไม่ปรากฎอาการใดๆทั้งสิ้น
ดิฉันเคยถามรุ่นพี่คนหนึ่งเขาก็พูดว่า มีปัญญาสอบให้ผ่านก่อนเถอะ แล้วก็ทำท่าทางเหมือนรังเกียจดิฉัน เอาไปเล่าให้คนอื่นฟัง จนคนมาถามดิฉันว่าดิฉันเป็น HIV หรือ ดิฉันจึงไม่กล้าถามใครอีก สมัยเด็กๆดิฉันเคยอยากเรียนหมอ แต่ก็เจียมตัวเสมอ กลัวเขาตรวจเลือด และเกิดเราทำงานพลาดเอาโรคนี้ไปติดคนไข้เลยเลือกมาเรียนกฎหมายค่ะ เพราะเคยได้ยินว่า ข้าราชการเค้าจะไม่กีดกันผู้มีเชื้อ และเห็นว่า อาชีพนั้น่าจะเข้าใจคำว่า "สิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนูญ" ก้อคงจะไม่กีดกัน
ดิฉันเคยเห็นอัยการพิมพ์หนังสือแจกเรื่องรณรงค์ไม่ให้ตรวจเลือดเข้าทำงาน ก็คิดมาตลอดว่า หน่วยงานพวกนี้คงไม่ทำอะไรแบบนี้ แต่พอมารู้ว่าตรวจเลือดด้วยก็ไม่มั่นใจว่า เขาตรวจหา HIV หรือไม่ จริงอยู่ค่ะที่เรื่องมันยังไกล เพราะยังสอบข้อเขียนไม่ผ่านเลย แต่ถ้ารู้ว่าเค้ากีดกัน ดิฉันจะได้ไม่ต้องออกจากงานมาอ่านหนังสือ วางแผนชีวิตใหม่ เท่านั้นเอง
ดิฉันเคยเห็นทางมูลนิธิหนึ่งที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนด้านเอดส์เค้าได้เคยมีหนังสือไปถามทาง สำนักงานอัยการว่า มีการตรวจ HIV ในผู้สมัครสอบหรือไม่และเขา เคยลงเอกสารเป็นหนังสือตอบจากทางสำนักงานอัยการทางเฟสบุคเขาซึ่งตอบมาว่า
ว่าไม่เคยตรวจเลือดหา hiv ในหนังสือลงชื่อ นาย สมชาย คูวิจิตรสุวรรณ แต่ก้อไม่ทราบจริงเท็จเพียงใด เพราะเคยค้นในกูเกิ้ล ก็มีบางคนบอกว่าตรวจ ส่วนทางผู้พิพากษา ของ กต นั้นก็ไม่ทราบจริงๆค่ะว่าตรวจหรือไม่สับสนมากค่ะ
หวังว่าพี่ๆผู้รู้คงมีจิตเมตตาและเข้าใจดิฉัน ติดหวัด ติดอีโบล่า ง่ายกว่าติด HIV นะค่ะ ปัจจุบันหากทานยาต้านไวรัส ก็แข็งแรงทำงานได้ ดิฉันติดมาแต่เกิดไม่ได้เคย