เอาอีกแล้ว สุดยอดความสร้างสรรค์ของญี่ปุ่น จาก #ไข่ไก่เลอค่า มาต่อที่ #เบอร์เกอร์ดำ ชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า "Kuro Burger" ตามรูป
ช่างเข้ากับช่วงการจากไปของ อ.ถวัลย์ ดัชนีย์ เจ้าของบ้านดำของบ้านเราจริงๆ หรือพี่ยุ่นตั้งใจจะร่วมไว้อาลัยให้ศิลปินแห่งชาติของเรากันนะ
1. the Kuro Pearl ราคา 480 yen (£2.80)
2. the Kuro Diamond ราคา 690 yen (£4.00)
เริ่มขาย 19 กันยายนนี้แล้วนะคับ ใครไปชิมมาก็มารีวิวหน่อยละกันนะ
ที่มาของเรื่อง
http://www.independent.co.uk/life-style/food-and-drink/news/burger-king-releases-black-burger-with-bamboo-charcoal-cheese-and-squid-ink-sauce-in-japan-9724429.html
http://www.boredpanda.com/black-burger-king-japan
เรื่องไข่ไก่ของญี่ปุ่น ไปอ่านเล่นๆได้ที่
http://pantip.com/topic/32563115
ในด้านความเห็นส่วนตัว
1) สินค้าตัวนี้ออกมาเพื่อสร้างความตื่นเต้นในการทานเบอร์เกอร์ที่แปลกใหม่
เค้าใช้คำว่า "the traditional burger was getting a bit boring" ซึ่งน่าจะแปลว่า "เบอร์เกอร์เดิมๆมันน่าเบื่อหน่ายเกินไปซะแล้วนั่นเอง"
การทำแป้งเบอร์เกอร์ออกมาสีดำ (อย่างกับขนมปังไหม้เลย) จริงๆแล้วเขาเคยลองทำแบบ Limited edition ออกมาก่อนแล้ว ซึ่งคงจะขายได้พอสมควร
ดังนั้นจึงกล้าที่จะปล่อยสู่ตลาดอีกครั้งหนึ่ง ใช้หลัก Differenciate Strategy หรือ กลยุทธ์ด้านความแตกต่าง เป็นตัวนำ เน้นที่ตัวสินค้า
ไม่ใช่การลดราคา หรือซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง แบบที่บ้านเรานิยมกัน อาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมที่ต่างกัน ซึ่งพี่ไทยเรานั้น เห็นถูกก็ซื้อไว้ก่อน
อย่างที่เห็นในท้องตลาดทั่วไป อาทิ Starbuck ซื้อ 1 แก้ว แถม 1 แก้ว เป็นต้น
2) ถ้าอ่านดูดีๆ เหมือนว่าเขาจะใช้ bamboo charcoal เป็นส่วนผสมด้วยทั้งตัวขนมปังและแผ่นชีส ซึ่งเข้ากับเทรนการรักษาสุขภาพในยุคปัจจุบัน
ในส่วนนี้ก็เปรียบได้กับ การเพิ่มคุณค่าให้ตัวสินค้า (Value Added) ไม่ใช่แต่สีสันที่แปลกตา แต่ยังเพิ่มส่วนที่เป็น healty เข้าไปอีกด้วย
ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ สินค้าส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นจะเน้นมาทางสุขภาพซะเยอะเลย สร้างความแตกต่างได้มากมายจริงๆ
3) ช่องทางจัดจำหน่ายของสินค้า ก็เป็นที่ Burger King ของญี่ปุ่น ดังนั้นก็สามารถหาทานได้ง่าย น่าจะมีหลายสาขา หลายจุด ไม่น่าติดขัดอะไร
4) ส่วนในเรื่องราคา ถ้าตีเป็นเงินไทย ก็ประมาณก้อนละ ร้อยกว่าบาทถึงสองร้อยกว่าบาทได้ อันนี้ไม่คอมเมนต์อะไร เพราะเขาเงินเฟ้อสูง
ค่าครองชีพแพงกว่าบ้านเรามากมายมหาศาลอยู่แล้ว 555 แต่ที่อยากชี้ให้เห็นกันก็คือ เขาไม่ได้ออกมาแบบเดียว
แต่ออกมา 2 รุ่น คือ รุ่น Pearl กับ รุ่น Dimond เพื่อที่จะจับตลาดระดับกลางจนถึงระดับบน ราคาก็แตกต่างกันเกือบเท่าตัว
ปล. ใครได้ชิม มารีวิวให้หน่อยนะครับ อยากรู้จริงๆ ถ้าจะซื้อมาฝากก็จะเป็นพระคุณอย่างสูงลิ่ว อิอิ
5) ในด้าน Story Marketing เขาเคยออกรุ่น Kuro Ninja มาในปี 2012 ที่เป็น limited edition และเห็นว่าเคยไปขายในจีนมาก่อนด้วยนะ
ใช้ชื่อว่า Ying and Yang style burger ที่ทำเป็นสีขาวและสีดำ เป็นตัวแทนของความดีและปีศาจ
ประมาณนี้นะครับ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ ชอบแลกเปลี่ยนมุมมองดีๆกันครับ
ผู้เขียน: โยโย หนุ่มคิดบวก
การเพิ่มมูลค่าสินค้าของคุณ ฉบับใจไม่ถึงห้ามอ่าน part 2
เอาอีกแล้ว สุดยอดความสร้างสรรค์ของญี่ปุ่น จาก #ไข่ไก่เลอค่า มาต่อที่ #เบอร์เกอร์ดำ ชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า "Kuro Burger" ตามรูป
ช่างเข้ากับช่วงการจากไปของ อ.ถวัลย์ ดัชนีย์ เจ้าของบ้านดำของบ้านเราจริงๆ หรือพี่ยุ่นตั้งใจจะร่วมไว้อาลัยให้ศิลปินแห่งชาติของเรากันนะ
1. the Kuro Pearl ราคา 480 yen (£2.80)
2. the Kuro Diamond ราคา 690 yen (£4.00)
เริ่มขาย 19 กันยายนนี้แล้วนะคับ ใครไปชิมมาก็มารีวิวหน่อยละกันนะ
ที่มาของเรื่อง
http://www.independent.co.uk/life-style/food-and-drink/news/burger-king-releases-black-burger-with-bamboo-charcoal-cheese-and-squid-ink-sauce-in-japan-9724429.html
http://www.boredpanda.com/black-burger-king-japan
เรื่องไข่ไก่ของญี่ปุ่น ไปอ่านเล่นๆได้ที่
http://pantip.com/topic/32563115
ในด้านความเห็นส่วนตัว
1) สินค้าตัวนี้ออกมาเพื่อสร้างความตื่นเต้นในการทานเบอร์เกอร์ที่แปลกใหม่
เค้าใช้คำว่า "the traditional burger was getting a bit boring" ซึ่งน่าจะแปลว่า "เบอร์เกอร์เดิมๆมันน่าเบื่อหน่ายเกินไปซะแล้วนั่นเอง"
การทำแป้งเบอร์เกอร์ออกมาสีดำ (อย่างกับขนมปังไหม้เลย) จริงๆแล้วเขาเคยลองทำแบบ Limited edition ออกมาก่อนแล้ว ซึ่งคงจะขายได้พอสมควร
ดังนั้นจึงกล้าที่จะปล่อยสู่ตลาดอีกครั้งหนึ่ง ใช้หลัก Differenciate Strategy หรือ กลยุทธ์ด้านความแตกต่าง เป็นตัวนำ เน้นที่ตัวสินค้า
ไม่ใช่การลดราคา หรือซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง แบบที่บ้านเรานิยมกัน อาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมที่ต่างกัน ซึ่งพี่ไทยเรานั้น เห็นถูกก็ซื้อไว้ก่อน
อย่างที่เห็นในท้องตลาดทั่วไป อาทิ Starbuck ซื้อ 1 แก้ว แถม 1 แก้ว เป็นต้น
2) ถ้าอ่านดูดีๆ เหมือนว่าเขาจะใช้ bamboo charcoal เป็นส่วนผสมด้วยทั้งตัวขนมปังและแผ่นชีส ซึ่งเข้ากับเทรนการรักษาสุขภาพในยุคปัจจุบัน
ในส่วนนี้ก็เปรียบได้กับ การเพิ่มคุณค่าให้ตัวสินค้า (Value Added) ไม่ใช่แต่สีสันที่แปลกตา แต่ยังเพิ่มส่วนที่เป็น healty เข้าไปอีกด้วย
ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ สินค้าส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นจะเน้นมาทางสุขภาพซะเยอะเลย สร้างความแตกต่างได้มากมายจริงๆ
3) ช่องทางจัดจำหน่ายของสินค้า ก็เป็นที่ Burger King ของญี่ปุ่น ดังนั้นก็สามารถหาทานได้ง่าย น่าจะมีหลายสาขา หลายจุด ไม่น่าติดขัดอะไร
4) ส่วนในเรื่องราคา ถ้าตีเป็นเงินไทย ก็ประมาณก้อนละ ร้อยกว่าบาทถึงสองร้อยกว่าบาทได้ อันนี้ไม่คอมเมนต์อะไร เพราะเขาเงินเฟ้อสูง
ค่าครองชีพแพงกว่าบ้านเรามากมายมหาศาลอยู่แล้ว 555 แต่ที่อยากชี้ให้เห็นกันก็คือ เขาไม่ได้ออกมาแบบเดียว
แต่ออกมา 2 รุ่น คือ รุ่น Pearl กับ รุ่น Dimond เพื่อที่จะจับตลาดระดับกลางจนถึงระดับบน ราคาก็แตกต่างกันเกือบเท่าตัว
ปล. ใครได้ชิม มารีวิวให้หน่อยนะครับ อยากรู้จริงๆ ถ้าจะซื้อมาฝากก็จะเป็นพระคุณอย่างสูงลิ่ว อิอิ
5) ในด้าน Story Marketing เขาเคยออกรุ่น Kuro Ninja มาในปี 2012 ที่เป็น limited edition และเห็นว่าเคยไปขายในจีนมาก่อนด้วยนะ
ใช้ชื่อว่า Ying and Yang style burger ที่ทำเป็นสีขาวและสีดำ เป็นตัวแทนของความดีและปีศาจ
ประมาณนี้นะครับ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ ชอบแลกเปลี่ยนมุมมองดีๆกันครับ
ผู้เขียน: โยโย หนุ่มคิดบวก