
เสือน้อยเริ่มป่วยหลังจากทำหมันได้ 7วัน
ตอนนี้เปลี่ยน โรงพยาบาลใหม่ เน้นย้ำว่าโรงพยาบาลไม่ใช่คลีนิค
แรกเริ่มเดิมที รับเสือน้อย กับ โกโก้ เข้าบ้านมาในเวลาไล่เลี่ยกันไม่กี่วัน เดือนธันวาคม ปี 56
โกโก้มาก่อน สัก 4-5 วัน (ตัวผู้ อายุประมาณ5-6เดือน) และรับเสือน้อยเข้ามาอีกตัว เพื่อให้เป็นเพื่อนกัน (ตัวผู้ อายุประมาณ 1ปีกว่าๆ)
ทั้งคู่เป็นแมวจร ที่ต้องเก็บมาเลี้ยงเพราะมีเหตุจำเป็นหลายอย่าง ทิ้งไว้โอกาสจะตายมีสูง บวกกับความน่ารักและแสนรู้ของเค้า
ไม่เคยเลี้ยงแมวเลยในชีวิต เลยต้องหาความรู้ในอินเตอร์เน็ต
ตั้งใจจะเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด เพราะตอนนี้เขาเป็นสมาชิกในครอบครัวเราแล้ว ทั้งเรื่องการเลี้ยงดูทั่วไป อาหาร ที่อยู่ที่ดีสำหรับแมว การฉีดวัคซีน การทำหมัน โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
1อาทิตย์ ให้แมวอยู่และปรับตัวกับบ้านใหม่ให้ได้ก่อน แล้วจึงพาเขาไปฉีดวัคซีนที่จำเป็นที่คลีนิคในเมือง เน้นย้ำคลีนิค หมอฉีดวัคซีนบางตัวพร้อมกัน ซึ่งเราเองก็ท้วงกับหมอแล้วว่าได้หรอ หมอก็ยืนยันว่าได้ เราก็โอเคให้ฉีดไป เข้าใจว่าเขาเป็นหมอเราแค่เจ้าของแมว หมอย่อมมีความรู้ที่ดีกว่า และนัดฉีดครั้งต่อไปจนครบโดรส
วันเวลาผ่านไป 9เดือน แมวทั้งสอง2ตัวก็ร่าเริงแจ่มใสสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี เมื่อถึงเวลาต้องทำหมัน คิดจะเปลี่ยนคลีนิคใหม่ เพราะเริ่มมีความไม่มั่นใจในคลีนิคแรก ครั้งนี้เลือกโรงพยาบาลเพราะคิดว่าโรงพยาบาลมีหมอเยอะหลายคนช่วยกัน มีเครื่องไม้เครื่องมือและมาตรฐานที่ดีกว่า ก่อนทำหมัน ก็ไปปรึกษาหมอก่อนล่วงหน้า1วัน ว่าจะพาแมวมาทำหมัน ถามเรื่องการเตรียมตัวซึ่งเราเองก็พอรู้อยู่บ้าง แต่ต้องถามหมออีกครั้งเพื่อความแน่ใจอีกที
อีกอย่าง คิดว่าอาจจะต้องนัดหมอก่อนหรือเปล่า กลัวคิวยาว ลูกเราอดน้ำอดอาหารหลายชั่วโมง รอนานก็กลัวหิว กลัวแมวเครียด ต้องวางแผนให้ดี
และถามหมอว่าต้องเจาะเลือดตรวจก่อนหรือเปล่า และอีกครั้งที่หมอ ตอบว่า หากแมวเลี้ยงระบบปิด และทำวัคซีนแล้ว สุขภาพทั่วไปสมบูรณ์แข็งแรงดีก็ไม่ต้องเจาะเลือดตรวจก็ได้ค่ะ งดน้ำงดอาหาร 8ชั่วโมง และพามาทำได้เลยไม่ต้องนัด และเราก็เชื่ออีก เขาเป็นหมอย่อมมีความรู้ที่ดีกว่าเรา ไม่กล้าเถียงหรือท้วง เดี๋ยวจะหาว่าเราอวดฉลาดอีก และก็พามาทำหมันในวันรุ่งขึ้น งดน้ำงดอาหารเรียบร้อย การผ่าตัดและพักฟื้นก็เรียบร้อยดี หยุดงาน 3 วันเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด ป้อนยาแก้ปวดและแก้อักเสบติดเชื้อ เช้า-เย็น หนึ่งอาทิตย์ ดูแลความสะอาดแผลผ่าตัด แผลก็แห้งดีไม่มีปัญหาอะไร หมอใช้ไหมละลายเย็บ แต่เค้าก็เลียจนไหมหลุดไปเอง หลังจากถอดหัวลำโพงกันเลียออก ซึ่งหัวลำโพงก็ใส่ไว้1อาทิตย์ตามที่หมอบอก
ทำหมันวันที่ 30ส.ค 57 วันที่ 5 ก.ย เสือน้อยเริ่มมีอาการป่วย (ทำหมันได้ 7วัน) ซึม แยกตัวอยู่ตัวเดียวในที่เงียบๆแคบๆ ไม่กินข้าว อึเหลวๆแต่ไม่ถึงขั้นท้องเสีย ตัวอุ่นๆร้อนๆจากปกติ จากปกติจมูกและอุ้งมืออุ้งเท้าสีชมพูๆ ทุกอย่างก็ซีดลง ไม่เล่นไม่มาอ้อน วันนี้เป็นวันหยุดก็เลยพาไปหาหมอ 7ก.ย
และเปลี่ยนโรงพยาบาลใหม่ ไม่มั่นใจในโรงพยาบาลเดิมอีกแล้ว วันนี้ไปหาหมอใหม่ โรงพยาบาลใหม่ ในเมือง คุณหมอถามอาการเสือน้อย เราก็รายงานอาการละเอียดยิบ เตรียมสมุดวัคซีนประจำตัวแมว ไปให้หมอดูด้วย
คุณหมอเห็นสมุดและการฉีดวัคซีน แล้วส่ายหน้า กึ่งวางกึ่งโยนสมุดลงบนเตียงตรวจเสือน้อย แล้วบอกว่า ผมไม่มั่นในการฉีดวัคซีนเลย คลีนิคฉีดอย่างนี้ได้ยังไง วัคซีน2ตัวนี้มันฉีดพร้อมกันไม่ได้ ต้องแยกฉีด และวัคซีนก็อยู่ในยี่ห้อและเกรดที่ฉีดพร้อมกันไม่ได้ เรื่องทำหมันก็เหมือนกัน ผมว่าทำไม ร.พ เขาไม่ตรวจเลือดแมวก่อนทำหมัน ต้องตรวจสิ ไม่ใช่ดูแค่ภายนอกว่าแมวแข็งแรงดีแล้วทำเลย คุณแม่จะให้น้องแมวกลับไปตรวจกับหมอเดิมที่ทำหมันดีกว่ามั๊ย ผมคิดว่าอาจจะมีผลเกี่ยวเนื่องกันได้
เราก็บอกว่า ไม่อยากกลับไปโรงพยาบาลเดิมแล้ว ไม่มั่นใจในแนวทางการรักษา อยากเปลี่ยนหมอเปลี่ยนโรงพยาบาล
คุณหมอก็จัดการ วัดไข้ เจาะเลือด ตรวจคลำช่องท้อง ซักประวัติแบบละเอียด เลี้ยงแบบใหน? เลี้ยงระบบปิด ระบบเปิด? เคยหนีออกไปนอกบ้านมั๊ย? เคยโดนกัดหรือเปล่า ดูแผลที่ทำหมัน และล้วงก้นเสือน้อยเพื่อดูลักษณะของอุจาระ
คุณหมอบอกว่า เสือน้อยไม่มีไข้ แผลที่ทำหมันก็แห้งดี อึอยู่ในเกณฑ์ที่เหลวพอรับได้ยังปกติอยู่ อาจเป็นเพราะยาที่ป้อนระหว่างที่พักฟื้นทำหมันด้วย ตรวจเลือด ค่าไตปกติ แต่ค่าเลือดอื่นๆต้องรอผลเลือดวันอังคารอีก2วัน ตรวจคลำช่องท้องจากภายนอกไม่พบก้อนผิดปกติ ตอนนี้หมอจะให้ยาแก้อักเสบแบบทานไปก่อน1เม็ด เดี๋ยวจะให้ผู้ช่วยป้อนให้เลย แล้วพรุ่งนี้หมอนัดมาดูอาการทั่วไปอีกที วันมะรืนผลเลือดถึงจะได้ ตอนนี้รักษาตามอาการไปก่อน และรอผลเลือดอีกที ตรวจเสร็จ เสือน้อยฉี่ราด ฉี่เยอะเลย ปกติเค้าไม่เป็นแบบนี้ เค้าจะนิสัยเจ้าชายมาก อาจจะเพราะกลัวและไม่สบาย ขอให้อย่าเป็นอะไรมากเลยนะเจ้าชายของแม่ อดทนมาหาหมอบ่อยหน่อยนะลูก จะได้หายป่วย
การเลือกหมอและโรงพยาลเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ใช่ว่า โรงพยาบาลใหน คลีนิคอะไรก็เหมือนๆกัน รู้สึกเสียใจและโทษตัวเองอย่างที่สุด
การเลือกโรงพยาบาลและหมอให้สัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องสำคัญมาก
เสือน้อยเริ่มป่วยหลังจากทำหมันได้ 7วัน
ตอนนี้เปลี่ยน โรงพยาบาลใหม่ เน้นย้ำว่าโรงพยาบาลไม่ใช่คลีนิค
แรกเริ่มเดิมที รับเสือน้อย กับ โกโก้ เข้าบ้านมาในเวลาไล่เลี่ยกันไม่กี่วัน เดือนธันวาคม ปี 56
โกโก้มาก่อน สัก 4-5 วัน (ตัวผู้ อายุประมาณ5-6เดือน) และรับเสือน้อยเข้ามาอีกตัว เพื่อให้เป็นเพื่อนกัน (ตัวผู้ อายุประมาณ 1ปีกว่าๆ)
ทั้งคู่เป็นแมวจร ที่ต้องเก็บมาเลี้ยงเพราะมีเหตุจำเป็นหลายอย่าง ทิ้งไว้โอกาสจะตายมีสูง บวกกับความน่ารักและแสนรู้ของเค้า
ไม่เคยเลี้ยงแมวเลยในชีวิต เลยต้องหาความรู้ในอินเตอร์เน็ต
ตั้งใจจะเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด เพราะตอนนี้เขาเป็นสมาชิกในครอบครัวเราแล้ว ทั้งเรื่องการเลี้ยงดูทั่วไป อาหาร ที่อยู่ที่ดีสำหรับแมว การฉีดวัคซีน การทำหมัน โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
1อาทิตย์ ให้แมวอยู่และปรับตัวกับบ้านใหม่ให้ได้ก่อน แล้วจึงพาเขาไปฉีดวัคซีนที่จำเป็นที่คลีนิคในเมือง เน้นย้ำคลีนิค หมอฉีดวัคซีนบางตัวพร้อมกัน ซึ่งเราเองก็ท้วงกับหมอแล้วว่าได้หรอ หมอก็ยืนยันว่าได้ เราก็โอเคให้ฉีดไป เข้าใจว่าเขาเป็นหมอเราแค่เจ้าของแมว หมอย่อมมีความรู้ที่ดีกว่า และนัดฉีดครั้งต่อไปจนครบโดรส
วันเวลาผ่านไป 9เดือน แมวทั้งสอง2ตัวก็ร่าเริงแจ่มใสสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี เมื่อถึงเวลาต้องทำหมัน คิดจะเปลี่ยนคลีนิคใหม่ เพราะเริ่มมีความไม่มั่นใจในคลีนิคแรก ครั้งนี้เลือกโรงพยาบาลเพราะคิดว่าโรงพยาบาลมีหมอเยอะหลายคนช่วยกัน มีเครื่องไม้เครื่องมือและมาตรฐานที่ดีกว่า ก่อนทำหมัน ก็ไปปรึกษาหมอก่อนล่วงหน้า1วัน ว่าจะพาแมวมาทำหมัน ถามเรื่องการเตรียมตัวซึ่งเราเองก็พอรู้อยู่บ้าง แต่ต้องถามหมออีกครั้งเพื่อความแน่ใจอีกที
อีกอย่าง คิดว่าอาจจะต้องนัดหมอก่อนหรือเปล่า กลัวคิวยาว ลูกเราอดน้ำอดอาหารหลายชั่วโมง รอนานก็กลัวหิว กลัวแมวเครียด ต้องวางแผนให้ดี
และถามหมอว่าต้องเจาะเลือดตรวจก่อนหรือเปล่า และอีกครั้งที่หมอ ตอบว่า หากแมวเลี้ยงระบบปิด และทำวัคซีนแล้ว สุขภาพทั่วไปสมบูรณ์แข็งแรงดีก็ไม่ต้องเจาะเลือดตรวจก็ได้ค่ะ งดน้ำงดอาหาร 8ชั่วโมง และพามาทำได้เลยไม่ต้องนัด และเราก็เชื่ออีก เขาเป็นหมอย่อมมีความรู้ที่ดีกว่าเรา ไม่กล้าเถียงหรือท้วง เดี๋ยวจะหาว่าเราอวดฉลาดอีก และก็พามาทำหมันในวันรุ่งขึ้น งดน้ำงดอาหารเรียบร้อย การผ่าตัดและพักฟื้นก็เรียบร้อยดี หยุดงาน 3 วันเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด ป้อนยาแก้ปวดและแก้อักเสบติดเชื้อ เช้า-เย็น หนึ่งอาทิตย์ ดูแลความสะอาดแผลผ่าตัด แผลก็แห้งดีไม่มีปัญหาอะไร หมอใช้ไหมละลายเย็บ แต่เค้าก็เลียจนไหมหลุดไปเอง หลังจากถอดหัวลำโพงกันเลียออก ซึ่งหัวลำโพงก็ใส่ไว้1อาทิตย์ตามที่หมอบอก
ทำหมันวันที่ 30ส.ค 57 วันที่ 5 ก.ย เสือน้อยเริ่มมีอาการป่วย (ทำหมันได้ 7วัน) ซึม แยกตัวอยู่ตัวเดียวในที่เงียบๆแคบๆ ไม่กินข้าว อึเหลวๆแต่ไม่ถึงขั้นท้องเสีย ตัวอุ่นๆร้อนๆจากปกติ จากปกติจมูกและอุ้งมืออุ้งเท้าสีชมพูๆ ทุกอย่างก็ซีดลง ไม่เล่นไม่มาอ้อน วันนี้เป็นวันหยุดก็เลยพาไปหาหมอ 7ก.ย
และเปลี่ยนโรงพยาบาลใหม่ ไม่มั่นใจในโรงพยาบาลเดิมอีกแล้ว วันนี้ไปหาหมอใหม่ โรงพยาบาลใหม่ ในเมือง คุณหมอถามอาการเสือน้อย เราก็รายงานอาการละเอียดยิบ เตรียมสมุดวัคซีนประจำตัวแมว ไปให้หมอดูด้วย
คุณหมอเห็นสมุดและการฉีดวัคซีน แล้วส่ายหน้า กึ่งวางกึ่งโยนสมุดลงบนเตียงตรวจเสือน้อย แล้วบอกว่า ผมไม่มั่นในการฉีดวัคซีนเลย คลีนิคฉีดอย่างนี้ได้ยังไง วัคซีน2ตัวนี้มันฉีดพร้อมกันไม่ได้ ต้องแยกฉีด และวัคซีนก็อยู่ในยี่ห้อและเกรดที่ฉีดพร้อมกันไม่ได้ เรื่องทำหมันก็เหมือนกัน ผมว่าทำไม ร.พ เขาไม่ตรวจเลือดแมวก่อนทำหมัน ต้องตรวจสิ ไม่ใช่ดูแค่ภายนอกว่าแมวแข็งแรงดีแล้วทำเลย คุณแม่จะให้น้องแมวกลับไปตรวจกับหมอเดิมที่ทำหมันดีกว่ามั๊ย ผมคิดว่าอาจจะมีผลเกี่ยวเนื่องกันได้
เราก็บอกว่า ไม่อยากกลับไปโรงพยาบาลเดิมแล้ว ไม่มั่นใจในแนวทางการรักษา อยากเปลี่ยนหมอเปลี่ยนโรงพยาบาล
คุณหมอก็จัดการ วัดไข้ เจาะเลือด ตรวจคลำช่องท้อง ซักประวัติแบบละเอียด เลี้ยงแบบใหน? เลี้ยงระบบปิด ระบบเปิด? เคยหนีออกไปนอกบ้านมั๊ย? เคยโดนกัดหรือเปล่า ดูแผลที่ทำหมัน และล้วงก้นเสือน้อยเพื่อดูลักษณะของอุจาระ
คุณหมอบอกว่า เสือน้อยไม่มีไข้ แผลที่ทำหมันก็แห้งดี อึอยู่ในเกณฑ์ที่เหลวพอรับได้ยังปกติอยู่ อาจเป็นเพราะยาที่ป้อนระหว่างที่พักฟื้นทำหมันด้วย ตรวจเลือด ค่าไตปกติ แต่ค่าเลือดอื่นๆต้องรอผลเลือดวันอังคารอีก2วัน ตรวจคลำช่องท้องจากภายนอกไม่พบก้อนผิดปกติ ตอนนี้หมอจะให้ยาแก้อักเสบแบบทานไปก่อน1เม็ด เดี๋ยวจะให้ผู้ช่วยป้อนให้เลย แล้วพรุ่งนี้หมอนัดมาดูอาการทั่วไปอีกที วันมะรืนผลเลือดถึงจะได้ ตอนนี้รักษาตามอาการไปก่อน และรอผลเลือดอีกที ตรวจเสร็จ เสือน้อยฉี่ราด ฉี่เยอะเลย ปกติเค้าไม่เป็นแบบนี้ เค้าจะนิสัยเจ้าชายมาก อาจจะเพราะกลัวและไม่สบาย ขอให้อย่าเป็นอะไรมากเลยนะเจ้าชายของแม่ อดทนมาหาหมอบ่อยหน่อยนะลูก จะได้หายป่วย
การเลือกหมอและโรงพยาลเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ใช่ว่า โรงพยาบาลใหน คลีนิคอะไรก็เหมือนๆกัน รู้สึกเสียใจและโทษตัวเองอย่างที่สุด