Review...ไหว้พระ9วัดที่พม่า ตามสไตล์เพื่อนสาว ^^(วันแรก)

ออกตัวแบบล้อฟรีเลยว่า...นี่เป็นครั้งแรกที่มารีวิวในเว็บพันทิป แอบกลัวๆอยู่เหมือนกัน(ไม่รู้ว่ากลัวอะไร)

นี่เป็นครั้งแรกกับการไปเที่ยวพม่า เราเลยตัดสินใจไปกับทัวร์ค่ะ บริษัททัวร์ที่เราไปด้วยชื่อ Angel Star Travel ค่ะ แต่เราไม่ได้ไปกับที่นี่ครั้งแรกนะคะ ไปมาหลายทริปละ และบังเอิญเจอโปรแกรมโดนๆพอดีเลยมีโอกาสได้ไปอีก เอาเถอะ!!! อย่าใส่ใจเราพร่ำเพ้อเลยค่ะ ไปเริ่มดูกันเลยดีกว่า...เนอะ

วันแรก : ทัวร์เค้านัดประมาณตี4ครึ่งค่ะ(เราตื่นมาอาบน้ำแต่งหน้าตั้งแต่ตี2นี่พูดจริงๆ) เราก็ไปตามเวลานัดอ่ะ ไปเจอกรุ๊ปที่สนามบินดอนเมือง ไปถึงเค้าก็เช็คชื่อ แล้วก็พาเราไปโหลดกระเป๋า เราไปกับพี่สาวอีกคนค่ะ พอโหลดกระเป๋าเสร็จ(ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมาก) จากนั้นก็พากันผ่านการตรวจ ตม.ไทยเข้าไปรอด้านในค่ะ






ถึงเวลาก็ขึ้นเครื่องเลยจ้า ขึ้นไปแอร์ก็บอกเรารัดเข็มขัดนู่นนี่นั่นบลาๆๆ พอเครื่องขึ้นได้แปปๆ เค้าก็เอาขนมกับน้ำมาเสิร์ฟค่ะ รสชาติโอเค อร่อยดี ^^





พอลงจากเครื่องมาเราก็มาผ่าน ตม.พม่า ประเทศเขาชิลมากอ่ะ ไม่เร่งรีบ ปั๊มตราประทับไปยิ้มไป ถึงจะนานไปหน่อยแต่เราก็โอเคนะ จากนั้นเราก็ขึ้นรถค่ะ ซึ่งที่แรกที่เราไปก็คือเมืองสิเรียมค่ะ นั่งรถประมาณ1ชั่วโมงค่ะ ระหว่างทางก็มีไรให้เราดูมากมายค่ะ วิถีชีวิต ถนน ต้นไม้ใบหญ้า บ้านเมืองเขา หรือแม้แต่ประชาชนเขา ซึ่งคนที่ชอบความสะดวกสบายอาจจะรู้สึกแบบว่า...ไรอ่ะ แต่เรากลับชอบนะ คลาสสิคจะตาย





แล้วพอถึงตรงท่าน้ำที่เราจะต้องนั่งเรือข้ามไปที่เจดีย์กลางน้ำเยเลพญา มันเหมือนจะมีตลาดด้วย อารมณ์คล้ายๆตลาดเช้าอ่ะ มีของจุ๊กจิ๊ก จำพวกแว่นกันแดด หมวก บลาๆๆ




แล้วพอเราลงจากรถปุ๊บ...ก็จะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกว่า...เราเป็นบุคคลสำคัญ เพราะทั้งสาวๆหนุ่มๆชาวพม่าจะกรูกันเข้ามาล้อมรอบตัวเรา ประหนึ่งจะมาต้อนรับเรา...แต่ไม่ใช่ไง เขามาขายดอกไม้กับพวงมาลัยไหว้พระเรา ราคาก็ชิลๆค่ะ 1000-1500 จ๊าดเท่านั้นเอง เป็นเงินไทยนี่ก็ประมาณ 40-60 บาท ถือว่าไม่แพงนะ




พอซื้อดอกไม้ธูปเทียนเสร็จ เราก็เตรียมลงเรือค่ะ แต่แอบบอกก่อนเลยนะว่า...ที่พม่าอ่ะ วัดทุกวัดห้ามใส่รองเท้าเข้าวัดเลย เพราะฉะนั้น...ต้องถอดรองเท้าไว้บนเรือค่ะ แต่ไม่หายนะคะ เพราะไกด์เขาจะย้ำให้เด็กในเรือเฝ้ารองเท้าให้ค่ะ 555++





พอเราข้ามฟากมาแล้วเราก็เข้าไปสักการะด้านในก่อนค่ะ ก่อนที่พี่ไกด์เขาจะพาเดินดูรอบๆค่ะ เรากับพี่สาวพากันเดินเวียนเทียนรอบโบสถ์ด้วยนะ 3 รอบ แล้วก็แวะไปเก็บภาพสวยๆมาให้ชมกันค่ะ





พอเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ พี่ไกด์ก็พาลูกทัวร์เข้าไปสักการะพระอุปคุตค่ะ เรากับพี่สาวนี่เอาแต่ถ่ายรูป อ้อ! เราลืมบอก...ตอนเราซื้อพวกดอกไม้อ่ะ มันจะมีถุงข้าวโพดพองๆหรืออะไรสักอย่างเรียกไม่ถูก มาให้เราให้อาหารปลาด้วย






เห็นเขาให้อาหารปลากันไหม?? เราเห็นนะ...แต่เรางงมาก น้ำขุ่นมากอ่ะ แต่ปลาตัวใหญ่มว๊ากกกก แล้วอยู่ได้ไง นี่ไปจนกลับมาแล้วยังนั่งสงสัยอยู่ เออ...มันก็แปลกดี หลายคนเดินไปให้อาหารกันที่ท่าน้ำ แต่เรานี่โยนมันตรงนี้แหละ แต่ปลาก็กินนะ เพลินดี พอเสร็จแล้วเราก็เตรียมกลับกันค่ะ นั่งเรือกลับเช่นเดิม แต่ก่อนกลับเนี่ยพี่ไกด์บอกว่าหน้าวัดจะมียักษ์สีเขียวๆอยู่ เจ็บตรงไหนให้ลูบส่วนนั้น เราก็ลูบสิคะรออะไร แต่ลูบแล้วขอให้แม่นะ ไม่รู้จะได้ผลเปล่า แต่ก็ลูบไปละ




แล้วพี่ไกด์ก็พาเราออกจากสิเรียม และพากลับไปทานข้าวกลางวันในตัวเมืองย่างกุ้งค่ะ เป็นร้านอาหารไทยในย่างกุ้งค่ะ ชื่อว่าร้าน "Bangkok Kitchen" ร้านนี้บรรยากาศดีเชียวค่ะ อาหารก็สไตล์ไทยๆ รสชาติไทยๆ อาจจะไม่ได้จัดจ้านขนาดที่คนไทยชอบ เพราะมีลูกค้าต่างชาติทานพอควร แต่ถือว่าโอเคนะคะ อร่อยดีค่ะ





พอทานข้าวกันเสร็จ หนังท้องก็ตึง...แต่หนังตาเราไม่หย่อนตามนะคะ เพราะพี่ไกด์เล่นพาคณะทัวร์ไหว้พระต่อเลยค่ะ โดยวัดแรกที่พี่เขาพาไปชื่อว่า "วัดโกทัตจี" ค่ะ วัดนี้คนเยอะพอควรเลยนะคะ พระองค์ใหญ่มาก ก่อนถึงองค์พระมีกบกับงูด้วย เห็นพี่ไกด์บอกว่า ขอเรื่องโชคลาภนี่แหละ พอพี่ไกด์บอกแบบนั้น คนในคณะก็ปาดมาลูบกันใหญ่เลย เราก็เนียนไปลูบๆกับเขาเหมือนกัน 55555++






พอลูบกันจนพอใจก็พากันขึ้นรถเพื่อเดินทางไปวัดต่อไปค่ะ วัดต่อไปนี่ก็มีพระองค์ใหญ่เหมือนกันนะคะ ชื่อว่า "วัดหง่าทัตจี" ค่ะ แต่ว่า...พระองค์นี้จะมีลักษณะเด่นอยู่คือ...ด้านหลังองค์พระนี่จะมีไม้สักแกะสลักอยู่ค่ะ สวยมากเลยค่ะ แถมขนาดยังพอๆกันกับที่วัดโกทัตจีอีกต่างหาก (หรือใหญ่กว่า เล็กกว่า ไม่แน่ใจ) รู้แต่ว่าใหญ่มาก




และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาค่ะ เราไปต่อกันที่วัด "พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี" หรือพระนอนตาหวานที่เรารู้จักกันนั่นแหละค่ะ วัดนี้ลงรูปเยอะนิดนึงนะ เพราะว่าวัดเขาดัง คนเที่ยวเยอะ อีกอย่างคือพระพุทธรูปงามมากค่ะ สวยจนหยุดถ่ายไม่ได้เลย โดยรวมคือสวย จบข่าว!!!








วัดบารมี...หรือที่คนเขาลือกันว่า มีเส้นผม(พระเกศาธาตุ)ที่พอโดนน้ำจะขยับไปมาเหมือนมีชีวิต นึกภาพตามเอานะ เราไม่ได้ถ่ายรูปมา นั่งดูอยู่ แล้วคืออยู่ไกลไง ถ่ายไม่เห็น แต่ตอนสุดท้ายพระท่านแจกพระธาตุคนละห่อค่ะ(เรียกห่อถูกไหม) ไม่รู้อ่ะ 555+ แต่ท่านให้มาไว้บูชาค่ะ





พอเสร็จจากวัดนี้ เราก็ไปต่อกันที่ "เจดีย์ชเวดากอง"






อย่าตกใจว่าทำไมแดดจ้า ตอนที่เราไปมันเพิ่งสี่โมง แดดยังไม่ร่มเลย พอค่ำๆสักประมาณทุ่มนึงกรุ๊ปเราก็พากันออกมาค่ะ ไปทานข้าวกัน จำชื่อภัตราคารไม่ได้ แต่บอกได้คำเดียวว่าอร่อย ไม่มีรูปมาฝากนะคะ เพราะว่าเย็นวันนั้นเราไม่ค่อยสบายค่ะ แบบว่าท้องมันปั่นป่วน เลยรีบกิน แล้วก็พากันเข้าที่พัก อาบน้ำนอนเลยค่ะ แต่แอบบอกเลยว่า...ทีวีบ้านเค้าดูหนังช่องเจ็ดได้ ตอนนั้นฉายเรื่อง สุสานคนเป็น ค่ะ กำลังเข้มข้นเลย แต่อย่างที่บอกเราอาบน้ำแล้วนอนเลยค่ะ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่