รู้จักทุเรียนไทยไปกับ " ชมรมคนรักทุเรียนแห่งประเทศไทยครับ "

ก่อนจะเริ่มทำความรู้จักโลกของทุเรียนเรามาทำความรู้จักกับ " ชมรมคนรักทุเรียนแห่งประเทศไทย " กันก่อนน่ะครับ

เพราะเรา " ย่อโลกแห่งทุเรียนที่มีความหลากหลาย มาไว้แค่เพียงปลายนิ้วมือ" ที่นี่คือสวรรค์น้อยๆของคนรักทุเรียน ไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหน
จะปลูกอยู่ที่ใด จะหายากแค่ไหน ท่านสามารถสัมผัสรสชาดที่นุ่มลมุนลิ้นละลายในปาก อบอวลด้วยกลิ่นไอธรรมชาติ ตามเอกลักษณ์สายพันธุ์
ของทุเรียนพันธุ์ดี เพียงแค่ปลายนิ้วแตะคีย์บอร์ดทักทายและหาข้อมูลได้มากมายใน " ชมรมคนรักทุเรียนแห่งประเทศไทย "
ลิ้งค์เพจชมรมฯ  https://www.facebook.com/TheBestThaiDurianLoverClub/info
ลิ้งค์กลุ่มสนทนาชมรมฯ https://www.facebook.com/groups/TheBest.ThaiDurian.Lover.Club/

ภารกิจหลักของชมรมฯ
1.แนะนำ คัดสรร แบ่งปัน ข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับผลผลิตทุเรียนพันธุ์ดี และสวนที่มีคุณภาพในเมืองไทย ซึ่งแต่ละสวนเป็นสมาชิกในชมรมคนรักทุเรียนแห่งประเทศไทย ผลิตทุเรียนที่ไร้สารเคมีไร้สารเร่งสุก ตัดแก่จากต้นส่งตรงจากสวน ด้วยเทคนิคการปลูกและบำรุงรักษาทุเรียนให้มีคุณภาพแบบออแกนิกและเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน

2.แลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลทางด้านวิชาการ เกี่ยวกับการพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียน การปลูก การดูแล บำรุงรักษาเพื่อให้ได้ทุเรียนที่มีคุณภาพเกรดดีที่สุด อร่อยที่สุด ในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความยั่งยืนของอนาคตทุเรียนไทย

3.เพื่อเป็นช่องทางเสมือนตลาดกลางในการแนะนำ และกระจายผลผลิตทุเรียนเกรด Premium  ของสวนทุเรียนที่มีมาตราฐานในการปลูกและผลิตผลทุเรียนชั้นดี ออกสู่ท้องตลาดเพื่อให้ถึงมือผู้นิยมบริโภคทุเรียนโดยผ่านทางหน้าเพจและจุดกระจายสินค้าของชมรม ซึ่งปกติจะหาซื้อผลผลิตเหล่านี้ไม่ได้ตามท้องตลาดทั่วไป

4.จัดกิจกรรมทางวิชาการร่วมกับภาครัฐเพื่อจัดอบรม ให้ความรู้ ตลอดจนแนวทางการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการทำสวนทุเรียนเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพแก่ชาวสวนและผู้ที่สนใจทั่วไป โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก " กรมวิชาการเกษตร " เป็นหน่วยงานหลักที่ให้ความรู้ในกิจกรรมต่างๆของชมรมฯ

5.จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตรและปฏิบัติการ เพื่อเป็นการส่งเสริมความเข้าใจและความสามารถให้แก่ เครือข่ายผู้นิยมบริโภคทุเรียน สมาชิกชมรมฯ
ผู้ค้ามือใหม่ และทุกๆท่านที่สนใจ โดยเน้นให้มีความรู้ความเข้าใจในการเลือกซื้อทุเรียนลักษณะดี รสชาดดี คุณภาพดี และสามารถตรวจสอบลักษณะภายนอกได้ว่าทุเรียนลูกนั้นๆ เป็นทุเรียนอ่อนหรือแก่ ห่ามหรือสุกกำลังกิน ตลอดจนให้ลงมือปฏิบัติการแกะทุเรียนด้วยตนเองจนสามารถปฏิบัติได้ดีในเบื้องต้น

ช่วงนี้ว่างจากการเดินสายเยี่ยมชมสวนทุเรียนคุณภาพของสมาชิกชมรมฯ ประกอบกับมีหลายๆท่านสอบถามมาว่าทำไมทุเรียนตัดส่งตรงจากสวนถึงแพงกว่าตลาดทั้งๆที่ตลาดต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง แล้วคุณภาพมันต่างกันกับทุเรียนทั่วๆไปยังไง วันนี้พอจะมีเวลาเลยขออธิบายเรื่องประเภทของทุเรียนในลักษณะที่ผม และสมาชิกชมรมฯ ตลอดจนคอทุเรียนชันเซียนชอบเรียกกันบ่อยๆ ว่า "ทุเรียนสวน" "ทุเรียนตลาด"และ "ทุเรียนส่งออก" เอาง่ายๆว่าเป็นการแบ่งเกรดคุณภาพเลยก็ว่าได้

อันที่จริงทุเรียนสวน ทุเรียนตลาด และทุเรียนส่งออก มีที่มาจากจุดเดียวกันนั่นคือ สวนทุเรียน นั่นเอง มิใช่ทุเรียนตลาดจะปลูกที่ตลาดน่ะครับ 555 ถึงแม้จะมาจากสวนทั้ง3 ประเภทแต่มีความแตกต่างกันมากทีเดียว เเตกต่างยังไงมาทำความเข้าใจด้วยกันครับ

ทุเรียนสวน คือ ทุเรียนที่ชาวสวนขายเองส่งตรงถึงมือผู้บริโภค คุณภาพสูงที่สุดในบรรดาทุเรียนที่มีในเมืองไทย เพราะ ทุเรียนประเภทนี้จะไม่มีวางขายตามตลาด ไม่มีการส่งออก ขายแค่ในประเทศคนที่ทานทุเรียนแบบนี้จะต้องเป็นคอทุเรียนจริงๆ เพราะมีราคาสูงกว่ามาก ขั้นต่ำ 150บาท/1kg. ตามแต่ละสายพันธุ์และตามคุณภาพเนื้อ พูดง่ายๆว่าเขาเฝ้าดูแลตั้งแต่ดอกบาน มีการทำเครื่องหมายรุ่นเช่น ทาสี แต้มสีผูกริบบิ้น เชือกสี เป็นต้น เพราะจะทำให้ตัดแต่ที่แก่จัดเรียงตามรุ่นตามดอกบานไปไม่ผิดพลาด การตัดทุเรียนแบบนี้ใช้เวลามากกว่าทุเรียนตลาดเพราะไม่ตัดทั้งหมดแต่จะเลือกตัดเป็นลูกๆ คัดแก่จริงๆ

ยกตัวอย่างทุเรียนก้านยาวชั้นดี เการตัดจะต้องตัดชิดกิ่ง ค่อยๆผูกเชือกหรือใส่ตะกร้าหย่อนลงมาให้คนที่อยู่ด้านล่างคอยรับวางบนรถ ห้ามวางลงบนพื้นดินเพราะเชื้อราบนดินอาจจะเกาะติดเเละเข้าไปทำลายลูกทุเรียนทางแผลที่ปลายหนามได้ ต้องพิถีพิถันกันสุดๆ ห้ามกระแทกเพราะจะช้ำ เพราะหลังตัดทุเรียนจะสุกโดยธรรมชาติใน 1-2 คืนและจะไม่มีการแต้มยาเร่งสุกใดๆทั้งสิ้น ต้นนึงปีนตัดกันหลายรอบ หลังจากตัดแล้วต้องนำมาคัดเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อคัดลักษณะผลเพื่อให้ได้คุณภาพเนื้อที่ดีที่สุด และกำหนดเวลาในการบริโภค เมื่อตรวจสอบกะเวลาสุกจะติดสติ๊ดเกอร์รับประกัน พอQCเรียบร้อยก็จัดการบรรจุลงกล่องเพื่อจัดส่งไปให้ผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ทุเรียนประเภทนี้มีจำหน่ายแต่ละมีจำนวนจำกัด ส่วนมากจะลงชื่อจองกันข้ามปี เช่นทุเรียนนนท์ ทุเรียนในชมรมคนรักทุเรียนแห่งประเทศไทย เพราะเราจะคัดเลือกทุเรียนจากสวนที่มีความรู้ความเข้าใจ เอาใจใส่คุณภาพและเอาใจใส่ผู้บริโภค ไม่เอาเปรียบ ทุกสวนจะตั้งใจดูแลผลผลิตมากๆ ไม่ขายให้พ่อค้าคนกลางทำให้ไม่ถูกกลไกราคาทุเรียนตลาดมาครอบงำ เช่นสวนคุณไพบูลย์ สวนบ้านเรา สวนลุงเสริม สวนละอองฟ้า และอีกหลายสวนที่ชมรมฯกำลังสำรวจ ตรวจสอบคุณภาพการผลิต

ทุเรียนสวนจะจองกับบนต้นเลยทีเดียวรอแก่จัดถึงตัดแล้วส่งให้เจ้าของที่จองไว้ แต่ถ้าไม่ได้จองก็สามารถสั่งจองได้ส่งตามที่อยู่ได้หลายช่องทางไปถึงมือท่าน วิธีการนี้ท่านจะได้ทานทุเรียนชั้นดีมีคุณภาพที่สุดและหาคุณภาพแบบนี้ตามท้องตลาดยากมากเพราะตั้งแต่เดินดูมายังไม่เจอเลยครับ



ทุเรียนตลาด

มีที่มาจากสวนเหมือนทุเรียนสวนการบำรุงดูแลอาจไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่ต่างคือ การตัด และการขายครับ ทุเรียนเหล่านี้พอถึงระยะเวลาหนึ่งความแก่ประมาณ 50-60% ก็จะมีพ่อค้าิ่งเข้ามาตีราคา นับต้นเหมาสวนกันไปเช่นให้โลละ 30-70 ราคาขึ้นลงแล้วแต่ปีนั้นๆ มีการเซ็นต์สัญญาวางมัดจำกันไป แล้วเขาก็มาตัดเหมาไปหมดเรียกเหมาทุกหนาม แก่อ่อนตัดเกลี้ยง ตัดเสร็จชั่งขึ้นรถจ่ายเงินเป็นก้อนให้ชาวสวน ปีนั้นชาวสวนก็นอนตีพุงได้เลย อาจดูมีความสุขแต่มันไม่ยั่งยืนเดี๋ยวมาว่ากันในลำดับต่อไป หลังจากทุเรียนขึ้นรถก็พ้นภาระเจ้าของสวน ทีนี้พ่อค้าก็จะตัดขั้วให้สั้นเพราะทุเรียนยังไม่แก่ ถึงแก่ก็ไม่ถึง 70 ด้วยซ้ำ เขาก็จะใช้วิธีการแต้มน้ำยาเร่งสุกเพื่อให้มันสุกเร็วๆ(ทุเรียนไม่แก่จะไม่ยอมสุดต้องมีสารเคมีมาเร่งมัน) และผลของน้ำยาเร่งสุกจะทำให้ไส้ทุเรียนร้อน เนื้อนิ่มแต่เปอร์เซ็นต์แป้งในเนื้อมีไม่พอทำให้รสชาดไม่หวานมันแถมเหม็นฉุน หาทุเรียนไม่แต้มยาขั้วยาวๆแบบทุเรียนสวนยากครับ ตั้งแต่เดินสำรวจมาทุเรียนตลาดไม่ได้คุณภาพเลย แต่กินแก้ขัดได้และดูว่าคนไทยจะกินมันจนคุ้นลิ้นกันไปแล้ว แถมราคาไม่แพง ทุเรียนที่ตัดก็จะถูกส่งไปยังตลาดขายส่งมีชื่อที่ทุกท่านรู้ๆกัน หลังจากนั้นเมื่อแม่ค้าแกะทุเรียนมาซื้อไปขาย ไปถึงร้านขายทุเรียนแกะก็ตกโลละ 80-90 บาท ราคาเบาหาซื้อง่ายเลยขายกินถล่ม อ่อลืมไปการแต้มน้ำยาทำให้ทุเรียนนิ่มเร็วโดยที่น้ำหนักไม่ลด ผมไม่ใช้คำว่าสุกน่ะ น้ำยาทำให้นิ่มและน้ำหนักไม่ลดลงมากทำให้ขายได้น้ำหนัก เมื่อน้ำหนักไม่หายมากซื้อ1 ตันอาจั่งขายได้ 900 โลเป็นอย่างต่ำ ทุเรียนปกติทั่วไปเมื่อตัดหนัก 1 กก พอสุกจะคายน้ำจนเนื้อเเห้งเหลือน้ำหนักประมาณ 6-7ขีดน้ำหนักจะหายไปครึ่งๆเลย แต่เพราะการคายน้ำออกทำให้ทุเรียนเนื้อแห้งหวานมันมีคุณภาพรสชาดดีที่สุด แต่ทุเรียนแต้มยาเนื้อจะแฉะเละเมื่อความสุกอยู่ในระดับเดียวกันกับทุเรียนธรรมชาติ นั่นเป็นสาเหตุที่ ค่านิยมกรอบนอกนุ่มในกำลังระบาดในไทยเพราะทุเรียนตามตลาดกินสุกมักไม่อร่อยจะอร่อยได้ไงก็มันเละเหม็นขม ขั้วเหี่ยวแห้งเลย ผลสรุปว่าทุเรียนตลาดราคาถูก คุณภาพด้อย แต่หาซื้อง่ายเข้าถึงผู้บริโภคเพราะยังขาดความรู้ความเข้าใจ ปัจจุบันกระแสสุขภาพกำลังมาแรง หลายคนที่สนใจดูแลสุขภาพหันมาสั่งทุเรียนในชมรม และสั่งจองจากสวนโดยตรงทำให้ทุเรียนสวนคุณภาพได้มีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง จนเกิดเครือข่ายผู้บริโภค ใครได้ชิมทุเรียนสวนแก่จัดสุกแบบธรรมชาติรับรอง ไม่กินทุเรียนตลาดอีกเลย

ทุเรียนส่งออก

มีที่มาจากสวนทุเรียนปกติแบบทุเรียนดังที่กล่าวมาแล้วทั้ง 2 ประเภทน่ะแหละมีการดูแล อัดปุ๋ยอย่างดีเน้นรูปทรงผลใหญ่พูเต็มน้ำหนักเยอะๆ โดยมากจะตัดที่ความแก่ 60 ราคาก็ว่ากันไปปีนี้เห็นราคาหน้าสวน 90 บาทขึ้นไปสำหรับส่งออกน่ะครับ มีการเหมาตัดเหมือนทุเรียนตลาด ตัดเสร็จชุบน้ำยาสารพัดบรรจุตู้ส่งออกคนไทยไม่ได้เห็นแน่นอนทุเรียนพวกนี้ ถึงเห็นผมคนนึงหล่ะครับไม่ทานแน่นอน

สมาชิกในชมรมหลายๆสวนหันมาใส่ใจผู้บริโภค หันมาจำหน่ายทุเรียนที่เขาดูแลเท่าชีวิตเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด เขาไม่ยอมให้ความสะดวกสบายในเรื่องการเหมาตัดรับเงินก้อนนอนตีพุงมาครอบงำ เพราะวงจรนี้ทำให้ทุเรียนคุณภาพของเขาหมดโอกาสเดินทางไปถึงฝันถูกตัดตั้งแต่ยังอ่อนๆ ไร้ค่าไร้ราคา สู้เขายอมเหนื่อยดูแลผลผลิตจนแก่เต็มที่ขายตรงให้ผู้บริโภค ได้รับคำชมได้รับคำขอบคุณจากปากผู้บริโภคมีความสุขกว่า ผู้บริโภคเองก็ได้ทานทุเรียนชั้นดี ปลอดภัยต่อสุขภาพ เมื่ออ่านบทความนี้แล้วท่านลองสำรวจตัวเองว่าเราอยู่ในกลุ่นไหน ชอบบริโภคทุเรียนแบบไหนปรับพฤติกรรมการบริโภคเพื่อสุขภาพวันนี้ไม่มีคำว่าสายครับ

ขอจบบทความเรื่องประเภททุเรียนใน
เมืองไทยไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนครับ หวังว่าบทความสั้นๆนี้จะมีประโยชน์กับท่านผู้นิยมบริโภคทุเรียนกันไม่มากก็น้อย

ด้วยรักและปราถนาดีจาก ชมรมคนรักทุเรียนแห่งประเทศไทยครับ