TIA Column : แดเนียล แอกเกอร์ …เขาจะเป็น “ท่านรอง” ของเราตลอดไป...

ตั้งหลักอยู่นานกับการตัดสินใจว่าจะเขียนถึง อดีตปราการหลังรองกัปตันทีมชาวเดนมาร์ก แดเนียล แอกเกอร์ ดีหรือไม่ เพราะกับนักเตะลิเวอร์พูลคนนี้ อารมณ์ร่วมมันค่อนข้างเยอะ เขาเป็นนักเตะคนหนึ่งที่แฟนบอลรัก ทั้งๆที่ไม่ได้โชว์ฟอร์มโดดเด่นมากนัก ตลอดระยะเวลาที่ค้าแข้งกับลิเวอร์พูล แต่เขามีบางสิ่งที่นักฟุตบอลไม่กี่คนมีมัน

เราเรียกมันว่า “ความภักดี”



…ถ้าตอนนี้ คุณคิดถึง แดเนียล แอกเกอร์ มากยิ่งกว่าตอนที่เขาเคยอยู่กับเรา ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ เพราะมันแสดงให้รู้ว่า คุณกำลังได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่ว่า “คนเราจะระลึกถึงคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ ก็เมื่อเราได้สูญเสียมันไปแล้ว”

คุณค่าของแอกเกอร์ ไม่ได้อยู่ที่ฝีเท้าหรือผลงานที่เขาทำให้สโมสรลิเวอร์พูลแต่เพียงเท่านั้น แต่ที่มากกว่า คือ คุณค่าจากหัวใจของเขาที่มีให้ทีมต่างหาก

แน่นอนว่าในเบื้องต้น หลายต่อหลายคนอาจจะชื่นชอบแอกเกอร์จากบุคลิก หน้าตา รวมไปถึงรอยสัก แต่ด้วยสไตล์การเล่นที่ดูสวยงาม ความสามารถในการครองบอล สร้างสรรค์เกมได้จากแผงหลัง ทั้งยังเติมเกมรุกและยิงไกลได้ดี ก็ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูลรักเขาได้ไม่ยาก

แดเนียล แอกเกอร์ ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูลในเดือนมกราคม ปี 2006 โดยย้ายมาจากบรอนบี้ ทีมจากลีกในประเทศบ้านเกิดอย่างเดนมาร์กด้วยค่าตัวเกือบ 6 ล้านปอนด์

ราฟา เบนิเตซ กล่าวในวันที่เขาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะลิเวอร์พูลว่า

“เขาจะเป็นเซ็นเตอร์แบ็คของลิเวอร์พูลไปอีก 10 ปี”

…น่าเสียดายว่า เขาอยู่กับเราได้แค่ 8 ปีครึ่งเท่านั้น และในเวลา 8 ปีครึ่ง แอกเกอร์สงสนามให้กับลิเวอร์พูลเพียง 232 นัด และไม่มีฤดูกาลใดที่เขาสามารถลงสนามช่วยทีมได้เกินกว่า 40 นัดเลย โดยฤดูกาลที่ปราการหลังชาวเดนมาร์กสามารถลงสนามช่วยทีมได้มากที่สุดคือ ฤดูกาล 2012-13 จำนวน 39 นัด อย่างไรก็ตาม ใน 232 นัด แอกเกอร์ทำได้ถึง 14 ประตู ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่า หนึ่งในประตูที่ทุกคนไม่มีวันลืม คือ ประตูที่เขายิงใส่เชลซี ในรายการแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 กับเชลซี ช่วยให้ทีมขึ้นนำ 1-0 และประตูรวมสองนัดเป็น 1-1 พาทีมไปถึงช่วงดวลจุดโทษเพื่อตัดสินก่อนที่ลิเวอร์พูลจะสามารถเอาชนะเชลซีของโฆเซ่ มูรินโญ่ เขาชิงชนะเลิศรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในปี 2007 ได้อีกครั้ง รวมไปถึงลูกโหม่งให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 ในฤดูกาล 2011-12 ที่แอนฟิลด์ ช่วยให้ทีมเอาชนะไป 2-1 และเข้ารอบต่อไป

Daniel Agger goal vs chelsea 2007
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Daniel Agger goal vs Man Utd - facup 2-1
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


มันคืออาการบาดเจ็บ ที่พรากเอาเวลาของเขากับลิเวอร์พูล รวมถึงเวลาในอาชีพของเขาไป แอกเกอร์เวียนเข้าเวียนออกจากทีมด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่ทุกปี โดยอาการบาดเจ็บหนักของเขาครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ปี 2007 เป็นการบาดเจ็บบริเวณกระดูกฝ่าเท้า ทำให้เขาแทบไม่ได้ลงสนามในฤดูกาล 2007-08 เลย ราฟา เบนิเตซเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า แอกเกอร์มีปัญหากับรองเท้าสตั๊ด ซึ่งมันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาเกิดอาการบาดเจ็บ เขาต้องเขารับการผ่าตัดในที่สุด และกว่าที่เขาจะได้กลับมาลงสนามก็เมื่อ มาร์ติน สเคอเทล ได้รับบาดเจ็บในช่วงกลางฤดูกาล 2008-09 ช่วงปลายฤดูกาลที่เขากำลังจะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ ก็กลับต้องโชคร้ายพบกับอาการบาดเจ็บที่บริเวณหลังอีก



หลังการจากไปของ ราฟา เบนิเตซ แอกเกอร์ก็มีปัญหากับสไตล์การเล่นเกมรับของ รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมคนใหม่ จนดูเหมือนว่า เขาอาจจะต้องย้ายออกจากทีมไป แต่โชคดีที่ คิง เคนนี่ กลับเข้ามาคุมทีมในเดือนมกราคม ปี 2011 แอกเกอร์ถึงได้กลับมาเล่นในแบบที่ถนัดอีกครั้ง แต่แล้วเขาก็บาดเจ็บอีกครั้งในเกมกับเวสบรอมวิช อัลเบี้ยน ช่วงต้นเดือนมีนาคม ปี 2011 และในฤดูกาลถัดมากับเบรนแดน ร็อดเจอร์ แอกเกอร์ได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และมีข่าวมากมายในช่วงท้ายฤดูกาล 2011-12 ว่า เขาเป็นที่ต้องการของทีมอย่างบาร์เซโลน่า แต่แล้ว แอกเกอร์ก็จัดการไปสักรอยสักใหม่ที่ตอบทุกข้อสงสัยว่าเขาอยากจะย้ายออกจากทีมหรือไม่ ใช่แล้วค่ะ รอยสัก Y N W A ที่ข้อนิ้วทั้ง 4 ของมือขวา รวมถึงเซ็นสัญญาระยะยาวในเดือนตุลาคม ปี 2012 และเมื่อ เจมี คาร์ราเกอร์ แขวนสตั๊ดตอนสิ้นฤดูกาล 2012-13 แอกเกอร์ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองกัปตันทีม




…ซึ่งต่อไปนี้ เราจะขอแทนชื่อ แอกเกอร์ว่า “ท่านรอง” นะคะ เพราะเขาจะเป็น “ท่านรอง” ของเราตลอดไป

ตลอดระยะเวลา 8 ปีครึ่ง ท่านรองต้องพบกับอาการบาดเจ็บมากมาย ไม่เพียงแค่อาการบาดเจ็บที่เท้า ที่เข่า ที่หลัง ที่น่อง หรือกระทั่งเรื่องของระดับความฟิตเท่านั้น แต่ท่านรองยังเคยต้องสังเวยทั้งเลือดจากการหัวแตก และฟันหักคาสนามมาแล้ว เรียกได้ว่า เรื่องของความทุ่มเท ท่านรองไม่เคยเป็นสองรองใคร แม้จะรู้ตัวว่าร่างกายเปราะบาง ก็ไม่เคยเกรงกลัวที่จะเข้าเสียบสกัดบอล



ท่านรองไม่เคยพูดจาหวานหูว่ารักสโมสรลิเวอร์พูลมากเพียงใด หรือไม่เคยสัญญิง สัญญา ว่าจะอยู่ที่นี่ไปจนแขวนสตั๊ด แต่ท่านรองแสดงออกเป็นการกระทำให้บรรดาแฟนลิเวอร์พูลรับรู้ถึงหัวใจของเขาว่าเขารักลิเวอร์พูลมากเพียงใด

ยามใดที่เพื่อนร่วมทีมมีปัญหาในสนาม ท่านรองจะพุ่งเข้ามาช่วยทุกครั้ง จนกลายเป็นตัวเลือกของเปเป เรน่า เลยทีเดียว เมื่อถูกถามว่า ถ้าคุณมีเรื่องวิวาท คุณจะพาเพื่อนร่วมทีมคนใดไปด้วย เรน่าตอบทันทีว่า แอกเกอร์

เมื่อเฟร์นันโด ตอร์เรส ทิ้งทีมไปในเดือนมกราคม 2011 ท่านรองแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่เห็นชอบด้วยกับการย้ายไปอยู่ทีมคู่แข่งกับลิเวอร์พูลโดยตรงของตอร์เรส และในเกมแรกที่ตอร์เรสต้องสวมเสื้อสีน้ำเงินลงสนามต่อสู้กับลิเวอร์พูล ท่านรองก็จัดการเล่นนอกเกม ด้วยการศอกใส่อดีตเพื่อนร่วมทีมอย่างไม่ไว้หน้า …แน่นอนว่าสิ่งที่ท่านรองทำนั้นไม่ถูกต้อง แต่มันสะท้อนเข้าไปถึงขั้วหัวใจของแฟนลิเวอร์พูลทุกคนที่กำลังเสียใจกับการจากไปของตอร์เรสว่า ใครกันแน่ที่รักทีมอย่างแท้จริง

Daniel Agger punches Fernando Torres

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



“For a Dane, it’s about having respect for the club you play at. I am proud to be able to pull on my Liverpool jersey and will never go to another club in England…”

“สำหรับชาวเดนมาร์ก มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเคารพต่อสโมสรที่คุณลงเล่นให้ ผมภาคภูมิใจที่ได้สวมเสื้อลิเวอร์พูลของผมและจะไม่มีวันย้ายไปเล่นให้สโมสรอื่นในอังกฤษ…”


แม้เมื่อเขามีโอกาสที่จะย้ายไปอยู่กับบาร์เซโลน่า ทีมที่มีชื่อเสียง ได้โอกาสลงเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อันเป็นที่ปรารถนาของนักฟุตบอลทุกคน ในช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูลให้สิ่งนั้นแก่เขาไม่ได้…

ถ้าเขาเลือกเดินจากไป ลิเวอร์พูลจะได้ค่าตัวจากการขายไม่น้อย และท่านรองจะได้ไปอยู่กับทีมที่มีชื่อเสียงมากกว่า ที่สำคัญทีมนั้นก็ไม่ได้อยู่ในลีกเดียวกันกับลิเวอร์พูล แต่ท่านรองก็เลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอนั้น แล้วไปสักตัวอักษร Y N W A และเซ็นสัญญาอยู่กับทีมต่อไป

ท่านรองไม่ได้แค่สักตัวอักษร YNWA ที่มีความหมายลงบนผิวหนังเท่านั้น แต่ท่านรองได้สักความรักของเขาที่มีให้ลิเวอร์พูลลงไปบนเนื้อหัวใจด้วย


เขาไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดมากมายเพื่อบอกว่ารักลิเวอร์พูล แต่ทั้งหมดที่เขาทำให้ทีม ให้แฟนบอล มันบ่งบอกทุกความรู้สึกของเขาแล้ว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่