http://shows.voicetv.co.th/voice-news/116754.html
ป.ป.ช.โต้ถูกจัดอันดับรั้งท้ายในเอเซีย
ป.ป.ช. ตอบโต้รายงานการจัดอันดับองค์การต่อต้านคอรัปชั่นในเอเซียที่ระบุว่า ป.ป.ช. เลือกปฎิบัติในคดีของนักการเมือง
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกป.ป.ช. แถลงตอบโต้ กรณีบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ ได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นในเอเชีย โดยให้คะแนนและจัดอันดับป.ป.ช.ของไทยต่ำที่สุดในเอเซีย โดยระบุว่า บริษัทนี้ เป็นเพียงแห่งเดียวที่ออกมาโจมตีในขณะนี้ และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. รวมทั้งการกล่าวหาป.ป.ช.ว่า เป็นผู้ที่ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง
ส่วนเนื้อหาในรายงาน ฉบับนี้ มีการตีพิมพ์ลงในจดหมายข่าว อาเซียน อินเทอลิเจนท์ ฉบับล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2557 มีการจัดอันดับให้ป.ป.ช.ของไทย อยู่อันดับสุดท้ายใน 12 องค์กรหลักที่เกี่ยวกับต่อต้านคอรัปชั่นในเอเชีย โดยระบุว่า แม้ประเทศไทย จะไม่ใช่ประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นมากที่สุด แต่องค์กรต่อต้านคอรัปชั่น ถูกใช้ทางการเมืองมากที่สุด
รายงานฉบับนี้ มีความเห็นว่า การที่ ป.ป.ช. เสนอแนะมาตรการอนุญาตให้ทางการไทย สามารถประสานงานกับรัฐบาลต่างชาติ นำทรัพย์สินของคนไทยที่ต้องคดีทุจริตกลับเข้าประเทศได้ และต้องการให้ขยายอายุความคดีทุจริตคอรัปชั่นออกไปเป็น 30 ปี เห็นได้ว่า เป็นมาตรการที่พุ่งเป้าหมายไปที่ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งร่ำรวยจากการทำธุรกิจกับนิติบุคคลต่างชาติ มีการฝากสินทรัพย์จำนวนมากไว้กับธนาคารและสถาบันการเงินในต่างประเทศ และเมื่อเปรียบเทียบกับการทำคดีอื่น ๆ ของป.ป.ช. จะเห็นได้ว่ามีการละเลยคดีคอรัปชั่นร้ายแรงอื่น ๆ ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นจำเลย เรื่องราวเหล่านี้ จึงลดทอนความน่าเชื่อถือของ ป.ป.ช.
ขณะที่ คณะกรรมการกวาดล้างคอรัปชั่นของอินโดนีเซีย ได้รับคะแนนสูงสุดในกลุ่มประเมิน ส่วนประเทศที่ได้คะแนนเป็นอันดับที่สองคือ ฮ่องกง ตามมาด้วยสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ส่วนเวียดนาม เป็นประเทศที่ได้รับคะแนนประเมินสูงกว่าป.ป.ช.ไทย 1 อันดับ
ปปช. โต้ถูกจัดอันดับ "โหล่" ในเอเซีย
ป.ป.ช.โต้ถูกจัดอันดับรั้งท้ายในเอเซีย
ป.ป.ช. ตอบโต้รายงานการจัดอันดับองค์การต่อต้านคอรัปชั่นในเอเซียที่ระบุว่า ป.ป.ช. เลือกปฎิบัติในคดีของนักการเมือง
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกป.ป.ช. แถลงตอบโต้ กรณีบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ ได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นในเอเชีย โดยให้คะแนนและจัดอันดับป.ป.ช.ของไทยต่ำที่สุดในเอเซีย โดยระบุว่า บริษัทนี้ เป็นเพียงแห่งเดียวที่ออกมาโจมตีในขณะนี้ และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. รวมทั้งการกล่าวหาป.ป.ช.ว่า เป็นผู้ที่ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง
ส่วนเนื้อหาในรายงาน ฉบับนี้ มีการตีพิมพ์ลงในจดหมายข่าว อาเซียน อินเทอลิเจนท์ ฉบับล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2557 มีการจัดอันดับให้ป.ป.ช.ของไทย อยู่อันดับสุดท้ายใน 12 องค์กรหลักที่เกี่ยวกับต่อต้านคอรัปชั่นในเอเชีย โดยระบุว่า แม้ประเทศไทย จะไม่ใช่ประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชั่นมากที่สุด แต่องค์กรต่อต้านคอรัปชั่น ถูกใช้ทางการเมืองมากที่สุด
รายงานฉบับนี้ มีความเห็นว่า การที่ ป.ป.ช. เสนอแนะมาตรการอนุญาตให้ทางการไทย สามารถประสานงานกับรัฐบาลต่างชาติ นำทรัพย์สินของคนไทยที่ต้องคดีทุจริตกลับเข้าประเทศได้ และต้องการให้ขยายอายุความคดีทุจริตคอรัปชั่นออกไปเป็น 30 ปี เห็นได้ว่า เป็นมาตรการที่พุ่งเป้าหมายไปที่ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งร่ำรวยจากการทำธุรกิจกับนิติบุคคลต่างชาติ มีการฝากสินทรัพย์จำนวนมากไว้กับธนาคารและสถาบันการเงินในต่างประเทศ และเมื่อเปรียบเทียบกับการทำคดีอื่น ๆ ของป.ป.ช. จะเห็นได้ว่ามีการละเลยคดีคอรัปชั่นร้ายแรงอื่น ๆ ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นจำเลย เรื่องราวเหล่านี้ จึงลดทอนความน่าเชื่อถือของ ป.ป.ช.
ขณะที่ คณะกรรมการกวาดล้างคอรัปชั่นของอินโดนีเซีย ได้รับคะแนนสูงสุดในกลุ่มประเมิน ส่วนประเทศที่ได้คะแนนเป็นอันดับที่สองคือ ฮ่องกง ตามมาด้วยสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ส่วนเวียดนาม เป็นประเทศที่ได้รับคะแนนประเมินสูงกว่าป.ป.ช.ไทย 1 อันดับ