พระน้องชายหลวงปู่พิมพ์วอนสื่อหยุดประโคมข่าว ปัด “สร้างภาพ อยากดังหวังเงินบริจาค”


ศูนย์ข่าวขอนแก่น- พระมหาบัว ปิยวัณโณ พระน้องชายหลวงปู่พิมพ์ วอนสื่อหยุดประโคมข่าว กล่าวหา “สร้างสถานการณ์สร้างภาพ อยากดัง หวังเงินบริจาคเข้าวัด” ทั้งจวกสื่อความหมายผิดเพี้ยนของคำว่า ละสังขาร คือ การหยุดปรุงแต่งจิต ไม่ใช่การตาย จนทำให้เป็นข่าวใหญ่โต
       
        วันนี้ (11 ก.ย.) ที่วัดเวฬุวัน ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พุทธศาสนิกชนยังคงหลั่งไหลเข้ามาทำบุญเจริญภาวนาที่วัดเวฬุวัน แต่จำนวนพุทธศาสนิกชนค่อนข้างบางตา เมื่อเทียบกับวานนี้ ที่มีพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศเดินทางมารอดูว่าหลวงปู่พิมพ์ จะละสังขารในโลงศพ ข้างกุฏิจริงหรือไม่ กระทั่ง ผบก.ภ.จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยหลวงปู่สี เจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ เดินทางมาเกลี้ยกล่อม ทำให้หลวงปู่พิมพ์ ล้มเลิกความคิดจะละสังขารดังกล่าว
       
        ทั้งนี้ ในช่วงเช้า ภายในศาลาการเปรียญวัดเวฬุวันพระมหาบัว ปิยวัณโณ พระน้องชายหลวงปู่พิมพ์ ทำหน้าที่เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน ได้ขึ้นธรรมาสน์เทศนาธรรมให้แก่พุทธศาสนิกชนประมาณ 200 คน โดยคำเทศนาบางช่วงพระมหาบัว ได้เทศนาโยงถึงเหตุการณ์พิธีละสังขารหลวงปู่พิมพ์ ที่กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั้งประเทศ ความว่า
       
        “การใช้คำพูด และสติในการฟังสำคัญมาก ไม่ใช่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด เช่นที่คำว่า การละสังขารคือ การตาย แต่ตามหลักของพุทธศาสนา หรือภาษาพระ การละสังขาร หมายถึง การละการปรุงแต่งทางจิต หรือการละจากกิเลสทั้งปวง ไม่ใช่การละที่เป็นตัวตนทั้งหมด”
       
        ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพระมหาบัว ปิยวัณโณ เพิ่มเติมหลังเทศนาเสร็จถึงคำว่า “ละสังขาร” ที่หลวงปู่พิมพ์เทศนาวันนั้น หมายถึงอะไร ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า หมายถึง สังขารธรรม หนึ่งขันธ์ทั้งห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ความหมายของหลวงปู่พิมพ์ที่กล่าวถึงคำว่าสังขาร คือ การปรุงแต่งของจิต ละสังขารนี้คือ “หยุดการปรุงแต่งจิต” ไม่ใช่การละร่างกาย หรือตาย แต่สื่อฟังแล้วไปกระจายในความหมายที่ผิดเพี้ยน จนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โต
       
        ขณะเดียวกัน ระหว่างที่พระมหาบัว ปิยวัณโณ กำลังจะเดินทางไปเยี่ยมหลวงปู่พิมพ์ที่โรงพยาบาลคอนสาร ได้ชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า “หยุดประโคมข่าวว่าตนอยากดัง หรือสร้างภาพ ตนไม่มีเจตนา และไม่ได้เชิญผู้สื่อข่าวมาทำข่าวแต่อย่างใด” พร้อมกล่าวถึงจุดประสงค์ที่หลวงปู่พิมพ์เข้าไปนอนในโลงศพนั้น ก็เพื่อละการปรุงแต่งทางจิตเท่านั้น การนอนในโลงนั้นถือเป็นการฝึกกรรมฐานอย่างหนึ่ง ทั้งมีศิษย์ได้ถวายโลงศพมา จึงฉลองศรัทธา และนอนในโลงนี้ ไม่มีเจตนาให้เกิดเป็นข่าวใหญ่โตเพื่อเรียกเงินบริจาคอย่างใด
       
        อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า หากสื่อความหมายคำว่า “ละสังขาร” ผิดเพี้ยนไปจากที่หลวงปู่พิมพ์ได้เทศนาออกมานั้น ทำไมทางวัดเวฬุวัน ถึงไม่ยับยั้ง หรือชี้แจงการนำเสนอที่คลาดเคลื่อนของสื่อมวลชนตั้งแต่เป็นข่าวใหญ่ไปเมื่อวันจันทร์ที่ 8 กันยายน ที่มีข่าวระบุว่า มีพระสงฆ์รู้วันตายของตนเอง จนมีพิธีละสังขารนอนในโลงศพข้างกุฏิ และแจ้งศิษย์ให้เปิดโลงศพได้ในบ่ายวันที่ 11ก.ย.ว่ามรณภาพหรือไม่



ศิษย์เผย “หลวงปู่พิมพ์” จะครองธาตุขันธุ์ถึงอายุ 80 ปี ตามแบบพระพุทธเจ้า


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กันยายน 2557 10:55 น.
   
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศิษย์ “หลวงปู่พิมพ์” เปิดใจหลังเข้าเยี่ยม ระบุหลวงปู่จะดำรงธาตุขันธุ์สืบพระศาสนาไปถึงอายุ 80 ปี ตามแบบอย่างพระพุทธเจ้า ด้าน ผอ.โรงพยาบาลคอนสาร เผยอาการไม่น่าเป็นห่วง ทั้งเกาต์ กรดไหลย้อน สามารถรักษาได้
       
        วันนี้ (11 ก.ย.) ที่โรงพยาบาลคอนสาร จ.ชัยภูมิ หลวงปู่พิมพ์ หรือพระครูเวฬุวัน จันทรังษี อายุ 65 ปี เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน หมู่ 4 บ้าน ท่าเริงรมย์ ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ที่ล้มเลิกการละสังขารไปเมื่อบ่ายวานนี้ (10 ก.ย.) เข้าพักรักษาอาการป่วยที่ห้องพิเศษ B 9 โรงพยาบาลคอนสาร เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย เพราะไม่ได้ฉันอาหารมานานกว่า 3 วัน ทั้งมีโรคประจำตัว คือ โรคเกาต์ โรคกรดไหลย้อน และโรคลำไส้ โดยแพทย์เจ้าของไข้ คือ นายแพทย์สุภาพ สำราญวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคอนสาร
       
        ทั้งนี้ แพทย์ไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม ทั้งมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคอนสาร และตำรวจเฝ้าประจำหน้าห้องด้วย จัดไว้เพียงสมุดเยี่ยมให้ลูกศิษย์ลงชื่อเท่านั้น แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้ศิษย์จาก จ.กำแพงเพชร เข้าเยี่ยมได้ตามปกติ ดังนั้น การขึ้นป้ายห้ามเยี่ยมน่าจะเพียงป้องกันไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปรบกวนถ่ายภาพทำข่าวหลวงปู่พิมพ์เท่านั้น
       
        นางทองดำ รื่นรมย์ อายุ 56 ปี ชาว อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ผู้ศรัทธาในหลวงปู่พิมพ์ เปิดเผยภายหลังว่า รู้สึกดีใจมากที่ทางโรงพยาบาลอนุญาตให้เข้าไปกราบเยี่ยมหลวงปู่พิมพ์ถึงห้องพักฟื้น โดยมาเยี่ยมหลวงปู่พิมพ์เป็นครั้งแรก รู้จักหลวงปู่พิมพ์จากข่าว และหลังทราบข่าวว่าหลวงปู่จะละสังขารในคืนวันที่ 9 กันยายน ก็เกิดศรัทธาในความตั้งใจของหลวงปู่ จึงรีบเดินทางพร้อมญาติ 4 คนเมื่อบ่ายวานนี้ และมาถึงวัดคืนวันเดียวกัน
       
        “เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกลี้ยกล่อม และทำให้หลวงปู่พิมพ์ล้มเลิกละสังขารนั้น ไม่ทำให้ศรัทธาเสื่อมลง แต่เสียใจมากกว่าถ้าท่านละสังขารจริง เพราะต้องเสียพระดีๆ ไปอีกรูป เป็นสิ่งดีที่หลวงปู่พิมพ์จะอยู่ดำรงธาตุขันธุ์สืบทอดพระศาสนาต่อไป จากการสอบถามหลวงปู่พิมพ์ ท่านบอกว่า จะอยู่ครองธาตุขันธุ์ไปถึง 80 ปี ตามแบบอย่างพระพุทธเจ้า หรือพ่อของท่าน ซึ่งหลวงปู่พิมพ์ได้รู้นิมิตนี้ ตอนที่ท่านนอนอยู่ในโลงศพ ยืนยันว่าหลวงปู่พิมพ์ไม่ละสังขารแน่”
       
        ด้านนายแพทย์สุภาพ กล่าวว่า ขณะนี้อาการไม่น่าเป็นห่วงแล้ว สุขภาพโดยรวมแข็งแรงดี แต่แพทย์ยังให้น้ำเกลือเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายที่อิดโรยมาหลายวัน หลังจากถอดน้ำเกลือแล้วจะให้หลวงปู่อยู่พักฟื้นร่างกายในโรงพยาบาลคอนสารไปอีก 1-2 วัน คงไม่ส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ส่วนโรคประจำตัวทั้งโรคเกาต์ กรดไหลย้อน หรือโรคลำไส้ ก็สามารถรักษาได้ ไม่น่าเป็นห่วง โดยภาพรวมแล้วสุขภาพหลวงปู่แข็งแรงดี ส่วนเรื่องละสังขารนั้นท่านไม่คิดละสังขารแน่นอน

ข่าวจาก  :  ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000104529
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000104326
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่