น้องๆนักศึกษาทำใจเถอะครับ ยังไงเกมส์นี้ คุณก็แพ้

กรณี เรื่องอาจารย์ธรรมศาสตร์ นักศึกษาเปิดเกมส์ แล้วทางฝังอาจารย์พลิกเกมส์กลับมาแล้วด้วกลยุทธ์เปลี่ยนการเหยียดเป็นข้อเท็จจริง และตามบัพด้วยความไร้มารยาทของนิสิต จบด้วยการประหารด้วยทีมสื่อที่พาดหัวข่าวแบบสรุปให้โดยไม่ต้องอ่านนั้น
ต่อด้วยอดีตนิสิต จุฬาโอปอลล์ออกมาทับอีก
ก็ถือเป็นอันว่า ฝั่งอาจารย์ชนะขาด

เรื่องอาจารย์เหยียดไหม แกเหยียดแน่นอน
ต้องใช้คำว่าเผลอเหยียดเสียมากกว่า เพราะพิจรณารุปประโยคแล้ว
ยังไงท่านก็หยิบความขาดแคลนของเด็กวัด
มาเสริม จุดมุ่งหมายในคำพูด  


ในกรณี ผมยืนข้างฝั่งนักศึกษา
เพราะผมให้ความสำคัญกับประเด็นเหยียดมากกว่า

แต่ไม่ว่ายังไงต่อสุ้ไปนิสิตก็แพ้
แพ้เพราะ สังคมไทย ถือจารีตเป็นใหญ่
จารีตในที่นี้ มีด้วยกันสองเรื่องคือ
จารีตเรื่องผู้หลักผู้ใหญ่
จารีตเรื่องมารยาทอันดี

ซึ่งสังคมไทยให้น้ำหนักกับสงสิ่งนี้มากกว่า ประเด็นการเหยียด
เนื่องด้วยตัวสังคมไทยเอง มีความแตกต่างทางชาติพันธ์น้อย
ไม่เคยได้รับแรงเสียดทานจากประเด็นความแตกต่างมากนัก
รวมทั้งยินดียอมรับ การเหยียดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมตั้งแต่แรก
ไม่ว่าจะเป็น คนอีสานกินข้าวเหนียวกับน้ำปลา มุสลิมใต้ไม่ใช่คนไทย การใช้ขื่อประเทศเพื่อนบ้านแทนคำด่าดูถูก และอื่นๆอีกมาก

พอพบประเด็นว่า เด็กขาดมารยาทอันดี ครูเลยสอนจริยธรรมโดยใช้วิธีการเปรียบเปรยเชิงเหยียด
คนก็มองว่าการเหยียดเป็นเรื่องเล็ก แต่เจตนาคือสอนจารีตนั้นสำคัญกว่า
จึงยึดจารีตเป็นสาระ แต่หลักการผิดวิธีที่ครูบาอาจารย์ใช้นั้น ถูกทิ้งสังคมขว้างไป

เพราะคิดว่าครุสอนจริยธรรม
แต่หลงลืมไปเสียว่า
เมื่อเริ่มด้วยการเหยียด จริยธรรมที่ตามมาก็ไม่ีความหมายใดๆแล้วทั้งสิ้น

ยังไงผมคิดว่า คงต้องทำใจในประเทศที่ถือจารีตเป็นใหญ่
จะเอาชนะคะคานกันไปก็เปล่าประโยชน์
ถ้าหลักการเหนือกว่าจารีตจริงๆ
เราคงไม่ต้องเปลี่ยนระบบการปกครอง
จากประชาธิปไตยเป็นเผด็จการทหาร เหมือนเช่นทุกวันนี้

ที่สำคัญเหนืออื่นใดสุดท้ายแล้วคนที่ผลักดันให้มันเกิดขึ้น ก็คือ คนไทยที่เหยียดคนไทยด้วยกัน
จนยอมละทิ้งกติกาประชาธิปไตยนั่นเอง ทำไมคุณไม่เอาเลือกตั้ง ?
คำตอบคือ เพราะคุณเหยียดคนที่จะมาใช้สิทธิใช้เสียงร่วมกับคุณ ยังไงละ
และนั้นเป็นเครื่องยืนยันวัฒนธรรมการเหยียดที่กลายเป็นเลือดเป็นเนื้อของเราทุกวันนี้นั่นเอง

ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงคุณต้อง ค่อยๆเปลี่ยอย่างละมุนละม่อม จะเหมาะสมกับสังคมไทยมากกว่า
เป็นกำลังใจให้ครับ

ส่วนคุณโอปอลล์กับท่าทีของ น้องเค้าผมไม่แปลกใจ
เพราะตัวหลักคิดของผู้ที่จบจากมหาลัยเดียวกันนี้ กับการ เหยียดจนเป็นนิสัยเป็นของคุ่กันมานานแล้ว
เนื่องด้วยอัตตาในการเป็นอันดับหนึ่งของประเทศที่แบกไว้
จะให้คนที่จบจากมหาลัยแห่งนี้เข้าใจ ว่าอันตรายของการเหยียดจนเป็นวัฒนธรรมคืออะไร มันแทบเป็นไปไม่ได้
บวกกับ ที่ผ่านมา มหาลัยแห่งนี้รับใช้ฝักฝ่ายการเมืองใด ก็สะท้อนตัวตนของมันตั้งแต่แรก

อย่าไปถือสาหาความ และ มองสังคม อย่างเข้าใจดีกว่านะครับ

ปล.อย่าคิดว่าผมเหยียด จุฬาละ ผมแค่ให้ข้อเท็จจริง
เหมือนที่อาจารย์ท่านให้ข้อเท็จจริงเรื่อง จำนวนเก้าอี้ของเด็กวัดเท่านั้นเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่