" อ้อมกอด "คีรีวงกต"
ก่อนอื่นผมเป็นคนชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูปตามที่ต่างๆ แต่ต้องขอบอกก่อนครับว่าผมไม่เคยมานั่งเขียนรีวิวเรื่องท่องเที่ยวอะไรเลย
ที่มานั่งเขียนเพราะว่าวันนี้งานที่ผมทำส่งโดน reject มาก็เลยเครียดๆ อยากจะหาอะไรทำเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ก่อนที่จะไปนั่งแก้งานต่อ
ผมเป็นคนอุดร เกิดที่อุดร โตที่อุดร แต่มาทำงานที่กรุงเทพ แล้วสองปีที่ผ่านมาได้มีโอกาศกลับมาอยู่ที่อุดร (อยากมาดูพ่อแม่ใกล้ๆยามพวกเค้าแก่เฒ่าครับ) ก็เลยรูสึกว่าอุดรเปลี่ยนไปเยอะมาก จากแต่ก่อนที่ผมเคยอยู่ ซึ่งทำให้ผมได้รับรู้เรื่องราวๆต่างๆของจังหวัดอุดรมากกว่าที่ผมเคยรู้ หรือ ที่เคยสัมพัสมาก่อน
ผมได้มีโอกาศออกทริปกับเพื่อนๆมัคคุเทศน์เมื่อเสาร์อาทิตย์ก่อนที่ผ่านมา ซึ่งเราเป้าหมายการเดินทางของเราคือ อำเภอนายูง ครับ
อำเภอนายูง อยู่ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งระยะทางจากตัวเมืองอุดร ไปยังนายูงประมาณ 125 km ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ
ซึ่งระหว่างทางเราก็ได้แวะหอนางอุสาแวะมาเก็บภาพกันก่อน
ภาพหอนางอุสา
อีกมุมหนึ่งของหอนางอุสา
โขดหินบริเวณรอบๆซึ่งเค้าเชื่อกันว่าเมื่อก่อนบริเวณแห่งนี้เป็นวัด
ภาพดอกไม้ริมทางครับ
บริเวณโดยรอบครับ
บริเวณเสาเสมาที่เชื่อกันว่าที่แห่งนี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
จบด้วยภาพนี้
ต่อจากนั้นทางคณะก็เดินทางต่อไปยังวัดป่าภูก้อนเพื่อไปสักการะขอพรองค์พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ซึ่งสร้างจากหินอ่อนทั้งหมด ซึ่งสวยงามมากครับ สภาพอากาศวันนี้ท้องฟ้าเป็นใจมาก ฟ้าโปร่งมาก
ภาพหออุโบสถครับ
ภาพองค์พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี
ภาพรอบๆตัวอุโบสถครับ ส่วนตัวผมชอบภาพนี้เพราะเหมือนอยู่บนอีกโลกหนึ่งเลย
ภาพรอบๆตัวอุโบสถครับ
ภาพรอบๆตัวอุโบสถครับ
ภาพรอบๆตัวอุโบสถครับ
หลังจากสักการะแล้วพวกเราก็เดินทางไปยัง คีรีวงกต ครับซึ่งการเดินทางต้องใช้ความระวังเพราะระหว่างทางมีแต่เขา
หมู่บ้านคีรีวงกต อยู่ในอำเภอนายูง อำเภอเหนือสุดของจังหวัดอุดรธานี ทิศตะวันตกติดต่ออำเภอ ปากชม จังหวัดเลยใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆก็เดินทางมาถึงครับ ซึ่งทริปนี้เราไม่ได้มาค้างคืน ก็เลยไม่ได้จองที่พักไว้ ซึ่งคงไว้โอกาศหน้า ซึ่งเมื่อถึงหมู่บ้าน ก็มีผู้ใหญ่บ้านมาคอยต้อนรับคณะพวกเรา
ซึ่งแกเป็นผู้ใหญ่บ้านที่มีความกันเองมาก แกบอกว่ามาเที่ยวให้เหมือนพี่เหมือนน้อง จากนั้นแกก็เลยนำผลไม้มาให้ทานระหว่างเรานั่งพักเหนื่อยเพื่อเตรียม adventure กับการล่องแกร่ง เมื่อได้เวลาพวกเราก็ขึ้นรถ ซึ่งภาษาท้องถิ่นเค้าเรียกว่า "รถอีแต๊ก"
หน้าตารถอีแต๊ก
จากนั้นพวกพี่คนขับก็พาพวกเรานั่งชมหมู่บ้านรอบๆก่อนครับซึ่งอัตราค่าบริการก็ไม่แพงประมาณ 400 บาทต่อคันซึ่งผมว่ามันคุ้มนะ
ภาพระหว่างการนั่งรถอีแต๊กชมหมู่บ้าน
ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าที่นี่มีการปลูกไร่สตรอเบอรี่ และ หน้าหนาวก็หนาวมากจนมีแม่คะนิ้งให้เห็นเป็นประจำ
อากาศดีมากครับ
ภาพคณะเดินทาง ไม่มีรูปผมนะผมเป็นตากล้อง T T
จากนั้นก็ถึงเวลาล่องแก่ง ซึ่งบอกได้เลยครับว่าเสียวมาก อารมณ์ไม่เหมือนนั่งแพ แต่อันนี้เหมือนว่าต้องนั่งลุ้นว่าจะตกน้ำ หรือ รถจะดับหรือเปล่า 555 มันส์ครับ
บุกป่าฝ่าดงกันเข้าไป ใจก็ลุ้นว่ารถจะดับหรือเปล่า
มีขึ้นบก ลงน้ำให้ลุ้นอยู่เป็นระยะๆ
แวะเก็บภาพวิวระหว่างทางเป็นการยากมากที่ต้องถ่ายภาพบนรถอีแต๊ก ซึ่งมันสั่นมากโฟกัสภาพได้ยากมากไว้คราวหน้าจะพร้อมลุยกว่านี้รอบนี้ไม่ได้เตรียมชุดลุยน้ำมาด้วย
นาข้าวที่นี้อุดมสมบรูณ์มากครับเพราะใกล้แหล่งน้ำแล้วอากาศก็ดี ก็ออกมาเขียวอย่างที่เห็นครับ
นี่ก็เป็นบรรยากาศท้องทุ่งแบบบ้านๆตามภาษาบ้านนอกอย่างเราๆครับ ซึ่งจะไปหาดูในเมืองแบบนี้คงยากน่าดู
ภาพขบวนรถแต๊กที่กำลังวิ่งฝ่าท้องทุ่งนาเห็นแล้วรู้สึกฟินเว่อร์
สุดท้ายของการเดินทาง อ้อมกอด คีรีวงกต
เพิ่มเติมครับสำหรับกิจกรรมของคีรีวงกต นอกจากนั่งรถแต๊กตะลอนทัวร์แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมกางเต็นท็กินข้าวป่าด้วยนะครับซึ่งผมตั้งใจไว้จะมากางเต็นท์กินข้าวป่าคราวหน้า ช่วงหน้าหนาวบรรยากาศดีมากครับ สำหรับใครอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมก็ดูจากคลิป ที่นี่หมอชิต หรือ เฟสของทางหมู่บ้านได้นะครับ
ขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตาม
ภาพสวยๆของผมอัพไว้ที่นี้นะครับเผื่อให้อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม
Wanviva
Facebook :
ออนซอนคีรี
ที่นี่หมอชิต
ตอนเที่ยวมืองออนชอน อุดรธานี
รีวิวอ้อมกอด "คีรีวงกต" จังหวัดอุดรธานี
ก่อนอื่นผมเป็นคนชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูปตามที่ต่างๆ แต่ต้องขอบอกก่อนครับว่าผมไม่เคยมานั่งเขียนรีวิวเรื่องท่องเที่ยวอะไรเลย
ที่มานั่งเขียนเพราะว่าวันนี้งานที่ผมทำส่งโดน reject มาก็เลยเครียดๆ อยากจะหาอะไรทำเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ก่อนที่จะไปนั่งแก้งานต่อ
ผมเป็นคนอุดร เกิดที่อุดร โตที่อุดร แต่มาทำงานที่กรุงเทพ แล้วสองปีที่ผ่านมาได้มีโอกาศกลับมาอยู่ที่อุดร (อยากมาดูพ่อแม่ใกล้ๆยามพวกเค้าแก่เฒ่าครับ) ก็เลยรูสึกว่าอุดรเปลี่ยนไปเยอะมาก จากแต่ก่อนที่ผมเคยอยู่ ซึ่งทำให้ผมได้รับรู้เรื่องราวๆต่างๆของจังหวัดอุดรมากกว่าที่ผมเคยรู้ หรือ ที่เคยสัมพัสมาก่อน
ผมได้มีโอกาศออกทริปกับเพื่อนๆมัคคุเทศน์เมื่อเสาร์อาทิตย์ก่อนที่ผ่านมา ซึ่งเราเป้าหมายการเดินทางของเราคือ อำเภอนายูง ครับ
อำเภอนายูง อยู่ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งระยะทางจากตัวเมืองอุดร ไปยังนายูงประมาณ 125 km ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ
ซึ่งระหว่างทางเราก็ได้แวะหอนางอุสาแวะมาเก็บภาพกันก่อน
ภาพหอนางอุสา
อีกมุมหนึ่งของหอนางอุสา
โขดหินบริเวณรอบๆซึ่งเค้าเชื่อกันว่าเมื่อก่อนบริเวณแห่งนี้เป็นวัด
ภาพดอกไม้ริมทางครับ
บริเวณโดยรอบครับ
บริเวณเสาเสมาที่เชื่อกันว่าที่แห่งนี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
จบด้วยภาพนี้
ต่อจากนั้นทางคณะก็เดินทางต่อไปยังวัดป่าภูก้อนเพื่อไปสักการะขอพรองค์พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ซึ่งสร้างจากหินอ่อนทั้งหมด ซึ่งสวยงามมากครับ สภาพอากาศวันนี้ท้องฟ้าเป็นใจมาก ฟ้าโปร่งมาก
ภาพหออุโบสถครับ
ภาพองค์พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี
ภาพรอบๆตัวอุโบสถครับ ส่วนตัวผมชอบภาพนี้เพราะเหมือนอยู่บนอีกโลกหนึ่งเลย
ภาพรอบๆตัวอุโบสถครับ
ภาพรอบๆตัวอุโบสถครับ
ภาพรอบๆตัวอุโบสถครับ
หลังจากสักการะแล้วพวกเราก็เดินทางไปยัง คีรีวงกต ครับซึ่งการเดินทางต้องใช้ความระวังเพราะระหว่างทางมีแต่เขา
หมู่บ้านคีรีวงกต อยู่ในอำเภอนายูง อำเภอเหนือสุดของจังหวัดอุดรธานี ทิศตะวันตกติดต่ออำเภอ ปากชม จังหวัดเลยใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆก็เดินทางมาถึงครับ ซึ่งทริปนี้เราไม่ได้มาค้างคืน ก็เลยไม่ได้จองที่พักไว้ ซึ่งคงไว้โอกาศหน้า ซึ่งเมื่อถึงหมู่บ้าน ก็มีผู้ใหญ่บ้านมาคอยต้อนรับคณะพวกเรา
ซึ่งแกเป็นผู้ใหญ่บ้านที่มีความกันเองมาก แกบอกว่ามาเที่ยวให้เหมือนพี่เหมือนน้อง จากนั้นแกก็เลยนำผลไม้มาให้ทานระหว่างเรานั่งพักเหนื่อยเพื่อเตรียม adventure กับการล่องแกร่ง เมื่อได้เวลาพวกเราก็ขึ้นรถ ซึ่งภาษาท้องถิ่นเค้าเรียกว่า "รถอีแต๊ก"
หน้าตารถอีแต๊ก
จากนั้นพวกพี่คนขับก็พาพวกเรานั่งชมหมู่บ้านรอบๆก่อนครับซึ่งอัตราค่าบริการก็ไม่แพงประมาณ 400 บาทต่อคันซึ่งผมว่ามันคุ้มนะ
ภาพระหว่างการนั่งรถอีแต๊กชมหมู่บ้าน
ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าที่นี่มีการปลูกไร่สตรอเบอรี่ และ หน้าหนาวก็หนาวมากจนมีแม่คะนิ้งให้เห็นเป็นประจำ
อากาศดีมากครับ
ภาพคณะเดินทาง ไม่มีรูปผมนะผมเป็นตากล้อง T T
จากนั้นก็ถึงเวลาล่องแก่ง ซึ่งบอกได้เลยครับว่าเสียวมาก อารมณ์ไม่เหมือนนั่งแพ แต่อันนี้เหมือนว่าต้องนั่งลุ้นว่าจะตกน้ำ หรือ รถจะดับหรือเปล่า 555 มันส์ครับ
บุกป่าฝ่าดงกันเข้าไป ใจก็ลุ้นว่ารถจะดับหรือเปล่า
มีขึ้นบก ลงน้ำให้ลุ้นอยู่เป็นระยะๆ
แวะเก็บภาพวิวระหว่างทางเป็นการยากมากที่ต้องถ่ายภาพบนรถอีแต๊ก ซึ่งมันสั่นมากโฟกัสภาพได้ยากมากไว้คราวหน้าจะพร้อมลุยกว่านี้รอบนี้ไม่ได้เตรียมชุดลุยน้ำมาด้วย
นาข้าวที่นี้อุดมสมบรูณ์มากครับเพราะใกล้แหล่งน้ำแล้วอากาศก็ดี ก็ออกมาเขียวอย่างที่เห็นครับ
นี่ก็เป็นบรรยากาศท้องทุ่งแบบบ้านๆตามภาษาบ้านนอกอย่างเราๆครับ ซึ่งจะไปหาดูในเมืองแบบนี้คงยากน่าดู
ภาพขบวนรถแต๊กที่กำลังวิ่งฝ่าท้องทุ่งนาเห็นแล้วรู้สึกฟินเว่อร์
สุดท้ายของการเดินทาง อ้อมกอด คีรีวงกต
เพิ่มเติมครับสำหรับกิจกรรมของคีรีวงกต นอกจากนั่งรถแต๊กตะลอนทัวร์แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมกางเต็นท็กินข้าวป่าด้วยนะครับซึ่งผมตั้งใจไว้จะมากางเต็นท์กินข้าวป่าคราวหน้า ช่วงหน้าหนาวบรรยากาศดีมากครับ สำหรับใครอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมก็ดูจากคลิป ที่นี่หมอชิต หรือ เฟสของทางหมู่บ้านได้นะครับ
ขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตาม
ภาพสวยๆของผมอัพไว้ที่นี้นะครับเผื่อให้อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม Wanviva
Facebook : ออนซอนคีรี
ที่นี่หมอชิต ตอนเที่ยวมืองออนชอน อุดรธานี