เวลา เกือบปี ผ่านไปไวจริง ๆ ระหว่างที่นั่งนึก ๆ ว่า ปลายปีนี้จะไปเที่ยวไหนดีน่ะ ก็นึกได้ว่าเมื่อ พฤศจิกายน 2556 ไปเที่ยวปางอุ๋งมา เลยนั่งตามล่าหาไฟล์ภาพ ที่ก็หายไปเกือบหมด พร้อม ๆ กับ SD card ที่หายไป ยังดีที่มีหลงเหลือ กระจายอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต ทั้ง Flickr drive facebook ฯลฯ ดู ๆ ไปแล้วก็คิดถึงวันวาน ที่ได้ไปที่นั่น แล้วก็นึกอยากเขียนบันทึกบอกเล่า แบ่งปันให้ได้อ่านกัน (แต่เนื่องจากอาจมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับร้านค้าต่าง ๆ จึงขอตั้งเป็น CR ล่ะกันเพื่อความสบายใจ)
ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปติดยอดดอย (เอ้ยไม่ใช่ล่ะ ) ไปเที่ยวดอยกันเลย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผม ทำงานอยู่ที่ กรุงเทพ ครับ หยุดได้แค่วันธรรมดา (เสาร์ อาทิตย์ นักขัตฤกษ์ ไม่ได้หยุด ) ซึ่งก็เป็นข้อดีครับ คือ สถานที่ท่องเที่ยวโล่งดี แต่ข้อเสียคือ หาคนไปด้วยยาก เหลือเกิน จึงตัดสินใจ ไปคนเดียว ละไปแบบ เห็น (ภาพในเฟสปุ๊บ อยากไปอ่ะ งั้น ไปเลย ไม่ต้องเตรียมตัวมาก เปิดกูเกิล เช็คโน่นนี่นั่น แล้วไปเลย
จากกรุงเทพ ผมเลือกเดินทางไป เชียงใหม่ ก่อนครับ มีเพื่อนอยู่ที่นั่น กะว่าจะชวนไปด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ ไม่ว่างไปคนเดียวก็ได้ฟร่ะ ...
โดย นครชัยแอร์ ครับ (เพราะไม่เคยนั่ง ปกติ นั่งแต่รถไฟฟรี 555 นึกอะไรไม่ออก นอกจาก บอก กูเกิล พี่แกก็เสนอ ที่นี่ มาอันดับ 1 เลย 555)
ออกจาก กทม. 3 ทุ่มกว่า ๆ ขึ้นรถ ที่ หมอชิตครับ ถึงเชียงใหม่ ตอนเช้า 6 โมง ครึ่ง ครับ ลงรถที่อาเขต (ศาล เด็กครับ)
http://www.nca.co.th/timetable-bkk-ch.html เผื่อใครสนใจเช็คเวลาและราคาครับ
http://www.nca.co.th/gold_class.html ส่วนอันนี้ เกี่ยวกับรถครับ สำหรับผมถือว่าโอเคครับ สะดวกสะบาย มาก ๆ เพราะผมเป็นคนตัวเล็กครับ
ลงรถมา ก็เดินตรงมาฝั่งตรงข้ามเลยครับ จะมี ห้องขายตั๋วไป แม่ฮ่องสอน ครับ แต่ด้วยความที่ ลืม เช็คเวลา และ ไม่ได้โทรหรือจองเอาไว้ครับ จึงทำให้เสียเวลา ในการรอครับ (ผมได้ตั๋วรถ เที่ยว 8โมงเช้าครับ ) จะไปถึงแม่ฮ่องสอนตอนบ่าย ๆ ครับ (ตอนซื้อตั๋วให้บอกว่าลงที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนครับ )
ซึ่งระหว่างรอ ก็นั่งเล่นเน็ตไปพลาง ๆ เจอเข้ากับ "โค้ง" เข้าไป นึกขึ้นได้ รีบหายาแก้เมารถ ด่วน ๆ ครับ (หาง่ายมาก มีขายเต็มท่ารถ เลยครับ
นั่งรถมาซักระยะ ก็มีจอดให้ลงไปพัก ยืดเส้นยืดสายด้วยครับ
(อันนี้รูป บนผนัง ร้าน ที่นั่นครับ หลายคนคงเคยเห็น ได้อารมณ์ ติสท์ มาก ๆ ครับ )
พอนั่งมาเรื่อย ๆ ครับ เริ่มไม่ไหว ขอหลับตานอนดีกว่า 555 มารู้สึกตัวอีกที ตอนใกล้ถึงแม่ฮ่องสอนแล้วครับ
พอคนขับถามว่าจะลงตรงไหน ผมตอบทันทีครับ ว่า "แม่ฮ่องสอน" พี่คนขับ ก็ถามว่า "แล้วจะลงตรงไหนของแม่ฮ่องสอน ??? "
เอาล่ะสิ ลงตรงไหนหว่า พอดีจำได้ว่ามีคนข้าง ๆ บอก จะลงตรงไปรษณีย์ เราก็เลย ลงตรงนั้นด้วยเลย ตาม ๆ เขาไป 5555
พอลงรถเสร็จ บอกเลยครับว่า """เคว้ง"""" "งงงงงงงงงง งง " มากครับ ไม่รู้จะไปไหนดี ไม่รู้จะทำอะไรดี หันไปเห้น 7-11 ครับ เท่านั้นล่ะ ...หิวขึ้นมาเลย555
แต่ก็ดีครับ ตอนคิดตังค์ พนักงานถามมาเที่ยวเหรอ ครับ เราเลยได้โอกาสเลย "ครับ มาเที่ยว"
แล้วได้โอกาสถามเลยครับ ว่ามีร้านเช่า มอไซต์ ตรงไหนบ้างครับ (เพราะตั้งใจไว้แต่แรก ว่า จะเช่า มอไซต์ ขี่ไปปางอุ๋ง แต่ทีแรก แอบ ๆ คิดจะเอาจักรยาน แต่พอนึกถึงตอนขึ้นดอยปุย ช่วงต้นปี 56 แล้ว ไม่เอาดีกว่า
(อันนี้ภาพ เก่าตอนลากจูง จักรยานขึ้นดอยปุยครับ แต่เช้ายันมืด กว่าจะถึงลานกางเต๊นท์ 5555)
แต่ผลที่ได้ก็เกินคาด ครับ ไม่มีใครตอบได้เลยว่ามีร้านเช่า มอไซต์ อยู่ที่ไหนบ้าง เลยเดินออกมาหาเองครับ
เดินวนไปวนมา เจอร้านเช่าจักรยานหลายร้านครับ แต่เช่ามอไซต์ ไม่มีเลย จนแล้วจนรอดครับ ไปเจอร้านขายขนมไทย ๆ อยู่ร้านนึง (หิวอีกล่ะ ก็เลยซื้อขนมกิน พร้อมกับถาม หาร้านมอไซต์เช่าครับ )รอบนี้โชคดี น้า ๆบอกว่ามี แถว หนองจองคำ บอกทางมาเสร็จสรรพ ครับ ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ
น้าคือ อัศวินขี่ม้าขาวของผมเลยครับ 555
อันนี่ เป็นแผนที่ไปร้านเช่า มอไซต์ครับ ชื่อร้าน PA motor ครับ ราคาขอบอกว่า กันเองสุด ๆ ไม่เกี่ยงลูกค้าด้วยครับ (เคยโดนที่เชียงใหม่ พอเห็นเราเป็นคนไทย ไม่ให้เช่าครับ หรือถ้าให้เช่า ก็มัดจำแพงมาก ๆ ครับ แต่ร้านดี ๆ ที่เชียงใหม่ก็มีน่ะครับ คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังขอติดไว้ก่อน)
อีกรูปครับ
พี่สาว ที่ร้านเช่าน่ารัก ครับ ใจดีมาก มีแนะนำเส้นทาง พร้อมให้แผนที่ด้วย (แต่แผนที่เป็นภาษาอังกฤษน่ะครับ) วันนั้นรถ เช่า แทบไม่มีเหลือเลย ครับ แต่ยังเหลืออยู่คันนึง ตอนแรกแอบหวั่น ๆ ใจ เพราะดูจากสภาพแล้วไม่น่ารอด (แต่ก็พาไปไหน ๆ จนจบทริปน่ะครับ แถมประหยัดน้ำมันด้วย) โดยที่เค้าขอแค่ สำเนาบัตรประชาชนครับ (เอหรือตัวจริงหว่า จำไม่ได้) แล้วก็มัดจำ 1000 บาท (ไม่ผิดครับ พันเดียวจริง ๆ ) พร้อมค่าเช่าครับ ราคาแล้วแต่รุ่นและสภาพรถ ครับ คันที่ผมเช่า ถ้าจำไม่ผิด ราคาน่าจะ 180 - 220 นี่ล่ะ (จำไม่ค่อยได้ล่ะ แฮะ ๆ ) ผมจ่ายไปก่อนวันเดียว เพราะ ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าจะเช่ากี่วัน พี่เค้าบอก ตอนกลับมาค่อยหักเอาจากที่จ่ายมัดจำไว้ก็ได้ แล้วก็ใส่น้ำมันในถังให้หน่อยนึง พอไปได้ถึงปั๊มน้ำมันครับ แล้วก็แนะนำทางให้อย่างดี (แต่คิดเหรอว่าผมจะจำได้ หุหุ) หลังจากได้รถ ได้หมวก กันน็อค ก็ไปเติมน้ำมัน ครับ
ถึงตรงนี้ อยากบอกว่าตอนเช่า ก็ ตรวจสภาพรถ พร้อม ๆ กับที่ร้านด้วยน่ะครับ ว่ามีอะไรตรงไหนยังไง ตอนส่งรถคืนจะได้ไม่มีปัญหา ครับ
และที่สำคัญอย่าลืม เช็ค เบรค ลมยาง และน้ำมันเครื่องด้วยน่ะครับ เพื่อความปลอดภัย และการขับขี่ที่ มั่นใจ
ร่ายมาซ่ะยาวยังไม่ได้ออกจากตัวเมืองเลยน่ะเนี่ย
ถ้างั้น เราลุยกันเลยดีกว่าครับ
ออก จาก ปั๊มน้ำมันมา เราก็มุ่งหน้าไปทางหมายเลข 1095 ครับ (ย้อนกลับไปทางที่เรามากับรถตู้นั่นล่ะครับ ทางเดียวกับทางย้อนไป ปายครับ ไปเรื่อย ๆ เลยครับ (มองซ้ายไว้น่ะครับเพราะเราต้องเลี้ยวซ้าย แยกที่มีป้ายบอกทางไป บ้านหมอกจำแป๋ ปางอุ๋งก็ไปทางนี้น่ะครับ)
(อันนี้รูปจาก กูเกิล สตรีทแมพ ครับ)
และทุกครั้งครับ ที่ผมขี่รถไปในทางที่ไม่คุณเคย และมันไม่ถึงซักที ก็เริ่มหวั่นๆ ว่าจะมาถูกทางมั้ยน่ะ (มีกูเกิล แมพ ครับ แต่ขี้เกียจใช้เพราะ อยากประหยัดแบต ไว้ใช้ยามฉุกเฉินครับ
แต่พอเจอป้ายบอกทาง ก็ใจชื่นขึ้นมาหน่อยนึงครับ
นี่มีแวะ พักข้างทางถ่ายรูปด้วยครับ กับ แวะกินอะไร ระหว่างทาง (โอยหิวบ่อยจริง ๆ 555 ) เพราะจริง ๆ ตอนนั้นก็เริ่มจะบ่ายแก่ ๆ แล้วน่ะครับ เกือบจะเย็นแล้ว ก็ยิ่ง ตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ครับ เพราะมาได้ แค่ครึ่งทางเอง ส่วนทางตอนแรก ๆ นี้ ชิลมาก แทบไม่มีอะไรเลย เนินก็ไม่ชัน แต่หลังจากนี้อ่ะสิครับ ขี่กันมันเลย และไม่น่าเชื่อครับ ผมเอา "Wave 100 เก่า ๆ " ขึ้นไปปางอุ๋ง 5555
แต่ตอนนี้ง่วงแล้ว เดี๋ยวค่อยมาต่อน่ะครับ แต่ก่อนไปเอามาเรียกน้ำย่อยกันก่อน 1 รูปครับ รูปไม่สวยมากครับ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ ใหม่ ๆ ที่ผมได้ไป พบเจอมา และเอามาเล่า หรือเอามาให้ได้ดูกันครับ
ถ่ายด้วย Fuji compact ราคา 2490 ตลอดงานครับ แล้วเอามาแต่ง ในคอมบ้าง ในมือถือ บ้าง ก็พอถูไถไปได้ครับ (ตอนนั้นยังไม่คิดจะซื้อกล้องแพง ๆ ใช้ครับ)
แล้วค่อยมาต่อน่ะครับ
(รูปภาพ ส่วนหนึ่งเป็นของผมเองครับ ส่วนที่เอามาจากที่อื่น จะอ้างอิงแหล่งที่มาให้น่ะครับ เพื่อความสมบูรณ์ของการนำเสนอครับ)
[CR] ลุยเดี่ยว หนีเที่ยว ปางอุ๋ง แบบก็มันอยากไปอ่ะ
ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปติดยอดดอย (เอ้ยไม่ใช่ล่ะ ) ไปเที่ยวดอยกันเลย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผม ทำงานอยู่ที่ กรุงเทพ ครับ หยุดได้แค่วันธรรมดา (เสาร์ อาทิตย์ นักขัตฤกษ์ ไม่ได้หยุด ) ซึ่งก็เป็นข้อดีครับ คือ สถานที่ท่องเที่ยวโล่งดี แต่ข้อเสียคือ หาคนไปด้วยยาก เหลือเกิน จึงตัดสินใจ ไปคนเดียว ละไปแบบ เห็น (ภาพในเฟสปุ๊บ อยากไปอ่ะ งั้น ไปเลย ไม่ต้องเตรียมตัวมาก เปิดกูเกิล เช็คโน่นนี่นั่น แล้วไปเลย
จากกรุงเทพ ผมเลือกเดินทางไป เชียงใหม่ ก่อนครับ มีเพื่อนอยู่ที่นั่น กะว่าจะชวนไปด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ ไม่ว่างไปคนเดียวก็ได้ฟร่ะ ...
โดย นครชัยแอร์ ครับ (เพราะไม่เคยนั่ง ปกติ นั่งแต่รถไฟฟรี 555 นึกอะไรไม่ออก นอกจาก บอก กูเกิล พี่แกก็เสนอ ที่นี่ มาอันดับ 1 เลย 555)
ออกจาก กทม. 3 ทุ่มกว่า ๆ ขึ้นรถ ที่ หมอชิตครับ ถึงเชียงใหม่ ตอนเช้า 6 โมง ครึ่ง ครับ ลงรถที่อาเขต (ศาล เด็กครับ)
http://www.nca.co.th/timetable-bkk-ch.html เผื่อใครสนใจเช็คเวลาและราคาครับ
http://www.nca.co.th/gold_class.html ส่วนอันนี้ เกี่ยวกับรถครับ สำหรับผมถือว่าโอเคครับ สะดวกสะบาย มาก ๆ เพราะผมเป็นคนตัวเล็กครับ
ลงรถมา ก็เดินตรงมาฝั่งตรงข้ามเลยครับ จะมี ห้องขายตั๋วไป แม่ฮ่องสอน ครับ แต่ด้วยความที่ ลืม เช็คเวลา และ ไม่ได้โทรหรือจองเอาไว้ครับ จึงทำให้เสียเวลา ในการรอครับ (ผมได้ตั๋วรถ เที่ยว 8โมงเช้าครับ ) จะไปถึงแม่ฮ่องสอนตอนบ่าย ๆ ครับ (ตอนซื้อตั๋วให้บอกว่าลงที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนครับ )
ซึ่งระหว่างรอ ก็นั่งเล่นเน็ตไปพลาง ๆ เจอเข้ากับ "โค้ง" เข้าไป นึกขึ้นได้ รีบหายาแก้เมารถ ด่วน ๆ ครับ (หาง่ายมาก มีขายเต็มท่ารถ เลยครับ
นั่งรถมาซักระยะ ก็มีจอดให้ลงไปพัก ยืดเส้นยืดสายด้วยครับ
(อันนี้รูป บนผนัง ร้าน ที่นั่นครับ หลายคนคงเคยเห็น ได้อารมณ์ ติสท์ มาก ๆ ครับ )
พอนั่งมาเรื่อย ๆ ครับ เริ่มไม่ไหว ขอหลับตานอนดีกว่า 555 มารู้สึกตัวอีกที ตอนใกล้ถึงแม่ฮ่องสอนแล้วครับ
พอคนขับถามว่าจะลงตรงไหน ผมตอบทันทีครับ ว่า "แม่ฮ่องสอน" พี่คนขับ ก็ถามว่า "แล้วจะลงตรงไหนของแม่ฮ่องสอน ??? "
เอาล่ะสิ ลงตรงไหนหว่า พอดีจำได้ว่ามีคนข้าง ๆ บอก จะลงตรงไปรษณีย์ เราก็เลย ลงตรงนั้นด้วยเลย ตาม ๆ เขาไป 5555
พอลงรถเสร็จ บอกเลยครับว่า """เคว้ง"""" "งงงงงงงงงง งง " มากครับ ไม่รู้จะไปไหนดี ไม่รู้จะทำอะไรดี หันไปเห้น 7-11 ครับ เท่านั้นล่ะ ...หิวขึ้นมาเลย555
แต่ก็ดีครับ ตอนคิดตังค์ พนักงานถามมาเที่ยวเหรอ ครับ เราเลยได้โอกาสเลย "ครับ มาเที่ยว"
แล้วได้โอกาสถามเลยครับ ว่ามีร้านเช่า มอไซต์ ตรงไหนบ้างครับ (เพราะตั้งใจไว้แต่แรก ว่า จะเช่า มอไซต์ ขี่ไปปางอุ๋ง แต่ทีแรก แอบ ๆ คิดจะเอาจักรยาน แต่พอนึกถึงตอนขึ้นดอยปุย ช่วงต้นปี 56 แล้ว ไม่เอาดีกว่า
(อันนี้ภาพ เก่าตอนลากจูง จักรยานขึ้นดอยปุยครับ แต่เช้ายันมืด กว่าจะถึงลานกางเต๊นท์ 5555)
แต่ผลที่ได้ก็เกินคาด ครับ ไม่มีใครตอบได้เลยว่ามีร้านเช่า มอไซต์ อยู่ที่ไหนบ้าง เลยเดินออกมาหาเองครับ
เดินวนไปวนมา เจอร้านเช่าจักรยานหลายร้านครับ แต่เช่ามอไซต์ ไม่มีเลย จนแล้วจนรอดครับ ไปเจอร้านขายขนมไทย ๆ อยู่ร้านนึง (หิวอีกล่ะ ก็เลยซื้อขนมกิน พร้อมกับถาม หาร้านมอไซต์เช่าครับ )รอบนี้โชคดี น้า ๆบอกว่ามี แถว หนองจองคำ บอกทางมาเสร็จสรรพ ครับ ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ
น้าคือ อัศวินขี่ม้าขาวของผมเลยครับ 555
อันนี่ เป็นแผนที่ไปร้านเช่า มอไซต์ครับ ชื่อร้าน PA motor ครับ ราคาขอบอกว่า กันเองสุด ๆ ไม่เกี่ยงลูกค้าด้วยครับ (เคยโดนที่เชียงใหม่ พอเห็นเราเป็นคนไทย ไม่ให้เช่าครับ หรือถ้าให้เช่า ก็มัดจำแพงมาก ๆ ครับ แต่ร้านดี ๆ ที่เชียงใหม่ก็มีน่ะครับ คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังขอติดไว้ก่อน)
อีกรูปครับ
พี่สาว ที่ร้านเช่าน่ารัก ครับ ใจดีมาก มีแนะนำเส้นทาง พร้อมให้แผนที่ด้วย (แต่แผนที่เป็นภาษาอังกฤษน่ะครับ) วันนั้นรถ เช่า แทบไม่มีเหลือเลย ครับ แต่ยังเหลืออยู่คันนึง ตอนแรกแอบหวั่น ๆ ใจ เพราะดูจากสภาพแล้วไม่น่ารอด (แต่ก็พาไปไหน ๆ จนจบทริปน่ะครับ แถมประหยัดน้ำมันด้วย) โดยที่เค้าขอแค่ สำเนาบัตรประชาชนครับ (เอหรือตัวจริงหว่า จำไม่ได้) แล้วก็มัดจำ 1000 บาท (ไม่ผิดครับ พันเดียวจริง ๆ ) พร้อมค่าเช่าครับ ราคาแล้วแต่รุ่นและสภาพรถ ครับ คันที่ผมเช่า ถ้าจำไม่ผิด ราคาน่าจะ 180 - 220 นี่ล่ะ (จำไม่ค่อยได้ล่ะ แฮะ ๆ ) ผมจ่ายไปก่อนวันเดียว เพราะ ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าจะเช่ากี่วัน พี่เค้าบอก ตอนกลับมาค่อยหักเอาจากที่จ่ายมัดจำไว้ก็ได้ แล้วก็ใส่น้ำมันในถังให้หน่อยนึง พอไปได้ถึงปั๊มน้ำมันครับ แล้วก็แนะนำทางให้อย่างดี (แต่คิดเหรอว่าผมจะจำได้ หุหุ) หลังจากได้รถ ได้หมวก กันน็อค ก็ไปเติมน้ำมัน ครับ
ถึงตรงนี้ อยากบอกว่าตอนเช่า ก็ ตรวจสภาพรถ พร้อม ๆ กับที่ร้านด้วยน่ะครับ ว่ามีอะไรตรงไหนยังไง ตอนส่งรถคืนจะได้ไม่มีปัญหา ครับ
และที่สำคัญอย่าลืม เช็ค เบรค ลมยาง และน้ำมันเครื่องด้วยน่ะครับ เพื่อความปลอดภัย และการขับขี่ที่ มั่นใจ
ร่ายมาซ่ะยาวยังไม่ได้ออกจากตัวเมืองเลยน่ะเนี่ย
ถ้างั้น เราลุยกันเลยดีกว่าครับ
ออก จาก ปั๊มน้ำมันมา เราก็มุ่งหน้าไปทางหมายเลข 1095 ครับ (ย้อนกลับไปทางที่เรามากับรถตู้นั่นล่ะครับ ทางเดียวกับทางย้อนไป ปายครับ ไปเรื่อย ๆ เลยครับ (มองซ้ายไว้น่ะครับเพราะเราต้องเลี้ยวซ้าย แยกที่มีป้ายบอกทางไป บ้านหมอกจำแป๋ ปางอุ๋งก็ไปทางนี้น่ะครับ)
(อันนี้รูปจาก กูเกิล สตรีทแมพ ครับ)
และทุกครั้งครับ ที่ผมขี่รถไปในทางที่ไม่คุณเคย และมันไม่ถึงซักที ก็เริ่มหวั่นๆ ว่าจะมาถูกทางมั้ยน่ะ (มีกูเกิล แมพ ครับ แต่ขี้เกียจใช้เพราะ อยากประหยัดแบต ไว้ใช้ยามฉุกเฉินครับ
แต่พอเจอป้ายบอกทาง ก็ใจชื่นขึ้นมาหน่อยนึงครับ
นี่มีแวะ พักข้างทางถ่ายรูปด้วยครับ กับ แวะกินอะไร ระหว่างทาง (โอยหิวบ่อยจริง ๆ 555 ) เพราะจริง ๆ ตอนนั้นก็เริ่มจะบ่ายแก่ ๆ แล้วน่ะครับ เกือบจะเย็นแล้ว ก็ยิ่ง ตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ครับ เพราะมาได้ แค่ครึ่งทางเอง ส่วนทางตอนแรก ๆ นี้ ชิลมาก แทบไม่มีอะไรเลย เนินก็ไม่ชัน แต่หลังจากนี้อ่ะสิครับ ขี่กันมันเลย และไม่น่าเชื่อครับ ผมเอา "Wave 100 เก่า ๆ " ขึ้นไปปางอุ๋ง 5555
แต่ตอนนี้ง่วงแล้ว เดี๋ยวค่อยมาต่อน่ะครับ แต่ก่อนไปเอามาเรียกน้ำย่อยกันก่อน 1 รูปครับ รูปไม่สวยมากครับ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ ใหม่ ๆ ที่ผมได้ไป พบเจอมา และเอามาเล่า หรือเอามาให้ได้ดูกันครับ
ถ่ายด้วย Fuji compact ราคา 2490 ตลอดงานครับ แล้วเอามาแต่ง ในคอมบ้าง ในมือถือ บ้าง ก็พอถูไถไปได้ครับ (ตอนนั้นยังไม่คิดจะซื้อกล้องแพง ๆ ใช้ครับ)
แล้วค่อยมาต่อน่ะครับ
(รูปภาพ ส่วนหนึ่งเป็นของผมเองครับ ส่วนที่เอามาจากที่อื่น จะอ้างอิงแหล่งที่มาให้น่ะครับ เพื่อความสมบูรณ์ของการนำเสนอครับ)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น