ผมเป็นthe kopคนหนึ่งที่รักและชื่นชมในความพยายามของเฮนโด้มาก ผมมองว่าทีมมาไกลได้ขนาดนี้(ที่2ปีที่แล้ว)หลายคนมีส่วน ไม่ว่าจะซัวเรซ เจอราด สเตอริด สเตอริ่ง ... แต่คนนึงที่ผมมองว่า แม้จะไม่เด่น แต่คนๆนี้ ทีมขาดไม่ได้เลย นั่นคือ jordan henderson
เขาเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลาง เป็นตัวไล่บี้เอาบอลมาครอง และเป็นนักเตะที่ขยัน ฟิต มากที่สุดในทีม
แต่กระนั้นก็ดี ต่างคนต่างความคิด แฟนliverpoolหลายๆท่าน ก็มองต่างไป หลายคนก็ไม่เห็นด้วย ... ไม่เป็นไรครับ เราอาจมองต่าง แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ เรารักliverpoolเหมือนกัน
วันนี้ ไปอ่านเจอบทความนึงมา เขียนเกี่ยวกับเฮนโด้ ผมคิดว่าเขาเขียนได้ดี เลยลองแปล(ถ้าผิดๆถูกๆก็ช่วยกันแก้ได้นะครับ)มาให้อ่านกัน
คิดเห็นอย่างไร แชร์กัน คุยก้นได้นะครับ
-------------------
ที่มาhttp://www.footballparadise.org/blog/youre-not-that-important/
-------------------
jordan brian henderson
เฮนโด้เกิดที่ซันเดอร์แลนด์ และได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพที่นั่น แต่เขาถูกปล่อยให้ยืมตัวไปเล่นให้โคเวนทรีเป็นเวลานาน และกลับมาเล่นให้ซันเดอร์แลนด์จนทำผลงานได้ดี2seasonติดกัน...ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นนี้เองในsummerปี2011 liverpoolจึงได้ดึงตัวเฮนโด้มาร่วมทีมภายใต้การนำทีมของking เคนนี่ดัลกลิชที่อยากให้แกนของทีมเป็นผู้เล่นอังกฤษ ในขณะที่ค่าตัวของเฮนโด้สูงถึง16ล้านปอนด์ แต่ผลงานของเขากลับสวนทาง เขาทำได้เพียงสองประตูในฤดูกาลแรกที่ย้ายมา ฟอร์มการเล่นของเขาไม่ดีเอาเสียเลย จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ในยุคต่อมา เมื่อbrendan rodgerได้เข้ามาคุมทีม(อย่าเอ่ยถึงลุงทาถูเลยเนาะ ลืมๆมันไปซะ) เฮนโด้ได้รับอนุญาตให้ย้ายทีมได้โดยเขาถูกเสนอชื่อให้ฟูแล่มเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในdealการซื้อตัวคลิ้นท์ เดมซี่ย์ ... แต่เฮนโด้เลือกที่จะสู้ต่อ เขาไม่อยากย้ายไปที่อื่น เขาต้องการที่จะเล่นในแอนฟิลด์ต่อไป
ปีแรกที่BRคุม เราได้เห็นว่าเขาเล่นไปทั่วทั้งสนาม ไม่ว่าจะปีกขวา แบคขวา และบางทีก็เล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง...เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยิ่งหนักกว่าเดิม
อย่างไรก็ดี ผลงาน(ในสนาม ไม่เอาในตารางคะแนน)ของทีมหลังจากที่BRเข้ามาคุมทีมนั้น ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ
17 พ.ย. 2012 วันนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ โอ๊ะ !! ไม่ .. มันมี วันนั้นliverpoolเจอกับwigan เกมดำเนินไปจนถึงนาทีที่37 liverpoolเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า แต่ไม่สามารถทำประตูได้ ...susoเกือบทำประตูจากการยิงบอลระยะ30หลา แต่ผู้รักษาประตูของwiganก็saveเอาไว้...ร็อดเจอร์จึงได้เปลี่ยนแปลงแท็คติก โดยต้องการให้แดนกลางคุมเกมให้ดีขึ้น เฮนโด้ได้รับโอกาสนั้น และเขาเปลี่ยนตัวลงมาแทนซูโซ่ ผลคือ แดนกลางของliverpoolเอาชนะกลางวีแกนได้!! และนำมาซึ่งผลscore 3-0 ...จากจุดนี้เอง ที่เป็นจุดเปลี่ยนของเฮนโด้ ที่ผ่านมาเฮนโด้นั่นทุ่มเททั้งชีวิตให้การเล่นเพื่อทีม แต่เหมือนอะไรซักอย่างที่มันอยู่ไม่ถูกจุดไม่ถูกที่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัวแล้ว ในปีนี้เอง เขาก็ได้รับรางวัลอันเป็นสิ่งที่อาจหมายถึงการตอบแทนความพยายามของเขา นั่นคือรางวัลEngland’s U21 player of the year award.
นี่คือคลิปประกอบการระลึกชาติ ผมพยายามจะหาที่มันเป็นเฉพาะของเฮนเดอร์สัน แต่มันไม่มีอ่ะ จากในคลิปไม่มีเฮนโด้เลยนะ เอามาปลากรอบเฉยๆ
ในปี2013-2014นี่เอง(ผมไม่ได้ดูgame of throne คนเขียนหมายถึงอะไร งง 55#) BRทำทีมได้ดีขึ้นมาก เฮนโด้นั้นเปรียบเหมือนกับตัวหมากที่สำคัญของร็อดเจอร์เลย...ในปีแรกที่ร็อดเจอร์ทำทีมนั้น มีเสียงวิจารณ์ว่า เค้าคุมทีมโดยไม่มีplanB (คือมีแต่แผนการเล่นแบบเดียว)...มาในปีที่สองนี้ เราก็ได้เห็นร็อดเจอร์ปรุงแต่งแผนการเล่นที่มีแต่แผนaไปทีละนิดทีละหน่อย 3-5-2 บ้าง 4-4-2 บ้าง 4-4-2แบบdiamondบ้าง และจริงๆแล้วก็มีอีกหลายแบบแล้วแต่จะสรรหาคำมาเรียก(แต่อย่างเดียวที่ผมโคดประหลาดใจเลย คือแผนวันที่แพ้southคาบ้านนั่นแหล่ะครับ CBอาชีพยืนlineหลัง4ตัวพร้อมกันตรูจะบ้า#) แต่ไม่ว่าจะเล่นแผนไหนก็ตามต้องบอกว่าliverpoolเล่นบอลได้เป็นระบบมากขึ้น จากเริ่มแรกที่เล่นเลียนแบบBarcaคือเน้นการครองบอลต่อบอลเข้าทำ เริ่มพัฒนาขึ้นจนครองบอลได้เหนียวแน่นขึ้น และเริ่มเล่นcounter attackแบบเดียวกับที่Dortmundเล่น กอรปกันกับการที่ผู้เล่นอย่างraheem sterling danial sturridgeนั้นได้พัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นมา การเปล่งประกายฉายแววของphellippe coutinho ฟอร์มการเล่นเทวดาของชายคนหนึ่ง ที่ชื่อ luis suarez ... ทั้งหมดทั้งมวลนั้นไม่ว่าร็อดเจอร์จะปรับแต่งอะไรไป แต่Jordan Hendersonคือคนๆเดียวที่อยู่ในแผนทุกแผนที่กล่าวมาทั้งหมด!!
ผมอยากให้คุณลองนึกภาพตามนะ ในกลางสนาม ใครกันที่ไล่ตามกัดติดชนิดเอาว่าไล่งับส้นเท้าคู่แข่งเลย แบบนั้น ..ใครกันที่วิ่งไล่หาบอลอย่างหิวกระหายยามที่ไม่ได้ครองบอล ...ใครกันที่พยายามปิดช่องว่างคู่แข่ง ...ใครกันที่พยายามจ่ายบอลออกทุกครั้งที่บอลอยู่ในครอบครอง...และใครกันที่วิ่ง วิ่ง วิ่ง และวิ่งอย่างไม่มีวันหมดก็อก ....เฮนโด้นั้นมีความสำคัญต่อทีมไม่แพ้ซัวเรซ และสเตอริดจ์ หากเปรียบไปเฮนโด้ก็เหมือนหัวใจที่เต้นโดยไม่มีวันหยุดพัก เช่นเดียวกับซัวเรซที่ถ้าเปรียบเป็นฟัน เขาก็เป็นฟันที่ไม่มีวันหยุดไล่กัดฝ่ายตรงข้าม(เอิ๊ก!!#คิดได้ไงวะ55#)
ในระบอบร็อดเจอร์ที่เล่นบอลแบบเน้นการไล่กดดันคู่แข่ง เอาบอลมาครอง และดันเกมรุกขึ้นสูง บอกได้เลยว่าจะหาใครมาเล่นให้ได้แบบเฮนโด้นั้นยากมาก เฮนโด้จึงกลายเป็นแกนหลักในการทำทีมของร็อดเจอร์ไปแล้ว
แจ็ค วิลเชียร์ได้กล่าวถึงเฮนโด้

ในเกมที่เขาแพ้ราบคาบ1-5ที่แอนฟิลด์เมื่อเดือนกุมภาว่า
..."liverpoolเป็นทีมที่ดีที่สุดตั้งแต่ผมเจอมาในseasonนี้เลย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แข็งแกร่งขึ้นมากในปีนี้ เขามีทัศนะคติในการเล่นบอลที่ดี และไม่เป็นการดีเลยที่ต้องเล่นบอลเผชิญหน้ากับเขา คุณจะถูกทำให้วิ่งจนหมดแรงหมดสภาพกันไปเลยทีเดียวล่ะ"...
Strength-ในแง่ของความแข็งแกร่ง –เขาจะวิ่ง วิ่ง ตรงไปหาลูกบอล กดดัน แทคเกิ้ล โดยไม่ยอมให้ลูกบอลนั้นได้หยุดพัก ในขณะเดียวกันเขายังแสดงให้เราได้เห็นถึงการทำเกมไปข้างหน้าด้วย ในเวลาที่gerrardได้รับบทบาทไปยืนลึกแบบนั้น จึงเป็นหน้าที่ของเขาและcoutinhoที่จะต้องขับเคลื่อนทำเกมให้บอลไปข้างหน้า พยายามทำประตู เก็บแถวสอง และสร้างช่องว่างให้แดนหน้า
อีกจุดหนึ่งที่น่ายกย่องhendoมากๆก็คือ การที่เค้าไม่ดิ้นไปตามคำวิจารณ์ของป๋าเฟอร์กี้

ที่ล้อเค้าเกี่ยวกับท่าทางการวิ่ง Fergie-gait-gate ล้อว่าเขาใช้เข่าวิ่ง และการล้อเลียนต่างๆนานาในsocial network … ปกติแล้วผู้เล่นหนุ่มอายุน้อย อาจทนรับแรงกดดันแบบนี้ไม่ไหวและพังทลายลงมา แต่กับเฮนโด้ มันไม่เป็นแบบนั้น
เฮนโด้ไม่เคยได้รับการกล่าวว่าเล่นได้มีเอกลักษณ์แบบgarzola หรือ david silva และเขาก็ไม่ได้มีพละกำลังความอึดแบบyaya toure แต่เฮนโด้ทำงานหนัก เฮนโด้เป็นสมบัติเดียวที่คงเหลืออยู่จากการshoppingตัวผู้เล่นในยุคของKenny dalglish
เขามั่นใจในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับที่ร็อดเจอร์เองก็เริ่ม เชื่อมั่นในตัวเขา
Glen Driscoll, the club's head of performance(น่าจะแปลว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมนะครับ#) เกล็นได้กล่าวว่า hendersonกับsuarez เป็นสองคนที่ฝึกซ้อมและทำงานหนักที่สุด ซึ่งเรื่องนี้มันถูกบอกกล่าวให้เห็นในเรื่องการเล่นบอลนั่นเอง คนหนึ่งมีทักษะ8/10 มีความมุมานะ10/10 ขณะที่อีกคนมีทักษะ10/10และมีความมุ่งมั่น8/10 เป็นอย่างนี้วันแล้ววันเล่าทุกๆวัน ในทุกๆวันที่เฮนโด้อยู่ที่liverpoolเราจะไม่เคยเห็นเขาบ่นว่าเขาซ้อมหนักแล้วเลยซักครั้ง เขามีแต่เพียงความปรารถนาที่จะรักษาตำแหน่งของเขาเอาไว้ให้ได้เท่านั้น
แน่นอน คนทุกคนย่อมมีจุดอ่อน สำหรับเฮนโด้ ก็คือการทำประตู เป็นอะไรที่แย่จริงๆ เมื่อมามองสถิติ shot accuracyของเขาแค่ 36% และที่เลวร้ายไปเลยก็คือ ในทุกๆ16ลูกยิงของเขา จะกลายเป็นประตูแค่1ลูกเท่านั้น(goal-to-shot ratio=1/16) ลองมองไปที่โอกาสของเขาในนัดที่ชนะarsenol5-1เป็นตัวอย่างก็ได้ มันแย่มาก แต่มองในแง่ดีก็คือ จุดด้อยตรงนี้ยังสามารถพัฒนาได้ เขายังมีโอกาส เขายังอายุเพียงแค่23ปีเท่านั้น
Statistic-ฮึ่มมม ไอ้สถิติบ้าไรเนี่ยนะ ถ้าเกมฟุตบอลเอาแต่มองกันที่สถิติอย่างเดียว เราคงไม่อาจพูดได้ว่า นักเตะอย่างLuka modricหรือToni kroosเป็นนักเตะระดับโลกได้ ... แต่ก็นั่นแหล่ะ อย่างไรเสียโลกแห่งฟุตบอลก็ไม่สามารถที่จะเลี่ยงการไม่อ้างอิงถึงสถิติไปได้เลย ในที่นี้ผมจึงขอยกสถิติของนักเตะดาวรุ่งอายุน้อยของอังกฤษที่เล่นตำแหน่งcentralmidfieldมาพูดคุยกัน
4คนดังกล่าวประกอบไปด้วย Jordan Henderson, Thomas Cleverly, Jack Wilshere และRoss Barkley
Statistic comparison
จากสถิติในปีนี้ เมือเปรียบเทียบกันแล้ว จะเห็นว่าhendersonนั้นทำงานของเขาได้ดีมากๆพอๆกับการวิ่งของเขา นั่นคือ most assist(จ่ายบอลให้ทำเป็นประตู) , chance create(การสร้างโอกาส) และ tackle won(การแท็คเกิ้ลชนะคู่ต่อสู้) เฮนโด้ทำ3เรื่องนี้ได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกันใน4นักเตะมิดฟิลด์ตัวกลางดังกล่าว ...และก่อนที่ท่านจะแย้งว่า ที่ตัวเลขดูดี เพราะเฮนโด้นั้นเล่นมากกว่าคนอื่นหรือเปล่า ตรงนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้ตัวเฮนโด้เองด้วยที่เขาฝึกฝนดูแลร่างกายตัวเองให้มีความfitที่อยู่ในระดับสูงตลอดทั้งseasonจนทำให้ยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมมาได้นั่นเอง
ทั้งหมดทั้งมวลต้องยกความดีความชอบให้ตัวเฮนโด้เอง ที่เขาไม่ท้อเชิดหน้าขึ้นสู้และทำงานอย่างหนัก และอีกส่วนที่ต้องให้เครดิตก็คือ เบรนแดน รอดเจอร์ ที่สามารถบริหารจัดการคนได้ดี จนทำให้เฮนโด้มีอนาคตอีกครั้ง
ที่ผ่านมาliverpoolมียอดนักเตะที่น่าจะใช้คำว่าworldclassได้อย่างgerrard , ian rush หรือแม้จะไม่ถึงกับคำว่าworld class แต่นักเตะหลายคนก็เป็นที่รักของแฟนบอลอย่างเช่น dirk kuyu,Luis Garcia , หรือแม้แต่ บางทีนะ John arne riise ... hendersonเองก็อยู่ตรงนี้ด้วย ว่ายังไงดีล่ะ...Henderson Hurrying(รวดเร็ว) Harrassing(ไม่อยู่นิ่ง กระตือรือร้น) Hair gel(แต่งผมเรียบแปล้) Humble(อ่อนน้อมถ่อมตน) Hope(ความหวัง) หรือจะHero? …อะไรก็ดีนะ ถ้าคุณอ่านมาจนถีงบรรทัดนี้ได้ คุณรู้มั๊ยบางทีHendersonอาจวิ่งไปไกล3ไมล์แล้ว
เกี่ยวกับJordan Henderson ... ทำไมเค้าถึงสมควรได้รับคำชม ...
เขาเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลาง เป็นตัวไล่บี้เอาบอลมาครอง และเป็นนักเตะที่ขยัน ฟิต มากที่สุดในทีม
แต่กระนั้นก็ดี ต่างคนต่างความคิด แฟนliverpoolหลายๆท่าน ก็มองต่างไป หลายคนก็ไม่เห็นด้วย ... ไม่เป็นไรครับ เราอาจมองต่าง แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ เรารักliverpoolเหมือนกัน
วันนี้ ไปอ่านเจอบทความนึงมา เขียนเกี่ยวกับเฮนโด้ ผมคิดว่าเขาเขียนได้ดี เลยลองแปล(ถ้าผิดๆถูกๆก็ช่วยกันแก้ได้นะครับ)มาให้อ่านกัน
คิดเห็นอย่างไร แชร์กัน คุยก้นได้นะครับ
-------------------
ที่มาhttp://www.footballparadise.org/blog/youre-not-that-important/
-------------------
jordan brian henderson
เฮนโด้เกิดที่ซันเดอร์แลนด์ และได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพที่นั่น แต่เขาถูกปล่อยให้ยืมตัวไปเล่นให้โคเวนทรีเป็นเวลานาน และกลับมาเล่นให้ซันเดอร์แลนด์จนทำผลงานได้ดี2seasonติดกัน...ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นนี้เองในsummerปี2011 liverpoolจึงได้ดึงตัวเฮนโด้มาร่วมทีมภายใต้การนำทีมของking เคนนี่ดัลกลิชที่อยากให้แกนของทีมเป็นผู้เล่นอังกฤษ ในขณะที่ค่าตัวของเฮนโด้สูงถึง16ล้านปอนด์ แต่ผลงานของเขากลับสวนทาง เขาทำได้เพียงสองประตูในฤดูกาลแรกที่ย้ายมา ฟอร์มการเล่นของเขาไม่ดีเอาเสียเลย จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ในยุคต่อมา เมื่อbrendan rodgerได้เข้ามาคุมทีม(อย่าเอ่ยถึงลุงทาถูเลยเนาะ ลืมๆมันไปซะ) เฮนโด้ได้รับอนุญาตให้ย้ายทีมได้โดยเขาถูกเสนอชื่อให้ฟูแล่มเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในdealการซื้อตัวคลิ้นท์ เดมซี่ย์ ... แต่เฮนโด้เลือกที่จะสู้ต่อ เขาไม่อยากย้ายไปที่อื่น เขาต้องการที่จะเล่นในแอนฟิลด์ต่อไป
ปีแรกที่BRคุม เราได้เห็นว่าเขาเล่นไปทั่วทั้งสนาม ไม่ว่าจะปีกขวา แบคขวา และบางทีก็เล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง...เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยิ่งหนักกว่าเดิม
อย่างไรก็ดี ผลงาน(ในสนาม ไม่เอาในตารางคะแนน)ของทีมหลังจากที่BRเข้ามาคุมทีมนั้น ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ
17 พ.ย. 2012 วันนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ โอ๊ะ !! ไม่ .. มันมี วันนั้นliverpoolเจอกับwigan เกมดำเนินไปจนถึงนาทีที่37 liverpoolเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า แต่ไม่สามารถทำประตูได้ ...susoเกือบทำประตูจากการยิงบอลระยะ30หลา แต่ผู้รักษาประตูของwiganก็saveเอาไว้...ร็อดเจอร์จึงได้เปลี่ยนแปลงแท็คติก โดยต้องการให้แดนกลางคุมเกมให้ดีขึ้น เฮนโด้ได้รับโอกาสนั้น และเขาเปลี่ยนตัวลงมาแทนซูโซ่ ผลคือ แดนกลางของliverpoolเอาชนะกลางวีแกนได้!! และนำมาซึ่งผลscore 3-0 ...จากจุดนี้เอง ที่เป็นจุดเปลี่ยนของเฮนโด้ ที่ผ่านมาเฮนโด้นั่นทุ่มเททั้งชีวิตให้การเล่นเพื่อทีม แต่เหมือนอะไรซักอย่างที่มันอยู่ไม่ถูกจุดไม่ถูกที่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัวแล้ว ในปีนี้เอง เขาก็ได้รับรางวัลอันเป็นสิ่งที่อาจหมายถึงการตอบแทนความพยายามของเขา นั่นคือรางวัลEngland’s U21 player of the year award.
นี่คือคลิปประกอบการระลึกชาติ ผมพยายามจะหาที่มันเป็นเฉพาะของเฮนเดอร์สัน แต่มันไม่มีอ่ะ จากในคลิปไม่มีเฮนโด้เลยนะ เอามาปลากรอบเฉยๆ
ในปี2013-2014นี่เอง(ผมไม่ได้ดูgame of throne คนเขียนหมายถึงอะไร งง 55#) BRทำทีมได้ดีขึ้นมาก เฮนโด้นั้นเปรียบเหมือนกับตัวหมากที่สำคัญของร็อดเจอร์เลย...ในปีแรกที่ร็อดเจอร์ทำทีมนั้น มีเสียงวิจารณ์ว่า เค้าคุมทีมโดยไม่มีplanB (คือมีแต่แผนการเล่นแบบเดียว)...มาในปีที่สองนี้ เราก็ได้เห็นร็อดเจอร์ปรุงแต่งแผนการเล่นที่มีแต่แผนaไปทีละนิดทีละหน่อย 3-5-2 บ้าง 4-4-2 บ้าง 4-4-2แบบdiamondบ้าง และจริงๆแล้วก็มีอีกหลายแบบแล้วแต่จะสรรหาคำมาเรียก(แต่อย่างเดียวที่ผมโคดประหลาดใจเลย คือแผนวันที่แพ้southคาบ้านนั่นแหล่ะครับ CBอาชีพยืนlineหลัง4ตัวพร้อมกันตรูจะบ้า#) แต่ไม่ว่าจะเล่นแผนไหนก็ตามต้องบอกว่าliverpoolเล่นบอลได้เป็นระบบมากขึ้น จากเริ่มแรกที่เล่นเลียนแบบBarcaคือเน้นการครองบอลต่อบอลเข้าทำ เริ่มพัฒนาขึ้นจนครองบอลได้เหนียวแน่นขึ้น และเริ่มเล่นcounter attackแบบเดียวกับที่Dortmundเล่น กอรปกันกับการที่ผู้เล่นอย่างraheem sterling danial sturridgeนั้นได้พัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นมา การเปล่งประกายฉายแววของphellippe coutinho ฟอร์มการเล่นเทวดาของชายคนหนึ่ง ที่ชื่อ luis suarez ... ทั้งหมดทั้งมวลนั้นไม่ว่าร็อดเจอร์จะปรับแต่งอะไรไป แต่Jordan Hendersonคือคนๆเดียวที่อยู่ในแผนทุกแผนที่กล่าวมาทั้งหมด!!
ผมอยากให้คุณลองนึกภาพตามนะ ในกลางสนาม ใครกันที่ไล่ตามกัดติดชนิดเอาว่าไล่งับส้นเท้าคู่แข่งเลย แบบนั้น ..ใครกันที่วิ่งไล่หาบอลอย่างหิวกระหายยามที่ไม่ได้ครองบอล ...ใครกันที่พยายามปิดช่องว่างคู่แข่ง ...ใครกันที่พยายามจ่ายบอลออกทุกครั้งที่บอลอยู่ในครอบครอง...และใครกันที่วิ่ง วิ่ง วิ่ง และวิ่งอย่างไม่มีวันหมดก็อก ....เฮนโด้นั้นมีความสำคัญต่อทีมไม่แพ้ซัวเรซ และสเตอริดจ์ หากเปรียบไปเฮนโด้ก็เหมือนหัวใจที่เต้นโดยไม่มีวันหยุดพัก เช่นเดียวกับซัวเรซที่ถ้าเปรียบเป็นฟัน เขาก็เป็นฟันที่ไม่มีวันหยุดไล่กัดฝ่ายตรงข้าม(เอิ๊ก!!#คิดได้ไงวะ55#)
ในระบอบร็อดเจอร์ที่เล่นบอลแบบเน้นการไล่กดดันคู่แข่ง เอาบอลมาครอง และดันเกมรุกขึ้นสูง บอกได้เลยว่าจะหาใครมาเล่นให้ได้แบบเฮนโด้นั้นยากมาก เฮนโด้จึงกลายเป็นแกนหลักในการทำทีมของร็อดเจอร์ไปแล้ว
แจ็ค วิลเชียร์ได้กล่าวถึงเฮนโด้
ในเกมที่เขาแพ้ราบคาบ1-5ที่แอนฟิลด์เมื่อเดือนกุมภาว่า
..."liverpoolเป็นทีมที่ดีที่สุดตั้งแต่ผมเจอมาในseasonนี้เลย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แข็งแกร่งขึ้นมากในปีนี้ เขามีทัศนะคติในการเล่นบอลที่ดี และไม่เป็นการดีเลยที่ต้องเล่นบอลเผชิญหน้ากับเขา คุณจะถูกทำให้วิ่งจนหมดแรงหมดสภาพกันไปเลยทีเดียวล่ะ"...
Strength-ในแง่ของความแข็งแกร่ง –เขาจะวิ่ง วิ่ง ตรงไปหาลูกบอล กดดัน แทคเกิ้ล โดยไม่ยอมให้ลูกบอลนั้นได้หยุดพัก ในขณะเดียวกันเขายังแสดงให้เราได้เห็นถึงการทำเกมไปข้างหน้าด้วย ในเวลาที่gerrardได้รับบทบาทไปยืนลึกแบบนั้น จึงเป็นหน้าที่ของเขาและcoutinhoที่จะต้องขับเคลื่อนทำเกมให้บอลไปข้างหน้า พยายามทำประตู เก็บแถวสอง และสร้างช่องว่างให้แดนหน้า
อีกจุดหนึ่งที่น่ายกย่องhendoมากๆก็คือ การที่เค้าไม่ดิ้นไปตามคำวิจารณ์ของป๋าเฟอร์กี้
ที่ล้อเค้าเกี่ยวกับท่าทางการวิ่ง Fergie-gait-gate ล้อว่าเขาใช้เข่าวิ่ง และการล้อเลียนต่างๆนานาในsocial network … ปกติแล้วผู้เล่นหนุ่มอายุน้อย อาจทนรับแรงกดดันแบบนี้ไม่ไหวและพังทลายลงมา แต่กับเฮนโด้ มันไม่เป็นแบบนั้น
เฮนโด้ไม่เคยได้รับการกล่าวว่าเล่นได้มีเอกลักษณ์แบบgarzola หรือ david silva และเขาก็ไม่ได้มีพละกำลังความอึดแบบyaya toure แต่เฮนโด้ทำงานหนัก เฮนโด้เป็นสมบัติเดียวที่คงเหลืออยู่จากการshoppingตัวผู้เล่นในยุคของKenny dalglish
เขามั่นใจในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับที่ร็อดเจอร์เองก็เริ่ม เชื่อมั่นในตัวเขา
Glen Driscoll, the club's head of performance(น่าจะแปลว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมนะครับ#) เกล็นได้กล่าวว่า hendersonกับsuarez เป็นสองคนที่ฝึกซ้อมและทำงานหนักที่สุด ซึ่งเรื่องนี้มันถูกบอกกล่าวให้เห็นในเรื่องการเล่นบอลนั่นเอง คนหนึ่งมีทักษะ8/10 มีความมุมานะ10/10 ขณะที่อีกคนมีทักษะ10/10และมีความมุ่งมั่น8/10 เป็นอย่างนี้วันแล้ววันเล่าทุกๆวัน ในทุกๆวันที่เฮนโด้อยู่ที่liverpoolเราจะไม่เคยเห็นเขาบ่นว่าเขาซ้อมหนักแล้วเลยซักครั้ง เขามีแต่เพียงความปรารถนาที่จะรักษาตำแหน่งของเขาเอาไว้ให้ได้เท่านั้น
แน่นอน คนทุกคนย่อมมีจุดอ่อน สำหรับเฮนโด้ ก็คือการทำประตู เป็นอะไรที่แย่จริงๆ เมื่อมามองสถิติ shot accuracyของเขาแค่ 36% และที่เลวร้ายไปเลยก็คือ ในทุกๆ16ลูกยิงของเขา จะกลายเป็นประตูแค่1ลูกเท่านั้น(goal-to-shot ratio=1/16) ลองมองไปที่โอกาสของเขาในนัดที่ชนะarsenol5-1เป็นตัวอย่างก็ได้ มันแย่มาก แต่มองในแง่ดีก็คือ จุดด้อยตรงนี้ยังสามารถพัฒนาได้ เขายังมีโอกาส เขายังอายุเพียงแค่23ปีเท่านั้น
Statistic-ฮึ่มมม ไอ้สถิติบ้าไรเนี่ยนะ ถ้าเกมฟุตบอลเอาแต่มองกันที่สถิติอย่างเดียว เราคงไม่อาจพูดได้ว่า นักเตะอย่างLuka modricหรือToni kroosเป็นนักเตะระดับโลกได้ ... แต่ก็นั่นแหล่ะ อย่างไรเสียโลกแห่งฟุตบอลก็ไม่สามารถที่จะเลี่ยงการไม่อ้างอิงถึงสถิติไปได้เลย ในที่นี้ผมจึงขอยกสถิติของนักเตะดาวรุ่งอายุน้อยของอังกฤษที่เล่นตำแหน่งcentralmidfieldมาพูดคุยกัน
4คนดังกล่าวประกอบไปด้วย Jordan Henderson, Thomas Cleverly, Jack Wilshere และRoss Barkley
Statistic comparison
จากสถิติในปีนี้ เมือเปรียบเทียบกันแล้ว จะเห็นว่าhendersonนั้นทำงานของเขาได้ดีมากๆพอๆกับการวิ่งของเขา นั่นคือ most assist(จ่ายบอลให้ทำเป็นประตู) , chance create(การสร้างโอกาส) และ tackle won(การแท็คเกิ้ลชนะคู่ต่อสู้) เฮนโด้ทำ3เรื่องนี้ได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกันใน4นักเตะมิดฟิลด์ตัวกลางดังกล่าว ...และก่อนที่ท่านจะแย้งว่า ที่ตัวเลขดูดี เพราะเฮนโด้นั้นเล่นมากกว่าคนอื่นหรือเปล่า ตรงนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้ตัวเฮนโด้เองด้วยที่เขาฝึกฝนดูแลร่างกายตัวเองให้มีความfitที่อยู่ในระดับสูงตลอดทั้งseasonจนทำให้ยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมมาได้นั่นเอง
ทั้งหมดทั้งมวลต้องยกความดีความชอบให้ตัวเฮนโด้เอง ที่เขาไม่ท้อเชิดหน้าขึ้นสู้และทำงานอย่างหนัก และอีกส่วนที่ต้องให้เครดิตก็คือ เบรนแดน รอดเจอร์ ที่สามารถบริหารจัดการคนได้ดี จนทำให้เฮนโด้มีอนาคตอีกครั้ง
ที่ผ่านมาliverpoolมียอดนักเตะที่น่าจะใช้คำว่าworldclassได้อย่างgerrard , ian rush หรือแม้จะไม่ถึงกับคำว่าworld class แต่นักเตะหลายคนก็เป็นที่รักของแฟนบอลอย่างเช่น dirk kuyu,Luis Garcia , หรือแม้แต่ บางทีนะ John arne riise ... hendersonเองก็อยู่ตรงนี้ด้วย ว่ายังไงดีล่ะ...Henderson Hurrying(รวดเร็ว) Harrassing(ไม่อยู่นิ่ง กระตือรือร้น) Hair gel(แต่งผมเรียบแปล้) Humble(อ่อนน้อมถ่อมตน) Hope(ความหวัง) หรือจะHero? …อะไรก็ดีนะ ถ้าคุณอ่านมาจนถีงบรรทัดนี้ได้ คุณรู้มั๊ยบางทีHendersonอาจวิ่งไปไกล3ไมล์แล้ว