จากประสบการณ์โดยครงของผมเอง สไตล์อาจไม่ตรงใจใครหลายคน บางคนชอบเล่นสั้น
1. เงินเย็นเท่านั้น เงินที่เอามาลงทุนในหุ้นต้องเป็นเงินเย็นจริง ๆ ไม่ว่าจะเดือดร้อนแค่ไหนก็ไม่ต้องขายหุ้นเพื่อเอาเงินมาหมุน เงินนี้จะเป็นเงินที่อยู่ในหุ้นตลอดไป เงินปันผลและดอกเบี้ยที่ได้ก็เอามาฝากทบเพิ่มเข้าไป ถ้ามีเงินเหลือเก็บ เงินโบนัส ก็แบ่งมาลงทุนในหุ้นตามความเหมาะสม เป้าหมายคืออดเปรี้ยวไว้กินหวาน ถ้าเราดึงเงินปันผลหรือดอกเบี้ยออกมาใช้เรื่อยๆ แม้เราจะกำไรแต่พอร์ตจะไม่โต
การกู้มาเล่นหุ้นหรือใช้บัญชีมาร์จิ้น มีความเสี่ยงสูง ถ้าใครรับความเสี่ยงได้ก็ไม่เป็นไรครับ
2. ข่าวคือสิ่งที่เค้าอยากให้เรารู้ ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เราควรจะรู้ ข่าวที่เราได้ยินทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นข่าวการเมือง เศรษฐกิจ บันเทิง ข่าวชาวบ้าน ล้วนมีนัยยะแอบแฝง จำไว้เสมอว่าข่าวที่ออกสู่สาธารณะจะมีคนกลุ่มนึงที่รู้ก่อนหน้าเรา แล้วเราควรทำอย่างไร เราก็ต้องไปดูกราฟเทคนิคช่วย ว่าตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรกับหุ้นตัวนี้ ดูประกอบกับข่าวที่ออกมาว่ามันบวกหรือมันลบ แล้วราคาตอนนี้มันกำลังไปทางไหน เพื่อประกอบการตัดสินใจ
3. เลือกหุ้นให้ตรงใจ ส่วนตัวผมเลือกหุ้นที่พื้นฐาน งบการเงิน กราฟราคาในอดีต ในพอร์ตจะมีทั้งหุ้นพื้นฐาน ถือยาว และหุ้นเก็งกำไร แต่กฏข้อเดียวในการเลือกหุ้นคือ หาหุ้นที่แน่ใจแล้วว่ามันจะขึ้น พอเราซื้อไปแล้วมันลงก็ไม่เป็นไรเพราะเราแน่ใจว่ายังไงปีหน้ามันก็ต้องขึ้น สักวันมันก็ต้องขึ้น ถือหุ้นแบบนี้สบายใจครับ
หวังว่าคงจะพอเข้าใจหลักเบื้องต้น คราวหน้ามีเวลาจะมาต่อครับ
แบ่งปันประสบการณ์การลงทุนในหุ้นสำหรับมือใหม่
1. เงินเย็นเท่านั้น เงินที่เอามาลงทุนในหุ้นต้องเป็นเงินเย็นจริง ๆ ไม่ว่าจะเดือดร้อนแค่ไหนก็ไม่ต้องขายหุ้นเพื่อเอาเงินมาหมุน เงินนี้จะเป็นเงินที่อยู่ในหุ้นตลอดไป เงินปันผลและดอกเบี้ยที่ได้ก็เอามาฝากทบเพิ่มเข้าไป ถ้ามีเงินเหลือเก็บ เงินโบนัส ก็แบ่งมาลงทุนในหุ้นตามความเหมาะสม เป้าหมายคืออดเปรี้ยวไว้กินหวาน ถ้าเราดึงเงินปันผลหรือดอกเบี้ยออกมาใช้เรื่อยๆ แม้เราจะกำไรแต่พอร์ตจะไม่โต
การกู้มาเล่นหุ้นหรือใช้บัญชีมาร์จิ้น มีความเสี่ยงสูง ถ้าใครรับความเสี่ยงได้ก็ไม่เป็นไรครับ
2. ข่าวคือสิ่งที่เค้าอยากให้เรารู้ ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เราควรจะรู้ ข่าวที่เราได้ยินทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นข่าวการเมือง เศรษฐกิจ บันเทิง ข่าวชาวบ้าน ล้วนมีนัยยะแอบแฝง จำไว้เสมอว่าข่าวที่ออกสู่สาธารณะจะมีคนกลุ่มนึงที่รู้ก่อนหน้าเรา แล้วเราควรทำอย่างไร เราก็ต้องไปดูกราฟเทคนิคช่วย ว่าตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรกับหุ้นตัวนี้ ดูประกอบกับข่าวที่ออกมาว่ามันบวกหรือมันลบ แล้วราคาตอนนี้มันกำลังไปทางไหน เพื่อประกอบการตัดสินใจ
3. เลือกหุ้นให้ตรงใจ ส่วนตัวผมเลือกหุ้นที่พื้นฐาน งบการเงิน กราฟราคาในอดีต ในพอร์ตจะมีทั้งหุ้นพื้นฐาน ถือยาว และหุ้นเก็งกำไร แต่กฏข้อเดียวในการเลือกหุ้นคือ หาหุ้นที่แน่ใจแล้วว่ามันจะขึ้น พอเราซื้อไปแล้วมันลงก็ไม่เป็นไรเพราะเราแน่ใจว่ายังไงปีหน้ามันก็ต้องขึ้น สักวันมันก็ต้องขึ้น ถือหุ้นแบบนี้สบายใจครับ
หวังว่าคงจะพอเข้าใจหลักเบื้องต้น คราวหน้ามีเวลาจะมาต่อครับ